คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
แกรมม่า ไม่ค่อยเรียนนะคะ บทสนทนาก็ไม่มีแล้ว
ปี 1 อาจารย์จะเมตตา(มั้ง)ด้วยความเป็นเด็กน้อยเด๋อด๋าเพิ่งหลุดจากโรงเรียนมัธยมมา
ทั้งเด็กเก่งอิ้งมาก และเด็กปานกลางจะเรียนปนกันไป แต่โดยความเห็นของพี่ พอขึ้นปี 2 แล้วก็ไม่ได้ยากขึ้นแบบกระโดด
ส่วนเรื่องยากมากขนาดไหน คงตอบแน่ชัดไม่ได้ เพราะผันแปรขึ้นกับความถนัดของแต่ละคน
ขอเป็นยกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจตรงกันแล้วกันนะคะ ถ้าจะให้ใช้ชีวิตอยู่ในเอกอังกฤษอักษรจุฬาได้โดยไม่ทรมานมาก(จนเกินไป)
พี่คิดว่า ควรฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ให้ถนัด เพราะใช้ทุกทักษะ
ถนัดในที่นี้คือสามารถ express ทุกสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาเป็นภาษาอังกฤษได้สดๆ ณ ตอนนั้นเลย
สามารถพูดบรรยายความคิดหรือประเด็นทางวิชาการได้ในระดับดี
(เพราะต้องคุยถกประเด็นซับซ้อนกันในห้อง สำเนียงและแกรมม่าไม่เป๊ะพอหยวน)
ฟังข่าว BBC, CNN เก็บความได้เกือบทั้งหมด ณ จุดนี้คือไม่ควรมีปัญหาในการฟังฝรั่งพูดแล้ว ถ้าเขาพูดสำเนียงมาตรฐาน
(เนื่องจากบางวิชาต้องฟังข่าวแล้ว transcript คือจดตาม ณ ตอนที่เขาพูดอยู่ คนฟังออกยังจดไม่ทัน คนฟังไม่ออกนี่มีแต่พังพังพัง)
อ่านบทความได้คล่องพอสมควร เช่นพวก The Observer, The New Yorker, The Economist
ถ้าปีสูงขึ้นก็ต้องอ่านไปถึงงานเขียนวรรณกรรมยุคเก่าๆ หน่อย
เขียนอะไรเป็นภาษาอังกฤษได้เป็นตุเป็นตะ (ขอใช้คำนี้ 5555555 ) ไม่ว่าจะให้วิเคราะห์วรรณคดี หรือเขียน essay ควรมีวงศัพท์ที่กว้าง ไม่งั้นตอนเขียนนี่ทรมาน
อาจารย์ที่สอนพี่แอบกระซิบมาว่า การเขียนพวก paper วิเคราะห์ หรือ essay พวกนี้
แกรมม่าจะดูเป็นอย่างสุดท้ายนะจ๊ะ อยากดูความคิดของเรามากกว่า
ไม่หักคะแนนเท่าไหร่ นอกจากว่าแกรมม่าแย่จนทำให้สื่อสารไม่รู้เรื่อง หรือความหมายเปลี่ยน
ตอนนี้พี่อยู่ปี 2 จากที่เรียนมาก็รู้สึกว่า การสอนอังกฤษของที่นี่
ไม่ได้สอนเพื่อให้เก่งอังกฤษขึ้นเป็นจุดประสงค์หลัก (เพราะเท่าที่เห็นก็ใช้อังกฤษเก่งกันอยู่แล้ว)
แต่จะสอนให้คิดเป็นระบบ มีตรรกะ รู้จักโครงสร้างและวิธีการเขียน (ซึ่งประยุกต์ใช้ได้กับการเขียนในทุกภาษา)
สอนให้เอาภาษาอังกฤษไปใช้ประกอบอาชีพได้จริงๆ มากกว่า (เช่นวิชาแปล พรีเซนต์งานเป็นอังกฤษ)
สอนให้รู้จักวัฒนธรรมตะวันตกที่สอนให้รู้จักถกเถียงกันด้วยเหตุผล
