"นักท่องเที่ยวจีนไม่ผิด มืงต่างหากที่ไม่พร้อม" บทสัมภาษณ์ของอ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
จาก โพสต์ทูเดย์ เรื่อง...อินทรชัย พาณิชกุล /ภาพ...ภัทรชัย ปรีชาพานิช
link :
http://www.posttoday.com/analysis/interview/423753
อ่านแล้วอมยิ้ม แถมได้ความรู้ใหม่ๆ เลยอยากเอามาแบ่งปันกันครับ
ป.ล.คำบางคำจงใจพิมพ์ผิด เพื่อจะได้ไม่โดนเซนเซอร์ เดี๋ยวมันจะขาดอรรถรสในการอ่านครับ^^
ต้นปี 2558 ชื่อของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี 2554 ปรากฎเป็นข่าวดังระเบิดระเบ้อไปทั่วทั้งเมืองอีกครั้ง หลังจากวัดร่องขุ่น อ.เมือง จ.เชียงราย ที่เขาทุ่มเททั้งชีวิตสร้างขึ้นมากับมือ ด้วยการเนรมิตผืนดินอันแล้งแห้งให้เป็นวัดสีขาววิจิตรงดงาม จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองไทย ถูกสั่นคลอนจากน้ำมือของนักท่องเที่ยวจีน
พฤติกรรมสุดยี้ตั้งแต่ขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทาง แซงคิว สูบบุหรี่ทิ้งเรี่ยราด เอะอะเสียงดังรบกวนผู้อื่น ยันเหยียบย่ำทำลายข้าวของภายในวัดพังเสียหาย เล่นเอาผู้ชายนิสัยโผงผาง ดุดันอย่างอาจารย์เฉลิมชัยยังต้องยกธงขาวถึงขั้นปิดวัดหนี
ด้วยหัวใจไม่ยอมแพ้ คิด วิเคราะห์ แยกแยะเหตุผล จนนำไปสู่การลุกขึ้นแก้ไขปัญหา ทุ่มเงิน ทุ่มกำลังคน รวมทั้งพยายามเข้าใจและยอมรับนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ปรับเปลี่ยนวิธีคิด มุมมองของตัวเองเสียใหม่
วันนี้ อาจารย์เฉลิมชัยยืนยันว่า "ร่องขุ่นโมเดล" ถือเป็นต้นแบบการรับมือนักท่องเที่ยวจีนที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าภาคภูมิใจ
วัดร่องขุ่นประสบปัญหานักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่เมื่อไหร่?
ปัญหานักท่องเที่ยวจีนไม่ได้เพิ่งเกิด วัดร่องขุ่นโดนขี้ถล่มมาตั้งนานแล้ว สมัยช่วงแรกๆมากันวันละ 200-300 คน เริ่มเจอเหตุการณ์ขี้ไม่ล้าง เจ้าหน้าที่เปิดห้องน้ำดู ไอ้หยา ขี้ไม่ราด เรียกมันมาดูมันก็ไม่สน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น โอเค ไม่เป็นไร มืงขี้ก็ขี้ไป เราก็ล้างไป แต่ทีนี้พอนักท่องเที่ยวมันมาเยอะขึ้นๆ มาเป็นพันๆคน เจ้าหน้าที่วัดต้องล้างขี้ให้คนจีนทุกวัน บางคนขี้เสร็จแทนที่จะราดน้ำให้สะอาด เสือ.กเอากระดาษทิชชู่มาแปะๆกองๆไว้ บางคนแทนที่จะขี้ลงในโถส้วม เสือ.กขี้ข้างนอก บางคนแย่กว่านั้นแม่.งขี้ลงอ่างน้ำ บางคนลูกขี้เสร็จก็พามาล้างตูดในอ่างล้างหน้า ผู้หญิงบางคนเป็นประจำเดือนแมร่งถอดผ้าอนามัยแปะไว้กับข้างฝา ... โอ้ แม่เจ้า (ตะโกนเสียงดังมาก)
