บทที่1 ตอนที่1 จุดเริ่มต้นของตำนาน
[ ณ โลกที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่ดุร้ายและมีหอคอยมังกรทั้ง 6 หอคอย ประเทศของมวลมนุษย์ได้รวมตัวกันเพื่อต่อสู้จนเหลือเพียงแค่สองประเทศบนโลกนี้นั้นคือ ประเทศเรียลฟิลล์เทียสและโซร์นาเดียส ประเทศทั้งสองนั้นเป็นพันธมิตรกันได้ครอบครุมพื้นที่ในโลกไปถึง 2 ใน 3 ส่วนและอีก 1 ส่วนคือพื้นที่ๆไม่สามารถอยู่ได้เพราะความมืดครอบงำอยู่เรียกว่า Dead Zone พันธมิตรทั้ง2จึงได้สร้างกิลด์ขึ้นมาชื่อกิลด์ใหญ่ 5 ธาตุมี กิลด์ใหญ่ดิน กิลด์ใหญ่น้ำ กิลด์ใหญ่ลม กิลด์ใหญ่ไฟ กิลด์ใหญ่สายฟ้า ที่เลือกผู้มีความสามารถมาคอยรับใช้ประเทศและสำรวจหอคอยมังกรทั้ง 6 เอาละจากนี้ไปจะเป็นเรื่องราวการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของเด็กหนุ่มคนหนึ่งถ้าคุณพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย ]
“ร้อนชิ๊บ!!!”
เสียงเด็กหนุ่มโอดครวญบนถนนที่ไม่ค่อยจะมีผู้คนตึกราเป็นแบบสไตล์ยุโรปมีผ้าตากไว้กับเชือกระหว่างบ้านหนึ่งกับอีกบ้านหนึ่ง เมืองนี้มีชื่อว่า ‘เซลาเฟีย’
‘โครก~~~~~~~ครากกก’
และจู่ๆก็มีเสียงท้องร้องขึ้มมาซะอย่างงั้น
“หิวสุดๆเลยแฮะ! ไอร้าน‘fairy bar’เราก็ออกจะมาบ่อยแท้ๆแต่ทำไมมันหลงทุกครั้งเลยฟะแบบนี้มีหวังชวดงานแหงๆ”
เด็กหนุ่มที่(บ่นอยู่นี้)ใส่ผ้าคลุมขาดๆและมีดาบสภาพพังแหล่มิพังแหล่คาดอยู่ที่เอวเขาคนนี้ชื่อ “ซากะ ชิโตะ”
“นี่น้องสาวไปเที่ยงกับพวกพี่ไหมจะ?”
มีเสียงของชายหน้าโฉด3คนหม้อสาวอยู่ในตรอกแห่งหนึ่งที่อยู่ข้างหน้า
“ไม่ไป!”
หญิงสาวตอบทั้งหนักแน่นทั้งเย็นชาเธอคนนี้มีผมและดวงตาสีน้ำตาลอ่อนผมถูกรวบเอาไว้ในทรงโพนี่เทลอย่างเรียบร้อยใส่ชุดคอกลมแขนกุดขอบฟ้าสวมเกราะสีเงินที่คลุมจากหน้าอกถึงหน้าท้องโดยไม่คลุมไปถึงด้านหลังสวมปลอกแขนที่สลักลวดลายบางอย่างไว้ตรงกลางมีอัญมณีสีน้ำเงินติดอยู่และมีมีดสั้นคาดไว้ที่หลังเอวที่แต่เด่นที่สุดคือหน้าอกที่กำลังพอดีและเอวที่เว้าโค้งได้รูปทั้งหน้าตาที่หน้าหลงไหลจนชายใดเห็นเป็นต้องหลง
‘เข้าไปช่วยดีไหมเนี่ย....อืม~~แต่ถ้าเราช่วยเธออาจนำเราไปร้าน Fairy bar ก็ได้แฮะ แถมเธออาจหลงเราด้วย ฮุฮุฮุ’
ในเมื่อคิดได้เช่นนั้นชิโตะก็ได้ลุกขึ้นเพื่อไปแล้วเอ่ยว่า
“เฮ้ย!! พวกแกนะ น้องเขาไม่อยากไปด้วยไม่เห็นหรือไง!! ”
ชิโตะตะโกนใส่ชายฉกรรจ์ทั้งสามอย่างไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
“หา!! แล้วแกเป็นใครวะ! อย่ามายุ่งเรื่องของพวกข้า”
หนึ่งในชายหน้าโฉดตะคอกใส่ชิโตะอย่างอารมณ์เสียที่มีคนเข้ามายุ่งตอนเข้าด้ายเข้าเข็ม
“ฮึฮึฮึ ฉันนะเรอะ? จะบอกก็ได้ฉันคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกยังไงละและฉันก็จะจัดการพวกแ- โครก!!! ”
อยู่ๆก็มีเสียงแทรกขึ้นมาระหว่างที่ชิโตะกำลังพูด ชายทั้ง3ก็ยืนงงว่าเมื่อครูเป็นเสียงอะไรผ่านไปสักพักชิโตะก็ทรุดเข่าลง
“เก่งไม่เบานิพวกแกหนะก่อนที่ฉันจะจัดการพวกแก...พอจะมีของกินแบ่งบ้างไหม?” เสียงเมื่อกี้คือเสียงท้องร้องของชิโตะที่ดังขึ้มมาแบบไม่ดูเวลานี่เอง
“ฮ่าฮ่าฮ่า! อะไรวะแค่พวกขอทานทำเป็นเก่งนี่หว่า เฮ้ยพวกเราจัดให้มันหน่อยดีกว่าวะ”
จากนั้นการตะลุมบอน(อยู่ฝ่ายเดียว)ก็เริ่มขึ้น เมื่อเสร็จสับชิโตะก็นอนหน้าคว่ำกับพื้นส่วนชายฉกรรจ์ทั้ง3ก็เดินจากไปจนลืมไปว่ากำลังหม้อหญิงอยู่
