ก็เอามาให้ติอีกครับ ขอแบบแรงๆนะจะได้รู้ว่าอะไรผิด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บทที่1 ตอนที่ 2 ร้านต้นไม้โธมัส
ณ ประตูทางใต้ของเมืองมีชิโตะและทีฟาร์ยืนอยู่ เมืองนี้มีชื่อว่าเมือง ‘เซลาเฟีย’ เมืองนี้ถูกล้อมรอบด้วยกำแพงประมาณสามถึงสี่ฟุตมีทางออกเมืองอยู่4ทิศ ตะวันออก ตะวันตก เหนือ ใต้ ซึ่งนอกเมืองมีป่าที่มอนสเตอร์อาศัยอยู่และนอกเมืองทางใต้นั้นถือว่าดุร้ายที่สุดในทั้งสี่ทิศจึงมีแค่ทหารยามแถวนี้ ส่วนประตูเมืองนั้นใหญ่พอสมควรกว้างพอที่จะให้คนเรียงแถวหน้ากระดานยี่สิบคนออกไปได้สูงประมาณ3-4เมตร
ชิโตะไปคุยกับยามเฝ้าประตูทางทิศใต้เพื่อที่จะได้ออกไปข้างนอกถึงพวกยามจะทำท่าทีกังวลว่าออกไปแค่สองคนจะไม่เป็นไรหรอแต่ชิโตะก็ยืนยันว่าไม่เป็นไรพวกทหารจึงนำทางไปประตูทีรถขนสินค้าเข้าออกถึงจะไม่ได้ใช้จนสนิมขึ้นก็เถอะพอออกมานอกเมืองทีฟาร์ก็เป็นคนเปิดประเด็นพูดขึ้นมาก่อน
“คุณชิโตะคะ ทำไมมาสเตอร์ของ fairy bar ถึงได้รู้ที่ตั้งของร้านที่เราจะไปตอนนี้หละคะ แถมฉันยังเคยได้ยินชื่อร้านออกมาจากปากพี่บ่อยๆด้วยที่ว่าร้านนั้นมีอยู่ทุกเมืองแถมมาสเตอร์เป็นคนเดียวกันเนี่ยเรื่องจริงหรอคะ?”
ที่ทีฟาร์สงสัยก็ไม่แปลกเพราะที่ได้ยินมามันแปลกมากสำหรับคนปกติ
“ที่ว่าทำไมถึงรู้ที่ตั้งของร้านเจ้าทอมฉันก็ไม่แน่ใจหรอก แต่เรื่องร้านกับมาสเตอร์นะเรื่องจริงแน่นอนฉันพิสูจน์กับเจ้า ไลเกอร์ แถมยังไม่ใช่แค่นั้นนะในเลาเดียวกันอีกด้วย อ้อ แล้วก็เรียก ชิโตะ เฉยๆก็ได้นะ ทีฟาร์ ” ชิโตะพูดขึ้นพร้อมกับเดินนำทีฟาร์เข้าไปในป่าอย่างช้าๆ
“อะ เอ่อ อื้อ ช-ชิโตะ”
เธอพูดพร้อมกับมีสีชมพูที่หน้าเล็กน้อยที่อยู่ๆก็ต้องเรียกชื่ออีกฝ่ายห้วนๆ
“มีอะไรงั้นหรอ ทีฟาร์”
ชายหนุ่มหันหน้ากลับไปถามหญิงสาวอยากร่าเริงจนเธอต้องรีบหาเรื่องคุย
“แล้วนี้ก็เริ่มเข้าป่าแล้วยังไม่เห็นมีร้านอะไรเลยนะแล้วเมื่อไหร่จะถึงหรอ?หรอบางทีร้านของคุณทอมอาจจะย้ายที่ไปแล้วก็ได้”
เธอหันไปมองรอบๆทีฟาร์ก็เห็นแต่ป่าไม่น่าจะมีร้านอะไรได้เลย
“ฮึ!! ไม่ต้องห่วงหรอกหมอนั่นอยู่แถวนี้แหละ”