วันหนึ่งกำลังบรรยายธรรมะให้ลูกศิษย์ฟังอยู่หน้าหอศิลป์ ตอนนั้นประมาณห้าโมงครึ่ง วัดปิดแล้ว แต่เราเปิดห้องน้ำไว้ 2 ห้องเผื่อนักท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับ จู่ๆมีทัวร์จีนลงมาพรึบเลย วิ่งกรูกันเข้าห้องน้ำ สักพักนึงมีคนมาฟ้อง 'อาจารย์เฉลิมชัย ทำไมห้องน้ำสกปรกจัง' ผมวิ่งเข้าไปดู โอ้โห แม่.ง ขี้เลอะเต็มไปหมดทุกห้อง กระทั่งโถเยี่ยวยังมีคนไปนั่งขี้ กุจะบ้าตาย
ผมโกรธship hay ไม่ไหวแล้วโว้ย ประกาศปิดวัด ขอเป็นข่าวหน่อยวะ ด่าแม่.งออกทีวีจนเป็นเรื่องระดับรัฐบาล ผมเป็นคนแรกที่พูดเรื่องปัญหานักท่องเที่ยวจีน เพราะคนอื่นไม่มีใครกล้า พูดปุ๊บวงแตกปั๊บ รัฐบาลจีนต้องออกมาตรการเตือนนักท่องเที่ยว สถานทูตจีน นายกสมาคมคนจีนในไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัด ไกด์ทัวร์ ทุกฝ่ายต้องเข้ามาคุยกับผม มันสะเทือนไปหมด
ถึงขั้นจะปิดวัดหนีเลยหรือ?
ทีแรกตั้งใจจะปิดวัดสัก 3 วัน ห้ามคนจีนเข้า ผมไปยืนคุมหน้าวัดคอยตรวจพาสปอร์ต จีนไต้หวัน จีนมาเลย์ จีนฮ่องกง จีนสิงคโปร์ โอเค ให้เข้าได้ แต่จีนแผ่นดินใหญ่กุไม่ให้เข้า (ตะโกนเสียงดัง) กุรับมืงไม่ได้ เลอะเทอะ ไร้ระเบียบ ไม่เคารพกฎกติกาสักอย่าง
พอจะแอนตี้ ลูกชายผมมันก็บอกว่า พ่อจะมาปิดวัดหนีแบบนี้ไม่ได้นะ คนจีนเขาอุตส่าห์เสียเงินมาชื่นชมงานศิลปะพ่อ พ่อจะไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของเขาแบบนี้ไม่ได้ พ่อต้องคิดให้ดี คนจีนไม่ใช่ว่าไม่ดีทั้งประเทศ พ่อจะเกลียดคนจีนทุกคนไม่ได้ พอลูกเตือน ผมเลยมานั่งคิดว่า เออว่ะ เราด่ามัน ยังไงแม่.งก็มากันอยู่ดี แทนที่จะด่ามันไปเรื่อยๆ ทำไมเราไม่ย้อนกลับมาดูความผิดตัวเองว่า เราพร้อมรับนักท่องเที่ยวจีนหรือเปล่า ไอ้ที่เราให้มันเข้ามาเที่ยว เราเตรียมพร้อมรับมือกับมันดีพอรึยัง
อย่างเรื่องขี้ไม่ราด ห้องน้ำที่มีปัญหาคือห้องน้ำที่นั่งยองๆขี้ ซึ่งห้องน้ำในวัดยังมีแบบนั่งยองๆครึ่งนึง เป็นชักโครกอีกครึ่งนึง นี่คือปัญหา ปัญหาต่อมาคือ บุคลากร คนจีนแม่.งไม่รู้จักเข้าคิว เอะอะโวยวาย ขนาดพวกเดียวกันมาด้วยกัน

ยังแย่งแซงคิวกันเลย บุคลากรเราล่ะพร้อมไหมในการที่จะบอกให้มันเข้าคิว หรือคนจีนสูบบุหรี่ เรามีบุคลากรเดินเข้าไปเตือนไหมว่าที่นี่สูบบุหรี่ไม่ได้ หรือคนจีนชอบนุ่งสั้นเข้าไปในโบสถ์ ถึงจะมีผ้านุ่งให้ยืม แต่พอเข้าไป

เสือ.กถอดผ้ากระโดดโลดเต้น ถามว่าเรามีบุคลากรคอยดูแลไหม
มีอยู่หนนึงคนจีนแม่.งขึ้นไปนั่งบนอาสนะแล้วทำท่าเทศน์ (หัวเราะ) เอ้า ไอ้เหี้.ย ก็มันสวยอ่ะ มันคงคิดว่าขึ้นไปถ่ายรูปได้ ไม่ผิด ถามว่าแล้วเรามีป้ายภาษาจีนรึเปล่า บางคนไม่ดูป้ายหรอก แม่.งเดินผิวปากไม่สนใจ แล้วทำไมเราไม่จัดเจ้าหน้าที่คอยอธิบายสักคนล่ะ
สุดท้ายตัดสินใจได้ว่า กุเองที่ไม่พร้อม กุต้องแก้ปัญหา ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในบริเวณวัดกุให้ได้
แล้วแก้ปัญหายังไง?