“เฮ้อ~ ดูไม่ได้เลยนะนายเนี่ยแทนที่จะมาช่วยดันถูกรุมซะได้”
หญิงสาวที่ถูกจีบพูดพร้อมเดินเข้ามาดูอาการแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
“จริงๆถึงนายไม่เข้ามาชั้นก็จะจัดการมันอยู่แล้ว เอาหละชั้นต้องไปแล้วฉันก็มีของกินอยู่แด่นี้แหละ”
เมื่อเธอพูดเสร็จก็วางถุงที่มีขนมปังอยู่นิดหน่อยตองหน้าชิโตะที่หน้าคว่ำอยู่แล้วก็เดินออกไปจากตรอก
“เฮ้อ~~แย่จังน้าแทนจะยิงนัดเดียวได้นกสองตัวดันกลายเป็นยิงสิบนัดไม่ได้นกซักตัวซะงั้น”
พร้อมหยิบถุงขนมปังที่ได้เมื่อกี้เปิดมากินจนหมด
“ยังหิวอยู่เลยแฮะ เอาละ!รีบไปหาอะไรกินดีกว่าก่อนจะอดตายแฮะ”
ชิโตะเอามือกุมท้องทีสั่นไหวของเขาเหมือนกำลังประท้วงว่า ‘แค่นี้ไม่พอหรอกนะ!!’ กับชายหนุ่มพร้อมลุกขึ้นเดินต่อ
ผ่านไปหลายชั่วโมง ชิโตะก็เจอร้าน fairy bar จนได้
“นะ....ในที่สุดก็เจอซักที!!!”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความปราบปรื้มของชิโตะดังขึ้นมาพร้อมกับเดินเข้าร้าน fairy bar อย่างเหนื่อยล้า
ประตูร้านเป็นประตูลูกบิดเหมือนประตูคาเฟ่
‘กริ่งๆ’
เสียงกระดิ่งที่ติดไว้เหนือประตูในร้านเป็นสัญญาณว่ามีลูกค้าภายในร้านเป็นแบบตะวันตกที่เหมือนหลุดมาจากหนังคาวบอยที่มีคนรวมตัวกันดื่มเล่าส่งเสียงเอะอะในร้านแต่ที่ต่างคือร้านนี้ไม่มีลูกค้าเลยแม้แต่คนเดียวแต่ร้านใหญ่พอสมควรแต่ชิโตะก็ไม่แปลกใจเพราเขามาร้านนี้บ่อยอยู่แล้วแต่ยังไม่แปลกที่สุดแปลกที่สุดคือร้าน fairy bar มีอยู่ทุกเมืองแถมมาสเตอร์ยังเป็นคนเดียวกันทุกครั้งที่ชิโตะมาร้านนี้ก็เจอแต่คนเดิมๆทุกทีแต่ก็ไม่สงสัยอะไร
“โฮ่ๆ! ว่าไงชิโตะคุงวันนี้มาทำงานอย่างงั้นหรอ?”
ชายแก่ร่างเล็กสวมชุดบาร์เทนเดอร์ยืนอยู่บนเก้าอี้เพื่อที่จะให้พ้นเคาน์เตอร์ได้ถามขึ้นมาซึ่งเขาเป็น มาสเตอร์ ของร้านได้
“อา~~ครับต้องช่วยคนของกิลด์ธาตุน้ำพิชิตหอคอยมังกรหนะเจ้าคิโดะขอมา อะ! มาสเตอร์ขออาหารชุดใหญ่หนึ่งชุดด้วย”
ชิโตะพูดเสร็จก็เดินไปนั่งที่หน้าเคาน์เตอร์อย่างเฉื่อยชา
“โฮ่ แต่ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้ต้องเป็นความลับหรอกหรอชิโตะคุง เอ้าของที่สั่งไว้”
มาสเตอร์พูดกับชายหนุ่มในขณะที่ล้วงมือไปหยิบอาหารที่ใต้เค้าเตอร์
‘เร็วโคตร’
ชายหนุ่มนึกในใจว่าจะกี่ครั้งมาสเตอร์มักจะเตรีมอาหารมาอยู่แล้วทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเขาจะมาแถมทุกครั้งอาหารยังคงร้อนเหมือนพึ่งทำเสร็จใหม่ด้วยแต่......ช่างเถอะมันอร่อยนิ
‘กริ่งๆ’
เสียงกระดิ่งที่นานๆที่จะดังขึ้นวันนี้กลับดังสองครั้งแล้ว
เด็กสาวได้เข้าร้านมาเธอดูแปลกใจนิดหน่อยที่ในร้านมีคนนั่งอยู่คนเดียวเธอจึงเดินไปที่เค้าเตอร์เพื่อถามให้แน่ใจว่าเธอมาถูกไหม
“เอ่อขอโทษนะคะที่นี่ใช่ร้าน fairy bar หรือเปล่...อะ!!นายขอทานเมื่อตอนนั้นหนิ ”
เธอก็คือผู้หญิงที่ชิโตะช่วยที่ตรอกเมื่อกี้นั่นเอง
“เอะ...หรือนายจะเป็นพวกสโตกเกอร์”
เธอถอยหลังไปสองก้าวด้วยความระแวงเพราะคนตรงหน้าอาจจะทำอะไรแปลกก็ได้
“ไม่ใช่ขอทานเฟ้ย!! แล้วก็ไม่ใช่พวกสโตกเกอร์ด้วย ฉันเป็นทหารรับจ้างต่างหาก”
ชิโตะตะโกนทั้งๆที่อาหารยังเต็มปากเถียงข้อหมิ่นประมาทของหญิงสาว
“แต่นายแค่เจ้าสามคนเมื่อตอนเช้ายังไม่ไหเลยนี้?”
