อดึตสามีเสนอเงินเดือน ช่วยดูแลทางการเงิน ไม่รักแล้วควรรับไหม เอาเปรียบกันไหม

อยากทราบความคิดเห็นคนอื่นๆว่าเคยเจอแบบนี้ไหมคะ คือหย่ามาหลายปีแล้ว อดึตสามีก็ยังไม่หายไปจากชีวิตจริงๆสักที มีลูกด้วยกันแต่การดูแลลูกไม่มีปัญหาใดๆทั้งสิ้น (ลูกเรียนไกล) มีแค่เรื่องเดียวคือเค้าพยายามมากที่จะสร้างครอบครัวใหม่ (ในความคิดของเค้า) ทั้งๆ ที่อธิบายไปทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ว่าสถานะแบบนี้ดีอยู่แล้ว เราโอเค ลูกโอเค มีแต่ตัวเค้าที่ได้คืบจะเอาศอก เพราะเรายังคุยด้วย ให้เข้ามาในบ้านได้ จริงๆแล้วเราไม่ได้เกลียดพ่อเค้า เรื่องเก่าคือเก่าจบไปแล้ว ตอนนี้ความรู้สึกเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ได้อยากเป็นภรรยาแต่เป็นเพื่อนได้ คุยเรื่องลูกได้ คุยเรื่องอื่นๆ พอได้ บางเรื่องคุยแล้วเสียรมณ์ บางอย่างขัดหูขัดตาก็ไม่ทนแล้ว โพล่งออกไปตรงๆเลย แรกๆ เราก็ไล่ให้กลับคอนโดนะคะ แต่พอต้นปีลูกๆกลับมาเยี่ยมบ้าน เลยอยู่เป็นครอบครัวสุขสันต์เดือนกว่า (ลูกๆรู้ค่ะว่าหย่าและแม่อยู่บ้าน พ่ออยู่คอนโด) พอลูกกลับ คุณพ่อสิไม่ยอมกลับ ตีเนียน ดื้อด้านจนดิฉันมึน เนื่องจากบอกแล้ว ไล่แล้ว ก็ไม่ยอมไป คงเพราะพูดเพราะไป ไม่รุนแรง จริงจัง อันนี้คือจุดอ่อนที่เค้าก็รู้ดี แต่เรื่องไม่มีใจให้เนี่ยย้ำแล้วย้ำอีกจนเค้าก็รับได้แล้วค่ะ

ล่าสุดคือมาเสนอเงินเดือนให้ แล้วบอกให้มาช่วยดูแลบ้าน (บ้านฉัน ฉันดูอยู่แล้ว จะบ้าเหรอ) ให้เลิกธุรกิจที่ทำอยู่ เพราะขาดทุนและทำให้ไม่มีเวลา (อันนี้เราคิดแผนงานเราอยู่แล้วว่าจะหยุดเมื่อไร) อ้างว่าจะได้มีเวลาคุยกับลูก (คือก็ดูแลดีอยู่แล้ว ไม่ต้องอ้าง) ได้มีเวลาพักผ่อน ไปเที่ยว (ชอบเดินทาง แต่ไม่ต้องการการพักผ่อนขนาดนั้น เป็นพวกไฮเปอร์ชอบทำงาน) สรุปสั้นๆ คืออยากได้แม่บ้าน ทำอาหาร กาแฟ หาเพื่อนไปเที่ยว คือดิฉันงงๆๆๆๆๆ มาก บอกเราหย่ากันแล้วคุณไม่เข้าใจหราาาาาา