เปลี่ยนใหม่หมดทุกอย่าง รู้ไหมว่าผมเปลี่ยนค่าห้องน้ำ หมดเงินไปเป็นสิบล้าน สร้างห้องน้ำใหม่เป็นแบบชักโครกจนทุกวันนี้ยังสร้างห้องน้ำยังไม่เสร็จเลย ผมแก้ปัญหาคนแต่งตัวโป๊กระโดดโลดเต้นได้ เพราะมีคนที่พูดกับมันรู้เรื่อง ใครทำผิด ถ้าผมอยู่วัด จะเรียกมาอบรมตัวต่อตัวเลย เอาแม่.งให้อยู่
เพิ่มบุคลากรพูดภาษาจีนด้วย ททท.ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจีนมา 2 คน เราก็เพิ่มเจ้าหน้าที่ล่ามภาษาจีนเข้าไปอีก 2 คน ขอกำลังตำรวจเข้ามาเดินตรวจตราที่วัดอีก 2 คน เราพัฒนาคนกวาดขยะให้พูดภาษาจีนได้ เพื่อเป็นผู้ดูแลเข้าไปตักเตือนมัน
สมมติว่ามีรถบัสมาจอดหน้าวัด 3 คัน คนจีนแม่.งวิ่งลงมาเข้าห้องน้ำ เราก็ส่งทีมไปดูแลมัน ว.หากันเลย 'มันมาแล้วโว้ย คนจีนแม่.งมาแล้ว ไอ้เหี้.ย ห้องส้วมมืงระวังโว้ย เตรียมตัวจัดคิว' (เสียงดัง) มันจะไปยากเหี้.ยอะไร ถ้ามันขี้ไม่ล้าง เจ้าหน้าที่ของเราก็คอยย้ำให้มันฟัง 'ความสะอาด ความสะอาด ความสะอาด' สอดส่องดูทุกห้องเวลามันออกมา ถ้าเห็นว่าไม่ราดน้ำ ก็ไล่มันกลับเข้าไปราดให้เรียบร้อย
นี่คือกระบวนการจัดการที่เราทำขึ้นเพื่อให้มันรู้สึกว่านี่คือความผิดของมืง มืงต้องจัดการนะ หรือเวลาบอกให้เข้าคิว ถ้าเราบอก 'เข้าคิวๆๆ' แม่.งก็งงสิ เพราะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าเราพูดเป็นภาษาจีนว่า 'ไผ่ตุ้ยๆๆ' โดยมีตำรวจคอยยืนประกบ จัดให้มันเข้าคิว ห้ามแทรก คนจีนแม่.งจะรีบเข้าคิวเลย เราต้องวางกฎระเบียบ และบังคับอย่างเด็ดขาด วัดร่องขุ่นใช้วิธีบังคับ และชื่นชม ไกด์คนไหนปฏิบัติตัวเรียบร้อย ถือว่าคุณช่วยเหลือพวกเรา ช่วยเหลือประเทศชาติ
เรื่องมัคคุเทศน์ เราทั้งขอความร่วมมือ ทั้งเอาผิด ไกด์มีหน้าที่ช่วยอธิบายเกี่ยวกับข้อห้ามของวัดร่องขุ่น อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ชี้แจงกันตั้งแต่บนรถบัส ถ้าไกด์รุ่นใหม่ที่ไม่เคยมาจะไม่รู้กฎระเบียบของวัด เลยไม่ได้เตือนนักท่องเที่ยวของมัน พอเกิดปัญหาขึ้น เราเรียกไกด์มาเลย 