เธอพูดในขณะที่นึกถึงเรื่องเมื่อเช้าไม่มีทางที่ทหารรับจ้างจะแพ้หมดรูปกับพวกนักเลงกิ๊กก๊อกแนนอน
“เมื่อเช้าเป็นเพราะชั้นหิวเกินไปต่างหากหละ ถ้าตอนนี้ร้อยคนชั้นก็ไหวไม่สิพันก็ไหว ฮ่าฮ่าฮ่า”
ชิโตะพูดสรรเสริญตัวเองพร้อมกับหัวเราะออกมาซะลั่นร้าน
“เฮ้อ เอาเถอะมันเรื่องของนายนิ”
เธอถอนหายใจด้วยความจนใจว่าไม่น่าเชื่อจะมีใครหลงตัวเองขนาดนี้แล้วหันไปคุยกับมาสเตอร์
“ขอโทษนะคะชั้นนัดคนที่ชื่อ ซากะ ชิโตะไว้คะถ้าเขามาให้เขามาพบชั้นที่โต๊ะนะคะ แล้วก็ขอกาแฟดำคะ”
หญิงสาวพูดกับชายชราร่างเล็กในขณะที่จะไปหาที่นั่งริมหน้าต่างแต่ก็มีเสียงหนึ่งตอบเธอ
“อื้อ!! งั้นไปกันเถอะ”
ชิโตะพูดเสร็จพร้อมตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปากและทำท่าจะเดินตามไปที่โต๊ะกับหญิงสาว
“คือ ฉันไม่ได้พูดกับนายซักหน่อยนี่ นายไม่เห็นเกี่ยวเลย”
หญิงสาวหันไปพูดกับชายหนุ่มที่ทำท่าจะตามเธอมาด้วยความระแวง
“ทำไมจะไม่เกี่ยวหละ? ก็เธอมารอฉันไม่ใช่หรอ”
ชิโตะถามไปพร้อมกับเอียงคอเล็กน้อยเพราะเขาไม่น่าจะฟังผิดแน่นอน
“หะ....นะ-นายคือ ซากะ ชิโตะ? คนที่พิชิตหอคอยมังกรอัคคี? เป็นพี่ชายของ ซากะ คิโดะ คุง?”
เธอชี้มาทางชิโตะพร้อมกับมองเขาด้วยสายตาไม่เชื่อขณะที่มีเหงื่อแตกพลั่กออกมา
“ใช่แล้วหละ รู้จักคิโดะด้วยหรอหรือเธอจะเป็นนายจ้างของงานนี้สินะ?”
ชิโตะถามด้วยความสงสัยพร้อมกับพยักหน้าอมยิ้มที่มีคนรู้จักเขาดีขนาดนี้
“เอาหละถ้างั้นไปคุยเรื่องงานกันเถอะมาสเตอร์ลงบัญชีผมไว้ก่อนนะ” ชิโตะลุกแล้วนำไปนั่งที่โต๊ะที่คาดว่านายจ้างสาวจะไปนั่งทันที
ณ โต๊ะหนึ่งของร้าน fairy bar ทั้งสองนั่งกันคนละฝ่ายมีกาแฟดำสองแก้วตั้งอยู่คนละแก้วมีบรรยากาศเงียบเล็กน้อยแต่ชิโตะก็ได้ทำลายความเงียบ
“เอาหละฉันชื่อ ซากะ ชิโตะ! ผู้ที่จะแข็งแกร่งที่สุดในโลกแล้วก็จะไปล้มพระเจ้า!!.....เอาหละตาเธอแล้วแนะนำตัวสิ”
อยู่ชิโตะก็ลุกขึ้นโพร่งชื่อตัวเองออกมาดังสนั่นเหมือนกลัวว่าหญิงสาวจะไม่ได้ยิน
ทางด้านหญิงสาวก็เงิบไปเล็กน้อยจากนั้นก็ได้สติแล้วก็แนะนำชื่อตัวเองอย่างสุภาพ
“เอ่อ..ฉันชื่อ คริสต์เลียร์ ทีฟาร์ เป็นน้องของพี่ ฮิ-...คริสต์เลียร์ อิลด้า หนะคะ ”
‘หมอนี่ใช่ตัวจริงแน่หรอเนี่ยเท่าที่ได้ยินจากพี่กับคิโดะคุงดูเหมือนคนที่สุดยอดมากเลยนี่นาเป็นอัจฉริยะในด้านบริหารแถมเมื่อ4ปีก่อนยังเป็นคนเดียวที่รอดจากการรบที่ผิดพลาดในหอคอยมังกรแถมยังพิชิตได้อีกแต่ว่าพอกลับมาแทนทีจะได้เป็นหัวหน้ากิลด์แต่กลับปฎิเสธแล้วก็ยกตำแหน่งให้คิโดะคุง....สินะ?’