กล้าแย้งคนอื่น และยินดีให้คนอื่นแย้งความเห็นตัวเอง เพื่อพัฒนาความคิดให้ดีขึ้น
เพียงแต่การสอนสิ่งพวกนี้ เค้าใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อในการสอนเด็กเท่านั้นเอง
ดีใจมากที่เจอกระทู้นี้ แสดงว่าน้องเป็นคนใฝ่รู้ใฝ่เรียนและอยากพัฒนาตัวเอง พี่อยากตอบให้เต็มที่ อยากรู้อะไรอีกถามเพิ่มเติมได้เลยนะคะ
เพิ่มเติมในส่วนคอมเม้นด้านล่างอยากจะเขียนสิ่งที่เรียนในปี 1 และ ปี 2 นะคะ จะได้เห็นภาพว่าเรียนอะไรยังไงบ้าง หวังว่าจะช่วยได้บ้างนะคะ ^^
ปี 1 อาจารย์จะเมตตา(มั้ง)ด้วยความเป็นเด็กน้อยเด๋อด๋าเพิ่งหลุดจากโรงเรียนมัธยมมา
ทั้งเด็กเก่งอิ้งมาก และเด็กปานกลางจะเรียนปนกันไป แต่โดยความเห็นของพี่ พอขึ้นปี 2 แล้วก็ไม่ได้ยากขึ้นแบบกระโดด
ส่วนเรื่องยากมากขนาดไหน คงตอบแน่ชัดไม่ได้ เพราะผันแปรขึ้นกับความถนัดของแต่ละคน
ขอเป็นยกตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจตรงกันแล้วกันนะคะ ถ้าจะให้ใช้ชีวิตอยู่ในเอกอังกฤษอักษรจุฬาได้โดยไม่ทรมานมาก(จนเกินไป)
พี่คิดว่า ควรฟัง-พูด-อ่าน-เขียน ให้ถนัด เพราะใช้ทุกทักษะ
ถนัดในที่นี้คือสามารถ express ทุกสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาเป็นภาษาอังกฤษได้สดๆ ณ ตอนนั้นเลย
สามารถพูดบรรยายความคิดหรือประเด็นทางวิชาการได้ในระดับดี
(เพราะต้องคุยถกประเด็นซับซ้อนกันในห้อง สำเนียงและแกรมม่าไม่เป๊ะพอหยวน)
ฟังข่าว BBC, CNN เก็บความได้เกือบทั้งหมด ณ จุดนี้คือไม่ควรมีปัญหาในการฟังฝรั่งพูดแล้ว ถ้าเขาพูดสำเนียงมาตรฐาน
(เนื่องจากบางวิชาต้องฟังข่าวแล้ว transcript คือจดตาม ณ ตอนที่เขาพูดอยู่ คนฟังออกยังจดไม่ทัน คนฟังไม่ออกนี่มีแต่พังพังพัง)
อ่านบทความได้คล่องพอสมควร เช่นพวก The Observer, The New Yorker, The Economist
ถ้าปีสูงขึ้นก็ต้องอ่านไปถึงงานเขียนวรรณกรรมยุคเก่าๆ หน่อย
เขียนอะไรเป็นภาษาอังกฤษได้เป็นตุเป็นตะ (ขอใช้คำนี้ 5555555 ) ไม่ว่าจะให้วิเคราะห์วรรณคดี หรือเขียน essay ควรมีวงศัพท์ที่กว้าง ไม่งั้นตอนเขียนนี่ทรมาน
อาจารย์ที่สอนพี่แอบกระซิบมาว่า การเขียนพวก paper วิเคราะห์ หรือ essay พวกนี้
แกรมม่าจะดูเป็นอย่างสุดท้ายนะจ๊ะ อยากดูความคิดของเรามากกว่า
ไม่หักคะแนนเท่าไหร่ นอกจากว่าแกรมม่าแย่จนทำให้สื่อสารไม่รู้เรื่อง หรือความหมายเปลี่ยน
ตอนนี้พี่อยู่ปี 2 จากที่เรียนมาก็รู้สึกว่า การสอนอังกฤษของที่นี่
