สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
อย่ามาคุยเรื่องแบบนี้ใน 1000ทิป มาตรฐานคนแถวนี้เขาเป็นแบบนี้รุ้ไว้ซะ
- เงินเดือนหกหลัก ไม่รวม job พิเศษ ไม่รวมโบนัสปีละหกเดือน
- ทำงานด้านเทคโนโลยี It วิศวะกร องค์กรระหว่างประเทศ นักลงทุน นักบริหาร เจ้าของกิจการ เซียนหุ้น
- ผ่านการศึกษาจากต่างประเทศ หรือเคยใช้ชีวิตในต่างประเทศ
- ชอบทานอาหารญี่ปุ่นและฝรั่งเศสเป็นพิเศษ มีรสนิยมในการบริโภคสูงส่ง และเลือกบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มชนิดที่หาซื้อได้ยากในเมืองไทย
- เป็นคนรักษาสุขอนามัยสูง เกลียดผงชูรส กลัวเกลือ และน้ำตาลมาก และมักจะแพ้อาหารต่างๆได้ง่าย
- งานอดิเรกที่นิยม คือการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวต่างประเทศ เล่นกล้อง ขี่big bike
- รถยนต์ที่ใช้อย่างต่ำต้อง D-Segment และซื้อเงินสดเท่านั้น
- ไม่มีหนี้สินหรือก่อหนี้สินเด็ดขาด เพราะกลัวดอกเบี๊ย
- เป็นคนมีเมตตา โอบอ้อมอารีย์ รักธรรมชาติ และรักสัตว์มาก โดยเฉพาะหมา แมว
- หวงแหนสิทธิของตัวเองอย่างยิ่งยวด
- สามารถให้คำตอบ คำแนะนำ คำปรึกษา และมีข้อมูลในทุกๆเรื่อง มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
- สุภาพสตรีมักจะมีสามีเป็นชาวต่างชาติ และเป็นคนดี น่ารัก เอาใจภรรยา take care เก่ง
- สุภาพบุรุษมักเป็นคนเกรงใจภรรยา จะตัดสินใจเรื่องใดๆมักต้องถามภรรยา และต้องให้ภรรยาอนุญาตก่อนเสมอ
- เงินเดือนหกหลัก ไม่รวม job พิเศษ ไม่รวมโบนัสปีละหกเดือน
- ทำงานด้านเทคโนโลยี It วิศวะกร องค์กรระหว่างประเทศ นักลงทุน นักบริหาร เจ้าของกิจการ เซียนหุ้น
- ผ่านการศึกษาจากต่างประเทศ หรือเคยใช้ชีวิตในต่างประเทศ
- ชอบทานอาหารญี่ปุ่นและฝรั่งเศสเป็นพิเศษ มีรสนิยมในการบริโภคสูงส่ง และเลือกบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่มชนิดที่หาซื้อได้ยากในเมืองไทย
- เป็นคนรักษาสุขอนามัยสูง เกลียดผงชูรส กลัวเกลือ และน้ำตาลมาก และมักจะแพ้อาหารต่างๆได้ง่าย
- งานอดิเรกที่นิยม คือการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวต่างประเทศ เล่นกล้อง ขี่big bike
- รถยนต์ที่ใช้อย่างต่ำต้อง D-Segment และซื้อเงินสดเท่านั้น
- ไม่มีหนี้สินหรือก่อหนี้สินเด็ดขาด เพราะกลัวดอกเบี๊ย
- เป็นคนมีเมตตา โอบอ้อมอารีย์ รักธรรมชาติ และรักสัตว์มาก โดยเฉพาะหมา แมว
- หวงแหนสิทธิของตัวเองอย่างยิ่งยวด
- สามารถให้คำตอบ คำแนะนำ คำปรึกษา และมีข้อมูลในทุกๆเรื่อง มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
- สุภาพสตรีมักจะมีสามีเป็นชาวต่างชาติ และเป็นคนดี น่ารัก เอาใจภรรยา take care เก่ง
- สุภาพบุรุษมักเป็นคนเกรงใจภรรยา จะตัดสินใจเรื่องใดๆมักต้องถามภรรยา และต้องให้ภรรยาอนุญาตก่อนเสมอ
ความคิดเห็นที่ 11
ผมว่าคนที่มีปัญหาโดนยึดบ้าน ยึดรถ ส่วนมากประเมินกำลังในการผ่อน และ รายรับของตัวเองผิดพลาด ทั้งนั้น
.....สรุปง่าย ๆ ซื้อบ้าน ซื้อรถเกินตัว.....