ชิโตะกอดอกทำท่าทางมั่นใจพูกับหญิงสาว
“แล้วนายแน่ใจได้ยังไงหละไม่มีอะไรเป็นหลักประกันนิ”
เธอเห็นอีกฝ่ายทำท่าทำทางจึงใสอารมณ์ขณะพูดเล็กน้อย
“นี่เธอไม่สังเกตเลยสินะอย่างงั้นหรอทีฟาร์ว่าทำไมป่าทางใต้มอนสเตอร์จะดุร้ายกว่าที่อื่นแท้ๆแต่เรากลับไม่โดนโจมตีเลยนะ”
ชิโตะอธิบายให้ทีฟาร์ฟังว่าปกติแค่คนเดินเข้ามาแถวนี้ก็โดนเหล่าสิงสาราสัตว์ป่านี้โดนตะปบตายไปตั้งแต่10นาทีแรกแล้วแต่ตอนนี้พวกเขาเข้ามาเกือบครึ่งชั่วโมงยังไม่เจออะไรจึงเป็นเครื่องพิสูจน์
“อ๊ะ!!จริงด้วยแบบนี้ก็แสดงว่าใกล้จะถึงแล้วสินะ”
ทีฟาร์ทำท่าเหมือนนึกได้โดยเอามือขวาทุบบนฝ่ามือซ้ายของเธออย่างน่ารักน่าชัง
“ถึงแล้วหละ ที่นี่แหละเรารีบเข้าไปกันเถอะ”
ชิโตะพูดขึ้นขณะหยุดอยู่ตรงหน้าต้นไม้ใหญ่
“นี่มันก็แค่ต้นไม้ต้นใหญ่เองนิ นายบ้าหรือเปล่าเนี่ย”
ทีฟาร์ชี้ไปทางต้นไม้แล้วก็สังเกตเห็นรอยสลักไว้บนต้นไม่ว่า TOMUS อยู่กลางต้น
“ที่นี่แหละน่า อ๊ะ!!จริงสิถ้าเห็นผู้หญิงผมดำละก็รีบตีซี้เลยนะเธอเป็นแฟนของเจ้าทอมมันเธอชื่อมาเรียแถมยังใจดีมากด้วย เอาหละเข้าไปกันเถอะ”
พูดเสร็จชิโตะก็เดินหายเข้าไปในต้นไม้ทิ้งทีฟาร์อยู่ข้างนอกคนเดียว
‘หมอนี่บ้าหรือเปล่าเนี้ย!! ทำอย่างกับเป็นเรื่องธรรมดาแล้วไอที่ว่าเปลี่ยนที่อยู่ร้านทุกอาทิตย์เนี้ยยังไงกันแน่อุตส่าห์ไม่ถามแล้วนะโว้ยยยยย’
เธอกรีดร้องในใจเพราะชิโตะแทบไม่อธิบายอะไรเธอเลยฟาร์ลองยื่นมือไปแตะต้นไม้ดูแล้วทะลุผ่านไปได้เธอหลับตาพร้อมกลั้นหายใจแล้ววิ่งพรวดเข้าไปในต้นไม้
‘ตุบ!!!โครม!!!’
เธอวิ่งเข้าไปแล้วก็ชนเข้ากับบางอย่างจนฝุ่นครุ้งเต็มไปหมด
“อูย~~เจ็บจังนี่เราชนอะไรเข้าเนี่ย”
ทีฟาร์ลืมตาแล้วเงยหน้าขึ้นก็เห็นคนสองคนยืนอยู่หนึ่งคือชายวัยกลางคนอายุประมาณ25-30ปีไว้ผมดำยาวเทียมไหล่มีเคราแพะสวมเสื้อแขนยาวคอกลมสีเนื้อกางเกงขายาวกำลังกลั้นหัวเราะอยู่เขาคนนี้คงเป็น ทอม เจ้าของร้านเพื่อนของชิโตะและผู้หญิงอายุประมาณ20ต้นๆผมยาวสีดำตรงสลวยดูดีเป็นแม่บ้านแม่เรือนเธอคือ มาเรีย เป็นภรรยาของทอมนั่นเองแต่ที่ทีฟาร์สงสัยคือ ชิโตะไปไหน? เมื่อกี้เธอชนกับอะไร?