'เฮ้ย ไอ้น้อง กุขอร้องมืง มืงเพิ้งมาใหม่ มืงเอากฎระเบียบวัดไปพูดบนรถให้เรียบร้อย' ถ้านักท่องเที่ยวทำผิด ไกด์ก็ต้องเรียกไอ้คนผิดมาด่า เช่น ครั้งหนึ่งเราจับคนจีนสูบบุหรี่ได้ ก็แกล้งมันไม่ให้มันขึ้นรถกลับ ให้เสียเวลาสักครึ่งชั่วโมง เพื่ออบรมมัน ไกด์ก็เซ็ง เพื่อนร่วมทัวร์ก็เซ็ง หิวข้าวก็หิว แต่ไปไม่ได้ เพราะมืงทำผิดกฎ เพื่อน

ก็รุมด่าไอ้เหี้.ยนี่อีก
หมดงบประมาณเยอะแค่ไหน
คิดดูว่าต้องเสียเงินค่าเงินเดือนพนักงานเพิ่มขึ้นอีกกี่คน ต้องเสียค่าอบรมภาษาจีนให้เจ้าหน้าที่อีกเท่าไหร่ ยกตัวอย่างข่าวนักท่องเที่ยวจีนไปทำปะการัง

ถามว่าคนดูแลอุทยานมีกี่คน ...3 คน (ตะโกนเสียงดัง) ไอ้เหี้.ย แล้วมืงจะดูแลคนเป็นหมื่นได้ไงวะ ภาษาจีนก็พูดไม่ได้สักคำ ถามหน่อยมืงจะไปดูแลเหี้.ยอะไรได้ แค่จะต้อนขึ้นจากน้ำก็เป็นไปไม่ได้แล้ว มันเลยเหยียบปะการัง

วายป่วงหมดไง
แต่วัดร่องขุ่นเราดูแลคนจีน ตั้งแต่เดินเข้ามาจะมีเจ้าหน้าที่คอยพูดอธิบาย 1 คน เลี้ยวเข้าวัดมีเจ้าหน้าที่เก่งภาษาจีนของททท. 2 คน พร้อมเจ้าหน้าที่วัดอีก 3 คนยืนคุมเชิง เดินผ่านประตูมาถึงกลางสะพานเจออีก 1 คน เดินลงสะพานเจอเจ้าหน้าที่ยืนรอหน้าโบสถ์อีก 1 คน เข้าไปในโบสถ์เจออีก 2 คน ลงโบสถ์มาเจออีก 4 คน ห้องน้ำ 3 แห่ง เจอหน้า 2 คน หลัง 2 คน ไหนจะเจ้าหน้าที่กวาดขยะคอยเป็นหูตาให้อีกนับ 10 คน
ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์ที่กุใช้สู้กับมืง หรือ หอศิลป์มีรูปแพงๆมากมาย รู้ไหมมีคนดูแลกี่คน ... 12 คน (ตะโกนเสียงดัง) แล้วแบบนี้คนจีนมันจะกล้าจับรูปกุเหรอ คนจีนมันจะกล้าล้ำเส้น กล้าเสียงดัง กล้าใช้โทรศัพท์เหรอ ไม่มี (เสียงสูง) ทุกคนเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ถามว่าถ้าหอศิลป์มีคนดูแล 3 คน คนจีนเข้าไป 300 คน มืงไม่เละเหรอ ฉะนั้นความผิดคือ มืงไม่ปกป้อง ไม่ป้องกัน ไม่เตรียมพร้อมรับมือ ตรงนี้ต้องบริหารจัดการ ไม่ใช่เอาแต่ด่าๆๆ