หญิงสาวคิดในใจเพราะไม่ว่าจะดูยังไงคนตรงหน้าก็ดูแบบ....กาก ทีแรกเธอคิดว่าต้องเป็นคนที่ดูเป็นผู้นำมีความเข้มแข็งแต่ว่าชิโตะ...ไม่ใช่เลย แต่แล้วอยู่ๆชิโตะก็โพล่งขึ้นมาอีกครั้ง
“เอาละ!! มาเริ่มงานกันเลยเถอะแต่ว่า....”
“แต่ว่าอะไรหรอคะ?”
เธอถามด้วยความสงสัยเพราะถ้าเป็นไปเออยากจะทำภารกิจให้เสร็จๆจะได้จากกับคนตรงหน้าไวๆ
“เราคงต้องเตรียมตัวกันหน่อยหนะ ถ้าไปพิชิตหอคอยเอาตอนนี้มีหวังตายแหงเก๋พอดีต้องไปเอาชุดกับดาบก่อนแถมทีฟาร์จะได้ซื้ออาวุธที่ดีกว่านี้ไงหละ”
ชิโตะบอกเรื่องที่กังวลให้ทีฟาร์ฟังเพราะไม่ว่าอาวุธหรือชุดของเขาแทบใช้ไม่ได้แล้ว
“ของฉันไม่ต้องก็ได้นะคะ แต่ถ้าคุณชิโตะอยากได้เราก็รีบไปที่ตลาดกันเถอะนะคะ”
ทีฟาร์พูดออกมาอย่างสุภาพเธอคิดว่ากะอีแค่อาวุธไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ตรงไหนเลย
“ม่ายละ ของพวกนั้นใช้แปปเดียวก็พังแล้วแถมฉันยังมีร้านประจำด้วย....แค่หาร้านยากไปหน่อยถ้าไกลคงต้องกินเวลานิดหน่อย”
ชิโตะปฏิเสธหญิงสาวในลักษณะท่าทางที่กวนโอ้ยแต่เธอก็ต้องข่มความโกรธเอาไว้เพราะภารกิจของเธอสำคัญมาก
“ที่ไหนงั้นหรอคะ?ทำไมถึงเสียเวลาหละคะ?” เธอถามชิโตะอย่างสุภาพอีกครั้งเพราะเธอรีบจริงๆ
“ร้าน ต้นไม้โธมัส นะที่เสียเวลาก็เพราะร้านนี้มักจะเปลี่ยนที่อยู่ทุกอาทิตย์ถ้ามันอยู่ไกลคงต้องเสียเวลาหน่อยและที่สำคัญฉันรู้จักกับเจ้าของร้านเพราะงั้นติดตังได้สบายๆ”
ชิโตะบอกทีฟาร์พร้อมยิ้มกว้างให้หญิงสาว
“แล้วเราจะหาเจอได้ยังไงหละคะ” เธอสงสัยว่าถ้าเปลี่ยนร้านทุกอาทิตย์จริงๆจะไปหาเจอได้ยังไง
“ฮึๆเรื่องนั้นก็ง่ายๆ.....มาสเตอร์! ร้านของทอมตอนนี้อยู่ที่ไหนหรอครับ”
ชิโตะหันไปถามมาสเตอร์ที่เช็ดแก้วอยู่อย่างรวดเร็ว
“โฮ่โฮ่ เธอนี่โชคเข้าข้างจริงๆเลยนะตอนนี้ร้านทอมคุงอยู่ที่ป่าทางใต้ของเมืองนี่เอง”
มาสเตอร์พูดขึ้นมาพร้อมผุดรอยยิ้มที่ดูใจดีขึ้นบนหน้าเขา
“แหมก็โชคดีจริงๆแหละนะ”
ชิโตะพูดพร้อมเกาแก้มทำท่าเขินเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้ม
“เอาหละเรารีบไปกันเถอะทีฟาร์”
ชิโตะลุกขึ้นพร้อมจับมือแล้วจูงมือทีฟาร์เพื่อพาไปป่าทางใต้ของเมือง
“ค...คะ”
ทีฟาร์หน้าแดงเล็กน้อยที่อยู่ๆก็ถูกจับมือแต่ก็ไม่ได้ดึงมือออกแม้แต่น้อย
**********************
อันนนี้เป็นตอนแรกครับ ที่เอานิยายมาลงคือผมอยากรู้ว่าสกิลเขียนผมพอไปได้ป่าวอยากถามคนอื่น
บทที่1 (นิยายเก่า)
[ ณ โลกที่เต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่ดุร้ายและมีหอคอยมังกรทั้ง 6 หอคอย ประเทศของมวลมนุษย์ได้รวมตัวกันเพื่อต่อสู้จนเหลือเพียงแค่สองประเทศบนโลกนี้นั้นคือ ประเทศเรียลฟิลล์เทียสและโซร์นาเดียส ประเทศทั้งสองนั้นเป็นพันธมิตรกันได้ครอบครุมพื้นที่ในโลกไปถึง 2 ใน 3 ส่วนและอีก 1 ส่วนคือพื้นที่ๆไม่สามารถอยู่ได้เพราะความมืดครอบงำอยู่เรียกว่า Dead Zone พันธมิตรทั้ง2จึงได้สร้างกิลด์ขึ้นมาชื่อกิลด์ใหญ่ 5 ธาตุมี กิลด์ใหญ่ดิน กิลด์ใหญ่น้ำ กิลด์ใหญ่ลม กิลด์ใหญ่ไฟ กิลด์ใหญ่สายฟ้า ที่เลือกผู้มีความสามารถมาคอยรับใช้ประเทศและสำรวจหอคอยมังกรทั้ง 6 เอาละจากนี้ไปจะเป็นเรื่องราวการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของเด็กหนุ่มคนหนึ่งถ้าคุณพร้อมแล้วก็มาเริ่มกันเลย ]
“ร้อนชิ๊บ!!!”