“คือว่าทีฟาร์.....ช่วยลุกออกไปหน่อยสิแบบว่ามันหนักหนะ”
เสียงของชิโตะดังมาจากข้างล่างทีฟาร์และเมื่อเธอก้มไปดูเธอก็ได้รู้ว่าที่ทีฟาร์ชนไปเมื่อกี้ก็คือชิโตะนั่นเองและตอนนี้เธอกำลังนั่งอยู่บนตัวชิโตะที่นอนคว่ำอยู่ เธอรีบลุกขึ้นด้วยความเขินอายอย่างรวดเร็วหันหน้าไปทางอื่นเพราะไม่อยากให้ใครเห็นหน้าแดงๆของเธอที่สังเกตุคงจะมีแค่มาเรียคนเดียวแต่เธอก็ไม่ได้อะไรเพียงแค่ยิ้มมาทางทีฟาร์
‘นีเราทำอะไรของเราลงไปเนี่ย บ้า บ้า บ้า...บ้า’
ทีฟาร์ด่าตัวเองในใจกับความโกะของตัวเองอยู่มุมๆหนึ่ง
“ฮ่าฮ่าฮ่า!!! เป็นการล้มที่สุดยอดเลยวะชิโตะ”
ทอมที่กลั้นหัวเราะไม่อยู่เพราะสิ่งที่เขาเห็นมันขำเกินไป
“คุณคะอย่าเสียมารยาทกับลูกค้าสิยิ่งชิโตะเป็นลูกค้าประจำด้วยนะคะ”
มาเรียเดินมาเขกหัวทอมพร้อมกับส่งสัญญาณให้มองไปทางทีฟาร์ว่าอย่าไปใส่ใจเลย
“ใช่แล้วๆ อย่าเสียมารยาทกับลูกค้าประจำสิฟะแล้วก็เอาชุดกับดาบใหม่ของฉันมาเลยนะเฟ้ย”
ชิโตะลุกขึ้นพร้อมทำท่าทางกระฟัดกระเฟียดใส่ทอมที่บังอาจหัวเราะเยาะเขา
“หา!! ไอคุณลูกค้าที่ไม่ค่อยจะจ่ายตังอย่างแกอย่าพูดเลยเถอะแก เอ้า!!ชุดกับดาบใหม่ของแกรีบๆไปเปลี่ยนได้แล้วเว้ย”
ทอมย้อนชิโตะพร้อมเดินไปหาอะไรสักอย่างหลังเค้าเตอร์พอเจอก็ยื่นชุดกับดาบให้ชิโตะที่ถูกห่อไว้เรียบร้อย
“เธอคงจะเป็น...ทีฟาร์จังน้องสาวของฮิลด้าสินะจ๊ะอยากได้อะไรหรือเปล่าเดี่ยวฉันจะลดให้นะจ๊ะ”
มาเรียเดินเข้ามาถามทีฟาร์ที่ยืนทำตัวเงียบๆอยู่มุมๆหนึ่งอย่างสุภาพ
“ไม่ต้องหรอกคะ..ฉันว่าของที่ฉันมีก็น่าจะพอไหวอยู่แล้วนะคะ”
ทีฟาร์พยามปฏิเสธอย่างสุภาพเพือไม่ให้มาเรียเสียน้ำใจ
“เฮ้ อย่าพูดอย่างนั้นสิร้านเรามีของมากมายให้เลือกสรรค์เชียวนะขนาดหัวหน้ากิลด์ใหญ่5ธาตุทุกคนยังเคยมาซื้ออาวุธของเราเลยยังไงก็ลองเดินดูก่อนก็ได้หรือจะให้มาเรียแนะนำก็ดี”
ทอมกอดอกผายไหล่อย่างภูมิใจที่ภรรยาเขาเป็นคนรอบรู้แต่เขาแทบไม่รู้อะไรอยู่ไหนในร้านเลย
“ฉันขอตัวไปดูเจ้าชิโตะมันหน่อย”
พอพูดเสร็จเขาก็เดินไปในห้องเปลี่นชุดที่ชิโตะเข้าไปตอนแรกจนเหลือเพียงทีฟาร์และมาเรียสองคน
“ว่ายังไงหละจ๊ะทีฟาร์จังมีอะไรอยากให้แนะนำหรือเปล่าเอ๋ย?”