ผมไม่สนว่าจะเสียเงินเท่าไหร่ สนแค่ว่าทำยังไงให้วัดร่องขุ่นกับคนจีนไม่มีปัญหากัน การท่องเที่ยวถึงอยู่ได้ ถ้าผมปิดวัดไม่ให้คนจีนเข้า มันจะกลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศทันที ถือว่าประเทศไทยไม่ให้เกียรติประเทศเขา นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ดีมากๆ
***เนื้อหามีอีกเยอะครับ สามารถเข้าไปอ่านต่อตาม link ที่ผมให้ไว้ข้างบนได้ครับ***
"นักท่องเที่ยวจีนไม่ผิด มืงต่างหากที่ไม่พร้อม"
จาก โพสต์ทูเดย์ เรื่อง...อินทรชัย พาณิชกุล /ภาพ...ภัทรชัย ปรีชาพานิช
link : http://www.posttoday.com/analysis/interview/423753
อ่านแล้วอมยิ้ม แถมได้ความรู้ใหม่ๆ เลยอยากเอามาแบ่งปันกันครับ
ป.ล.คำบางคำจงใจพิมพ์ผิด เพื่อจะได้ไม่โดนเซนเซอร์ เดี๋ยวมันจะขาดอรรถรสในการอ่านครับ^^
ต้นปี 2558 ชื่อของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ปี 2554 ปรากฎเป็นข่าวดังระเบิดระเบ้อไปทั่วทั้งเมืองอีกครั้ง หลังจากวัดร่องขุ่น อ.เมือง จ.เชียงราย ที่เขาทุ่มเททั้งชีวิตสร้างขึ้นมากับมือ ด้วยการเนรมิตผืนดินอันแล้งแห้งให้เป็นวัดสีขาววิจิตรงดงาม จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองไทย ถูกสั่นคลอนจากน้ำมือของนักท่องเที่ยวจีน
พฤติกรรมสุดยี้ตั้งแต่ขับถ่ายไม่เป็นที่เป็นทาง แซงคิว สูบบุหรี่ทิ้งเรี่ยราด เอะอะเสียงดังรบกวนผู้อื่น ยันเหยียบย่ำทำลายข้าวของภายในวัดพังเสียหาย เล่นเอาผู้ชายนิสัยโผงผาง ดุดันอย่างอาจารย์เฉลิมชัยยังต้องยกธงขาวถึงขั้นปิดวัดหนี
ด้วยหัวใจไม่ยอมแพ้ คิด วิเคราะห์ แยกแยะเหตุผล จนนำไปสู่การลุกขึ้นแก้ไขปัญหา ทุ่มเงิน ทุ่มกำลังคน รวมทั้งพยายามเข้าใจและยอมรับนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ปรับเปลี่ยนวิธีคิด มุมมองของตัวเองเสียใหม่
วันนี้ อาจารย์เฉลิมชัยยืนยันว่า "ร่องขุ่นโมเดล" ถือเป็นต้นแบบการรับมือนักท่องเที่ยวจีนที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าภาคภูมิใจ
วัดร่องขุ่นประสบปัญหานักท่องเที่ยวจีนตั้งแต่เมื่อไหร่?