จากข้อมูลที่ผมอ่านใน pantip มาตลอด จะเจอข้อมูล เงินเดือนแค่นี้กู้ xxxxxx บาท ได้ไหม ทำงัยจะกู้ผ่าน เพียบ
ตัวอย่าง http://pantip.com/topic/34997132
http://pantip.com/topic/34996639
http://pantip.com/topic/34996356
http://pantip.com/topic/34993350
คิดว่า พวกนี้จะถ้าผ่าน จะไปรอดไหม?
....บางคนไม่ตกงานหรอก แต่ รายจ่าย(หลังจากผ่อนบ้าน ผ่อนรถ) มันไม่ไหวจริง ๆ ทั้งที่รายรับเพิ่มขึ้น พอไม่ไหวก็ต้องกู้หนี้ยืมสินอีก.....
ปล.ใครคิดว่าผม มั่ว ลองมา คุยกันดูครับ
.....สรุปง่าย ๆ ซื้อบ้าน ซื้อรถเกินตัว.....
จากข้อมูลที่ผมอ่านใน pantip มาตลอด จะเจอข้อมูล เงินเดือนแค่นี้กู้ xxxxxx บาท ได้ไหม ทำงัยจะกู้ผ่าน เพียบ
ตัวอย่าง http://pantip.com/topic/34997132
http://pantip.com/topic/34996639
http://pantip.com/topic/34996356
http://pantip.com/topic/34993350
คิดว่า พวกนี้จะถ้าผ่าน จะไปรอดไหม?
....บางคนไม่ตกงานหรอก แต่ รายจ่าย(หลังจากผ่อนบ้าน ผ่อนรถ) มันไม่ไหวจริง ๆ ทั้งที่รายรับเพิ่มขึ้น พอไม่ไหวก็ต้องกู้หนี้ยืมสินอีก.....
ปล.ใครคิดว่าผม มั่ว ลองมา คุยกันดูครับ
ความคิดเห็นที่ 19
เป็นเพราะสังคมบ้านเราส่งเสริมให้ก่อหนี้เกินฐานะ
และไม่มีการสอนเรื่องการบริหารจัดการหนี้สินด้วย
เรื่องการออกกฎหมายควบคุมกำกับดูแลสถาบันการเงินห้ามใช้ aggressive marketing-การตลาดเชิงรุกที่ยั่วยุให้คนเป็นหนี้
มีทั้งที่อังกฤษ แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย และอีกหลายๆประเทศ คือห้ามบอกความจริงไม่หมด ห้ามใช้คำสวยหรูให้กับสินเชื่อต่างๆ
สาเหตุที่เขาต้องออกกม.ห้าม เพราะเจอปัญหาแบบบ้านเรานี่แหละครับ ถูกจูงใจให้ก่อหนี้เกินตัวแล้วก็มีปัญหาล้มละลายตัวเองตามมาเยอะมาก
ส่วนเรื่องการให้ความรู้เรื่องการเงิน เพื่อช่วยให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกัน
ที่อังกฤษ อเมริกา และออสเตรเลีย มีหน่วยงานพิเศษที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้น(ขึ้นกับกระทรวงการคลังเลย)
คือหน่วยสอน Financial literacy-ความรู้ทางการเงิน (หน่วยงานนี้จะช่วยเหลือเรื่องการจัดการปัญหาหนี้สินด้วย)
อังกฤษกับออสเตรเลียเป็นหน่วยที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายพิเศษ
แต่ที่อเมริการู้สึกกระทรวงการคลังจะตั้งเอง ไม่ใช่เพราะกฎหมายกำหนดนะครับ ผลงานก็เลยไม่เด่นชัดเท่าอีก 2 ประเทศ
ก็ไล่สอนกันตามมีตามเกิด เพราะหน่วยงานเองก็ไม่มีอำนาจอะไร
แต่บ้านเราไม่มีเลยครับ ไม่มีทั้งกม.กำกับดูแลสถาบันการเงินห้ามปล่อยกู้แบบไร้รับผิดชอบ
และไม่มีการสอนความรู้กันด้วย ปัญหาก่อหนี้เกินตัวของเราเลยเละตุ้มเป๊ะขนาดนี้
ทุกวันนี้อัตราหนี้ครัวเรือนล่อไป 80% แล้ว อันตรายแล้วครับ
และไม่มีการสอนเรื่องการบริหารจัดการหนี้สินด้วย
เรื่องการออกกฎหมายควบคุมกำกับดูแลสถาบันการเงินห้ามใช้ aggressive marketing-การตลาดเชิงรุกที่ยั่วยุให้คนเป็นหนี้