มาเรียถามทีฟาร์อย่างสุภาพและเป็นมิตรจนทีฟาร์เริ่มทำอะไรไม่ถูกที่ถูกพูดสุภาพขนาดนี้
“อะ..เอ่อ..ขอเดินดูก่อนแล้วกันคะคุณมาเรีย”
ทีฟาร์ตอบมาเรียไปอย่างว่าง่ายแต่ไม่วายปฏิเสธอยู่ดี
“เอางั้นก็ได้จ๊ะ มีอะไรฉันอยู่ที่เค้าเตอร์นะ”
มาเรียที่ทำท่าจ๋อยเล็กน้อยที่อีกฝ่ายปฏิเสธพร้อมเดินไปที่เค้าเตอร์
ทีฟาร์ก็ได้เดินดูในร้านอย่างที่ทอมแนะนำร้านนี้ใหญ่มากใหญ่กว่าต้นไม้ที่เข้ามามากมันเหมือนกับห้องโถงที่มีของมาตั้งบอกราคาจนเต็มห้องมีทั้งน้ำยาแปลกๆที่ทีฟาร์ไม่เคยเห็นมอนสเตอร์ที่อยู่ในกรงขนาดมีทั้งเล็กใหญ่มีผลึกหายากหลายชนิดอาวุธหลายประเภทอุปกรณ์เวทมนต์นับไม่ถ้วนรถขนของเสื้อผ้าน้ำหอมมากมายสมกับคำว่ามีทุกอย่างให้เลือกสรรค์
ทีฟาร์ตัดสินใจซื้อมีดสั้นเล่มใหม่แต่คงจะเดินดูไม่ทั่วจึงได้ไปขอให้มาเรียช่วย
“คุณมาเรียคะช่วยแนะนำมีดสั้นให้หน่อยได้ไม่คะ”
ทีฟาร์เดินมาถามอย่างสุภาพเพราะจนปัญญากับความหลากหลายในร้านนี้
“อืม....มีดสั้นสินะ..อ้อแล้วเธอก็มีธาตุน้ำเป็นหลักสินะงั้นก็รอเดี่ยวนะจ๊ะ”
มาเรียพูดเสร็จก็เดินเข้าไปในห้องๆหนึ่งเพื่อเข้าไปหาบางอย่าง
‘จะเป็นแบบไหนนะแต่ถ้าที่ชิโตะกับคุณทอมพูดจริงก็คงไม่ต้องห่วงเรื่องคุณภาพละนะ’
ผ่านไปสักพักมาเรียก็เดินกลับมาพร้อมกับมีดสั้นเล่มหนึ่งสิ่งที่เธอนำมาเกินความคาดหมายของทีฟาร์มาก
“นี่คือมีด ‘เขี้ยวกิเลนวารี’ ทำจากวัสดุก็ตามชื่อแหละจ๊ะสามารถใช้เสริมธาตุรองของธาตุน้ำได้ด้วยนะขนาดก็พอเหมาะอาจจะใช้ยากไปหน่อยแต่ถ้าใช้เป็นเนี่ยก็เป็นมีด ที่ยอดเยี่ยมเลยหละจ๊ะแถมตอนใช้ “ศาสตราวุธ(weapon)” ถ้าพลังมากเกินไปอาวุธก็จะไม่พังด้วยนะเพราะมีผลึกวิญญาณที่รับพลังได้ดีแต่ถ้าไม่พอก็ใส่เพิ่มได้อีกนะ”
มีดเขี้ยวกิเลนวารีมีความยาวประมาณ40-50เซนใบมีดบางคมกริดด้ามจับถูกสานด้วยรากไม้มีอัญมณีหรือผลึกอยู่ที่ปลายด้ามจับและมันช่างเหมาะมือเธอเหลือเกิน
“ราคาเท่าไหร่หรอคะ”
ทีฟาร์ถามเพราะเธออาจจะมีเงินไม่พอเพราะมีดนี่ดีมากต่างจากของที่เธอใช้อยู่ลิบลับ
“เงินนะไม่ต้องหรอกจ๊ะถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพก็แล้วกัน.... อ้อ แล้วก็ห้ามปฏิเสธนะจ๊ะ”
มาเรียพูดกับทีฟาร์ในขณะที่เน้นประโยคสองเป็นพิเศษทีฟาร์ที่กำลังจะปฏิเสธก็ต้องกลืนลงคอไปพร้อมกับประโยคสองของมาเรีย