ปัญหานักท่องเที่ยวจีนไม่ได้เพิ่งเกิด วัดร่องขุ่นโดนขี้ถล่มมาตั้งนานแล้ว สมัยช่วงแรกๆมากันวันละ 200-300 คน เริ่มเจอเหตุการณ์ขี้ไม่ล้าง เจ้าหน้าที่เปิดห้องน้ำดู ไอ้หยา ขี้ไม่ราด เรียกมันมาดูมันก็ไม่สน ไม่เอาอะไรทั้งนั้น โอเค ไม่เป็นไร มืงขี้ก็ขี้ไป เราก็ล้างไป แต่ทีนี้พอนักท่องเที่ยวมันมาเยอะขึ้นๆ มาเป็นพันๆคน เจ้าหน้าที่วัดต้องล้างขี้ให้คนจีนทุกวัน บางคนขี้เสร็จแทนที่จะราดน้ำให้สะอาด เสือ.กเอากระดาษทิชชู่มาแปะๆกองๆไว้ บางคนแทนที่จะขี้ลงในโถส้วม เสือ.กขี้ข้างนอก บางคนแย่กว่านั้นแม่.งขี้ลงอ่างน้ำ บางคนลูกขี้เสร็จก็พามาล้างตูดในอ่างล้างหน้า ผู้หญิงบางคนเป็นประจำเดือนแมร่งถอดผ้าอนามัยแปะไว้กับข้างฝา ... โอ้ แม่เจ้า (ตะโกนเสียงดังมาก)
วันหนึ่งกำลังบรรยายธรรมะให้ลูกศิษย์ฟังอยู่หน้าหอศิลป์ ตอนนั้นประมาณห้าโมงครึ่ง วัดปิดแล้ว แต่เราเปิดห้องน้ำไว้ 2 ห้องเผื่อนักท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับ จู่ๆมีทัวร์จีนลงมาพรึบเลย วิ่งกรูกันเข้าห้องน้ำ สักพักนึงมีคนมาฟ้อง 'อาจารย์เฉลิมชัย ทำไมห้องน้ำสกปรกจัง' ผมวิ่งเข้าไปดู โอ้โห แม่.ง ขี้เลอะเต็มไปหมดทุกห้อง กระทั่งโถเยี่ยวยังมีคนไปนั่งขี้ กุจะบ้าตาย
ผมโกรธship hay ไม่ไหวแล้วโว้ย ประกาศปิดวัด ขอเป็นข่าวหน่อยวะ ด่าแม่.งออกทีวีจนเป็นเรื่องระดับรัฐบาล ผมเป็นคนแรกที่พูดเรื่องปัญหานักท่องเที่ยวจีน เพราะคนอื่นไม่มีใครกล้า พูดปุ๊บวงแตกปั๊บ รัฐบาลจีนต้องออกมาตรการเตือนนักท่องเที่ยว สถานทูตจีน นายกสมาคมคนจีนในไทย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัด ไกด์ทัวร์ ทุกฝ่ายต้องเข้ามาคุยกับผม มันสะเทือนไปหมด
ถึงขั้นจะปิดวัดหนีเลยหรือ?
ทีแรกตั้งใจจะปิดวัดสัก 3 วัน ห้ามคนจีนเข้า ผมไปยืนคุมหน้าวัดคอยตรวจพาสปอร์ต จีนไต้หวัน จีนมาเลย์ จีนฮ่องกง จีนสิงคโปร์ โอเค ให้เข้าได้ แต่จีนแผ่นดินใหญ่กุไม่ให้เข้า (ตะโกนเสียงดัง) กุรับมืงไม่ได้ เลอะเทอะ ไร้ระเบียบ ไม่เคารพกฎกติกาสักอย่าง
พอจะแอนตี้ ลูกชายผมมันก็บอกว่า พ่อจะมาปิดวัดหนีแบบนี้ไม่ได้นะ คนจีนเขาอุตส่าห์เสียเงินมาชื่นชมงานศิลปะพ่อ พ่อจะไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของเขาแบบนี้ไม่ได้ พ่อต้องคิดให้ดี คนจีนไม่ใช่ว่าไม่ดีทั้งประเทศ พ่อจะเกลียดคนจีนทุกคนไม่ได้ พอลูกเตือน ผมเลยมานั่งคิดว่า เออว่ะ เราด่ามัน ยังไงแม่.งก็มากันอยู่ดี แทนที่จะด่ามันไปเรื่อยๆ ทำไมเราไม่ย้อนกลับมาดูความผิดตัวเองว่า เราพร้อมรับนักท่องเที่ยวจีนหรือเปล่า ไอ้ที่เราให้มันเข้ามาเที่ยว เราเตรียมพร้อมรับมือกับมันดีพอรึยัง
อย่างเรื่องขี้ไม่ราด ห้องน้ำที่มีปัญหาคือห้องน้ำที่นั่งยองๆขี้ ซึ่งห้องน้ำในวัดยังมีแบบนั่งยองๆครึ่งนึง เป็นชักโครกอีกครึ่งนึง นี่คือปัญหา ปัญหาต่อมาคือ บุคลากร คนจีนแม่.งไม่รู้จักเข้าคิว เอะอะโวยวาย ขนาดพวกเดียวกันมาด้วยกัน
มีอยู่หนนึงคนจีนแม่.งขึ้นไปนั่งบนอาสนะแล้วทำท่าเทศน์ (หัวเราะ) เอ้า ไอ้เหี้.ย ก็มันสวยอ่ะ มันคงคิดว่าขึ้นไปถ่ายรูปได้ ไม่ผิด ถามว่าแล้วเรามีป้ายภาษาจีนรึเปล่า บางคนไม่ดูป้ายหรอก แม่.งเดินผิวปากไม่สนใจ แล้วทำไมเราไม่จัดเจ้าหน้าที่คอยอธิบายสักคนล่ะ
สุดท้ายตัดสินใจได้ว่า กุเองที่ไม่พร้อม กุต้องแก้ปัญหา ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาในบริเวณวัดกุให้ได้
แล้วแก้ปัญหายังไง?