เสียงเด็กหนุ่มโอดครวญบนถนนที่ไม่ค่อยจะมีผู้คนตึกราเป็นแบบสไตล์ยุโรปมีผ้าตากไว้กับเชือกระหว่างบ้านหนึ่งกับอีกบ้านหนึ่ง เมืองนี้มีชื่อว่า ‘เซลาเฟีย’
‘โครก~~~~~~~ครากกก’
และจู่ๆก็มีเสียงท้องร้องขึ้มมาซะอย่างงั้น
“หิวสุดๆเลยแฮะ! ไอร้าน‘fairy bar’เราก็ออกจะมาบ่อยแท้ๆแต่ทำไมมันหลงทุกครั้งเลยฟะแบบนี้มีหวังชวดงานแหงๆ”
เด็กหนุ่มที่(บ่นอยู่นี้)ใส่ผ้าคลุมขาดๆและมีดาบสภาพพังแหล่มิพังแหล่คาดอยู่ที่เอวเขาคนนี้ชื่อ “ซากะ ชิโตะ”
“นี่น้องสาวไปเที่ยงกับพวกพี่ไหมจะ?”
มีเสียงของชายหน้าโฉด3คนหม้อสาวอยู่ในตรอกแห่งหนึ่งที่อยู่ข้างหน้า
“ไม่ไป!”
หญิงสาวตอบทั้งหนักแน่นทั้งเย็นชาเธอคนนี้มีผมและดวงตาสีน้ำตาลอ่อนผมถูกรวบเอาไว้ในทรงโพนี่เทลอย่างเรียบร้อยใส่ชุดคอกลมแขนกุดขอบฟ้าสวมเกราะสีเงินที่คลุมจากหน้าอกถึงหน้าท้องโดยไม่คลุมไปถึงด้านหลังสวมปลอกแขนที่สลักลวดลายบางอย่างไว้ตรงกลางมีอัญมณีสีน้ำเงินติดอยู่และมีมีดสั้นคาดไว้ที่หลังเอวที่แต่เด่นที่สุดคือหน้าอกที่กำลังพอดีและเอวที่เว้าโค้งได้รูปทั้งหน้าตาที่หน้าหลงไหลจนชายใดเห็นเป็นต้องหลง
‘เข้าไปช่วยดีไหมเนี่ย....อืม~~แต่ถ้าเราช่วยเธออาจนำเราไปร้าน Fairy bar ก็ได้แฮะ แถมเธออาจหลงเราด้วย ฮุฮุฮุ’
ในเมื่อคิดได้เช่นนั้นชิโตะก็ได้ลุกขึ้นเพื่อไปแล้วเอ่ยว่า
“เฮ้ย!! พวกแกนะ น้องเขาไม่อยากไปด้วยไม่เห็นหรือไง!! ”
ชิโตะตะโกนใส่ชายฉกรรจ์ทั้งสามอย่างไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
“หา!! แล้วแกเป็นใครวะ! อย่ามายุ่งเรื่องของพวกข้า”
หนึ่งในชายหน้าโฉดตะคอกใส่ชิโตะอย่างอารมณ์เสียที่มีคนเข้ามายุ่งตอนเข้าด้ายเข้าเข็ม
“ฮึฮึฮึ ฉันนะเรอะ? จะบอกก็ได้ฉันคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกยังไงละและฉันก็จะจัดการพวกแ- โครก!!! ”
อยู่ๆก็มีเสียงแทรกขึ้นมาระหว่างที่ชิโตะกำลังพูด ชายทั้ง3ก็ยืนงงว่าเมื่อครูเป็นเสียงอะไรผ่านไปสักพักชิโตะก็ทรุดเข่าลง
“เก่งไม่เบานิพวกแกหนะก่อนที่ฉันจะจัดการพวกแก...พอจะมีของกินแบ่งบ้างไหม?” เสียงเมื่อกี้คือเสียงท้องร้องของชิโตะที่ดังขึ้มมาแบบไม่ดูเวลานี่เอง
“ฮ่าฮ่าฮ่า! อะไรวะแค่พวกขอทานทำเป็นเก่งนี่หว่า เฮ้ยพวกเราจัดให้มันหน่อยดีกว่าวะ”
จากนั้นการตะลุมบอน(อยู่ฝ่ายเดียว)ก็เริ่มขึ้น เมื่อเสร็จสับชิโตะก็นอนหน้าคว่ำกับพื้นส่วนชายฉกรรจ์ทั้ง3ก็เดินจากไปจนลืมไปว่ากำลังหม้อหญิงอยู่
“เฮ้อ~ ดูไม่ได้เลยนะนายเนี่ยแทนที่จะมาช่วยดันถูกรุมซะได้”
หญิงสาวที่ถูกจีบพูดพร้อมเดินเข้ามาดูอาการแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร
“จริงๆถึงนายไม่เข้ามาชั้นก็จะจัดการมันอยู่แล้ว เอาหละชั้นต้องไปแล้วฉันก็มีของกินอยู่แด่นี้แหละ”
เมื่อเธอพูดเสร็จก็วางถุงที่มีขนมปังอยู่นิดหน่อยตองหน้าชิโตะที่หน้าคว่ำอยู่แล้วก็เดินออกไปจากตรอก
