ใครบอกวัดไทยต้องมีแต่สีทองเท่านั้น วัดไหนสีอะไรไม่รู้
แต่วัดนี้..."สีฟ้า"
เรามีโอกาสได้ขึ้นไปทำธุระที่จังหวัดเชียงราย ถือว่าเป็นการเปิด MAP จังหวัดนี้ครั้งแรก ทำให้เช็คลิสต์จังหวัดที่จะไปเยือนเหลือน้อยลงเพียงหลักหน่วยก็จะครบถ้วนกระบวนความทั่วทั้งสยาม และสถานที่แรกเมื่อมาจังหวัดนี้แล้วถูกจัดว่าเป็นสถานที่มีชื่อลำดับต้น ๆ ที่มาแล้วจะพลาดไม่ได้ ที่ที่เรากำลังพูดถึงก็คือ "
วัดร่องเสือเต้น"
วัดที่มีสีฟ้าสวยงามแบบแอบมีความไซไฟจนเหมือนว่าอยู่ในหนังเรื่อง Avatar หากใครมีโอกาสได้แวะมาจังหวัดเชียงราย เมืองเหนือดินแดนล้านนา ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ ความศรัทธา และเรื่องราว วัดร่องเสือเต้นคือหนึ่งในจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด และบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวัดแห่งนี้ ที่ไม่ใช่แค่เพียงความสวยงามของ "สีน้ำเงินเรืองรอง" แต่ที่สำคัญไม่แพ้กัน “เรื่องราวและศิลปะ” ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ทุกเส้นสายรวดลายของอิฐปูน และทุกกลิ่นของควันธูปแห่งความศรัทธา
1.จากร่องเสือเต้น สู่รอยฝันของช่างศิลป์
จากก่อนที่จะมีวัดที่งดงามตระการตาไปด้วยโทนสีน้ำเงินแห่งนี้ ที่ดินผืนนี้เคยเป็นเพียงชุมชนเก่าเล็ก ๆ เรียกว่า “บ้านร่องเสือเต้น” ชื่อที่อาจฟังดูแปลก แต่ข้อมูลที่เขาเล่าขานกันมาว่าในอดีตเคยเป็นทางผ่านของเสือป่า ซึ่งมักกระโจนข้ามลำน้ำที่ไหลผ่านหมู่บ้าน คนจึงเรียกบริเวณนี้ว่า “ร่องเสือเต้น” หลายสิบปีที่ผืนดินเงียบเหงา มีเพียงซากวัดร้างปรากฏอยู่ จนกระทั่ง “สล่านพฤทธิ์” หรือ “พุทธา กาบแก้ว” ศิษย์เอกของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ได้เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ด้วยวิสัยทัศน์อันเฉียบคมและหัวใจที่มุ่งสร้างศิลปะเพื่อศรัทธา
2.“น้ำเงินเรืองรอง” ไม่ใช่แค่สวย แต่คืออัตลักษณ์
หาก “วัดร่องขุ่น” คือศิลปะสีขาวอันบริสุทธิ์ (เดี่ยวจะพาไปเที่ยวในบทความถัดไป) “วัดร่องเสือเต้น” ก็คือความลึกซึ้งแห่งสีน้ำเงิน ซึ่งสะท้อนทั้งจักรวาล ความลึกลับของธรรมะ และจิตวิญญาณของพุทธะ สีน้ำเงินในที่นี้ไม่ได้ใช้เพียงเพื่อความงาม แต่แทน “ปัญญา” และ “การตื่นรู้” เปรียบเหมือนเรือ กลางมหานที ที่จะพาผู้มีศรัทธาข้ามพ้นสังสารวัฏ และเมื่อแสงแดดยามเช้าส่องกระทบหลังคาวัด สีทองและน้ำเงินจะเล่นแสงราวกับเพชรเม็ดใหญ่กลางลานวัดระยิบระยับกับตา
3.วิหารฟ้าสะท้านพิภพ (วิหารสีฟ้าแห่งเดียวในสยาม)
เมื่อเราเข้ามาในเขตศาสนสถานแห่งนี้แล้ว สิ่งแรกที่ยืนเด่นชวนให้เห็นเต็มตาเป็นสิ่งแรกก็คือ วิหารที่ไม่ใช่แค่สีฟ้าแต่เป็นฟ้าแบบหลุดมาจากจินตนาการของศิลปิน โดดเด่นด้วยศิลปะแบบร่วมสมัยล้านนา ผสมอิทธิพลไทยประยุกต์ ฝาผนังด้านนอกเต็มไปด้วยลวดลายมังกรและเทพพาหนะต่าง ๆ ในลายสีทองแสดงถึงการเชื่อมโลกมนุษย์กับโลกแฟนตาซีสุดๆ (แทบอยากจะหยิบไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาร่ายเวท) องค์ประกอบถูกจัดวางอย่าง "ลงตัว" และ "สะดุดตา" บอกได้คำเดียวว่าประโยคแรกที่เงยหน้ามองภาพเบื้องหน้า...โคตะระส๊วย!!!
4. พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ
หากว่าด้านนอกนั้นสวยแล้ว เมื่อย่างเท้าเกียกกายเข้าไปยังภายใน เหมือนกับว่าเรากำลังใส่ชุดอวกาศหลุดร่องลอยเข้าไปในนิมิตรฝัน พระประธานมีความสูงกว่า 6 เมตร มีชื่อเรียกว่า พระพุทธราชามงคลโพธิ์ไตรโลกนาถ มีสีขาวมุกบริสุทธิ์ตัดกับโทนสีน้ำเงินรอบตัวภายในวิหารขับให้เกิดความโดดเด่นเปรียบเหมือนธรรมะที่เปล่งประกายในจิตผู้แสวงหา นอกจากนั้นภายในยังมีภาพวาดฝาผนังของที่แห่งนี้แตกต่างจากวัดไทยอื่น ๆ ที่มีการเล่าเรื่องพุทธประวัติ แต่ที่นี่ใช้เทคนิคผสมผสานระหว่างศิลปะดั้งเดิมกับแนวเหนือจริง (surrealism) ที่บางภาพเหมือนจะ “ลอย” ออกมาจากผนัง เป็นประสบการณ์ที่ต้องเห็นด้วยตาเท่านั้นจึงจะเข้าใจ
5. พระเจดีย์สีทอง
หากเดินออกจากด้านในและอ้อมไปยังด้านหลังวิหาร (บอกแล้วนะว่าอย่าลืมเดินอ้อมไปชมด้านหลัง) เพราะหากหนังมี end credit ด้านหลังนี้ยังมีพระเจดีย์สีทอง ซ่อนอยู่แบบยังไม่จบ โดยมีชื่อเรียกว่า "พระธาตุกิ่วแก้วจุฬามณี" ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก บอกได้อีกคำว่า "เป็นเจดีย์ที่มีความงดงามมาก" ส่วนที่หลังวิหารจริง ๆ เลยยังมี พระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติที่สูงเท่ากับวิหาร องค์สีขาวเสมือนคอยบอกให้เราใจเย็น ๆ นะโยม พอให้ความร้อนของอากาศไม่สามารถทำให้เราร้อนตามไปได้
6.ไม่ใช่แค่ “วัดถ่ายรูปสวย” แต่คือ “วิหารแห่งปัญญา”
นอกจากนั้นด้านหน้าวิหารยังมีรูปปั้น พระอุปคุต นั่งบนดอกบัวกลางน้ำพุมองขึ้นไปบนฟ้าวางพระหัตถ์อยู่บนบาตร ก็ดูสวยงามไปอีกแบบ โดยปกติคนจำนวนมากจะรู้จักวัดร่องเสือเต้นผ่านภาพถ่ายในโซเชียลมีเดีย แต่วัดแห่งนี้ไม่ได้มีแค่ความสวยงามที่เปลือกนอก หากคุณเดินช้า ๆ ซึมซับ พอได้กลิ่นของธูปและฟังเสียงสรรพสิ่งที่เคลื่อนไหวที่แว่วอยู่เบื้องหลังไปเบา ๆ คุณจะสัมผัสได้ถึง “ความตั้งใจ” ของผู้สร้าง ที่ไม่ได้สร้างเพื่อโชว์ศิลปะ แต่เพื่อเชื่อมศรัทธากับปัญญาเข้าด้วยกัน
7. ดอกบัวดอกที่ 7