มีทั้งที่อังกฤษ แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย และอีกหลายๆประเทศ คือห้ามบอกความจริงไม่หมด ห้ามใช้คำสวยหรูให้กับสินเชื่อต่างๆ
สาเหตุที่เขาต้องออกกม.ห้าม เพราะเจอปัญหาแบบบ้านเรานี่แหละครับ ถูกจูงใจให้ก่อหนี้เกินตัวแล้วก็มีปัญหาล้มละลายตัวเองตามมาเยอะมาก
ส่วนเรื่องการให้ความรู้เรื่องการเงิน เพื่อช่วยให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกัน
ที่อังกฤษ อเมริกา และออสเตรเลีย มีหน่วยงานพิเศษที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้น(ขึ้นกับกระทรวงการคลังเลย)
คือหน่วยสอน Financial literacy-ความรู้ทางการเงิน (หน่วยงานนี้จะช่วยเหลือเรื่องการจัดการปัญหาหนี้สินด้วย)
อังกฤษกับออสเตรเลียเป็นหน่วยที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายพิเศษ
แต่ที่อเมริการู้สึกกระทรวงการคลังจะตั้งเอง ไม่ใช่เพราะกฎหมายกำหนดนะครับ ผลงานก็เลยไม่เด่นชัดเท่าอีก 2 ประเทศ
ก็ไล่สอนกันตามมีตามเกิด เพราะหน่วยงานเองก็ไม่มีอำนาจอะไร
แต่บ้านเราไม่มีเลยครับ ไม่มีทั้งกม.กำกับดูแลสถาบันการเงินห้ามปล่อยกู้แบบไร้รับผิดชอบ
และไม่มีการสอนความรู้กันด้วย ปัญหาก่อหนี้เกินตัวของเราเลยเละตุ้มเป๊ะขนาดนี้
ทุกวันนี้อัตราหนี้ครัวเรือนล่อไป 80% แล้ว อันตรายแล้วครับ
ความคิดเห็นที่ 8
ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเอง อย่าโทษคนอื่น รู้ว่า ไม่มีกำลังซื้อบ้าน ซื้อรถ แล้วจะซื้อทำไม
บ้านเราเช่าเค้าอยู่ตลอดชีวิต อยู่กับครอบครัว
จนมีเงินเก็บ 70 กว่าล้านบาท ถึงกล้าซื้อบ้านหลังแรก ซื้อสด
ก่อนหน้านั้น ย้ายที่อยู่มา 6 รอบแล้ว
ตั้งแต่เกิด ครอบครัวยากจน ก็เช่าแฟลตรูหนู 20 กว่าตารางเมตร
อยู่กัน 6 คน กับ พ่อแม่ และพี่อีก 3 คน ที่นอนต้องต่อขึ้นไป 2 ชั้น เพราะที่ไม่พอ
กินข้าววันละมื้อ นั่งรถเมล์ตลอดชีพ ขนมไม่เคยกิน เรียนก็ขอทุนยากจน
สมัยเด็กไม่เคยฝันด้วยซ้ำว่า จะมีเงินล้าน
จบมา เราก็ดิ้นรน จนอยู่รอดได้ ประสบความสำเร็จ
ปรับตัวเป็น อยู่รอดทุกสถานการณ์
บ้านเราเช่าเค้าอยู่ตลอดชีวิต อยู่กับครอบครัว
จนมีเงินเก็บ 70 กว่าล้านบาท ถึงกล้าซื้อบ้านหลังแรก ซื้อสด
ก่อนหน้านั้น ย้ายที่อยู่มา 6 รอบแล้ว
ตั้งแต่เกิด ครอบครัวยากจน ก็เช่าแฟลตรูหนู 20 กว่าตารางเมตร
อยู่กัน 6 คน กับ พ่อแม่ และพี่อีก 3 คน ที่นอนต้องต่อขึ้นไป 2 ชั้น เพราะที่ไม่พอ
กินข้าววันละมื้อ นั่งรถเมล์ตลอดชีพ ขนมไม่เคยกิน เรียนก็ขอทุนยากจน
สมัยเด็กไม่เคยฝันด้วยซ้ำว่า จะมีเงินล้าน
จบมา เราก็ดิ้นรน จนอยู่รอดได้ ประสบความสำเร็จ
ปรับตัวเป็น อยู่รอดทุกสถานการณ์
แสดงความคิดเห็น
ช่วงนี้ที่มีกระทู้โดน ธนาคารตามยึดบ้าน ยึดรถ กันเยอะนี่ เพราะไม่รู้จักปรับตัวกันหรือเปล่าครับ ?
คือถ้าปล่อยให้หนี้สินลุกลามจนถึงขั้นแบ้งค์ยึด รถ ยึดบ้านนี้ ยากที่จะแก้ไขแล้วนะครับ ยึดหมดแล้วหนี้ก็ยังเหลือ แต่เครดิตไม่เหลือแล้ว
สำหรับคนที่ยังไม่ปรับตัว ชั่วโมงนี้คงต้องถามตัวเองว่า วันนี้คุณปรับตัวแล้วหรือยัง ? หรือจะนั่งรอวันที่ไฟแนนซ์ตามถึงบ้าน