“เฮ้อ~~แย่จังน้าแทนจะยิงนัดเดียวได้นกสองตัวดันกลายเป็นยิงสิบนัดไม่ได้นกซักตัวซะงั้น”
พร้อมหยิบถุงขนมปังที่ได้เมื่อกี้เปิดมากินจนหมด
“ยังหิวอยู่เลยแฮะ เอาละ!รีบไปหาอะไรกินดีกว่าก่อนจะอดตายแฮะ”
ชิโตะเอามือกุมท้องทีสั่นไหวของเขาเหมือนกำลังประท้วงว่า ‘แค่นี้ไม่พอหรอกนะ!!’ กับชายหนุ่มพร้อมลุกขึ้นเดินต่อ
ผ่านไปหลายชั่วโมง ชิโตะก็เจอร้าน fairy bar จนได้
“นะ....ในที่สุดก็เจอซักที!!!”
น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความปราบปรื้มของชิโตะดังขึ้นมาพร้อมกับเดินเข้าร้าน fairy bar อย่างเหนื่อยล้า
ประตูร้านเป็นประตูลูกบิดเหมือนประตูคาเฟ่
‘กริ่งๆ’
เสียงกระดิ่งที่ติดไว้เหนือประตูในร้านเป็นสัญญาณว่ามีลูกค้าภายในร้านเป็นแบบตะวันตกที่เหมือนหลุดมาจากหนังคาวบอยที่มีคนรวมตัวกันดื่มเล่าส่งเสียงเอะอะในร้านแต่ที่ต่างคือร้านนี้ไม่มีลูกค้าเลยแม้แต่คนเดียวแต่ร้านใหญ่พอสมควรแต่ชิโตะก็ไม่แปลกใจเพราเขามาร้านนี้บ่อยอยู่แล้วแต่ยังไม่แปลกที่สุดแปลกที่สุดคือร้าน fairy bar มีอยู่ทุกเมืองแถมมาสเตอร์ยังเป็นคนเดียวกันทุกครั้งที่ชิโตะมาร้านนี้ก็เจอแต่คนเดิมๆทุกทีแต่ก็ไม่สงสัยอะไร
“โฮ่ๆ! ว่าไงชิโตะคุงวันนี้มาทำงานอย่างงั้นหรอ?”
ชายแก่ร่างเล็กสวมชุดบาร์เทนเดอร์ยืนอยู่บนเก้าอี้เพื่อที่จะให้พ้นเคาน์เตอร์ได้ถามขึ้นมาซึ่งเขาเป็น มาสเตอร์ ของร้านได้
“อา~~ครับต้องช่วยคนของกิลด์ธาตุน้ำพิชิตหอคอยมังกรหนะเจ้าคิโดะขอมา อะ! มาสเตอร์ขออาหารชุดใหญ่หนึ่งชุดด้วย”
ชิโตะพูดเสร็จก็เดินไปนั่งที่หน้าเคาน์เตอร์อย่างเฉื่อยชา
“โฮ่ แต่ไม่ใช่ว่าเรื่องนี้ต้องเป็นความลับหรอกหรอชิโตะคุง เอ้าของที่สั่งไว้”
มาสเตอร์พูดกับชายหนุ่มในขณะที่ล้วงมือไปหยิบอาหารที่ใต้เค้าเตอร์
‘เร็วโคตร’
ชายหนุ่มนึกในใจว่าจะกี่ครั้งมาสเตอร์มักจะเตรีมอาหารมาอยู่แล้วทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเขาจะมาแถมทุกครั้งอาหารยังคงร้อนเหมือนพึ่งทำเสร็จใหม่ด้วยแต่......ช่างเถอะมันอร่อยนิ
‘กริ่งๆ’
เสียงกระดิ่งที่นานๆที่จะดังขึ้นวันนี้กลับดังสองครั้งแล้ว
เด็กสาวได้เข้าร้านมาเธอดูแปลกใจนิดหน่อยที่ในร้านมีคนนั่งอยู่คนเดียวเธอจึงเดินไปที่เค้าเตอร์เพื่อถามให้แน่ใจว่าเธอมาถูกไหม
“เอ่อขอโทษนะคะที่นี่ใช่ร้าน fairy bar หรือเปล่...อะ!!นายขอทานเมื่อตอนนั้นหนิ ”
เธอก็คือผู้หญิงที่ชิโตะช่วยที่ตรอกเมื่อกี้นั่นเอง
“เอะ...หรือนายจะเป็นพวกสโตกเกอร์”
เธอถอยหลังไปสองก้าวด้วยความระแวงเพราะคนตรงหน้าอาจจะทำอะไรแปลกก็ได้
“ไม่ใช่ขอทานเฟ้ย!! แล้วก็ไม่ใช่พวกสโตกเกอร์ด้วย ฉันเป็นทหารรับจ้างต่างหาก”
ชิโตะตะโกนทั้งๆที่อาหารยังเต็มปากเถียงข้อหมิ่นประมาทของหญิงสาว
“แต่นายแค่เจ้าสามคนเมื่อตอนเช้ายังไม่ไหเลยนี้?”