คำถามคือ
ถ้ารับเงิน และทำตามที่ขอ (ยกเว้นเรื่องเป็นภรรยา) จะมีผลเสีย หรือผลลบอะไรกับตัวดิฉันบ้าง นอกจากเสียโอกาสเจอคนอื่น 555 คือคิดว่าพ่อเค้าก็คิดนะ เลยจะกันไว้ด้วยวิธีการแบบนี้
จะมีวิธีรับมือคนแบบนี้ยังไง ไม่อยากรุนแรงต่อกัน เพราะก็คือพ่อของลูก แล้วก็ไม่ได้เกลียดชังกัน เพียงแต่อยากให้เค้าเคารพพื้นที่ส่วนตัว สิทธิส่วนตัวของดิฉันในฐานะผู้หญิง ในเรื่องความเป็นแม่ผ่านอยู่แล้วทำได้ไม่บกพร่องอันนี้เค้ารู้ดี
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 31
*******ความคิดเห็นของผมอาจตรงและแรงไปนิดนึงใครที่ตัดสินใจอ่านแล้วอย่าโกรธผมนะครับ*******
ครอบครัวประกอบด้วย พี่ชาย พ่อ แม่ ตัวผม แม่แยกกันอยู่กับพ่อตอนผมอายุ15 เหตุผลหลักคือพ่อลงทุนซื้อรถสิบล้อโดยที่แม่ห้ามแล้วและมีแต่คนเตือนแต่พ่อไม่ยอมฟัง...สุดท้ายเจ๊ง และอีกหลายๆเหตุผลเช่น พ่อตัดสินใจผิดพลาดตลอดในหลายๆเรื่องโดยมีแม่ห้ามแล้วแต่พ่อไม่ฟังและพ่อก็ไม่ยอมสำนึกซะทีทำให้การเงินของครอบครัวลำบากขึ้นเรื่อยๆ แม่ต้องจ่ายภาษีแทนพ่อหลักแสน(พ่อไม่ยอมจ่าย)รวมถึงปัญหากุ๊กกิ๊กและอื่นๆอีกสารพัดที่ผมอธิบายไม่หมด เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องมาหลายปีสุดท้ายพ่อขอเลิกแม่แต่แม่ยังรักพ่ออยู่แม่ตัดสินใจขอแยกกันอยู่ไปก่อน
ช่วงม.3-ม.6เป็นช่วงที่แม่ทำงานหาเลี้ยงผมกับพี่ชายคนเดียวมาตลอดโดยพ่อช่วยเงินนิดหน่อย(ปีละ3000บาท) พี่ชายได้มากกว่าผมนิดหน่อยแรกๆลำบากนิดหน่อยเพราะแม่อยู่ในช่วงไม่มีสมาธิทำงานพอแยกกันอยู่ได้2ปีแม่เริ่มมีสมาธิมากขึ้นทำงานหาเงินได้เยอะขึ้น ออกรถใหม่ ช่วงนี้ครอบครัวเริ่มสบายขึ้นมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆและแม่ตัดใจจากพ่อได้เลยนึกถึงเรื่องหย่ากับพ่อ....แต่!!!!!!พ่อกลับไม่หย่าด้วยเหตุผลเรื่องสินสมรส(ธุรกิจขายตรง) แม่ไม่นึกว่าพ่อจะกล้าอยากได้ในธุรกิจที่แม่เป็นคนสร้าง(ไม่ได้ปรามาสพ่อนะครับ คนเป็นลูกย่อมรู้อยู่แล้วว่าธุรกิจนี้พ่อหรือแม่เป็นคนสร้าง) แม่จะฟ้องหย่าแต่มาคิดดูแล้วพ่อเป็นคนอารมณ์ร้อนและมีปืนเลยใช้การเกลี้ยกล่อมดีกว่า
ผ่านมาเกือบ5ปีนับแต่พ่อแม่แยกกันอยู่ก็ยังขอหย่าไม่สำเร็จ  พี่ชายเรียนจบทำงานหาเงินได้พอสมควร ธุรกิจแม่เติบโตมากขึ้นเงินได้เยอะขึ้นนิดหน่อยแต่งานสบายขึ้นมาก(ขายตรง) แม่กับพี่ชายช่วยกันผ่อนบ้านในชื่อพี่ชาย และตอนนี้กำลังจะรับพี่สะใภ้เข้าบ้านอย่างเป็นทางการเม่านักช้อป พี่ชายผมได้แฟนค่อนข้างขยันหาเงินเก่งฐานะทางบ้านเลยคงที่เหมือนเดิมแต่ความสุขมากขึ้นและช่วง1ปีมานี้พ่อให้เงินใช้เยอะขึ้น(เดือนละ6000ได้)ลักษณะเหมือนเริ่มแก่ตัวขึ้นแล้วไม่มีใครอยู่ข้างๆเลยเริ่มคิดได้

