[CR] พาเที่ยว วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย ศิลปะอันขาวบริสุทธิ์ที่ต้องไปเห็นสักครั้ง

อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผู้สร้างวัดร่องขุ่น

           

          1.  ประวัติความเป็นมา

          

          หากพูดถึงแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนจังหวัดเชียงรายแล้วไม่ควรพลาด “วัดร่องขุ่น” คือสถานที่ที่จะปรากฏขึ้นในแผนที่จะต้องไปอันดับต้น ๆ เสมอ ที่นี่ไม่ใช่แค่วัดแบบไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปกติ แต่เป็นสถานที่ที่แสดงผลงานศิลปะสถาปัตยกรรม พุทธศิลป์แบบแกลเลอรี่ขนาดใหญ่ ที่สะท้อนถึงแนวคิดทางพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งผ่านการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร

         

           วัดร่องขุ่นเริ่มต้นจากวัดเล็ก ๆ ในชุมชน ก่อนจะถูกฟื้นฟูใหม่โดย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติผู้ทุ่มเทชีวิตและแรงกาย สร้างวัดแห่งนี้ให้เป็นงานศิลป์อันยิ่งใหญ่ ด้วยแนวคิดว่า “ศิลปะคือการสร้างบุญ” ไม่ได้เพียงแค่บูรณะวัด แต่ได้สร้าง “จักรวาลทางจิตวิญญาณ” แห่งใหม่ที่ผสานความเชื่อ ความงาม และธรรมะไว้ในหนึ่งเดียว โดยภายในวัดร่องขุ่นประกอบด้วยอาคารลักษณะรูปทรงที่แตกต่างกันทั้งหมด 9 หลัง โดยแต่ละหลังมีความหมายคติธรรมแฝงอยู่ แม้แต่ห้องน้ำ ที่มีความสวยงามอลังการ รูปทรงศาลาขนาดใหญ่ที่มีสีทองทั้งหลัง อาจเรียกได้ว่าเป็นห้องน้ำที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้

2. ความงดงามที่ต้องไปเห็นด้วยตา

          เมื่อถึงที่หมาย สิ่งแรกที่สะดุดตาทุกคนคือ โบสถ์สีขาวบริสุทธิ์ ที่สะท้อนแสงแดดระยิบระยับด้วยกระจกเงินฝังในปูนปั้น เส้นสายลวดลายมีรายละเอียดประณีตอ่อนช้อย  สะท้อนถึงความพยายามและฝีมือของศิลปิน ด้านหน้ามีสะพานทอดยาวข้าม "แม่น้ำแห่งความตาย" ที่เปรียบเหมือนการละทิ้งกิเลสเพื่อเข้าสู่พุทธธรรม สะพานขาวที่ทอดยาวพาเราเข้าสู่โบสถ์สีขาวเหมือนเรากำลังเดินผ่านไปยังเวทีคอนเสิร์ต ที่ต้องพาดผ่านความลุ่มหลง และความสงบละคนกัน หากคุณสามารถอ่านมาถึงประโยคตรงนี้ แสดงว่าคุณนั้นยังไม่ตาย...แล้วสิ่งข้างต้นเหล่านั้นคุณได้ทำมันหรือยัง

          เมื่อเราเดินข้ามสะพานไปแล้ว เรายังพบว่าไม่ใช่เพียงแค่ภายนอกที่งดงาม แต่ภายในโบสถ์ระกอบด้วยภาพพระพุทธองค์หลังพระประธาน ซึ่งเป็นภาพที่ใหญ่งดงามมาก และภาพเขียนสีทองตามผนังทั้ง 4 ด้าน นอกจากนั้นยังมีจิตรกรรมฝาผนังที่รวมเอาโลกแห่งธรรมและวัฒนธรรมร่วมสมัยไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เช่น ภาพพระพุทธเจ้าเคียงข้างซุปเปอร์ฮีโร่และสัญลักษณ์แห่งยุคปัจจุบัน สะท้อนการเข้าถึงธรรมในยุคดิจิทัลได้อย่างแยบยล

           วัดร่องขุ่นไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่แฝงไว้ด้วย "ธรรมะ" ในทุก ๆ มุม ตั้งแต่สะพานที่เดินผ่านไปยังโบสถ์ เหมือนการก้าวข้ามวัฏสงสาร ความทุกข์และหลงใหลในโลกมุ่งสู่พุทธภูมิ เพื่อไปสู่การตรัสรู้ ส่วนสีขาวของวัดแทนความบริสุทธิ์ของพระพุทธศาสนา ทะเลสาบที่สะท้อนเงาของอาคาร และลวดลายเพลิงที่วน หรืออื่น ๆ ที่แสดงปรากฏ ล้วนมีความหมายด้วยกันหมดทั้งสิ้น

         มาถึงตรงนี้ การมาเยือนวัดร่องขุ่นไม่ใช่แค่การเที่ยวชมวัดสวย ๆ ถ่ายรูปชิค ๆ แต่คือการซึมซับพลังศิลปะที่สื่อถึงธรรมะอย่างลึกซึ้ง เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ทำให้เราหยุดคิดและมองชีวิตผ่านเลนส์แห่งปัญญา หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวที่ทั้งงดงามและเปี่ยมด้วยความหมาย เราว่าที่นี่คือ “วัดที่ไม่เหมือนวัด” ที่จะอยู่ในความทรงจำของคุณไปอีกนาน

          ขณะที่เขียน บทความนี้เราก็ตั้งออกแบบให้มีแค่ 4 บทเปรียบเสมือนดอกบัว 4 เหล่า เพื่อล้อไปกับสถานที่ที่ได้ไปมา เอาเข้าจริงสุดท้ายนี้ ความสวยงามของสถานที่นั้นมากมายเกินจะบรรยาย หรืออาจะเฉย ๆ หากตั้งความหวังอันไกลโพ้น แต่หากมีโอกาสเราว่าเชียงรายก็แค่ปากซอย มันต้องมีสักทาง หรือต้องมีสักวันที่คุณสามารถไปยังสถานที่แห่งนี้ เพื่อจะได้พบ ได้เห็น ได้สัมผัสด้วยตัวเอง แต่จะช้า จะเร็วมันก็ขึ้นอยู่ที่แต่ละบุคคล สิ่งที่เป็นไปไม่ได้อาจจะเป็นแค่ เหตุผลที่เราใช้อ้างเพื่อปัดความรำคาญ เพื่อปลอบใจ หรือด้วยสิ่งใด ๆ ที่จะเป็นข้ออ้าง จนกว่าที่เราจะลงมือทำมันจริง ๆ เราถึงจะรู้ว่าเป็นไปได้หรือไม่

สวัสดี

เสือซ่อนยิ้ม

รถยนต์ส่วนตัว: จากตัวเมืองเชียงราย ใช้ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งหน้าไปทางทิศใต้ ประมาณ 13 กิโลเมตร จะพบวัดอยู่ด้านซ้ายมือ มีลานจอดรถรองรับสะดวก

รถสองแถว / แท็กซี่: สามารถเหมารถจากตัวเมืองได้ ใช้เวลาเดินทางราว 20 นาที

รถประจำทาง: จากสถานีขนส่งเชียงราย (เก่า) มีรถบัสสายเชียงราย–พะเยาผ่านหน้าวัด