วัดร่องเสือเต้นไม่ใช่แค่สถานที่ไหว้พระ แต่คือประสบการณ์ทางสายตา ผ่านศิลป์ และศรัทธา ใครชอบอะไรที่ “ล้ำและลึก” แฟนตาซีและยังคงไว้ซึ่งแรงศรัทธา” ที่นี่น่าจะคือคำตอบไม่ใช่เพียงแค่แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเชียงราย แต่มันคือวัดแห่งยุคสมัย ที่บอกเล่าการเปลี่ยนผ่านของศิลปะ ศรัทธา และความเป็นไทยในมิติที่ไม่เคยซ้ำกับอดีต หากคุณได้ไปเยือน อย่าแค่ถ่ายรูปแล้วกลับ แต่ลองถามตัวเองเงียบ ๆ ว่า
“ในสีน้ำเงินเรืองรองนั้น...คุณเห็นอะไรอยู่ข้างในใจของคุณบ้างหรือเปล่า?”
สวัสดี
-เสือซ่อนยิ้ม-
[CR] พาเที่ยว วัดร่องเสือเต้น (Blue Temple) จังหวัดเชียงราย
เรามีโอกาสได้ขึ้นไปทำธุระที่จังหวัดเชียงราย ถือว่าเป็นการเปิด MAP จังหวัดนี้ครั้งแรก ทำให้เช็คลิสต์จังหวัดที่จะไปเยือนเหลือน้อยลงเพียงหลักหน่วยก็จะครบถ้วนกระบวนความทั่วทั้งสยาม และสถานที่แรกเมื่อมาจังหวัดนี้แล้วถูกจัดว่าเป็นสถานที่มีชื่อลำดับต้น ๆ ที่มาแล้วจะพลาดไม่ได้ ที่ที่เรากำลังพูดถึงก็คือ "วัดร่องเสือเต้น"
วัดที่มีสีฟ้าสวยงามแบบแอบมีความไซไฟจนเหมือนว่าอยู่ในหนังเรื่อง Avatar หากใครมีโอกาสได้แวะมาจังหวัดเชียงราย เมืองเหนือดินแดนล้านนา ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะ ความศรัทธา และเรื่องราว วัดร่องเสือเต้นคือหนึ่งในจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด และบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวัดแห่งนี้ ที่ไม่ใช่แค่เพียงความสวยงามของ "สีน้ำเงินเรืองรอง" แต่ที่สำคัญไม่แพ้กัน “เรื่องราวและศิลปะ” ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ทุกเส้นสายรวดลายของอิฐปูน และทุกกลิ่นของควันธูปแห่งความศรัทธา
7. ดอกบัวดอกที่ 7
วัดร่องเสือเต้นไม่ใช่แค่สถานที่ไหว้พระ แต่คือประสบการณ์ทางสายตา ผ่านศิลป์ และศรัทธา ใครชอบอะไรที่ “ล้ำและลึก” แฟนตาซีและยังคงไว้ซึ่งแรงศรัทธา” ที่นี่น่าจะคือคำตอบไม่ใช่เพียงแค่แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเชียงราย แต่มันคือวัดแห่งยุคสมัย ที่บอกเล่าการเปลี่ยนผ่านของศิลปะ ศรัทธา และความเป็นไทยในมิติที่ไม่เคยซ้ำกับอดีต หากคุณได้ไปเยือน อย่าแค่ถ่ายรูปแล้วกลับ แต่ลองถามตัวเองเงียบ ๆ ว่า
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้