ที่พิมพ์ไปทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปมาที่ความรู้สึกกันบ้าง
แม่:ช่วงแรกเสียใจมากตอนพ่อขอหย่า แต่พอเวลาผ่านไปก็ตัดใจได้และตัดได้จริงๆแบบน่ากลัวมากเต่าเอือม
พี่ชาย:ตอนพ่อกับแม่อยู่ด้วยกันค่อนข้างปวดหัวเพราะต้องเป็นสื่อกลาง ปัจจุบันมีความสุขดี
ผม:ตอนแรกที่รู้ว่าพ่อกับแม่จะแยกกันอยู่(จำได้แม่นมากว่าพี่โทรมาบอก) ตกใจนิดหน่อยเพราะทำใจได้นานแล้วกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นก็พอจะรู้ว่ามันจะเป็นชนวนไปสู่การหย่าแน่นอน(เด็กอายุ14-15ก็รู้เรื่องนะเออ)
ญาติๆ:บางคนร้องไห้เพราะตกใจ ความรู้พรั่งพรูยิ่งกว่าลูกแท้ๆซะอีกFacepalm

ในอดีตผมเคยเกลียดพ่อมากกกกกกกกกกกก บอกกับตัวเองเลยว่าจะไม่ดูแลปล่อยให้ตายคากองอึซะเงินเดือนตั้งเยอะไม่รู้จักให้ลูกหนี้ตัวเองก็ไม่มีแล้วเงินมันจะหายไปหนายยยยย เกลียดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่พอเวลาผ่านไปผมอายุมากขึ้นประสบการณ์ชีวิตมากขึ้นตอนนี้ก็เข้าใจและกลับมารักพ่อเหมือนเดิมละครับแต่ยังไม่โอเคถ้าจะเข้ามาอยู่บ้านใหม่ด้วยกันเพราะแม่ไม่ยอม....ตรงนี้ผมก็ต้องเข้าใจแม่นะ เพราะในช่วงที่ครอบครัวลำบากที่สุดมีแต่แม่คนเดียวที่หาเลี้ยงผมมา ถ้าให้ผมเลือกสักคนแม่ต้องมาก่อนนะครับ ความจริงข้อนี้ผมปฏิเสธไม่ได้

ที่เล่ามาทั้งหมดมันแค่บางส่วนโดยเฉพาะอารมณ์ ของจริงมันถาโถมเจียนตายยิ่งกว่านี้ เรื่องราวเจ็บแสบมันมากกว่านี้ "ใครที่จะมาบอกว่าเด็กอยู่ตั้งใจเรียนหนังสือเถอะลูก มันเรื่องผู้ใหญ่" ผมก็........... ก็นั่นแหละครับ ไม่อยากพิมพ์
**********************ถึง จขกท**********************
คุณเข้ามาตั้งกระทู้ถามในพันทิปได้...แต่ผมขอจริงๆ เหตุผลในการตัดสินใจให้ยึดที่ตัวคุณและลูกๆเป็นหลัก คำปรึกษาที่ดีที่สุดควรมาจากเพื่อนสนิทที่รู้ความเป็นอยู่ของคุณ หรือคนที่รักคุณและคนๆนั้นมีประสบการณ์หย่าร้าง คนในบอร์ดนี้จะมีประสบการณ์แค่ไหนอายุเป็นร้อยก็ช่าง เค้าไม่ได้อยู่ในชีวิตคุณไม่เห็นสภาพครอบครัวคุณดังนั้นสิ่งที่เค้าเหล่านั้นพิมพ์ออกมาคุณรับไว้ได้แต่อย่าให้มันมีผลต่อการตัดสินกระทำการใดๆมากกว่าความคิดความรู้สึกของตัวคุณเอง  ในบอร์ดนี้ถ้าปรึกษากฎหมายหย่าร้างหรือคำแนะนำเล็กๆน้อยๆจะโอเคกว่า
เรื่องเงิน คุณสามารถรับไว้ได้และควรจะรับด้วยเพราะถ้าอดีตสามีคุณไม่ให้ลูกเงินมันก็ลอยไปหาอย่างอื่นอยู่ดี พอป่วยไข้ช่วยตัวเองไม่ได้ใครล่ะจะดูแลถ้าไม่ใช่ลูก ดังนั้น ไม่ใช่แค่ควรรับเงินไว้มั้ยคะ??? แต่ควรที่จะ ขอเงินมาให้ลูกยังไงดีคะ???  เพราะหน้าที่ภรรยา-สามีจบแล้ว แต่หน้าที่พ่อ-ลูกมันยังไม่จบครับ