เธอพูดในขณะที่นึกถึงเรื่องเมื่อเช้าไม่มีทางที่ทหารรับจ้างจะแพ้หมดรูปกับพวกนักเลงกิ๊กก๊อกแนนอน
“เมื่อเช้าเป็นเพราะชั้นหิวเกินไปต่างหากหละ ถ้าตอนนี้ร้อยคนชั้นก็ไหวไม่สิพันก็ไหว ฮ่าฮ่าฮ่า”
ชิโตะพูดสรรเสริญตัวเองพร้อมกับหัวเราะออกมาซะลั่นร้าน
“เฮ้อ เอาเถอะมันเรื่องของนายนิ”
เธอถอนหายใจด้วยความจนใจว่าไม่น่าเชื่อจะมีใครหลงตัวเองขนาดนี้แล้วหันไปคุยกับมาสเตอร์
“ขอโทษนะคะชั้นนัดคนที่ชื่อ ซากะ ชิโตะไว้คะถ้าเขามาให้เขามาพบชั้นที่โต๊ะนะคะ แล้วก็ขอกาแฟดำคะ”
หญิงสาวพูดกับชายชราร่างเล็กในขณะที่จะไปหาที่นั่งริมหน้าต่างแต่ก็มีเสียงหนึ่งตอบเธอ
“อื้อ!! งั้นไปกันเถอะ”
ชิโตะพูดเสร็จพร้อมตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปากและทำท่าจะเดินตามไปที่โต๊ะกับหญิงสาว
“คือ ฉันไม่ได้พูดกับนายซักหน่อยนี่ นายไม่เห็นเกี่ยวเลย”
หญิงสาวหันไปพูดกับชายหนุ่มที่ทำท่าจะตามเธอมาด้วยความระแวง
“ทำไมจะไม่เกี่ยวหละ? ก็เธอมารอฉันไม่ใช่หรอ”
ชิโตะถามไปพร้อมกับเอียงคอเล็กน้อยเพราะเขาไม่น่าจะฟังผิดแน่นอน
“หะ....นะ-นายคือ ซากะ ชิโตะ? คนที่พิชิตหอคอยมังกรอัคคี? เป็นพี่ชายของ ซากะ คิโดะ คุง?”
เธอชี้มาทางชิโตะพร้อมกับมองเขาด้วยสายตาไม่เชื่อขณะที่มีเหงื่อแตกพลั่กออกมา
“ใช่แล้วหละ รู้จักคิโดะด้วยหรอหรือเธอจะเป็นนายจ้างของงานนี้สินะ?”
ชิโตะถามด้วยความสงสัยพร้อมกับพยักหน้าอมยิ้มที่มีคนรู้จักเขาดีขนาดนี้
“เอาหละถ้างั้นไปคุยเรื่องงานกันเถอะมาสเตอร์ลงบัญชีผมไว้ก่อนนะ” ชิโตะลุกแล้วนำไปนั่งที่โต๊ะที่คาดว่านายจ้างสาวจะไปนั่งทันที
ณ โต๊ะหนึ่งของร้าน fairy bar ทั้งสองนั่งกันคนละฝ่ายมีกาแฟดำสองแก้วตั้งอยู่คนละแก้วมีบรรยากาศเงียบเล็กน้อยแต่ชิโตะก็ได้ทำลายความเงียบ
“เอาหละฉันชื่อ ซากะ ชิโตะ! ผู้ที่จะแข็งแกร่งที่สุดในโลกแล้วก็จะไปล้มพระเจ้า!!.....เอาหละตาเธอแล้วแนะนำตัวสิ”
อยู่ชิโตะก็ลุกขึ้นโพร่งชื่อตัวเองออกมาดังสนั่นเหมือนกลัวว่าหญิงสาวจะไม่ได้ยิน
ทางด้านหญิงสาวก็เงิบไปเล็กน้อยจากนั้นก็ได้สติแล้วก็แนะนำชื่อตัวเองอย่างสุภาพ
“เอ่อ..ฉันชื่อ คริสต์เลียร์ ทีฟาร์ เป็นน้องของพี่ ฮิ-...คริสต์เลียร์ อิลด้า หนะคะ ”
‘หมอนี่ใช่ตัวจริงแน่หรอเนี่ยเท่าที่ได้ยินจากพี่กับคิโดะคุงดูเหมือนคนที่สุดยอดมากเลยนี่นาเป็นอัจฉริยะในด้านบริหารแถมเมื่อ4ปีก่อนยังเป็นคนเดียวที่รอดจากการรบที่ผิดพลาดในหอคอยมังกรแถมยังพิชิตได้อีกแต่ว่าพอกลับมาแทนทีจะได้เป็นหัวหน้ากิลด์แต่กลับปฎิเสธแล้วก็ยกตำแหน่งให้คิโดะคุง....สินะ?’