เปลี่ยนใหม่หมดทุกอย่าง รู้ไหมว่าผมเปลี่ยนค่าห้องน้ำ หมดเงินไปเป็นสิบล้าน สร้างห้องน้ำใหม่เป็นแบบชักโครกจนทุกวันนี้ยังสร้างห้องน้ำยังไม่เสร็จเลย ผมแก้ปัญหาคนแต่งตัวโป๊กระโดดโลดเต้นได้ เพราะมีคนที่พูดกับมันรู้เรื่อง ใครทำผิด ถ้าผมอยู่วัด จะเรียกมาอบรมตัวต่อตัวเลย เอาแม่.งให้อยู่
เพิ่มบุคลากรพูดภาษาจีนด้วย ททท.ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาจีนมา 2 คน เราก็เพิ่มเจ้าหน้าที่ล่ามภาษาจีนเข้าไปอีก 2 คน ขอกำลังตำรวจเข้ามาเดินตรวจตราที่วัดอีก 2 คน เราพัฒนาคนกวาดขยะให้พูดภาษาจีนได้ เพื่อเป็นผู้ดูแลเข้าไปตักเตือนมัน
สมมติว่ามีรถบัสมาจอดหน้าวัด 3 คัน คนจีนแม่.งวิ่งลงมาเข้าห้องน้ำ เราก็ส่งทีมไปดูแลมัน ว.หากันเลย 'มันมาแล้วโว้ย คนจีนแม่.งมาแล้ว ไอ้เหี้.ย ห้องส้วมมืงระวังโว้ย เตรียมตัวจัดคิว' (เสียงดัง) มันจะไปยากเหี้.ยอะไร ถ้ามันขี้ไม่ล้าง เจ้าหน้าที่ของเราก็คอยย้ำให้มันฟัง 'ความสะอาด ความสะอาด ความสะอาด' สอดส่องดูทุกห้องเวลามันออกมา ถ้าเห็นว่าไม่ราดน้ำ ก็ไล่มันกลับเข้าไปราดให้เรียบร้อย
นี่คือกระบวนการจัดการที่เราทำขึ้นเพื่อให้มันรู้สึกว่านี่คือความผิดของมืง มืงต้องจัดการนะ หรือเวลาบอกให้เข้าคิว ถ้าเราบอก 'เข้าคิวๆๆ' แม่.งก็งงสิ เพราะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าเราพูดเป็นภาษาจีนว่า 'ไผ่ตุ้ยๆๆ' โดยมีตำรวจคอยยืนประกบ จัดให้มันเข้าคิว ห้ามแทรก คนจีนแม่.งจะรีบเข้าคิวเลย เราต้องวางกฎระเบียบ และบังคับอย่างเด็ดขาด วัดร่องขุ่นใช้วิธีบังคับ และชื่นชม ไกด์คนไหนปฏิบัติตัวเรียบร้อย ถือว่าคุณช่วยเหลือพวกเรา ช่วยเหลือประเทศชาติ
เรื่องมัคคุเทศน์ เราทั้งขอความร่วมมือ ทั้งเอาผิด ไกด์มีหน้าที่ช่วยอธิบายเกี่ยวกับข้อห้ามของวัดร่องขุ่น อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ชี้แจงกันตั้งแต่บนรถบัส ถ้าไกด์รุ่นใหม่ที่ไม่เคยมาจะไม่รู้กฎระเบียบของวัด เลยไม่ได้เตือนนักท่องเที่ยวของมัน พอเกิดปัญหาขึ้น เราเรียกไกด์มาเลย 'เฮ้ย ไอ้น้อง