ไม่ได้สอนเพื่อให้เก่งอังกฤษขึ้นเป็นจุดประสงค์หลัก (เพราะเท่าที่เห็นก็ใช้อังกฤษเก่งกันอยู่แล้ว)
แต่จะสอนให้คิดเป็นระบบ มีตรรกะ รู้จักโครงสร้างและวิธีการเขียน (ซึ่งประยุกต์ใช้ได้กับการเขียนในทุกภาษา)
สอนให้เอาภาษาอังกฤษไปใช้ประกอบอาชีพได้จริงๆ มากกว่า (เช่นวิชาแปล พรีเซนต์งานเป็นอังกฤษ)
สอนให้รู้จักวัฒนธรรมตะวันตกที่สอนให้รู้จักถกเถียงกันด้วยเหตุผล
กล้าแย้งคนอื่น และยินดีให้คนอื่นแย้งความเห็นตัวเอง เพื่อพัฒนาความคิดให้ดีขึ้น
เพียงแต่การสอนสิ่งพวกนี้ เค้าใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อในการสอนเด็กเท่านั้นเอง
ดีใจมากที่เจอกระทู้นี้ แสดงว่าน้องเป็นคนใฝ่รู้ใฝ่เรียนและอยากพัฒนาตัวเอง พี่อยากตอบให้เต็มที่ อยากรู้อะไรอีกถามเพิ่มเติมได้เลยนะคะ
เพิ่มเติมในส่วนคอมเม้นด้านล่างอยากจะเขียนสิ่งที่เรียนในปี 1 และ ปี 2 นะคะ จะได้เห็นภาพว่าเรียนอะไรยังไงบ้าง หวังว่าจะช่วยได้บ้างนะคะ ^^
แสดงความคิดเห็น
พี่ๆคนไหนเรียนอยู่อักษรศาตร์จุฬาเข้ามาแชร์ประสบการณ์หน่อยครับ
ที่เจอคือเรียนที่นี่รู้สึกศัพท์แสงจะง่าย แกรมมาร์ก็เจอมาแล้ว เคยเรียนมาตั้งแต่ประถมมัธยมและมหาลัย รู้สึกว่าจะสอนแต่เรื่องเดิมๆ วนอยู่ตรงนั้น และการประยุกการใช้จริงยังน้อยมาก คือเอาแกรมมาร์มาสอนกันให้เข้าใจว่าคืออะไร และใช้ยังใง แล้วจำเอาไปทำข้อสอบ พอเทอมต่อมาก็ลืม ลืมจริงครับ!! แต่ยังใงแกรมมาร์ก็สำคัญครับ แค่เอามาเรียนสอนกันไม่ค่อยได้ใช้จริง พอเป็นอย่างนี้ไม่กี่วันก็หลงลืม ทักษะที่ผมชำนาญสุดก็จะเป็น reading ครับ เพราะผมชอบอ่านหนังสือ ผมฟังไม่ค่อยออกทั้งไทยและอิ้ง การพูดก็พอพูดได้ในระดับต่ำครับ ตอนนี้ผมฝึกแกรมมาร์ ดูหนัง ฟังเพลง และผมมี dict ใน คอม ที่เป็นของ British จำนวนมาก แต่สิ่งที่ผมไม่มีคือการฝึกไม่สม่ำเสมอ อยากจะสอบถามว่า
1.พี่ๆเรียนที่นั่น ยากมากไหม ตอนนี้ผมเรียนอยู่ ปี1 ค่อนข้างง่ายครับ
2. ที่นั่นเค้าเน้นกันด้านทักษะอะไร ฟัง พูด อ่าน เขียน
3. พี่ๆส่วนใหญ่ ปี1,2,3,4 ที่นั่น ใช้แกรมมาร์บุ๊คอะไรอ้างอิงครับ
4. ปี1 ที่นั่นพูดและฟัง อ่านและเขียนกันได้ระดับไหน
ผมอยากรู้ว่าเนื้อหาที่เรียนยากแค่ไหน อยากเห็นมากครับ เช่น แกรมมาร์ที่เป็นชีทที่อาจารย์แจก บทสนทนาที่อาจารย์แจก หรือวิชาต่างๆ การเขียนของพี่ๆ ครับ อยากรู้มากเลย อยากจะเอามาป็นเป้าหมายในการเรียนเป็นบรรทัดฐานต่อไปครับ ขอบคุณมากน่ะครับ