หญิงสาวคิดในใจเพราะไม่ว่าจะดูยังไงคนตรงหน้าก็ดูแบบ....กาก ทีแรกเธอคิดว่าต้องเป็นคนที่ดูเป็นผู้นำมีความเข้มแข็งแต่ว่าชิโตะ...ไม่ใช่เลย แต่แล้วอยู่ๆชิโตะก็โพล่งขึ้นมาอีกครั้ง
“เอาละ!! มาเริ่มงานกันเลยเถอะแต่ว่า....”
“แต่ว่าอะไรหรอคะ?”
เธอถามด้วยความสงสัยเพราะถ้าเป็นไปเออยากจะทำภารกิจให้เสร็จๆจะได้จากกับคนตรงหน้าไวๆ
“เราคงต้องเตรียมตัวกันหน่อยหนะ ถ้าไปพิชิตหอคอยเอาตอนนี้มีหวังตายแหงเก๋พอดีต้องไปเอาชุดกับดาบก่อนแถมทีฟาร์จะได้ซื้ออาวุธที่ดีกว่านี้ไงหละ”
ชิโตะบอกเรื่องที่กังวลให้ทีฟาร์ฟังเพราะไม่ว่าอาวุธหรือชุดของเขาแทบใช้ไม่ได้แล้ว
“ของฉันไม่ต้องก็ได้นะคะ แต่ถ้าคุณชิโตะอยากได้เราก็รีบไปที่ตลาดกันเถอะนะคะ”
ทีฟาร์พูดออกมาอย่างสุภาพเธอคิดว่ากะอีแค่อาวุธไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ตรงไหนเลย
“ม่ายละ ของพวกนั้นใช้แปปเดียวก็พังแล้วแถมฉันยังมีร้านประจำด้วย....แค่หาร้านยากไปหน่อยถ้าไกลคงต้องกินเวลานิดหน่อย”
ชิโตะปฏิเสธหญิงสาวในลักษณะท่าทางที่กวนโอ้ยแต่เธอก็ต้องข่มความโกรธเอาไว้เพราะภารกิจของเธอสำคัญมาก
“ที่ไหนงั้นหรอคะ?ทำไมถึงเสียเวลาหละคะ?” เธอถามชิโตะอย่างสุภาพอีกครั้งเพราะเธอรีบจริงๆ
“ร้าน ต้นไม้โธมัส นะที่เสียเวลาก็เพราะร้านนี้มักจะเปลี่ยนที่อยู่ทุกอาทิตย์ถ้ามันอยู่ไกลคงต้องเสียเวลาหน่อยและที่สำคัญฉันรู้จักกับเจ้าของร้านเพราะงั้นติดตังได้สบายๆ”
ชิโตะบอกทีฟาร์พร้อมยิ้มกว้างให้หญิงสาว
“แล้วเราจะหาเจอได้ยังไงหละคะ” เธอสงสัยว่าถ้าเปลี่ยนร้านทุกอาทิตย์จริงๆจะไปหาเจอได้ยังไง
“ฮึๆเรื่องนั้นก็ง่ายๆ.....มาสเตอร์! ร้านของทอมตอนนี้อยู่ที่ไหนหรอครับ”
ชิโตะหันไปถามมาสเตอร์ที่เช็ดแก้วอยู่อย่างรวดเร็ว
“โฮ่โฮ่ เธอนี่โชคเข้าข้างจริงๆเลยนะตอนนี้ร้านทอมคุงอยู่ที่ป่าทางใต้ของเมืองนี่เอง”
มาสเตอร์พูดขึ้นมาพร้อมผุดรอยยิ้มที่ดูใจดีขึ้นบนหน้าเขา
“แหมก็โชคดีจริงๆแหละนะ”
ชิโตะพูดพร้อมเกาแก้มทำท่าเขินเล็กน้อยพร้อมรอยยิ้ม
“เอาหละเรารีบไปกันเถอะทีฟาร์”
ชิโตะลุกขึ้นพร้อมจับมือแล้วจูงมือทีฟาร์เพื่อพาไปป่าทางใต้ของเมือง
“ค...คะ”
ทีฟาร์หน้าแดงเล็กน้อยที่อยู่ๆก็ถูกจับมือแต่ก็ไม่ได้ดึงมือออกแม้แต่น้อย
**********************
อันนนี้เป็นตอนแรกครับ ที่เอานิยายมาลงคือผมอยากรู้ว่าสกิลเขียนผมพอไปได้ป่าวอยากถามคนอื่น