************************ตอบ จขกท โดยยืมความเห็นอื่นๆมาเป็นโจทย์นะครับ*************************
1.ลูกๆมันคงภูมิใจเวลามีคนถาม "พ่อกับแม่เป็นไงบ้าง" ลูกตอบ "อ่อ...หย่ากันตั้งนานแล้วครับ" แสนภูมิใจ
ตอบ ภูมิใจครับ ภูมิใจที่มีแม่เก่ง ขยันหาเงิน เลี้ยงดูผมกับพี่ให้สบายมาตลอด แทบไม่รู้สึกว่าขาดพ่อเลย

2.ไอ้คำว่าเลยจุดนั้นมาแล้ว มันคือจุดไหน ไอ้จุดนั้นมันไม่มีอยู่จริงหรอก สิ่งที่มันมีอยู่คือ ธิตถิ กับ อคติ ซะมากกว่า
ตอบ ขออนุญาตตอบแทนแม่  จากการสังเกตแม่ตัวเอง มันคือการป้องกันตัวเองไม่ให้กลับไปเจ็บช้ำอีก เสียสมาธิเพราะเรื่องชู้สาวจนทำงานไม่ได้ไม่ได้มีแต่ลูกที่เดือนร้อนครับ ตา-ยายก็เดือนร้อน  ถ้าพ่อกับแม่ต้องลำบากใจมาอยู่ด้วยกันเพื่อให้ผมมีความสุขก็แยกกันอยู่เถอะครับ สายตามันหลอกกันไม่ได้หรอก
3.แค่มีเงินให้ลูกเรียน ให้ลูกใช้ ยังไม่ถือว่าเป็นแม่ที่ดีนะ ถ้าครอบครัวยังมีปัญหาอยู่อย่างนี้ ทางแก้ก็มีแต่คนเป็นแม่ไม่คิดจะทำ ก็อย่าเพิ่งภูมิใจตัวเองเลย
ตอบ ผมไม่เคยรู้สึกว่าพ่อกับแม่ผิดที่ทำให้ผมต้องมาเจอปัญหานี้ ตรงกันข้ามผมต้องขอบคุณพ่อที่ทำให้ผมเกิดมาและดูแลแม่ตอนท้องผม  ขอบคุณแม่ที่ถึงจะไม่สามารถทำให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิมแต่แม่ก็ยังใช้แรงกายแรงใจทั้งหมดที่มีทำงานหาเลี้ยงผมกับพี่ชาย ให้ความอบอุ่นเป็นทั้งพ่อและแม่ในคนเดียวกัน ผมได้โทรศัพท์ แอร์ ลู่วิ่ง เสื้อผ้า รองเท้า อื่นๆสารพัดก็ด้วยเงินที่เปื้อนน้ำตาแม่ทั้งนั้นแล้วอย่างนี้ผมจะโกรธแม่ได้ยังไง เรื่องแบบนี้ลูกต้องคิดได้ครับไม่ใช่พ่อหรือแม่ที่ต้องคิดได้[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4.ผู้หญิง เก่ง ให้เก่งแค่ไหน คุณไม่สามารถ ทดแทนคำว่าพ่อ ได้หลอกครับ
ตอบ อยู่ในสภาพครอบครัวแตกแยกรึเปล่าครับ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5.ความสุขส่วนตัว มันหมดไปตั้งแต่ วันที่คุณท้องแล้ว ครับ ถ้าคุณยังกล้าพูดได้ ว่าทำดีที่สุดแล้ว
ตอบ ฝ่ายสามีต้องถามภรรยาแล้วล่ะครับ ว่าทำไมความสุขถึงหมด
6.ถึงผู้ชายจะเป้นเพศ ที่มีปัญหาเรื่องแบบนี้ที่ไร  ก็จะดูผิดไปเสียหมด (แต่ขอบอกในความเป้น ชายด้วยกัน หายากนะ ผู้ชายแบบนี้)
ตอบ ความดีไม่ได้วัดกันที่การให้เงินอย่างเดียวครับ เรื่องอื่นๆ เมียน้อย ซ่อนเงิน ด่า ช่วยเลี้ยงลูกมั้ย เที่ยวมั้ย มันต้องพิจารณาหลายๆด้าน