“เอ่อ งั้นครั้งหน้าฉันจะมาอุดหนุนใหม่นะคะ”เธอรู้สึกผิดเล็กน้อยเธอรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ไม่ได้จ่ายเงิน ‘ค่อยมาจ่ายคราวหน้าละกัน’
“ได้จ๊ะ” มาเรียพูดพร้อมรอยยิ้มส่งให้ทีฟาร์
‘เอียด~~ด’
เสียงประตูห้องเปลี่ยนเสื้อดังขึ้นพร้อมกับชิโตะที่เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเดินออกมาตอนนี้เขาใส่เสื้อยืดสีดำคอกลมกางเกงยีนขายาวสีดำสวมเสื้อโค้ดยาวไปถึงหัวเข่าขอบสีแดงมีลายไฟตรงขอบด้านร่างเสื้อพับแขนเสื้อที่ยาวเกินไปถึงข้อมือตรงนี้เป็นสีแดงเช่นกันสวมถุงนิ้วกุดมือสีดำที่เหมือนถุงมือนักกีฬาที่หลังสะพายดาบสีดำจากไหล่ขวาไปถึงเอวด้านซ้ายฝักดาบมีสัญลักษณ์มังกรสีแดงตรงหน้าถูกล้างจนสะอาดไม่เขรอะฝุ่นเหมือนตอนเจอกันครั้งแรกที่เจอกับทีฟาร์ผมถูกเลมไปนิดหน่อยทำให้เห็นใบหน้าที่ดูสมชายชาตรีที่ถูกบังไปก่อนหน้านี้โดยภาพรวมแล้วดูต่างจากตอนแรกอย่างสิ้นเชิงจนทีฟาร์ถึงกับเหม่อมองแต่ชิโตะก็ได้ทักให้หลุดจากภวัง
“ทีฟาร์!! เหม่ออะไรหนะแล้วได้อะไรหรือปล่าว”
ชิโตะเห็นทีฟาร์เหม่ออยู่จึงตะโกนเรียกอย่างสุดเสียง
“มะ...ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย!!”
ทีฟาร์ตะโกนใส่หน้าชายหนุ่มจนเขาถึงกับสะดุ้ง
“อืม...งั้นก็ดี เราไปกันเถอะทั้งหมดเท่าไหรละทอม”
ชิโตะได้หันไปถามทอมเพื่อนซี้เพื่อจะจ่ายเงิน
“150,000เหรียญทอง.....”
ประโยคสั้นๆแต่ไดใจความแต่ช่างน่ากลัวสำหรับชิโตะอย่างมาก
“งั้นติดเอาไว้ก่อนก็แล้วกันนะ”
ประโยคนี้ของชิโตะคงทำให้พ่อค้าหลายคนหัวเสียจนไล่กระทืบไปแล้วแต่ทอมไม่ใช่เพระเขาชินเสียแล้ว
“อ้อ...แล้วก็ช่วยส่งไปแถวป่าหนามทีสิ”
พูดเสร็จชิโตะก็ไปยืนรอหน้าประตูพร้อมทีฟาร์โดยไม่รอฟังคำตอบของทอมแม้แต่น้อย
“นายดูดีกว่าเมื่อก่อนมากเลยนะชิโตะ....ดูมีความสุขขึ้นเยอะเลย”
ทอมพูดขึ้นมาไล่หลังชิโตะที่กำลังจะเดนออกนอกร้าน
ชิโตะหยุดเดินแล้วหันมาทางทอมพูดสวนไปพร้อมตาฉายแววเศร้าจับใจ
“ฉันไม่ได้เปลี่ยนไปหรอก...ฉันไม่มีสิทธิที่จะมีความสุขในชีวิตสักนิด”
ชิโตะพูดขึ้นก่อนที่จะเดินเข้าไปในประตูอย่างรวดเร็ว
ทีฟาร์ที่เหลือบไปเห็นก็ตกใจที่ชิโตะมีสีหน้าแบบนั้นได้เหมือนกัน
‘หมอนี่มีอดีตยังไงนะทำไมถึงทำหน้าเศร้าอย่างงั้น?’
ทีฟาร์โค้งตัวขอบคุณคนทั้งสองก่อนเดินตามชิโตะที่ทำหน้าเศร้าอยู่แล้วพาเดินออกไปจาก ร้านต้นไม้โธมัส
************************
บทที่2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้