กุขอร้องมืง มืงเพิ้งมาใหม่ มืงเอากฎระเบียบวัดไปพูดบนรถให้เรียบร้อย' ถ้านักท่องเที่ยวทำผิด ไกด์ก็ต้องเรียกไอ้คนผิดมาด่า เช่น ครั้งหนึ่งเราจับคนจีนสูบบุหรี่ได้ ก็แกล้งมันไม่ให้มันขึ้นรถกลับ ให้เสียเวลาสักครึ่งชั่วโมง เพื่ออบรมมัน ไกด์ก็เซ็ง เพื่อนร่วมทัวร์ก็เซ็ง หิวข้าวก็หิว แต่ไปไม่ได้ เพราะมืงทำผิดกฎ เพื่อน
หมดงบประมาณเยอะแค่ไหน
คิดดูว่าต้องเสียเงินค่าเงินเดือนพนักงานเพิ่มขึ้นอีกกี่คน ต้องเสียค่าอบรมภาษาจีนให้เจ้าหน้าที่อีกเท่าไหร่ ยกตัวอย่างข่าวนักท่องเที่ยวจีนไปทำปะการัง
แต่วัดร่องขุ่นเราดูแลคนจีน ตั้งแต่เดินเข้ามาจะมีเจ้าหน้าที่คอยพูดอธิบาย 1 คน เลี้ยวเข้าวัดมีเจ้าหน้าที่เก่งภาษาจีนของททท. 2 คน พร้อมเจ้าหน้าที่วัดอีก 3 คนยืนคุมเชิง เดินผ่านประตูมาถึงกลางสะพานเจออีก 1 คน เดินลงสะพานเจอเจ้าหน้าที่ยืนรอหน้าโบสถ์อีก 1 คน เข้าไปในโบสถ์เจออีก 2 คน ลงโบสถ์มาเจออีก 4 คน ห้องน้ำ 3 แห่ง เจอหน้า 2 คน หลัง 2 คน ไหนจะเจ้าหน้าที่กวาดขยะคอยเป็นหูตาให้อีกนับ 10 คน
ทั้งหมดนี้คือกลยุทธ์ที่กุใช้สู้กับมืง หรือ หอศิลป์มีรูปแพงๆมากมาย รู้ไหมมีคนดูแลกี่คน ... 12 คน (ตะโกนเสียงดัง) แล้วแบบนี้คนจีนมันจะกล้าจับรูปกุเหรอ คนจีนมันจะกล้าล้ำเส้น กล้าเสียงดัง กล้าใช้โทรศัพท์เหรอ ไม่มี (เสียงสูง) ทุกคนเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ถามว่าถ้าหอศิลป์มีคนดูแล 3 คน คนจีนเข้าไป 300 คน มืงไม่เละเหรอ ฉะนั้นความผิดคือ มืงไม่ปกป้อง ไม่ป้องกัน ไม่เตรียมพร้อมรับมือ ตรงนี้ต้องบริหารจัดการ ไม่ใช่เอาแต่ด่าๆๆ
ผมไม่สนว่าจะเสียเงินเท่าไหร่ สนแค่ว่าทำยังไงให้วัดร่องขุ่นกับคนจีนไม่มีปัญหากัน การท่องเที่ยวถึงอยู่ได้ ถ้าผมปิดวัดไม่ให้คนจีนเข้า มันจะกลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศทันที ถือว่าประเทศไทยไม่ให้เกียรติประเทศเขา นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ดีมากๆ
***เนื้อหามีอีกเยอะครับ สามารถเข้าไปอ่านต่อตาม link ที่ผมให้ไว้ข้างบนได้ครับ***