สิ่งที่อยากแนะนำให้ทำ: หากระดาษมา1แผ่นตีเส้นแบ่งครึ่ง ฝั่งหนึ่งเขียนข้อดีเมื่อรับเงินสามี อีกฝั่งเขียนข้อเสียเมื่อรับเงินสามี แล้วตัดสินใจเอาเองครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ความคิดเห็นที่ 8
จากที่เล่ามา ถ้ามันจะกลับมาเป็นครอบครัวอีกครั้ง มันมีอะไรไม่ดีหรอ อย่าคิดถึงแต่ตัวเอง คิดถึงจิตใจลูกๆมันบ้าง ปากมันอาจจะบอกรับได้ แต่ใจมันคงไม่ใช่ ไม่มีลูกคนไหนอยากให้พ่อแม่แยกทางกันหรอก ลูกๆมันคงภูมิใจเวลามีคนถาม "พ่อกับแม่เป็นไงบ้าง" ลูกตอบ "อ่อ...หย่ากันตั้งนานแล้วครับ" แสนภูมิใจ

ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมันจะขาดใจตายคาที่ซะให้ได้ ก็บอกเขาไปตรงๆ

ไอ้คำว่าเลยจุดนั้นมาแล้ว มันคือจุดไหน ไอ้จุดนั้นมันไม่มีอยู่จริงหรอก สิ่งที่มันมีอยู่คือ ธิตถิ กับ อคติ ซะมากกว่า

แค่มีเงินให้ลูกเรียน ให้ลูกใช้ ยังไม่ถือว่าเป็นแม่ที่ดีนะ ถ้าครอบครัวยังมีปัญหาอยู่อย่างนี้ ทางแก้ก็มีแต่คนเป็นแม่ไม่คิดจะทำ ก็อย่าเพิ่งภูมิใจตัวเองเลย

ผมคงมาตอบโต้ไม่ได้ เพราะ ล๊อคอินโดนล๊อค ใช้งานได้จำกัด ยังไงก็เก็บเอาไปคิดละกัน
ความคิดเห็นที่ 16
ที่คุณมาตั้งกระทู้แบบนี้ แสดงว่าลึกๆ แล้วคุณมีใจ หรือไม่ตอนนี้ หินในใจคุณกำลัง กร่อน จากที่เค้าตื้อแล้วหล่ะครับ
เพราะถ้าคุณตั้งธงว่า "ไม่" จริงๆ คุณจะไม่มาตั้งกระทู้ถาม คุณจะสามารถทำให้เค้ากลับไปได้เองโดยตัวเอง
ที่เลิกกัน พวกเราไม่ทราบสาเหตุหรอกครับว่า ทำไมแต่ที่ยังสามารถเลิกกันได้ด้วยดี แสดงว่าไม่ใช่เรื่องหนัก(หรือเปล่า????)

ฉะนั้น ตัวคุณจะตอบเองได้ครับว่า จะเอาอย่างไรดี
ถ้ารับ ก็คือกลับมาคืนดีกันแค่นั้นง่ายๆ
ความคิดเห็นที่ 17
เราแอบสงสัยว่า ...

ถ้าลองกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง แล้วมันไม่เวิร์ค ไปไม่รอด จะมีอะไรเสียหาย ....
คุณเสียความรู้สึก? กลัวขอเลิกอีกครั้งแล้วทางโน้นไม่ยอม?

เราเคยดูหนังเกาหลีเรื่องหนึ่ง ชอบมาก เป็นเรื่องของหนุ่มสาววัยทำงานที่เป็นแฟนกัน แล้วเลิกกัน แล้วกลับมารักกันใหม่ ในช่วงกลับมารักกันเฟสสองเนี่ย ต่างคนต่างเกร็ง ผู้หญิงถามอะไร ผู้ชายก็บอกว่า แล้วแต่เธอ... ผู้หญิงอยากทำอะไร ผู้ชายก็ตามใจ แต่ไม่เป็นคนเริ่ม ไม่ดิ้นรนทำอะไรก่อน
ทำให้ผู้หญิงน้อยใจในความหนืด เรื่องมาแตกหักในวันที่ชวนกันไปเที่ยวสวนสนุก แล้วฝนตกหนัก มีเหตุการณ์อะไรสักอย่างเกิดขึ้น ที่ทำให้ผู้หญิงฟิวส์ขาด ขอตัวเดินแยกไป แล้วไปนั่งร้องไห้กลางสายฝน สุดท้ายก็เลิกกันรอบสอง

เวลาผ่านไป ทั้งคู่กลับมาเจอกัน ก็ชวนกันไปนั่งกินข้าว ความรู้สึกดีๆมันหวนกลับมาอีก หนังจบเอาไว้แค่ว่า ทั้งคู่เดินออกจากร้านไปด้วยกัน แต่ไม่ได้บอกว่า กลับมาคืนดีกันจริงๆหรือไม่

เรามองว่า หากเลิกกันแล้ว กลับมาอยู่ด้วยกันหรือกลับมาคบกัน น่าจะยิ่งเห็นจุดดี จุดด้อย และเห็นตัวตนของอีกฝ่ายชัดเจนกว่าเมื่อก่อน  หาก จขกท รับตัวตนของอดีตสามีคุณไม่ได้จริงๆ ก็น่าจะขอคุยอย่างจริงๆจังๆว่า อะไรที่คุณรับไม่ได้ และไม่สามารถกลับมาอยู่ด้วยกันได้อีก  
แต่หากมันไม่ใช่เรื่องใหญ่โต ก็น่าจะลองเปิดใจ ทบทวน และเปิดโอกาสให้ทั้งตัวเองและอดีตสามี ซึ่งก็น่าจะมีข้อดีหลายอย่าง ถึงทำให้คุณรักและตัดสินใจใช้ชีวิตคู่จนมีลูกกับเขามาระยะหนึ่ง

ชีวิตคู่ เมื่อล่วงเลยมาเป็นหลักสิบปี สิ่งที่เป็นแกนหลัก คือ ความผูกพัน ความเป็นเพื่อนที่จะแชร์อะไรหลายๆอย่างกัน โดยเฉพาะสิ่งที่มองไม่เห็น เช่น ความทุกข์ใจ ปัญหา   ฉะนั้น อย่าเอาเรื่องเปลือกนอก เช่น เรื่องการช่วยเหลือเงินทอง มาเป็นข้อพิจารณา  เพราะการอยู่กับใครสักคน ความผูกพันสำคัญกว่ามาก  หากคุณไม่คิดจะสานต่อจริงๆ ควรสร้างระยะห่างกับเขา มีพื้นที่ที่เขาไม่ควรจะก้าวล่วงเข้ามา น่าจะดีกว่าทำให้เขาคลายใจ คิดว่าคุณก็พร้อมจะคืนดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่