ผมรู้สึกเห็นใจ ร้านราเมง ร้านนึงแถวๆ สยาม จังเลย

เหมือนเคยได้ยินมาว่า เจ้าของร้านจะเป็นคนญี่ปุ่น ที่มาเปิดร้าน อยู่แถวๆสยาม อยู่บนทางเดินจาก MKไป โคคา ถนน อังรีดูนังต์
ราเมงก็อร่อยดี ได้เยอะเวอร์ แต่คนเข้าร้านน้อยมากกกกกกกกกกกกก

ร้านเป็นคูหาแคบๆ ผนังห้องทาสีขาว ไม่มีการตกแต่งใดๆ  มีแค่ใบโปสเตอร์แผ่นเล็กๆเป็นภาษาญี่ปุ่นแปะตามผนัง ผมอ่านไม่ออกหรอก แต่เดาว่า น่าจะต้องการสื่อว่า ร้านนี้เป็นร้านอาจจะมีชื่อในญี่ปุ่น

ที่ผมรู้สึก สงสาร เพราะ ทุกครั้งที่ผมเดินผ่านหน้าร้านเขา จะเห็นพนักงาน ที่คิดว่า อาจจะไม่ใช่คนไทย และไม่ใช่คนญี่ปุ่นด้วย
ยืนยิ้ม แหยงๆ ด้วยอาการประหม่า พูดไม่ค่อยเก่ง(พูดไม่ค่อยชัด) เรียกลูกค้าแต่ละที กว่าจะพูดจบประโยคคนก็เดินผ่านร้านไปแล้ว

ผมไปทานร้านนี้อยู่2ครั้ง ครั้งแรก รู้สึกอาหารรสชาติโอเคเลย น้ำข้นมาก
ในตอนนั้นพอดีว่าผมอยากได้ น้ำมันรามาหยดใส่ราเมงเพิ่ม ก็เลยถามพนังานว่า "มีน้ำมันรามั้ยครับ?"
พนักงานก็งงๆ มึนๆ เดินไปหลังร้านเพื่อไปปรึกษาใครสักคน แล้วก็เดินมาบอกผมว่า "ไม่ใช่น้ำมัน"
หืม?... เขาคงเข้าใจผิดคิดว่า คิดว่าเราไปตำหนิอาหารเขาหละมั้ง ก็หยวนๆ เข้าใจในความไม่รู้ของเขา

หลังจากเช็คบิลเสร็จ พนักงานคนเดิมพูดขอบคุณเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งฟังรู้เลยว่า พูดตะกุกตะกัก รู้เลยว่าพูดผิดแน่นอน เพราะมันไม่ใช่ อะริกาโตะโกเซมัส แน่ๆ

ออกจากร้านมาด้วยความรู้สึกสงสาร เพราะทั้งร้านมีผมเป็นลูกค้าคนเดียวในตอนนั้น แต่ก็พอเข้าใจเพราะว่าเพิ่งเปิด
แต่ที่เห็นได้ชัดเลย คือ ร้านขาดความน่าสนใจ  เพราะจุดขายของร้าน คือ ความเป็นร้านจากญี่ปุ่น แต่ทำไมไม่นำเสนอในส่วนนี้ออกมาเลยสักนิด  

พอไปครั้งที่สอง รู้สึกเหมือนเขาเริ่มเดินเกมธุรกิจมากขึ้น พยายามสร้างความประทับใจให้ลูกค้ามากขึ้น ระหว่างทานอาหารอยู่ พนักงานคนเดิม
เอาเหรียญมาให้พร้อมกับพูดว่า "เรามีเหรียญให้คุง ลุ้นโชค แฮะๆ แล้วก็ยิ้มแหยงๆ " สำเนียงแบบพูดไม่ชัด แล้วก็ออกอาการประหม่า (เป็นเหรียญสำหรับหมุนไข่ทองคำเพื่อลุ้นรางวัล)
ณ ตอนนั้นรู้สึกดีขึ้นมาเลย คิดว่าร้านคงเข้าใจแล้วว่า นอกจากอาหารที่อร่อยแล้ว  ธุรกิจที่ดีต้องทำให้ลูกค้าประทับใจ  
อารมณ์ก่อนเปิดไข่ทองคำกำลังรู้สึกดีๆ แต่เปิดมาปุ๊บ  เหมือนจู่ๆก็โดนตบให้เงิบ  เพราะแกะไข่ออกมาไม่มีอะไรเลย คิดในใจ "เขาเผลอเอาไข่อันเก่าที่แกะไปแล้ว ใส่ลงไปในตู้ลุ้นโชครึป่าว?" (แต่เปิดมา2ฟอง ว่างเปล่าทั้ง2ฟอง)
มันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็จริง แต่มันทำให้ผมรู้สึกว่า จะดีกว่ามั้ย ถ้ามีกระดาษเขียนแสดงข้อความปลอบใจ "เสียดายจุง ลองครั้งหน้าโชคอาจจะเป็นของคุณ" อะไรทำนองนี้สักหน่อยก็ยังดี
เดินอออกจากร้านด้วยอาการ มึนๆ เพราะยังไม่หายจากอาการเงิบ

ใครที่อยากไปลอง ร้านสไตล์ ใสๆ มึนๆ ก็ลองไปแวะร้านนี้ดูครับ  

ปล.กระทู้นี้ผมไม่ได้ตั้งใจจะล้อเลียน หรือดีสเครดิตทางร้านเขาหรอกนะครับ
เพราะผมเดินผ่านหน้าร้านเขาประจำ แล้วก็เจอพนักงานคนเดิมยืนยิ้มเรียกแขกประจำทุกวัน ทุกวัน
ผมก็เข้าใจในความไร้เดียงสาของพนักงานที่น่ารักคนนั้น ผมอยากเอาใจช่วยเจ้าของร้านเจ้า   ค่อยๆปรับให้ดีขึ้น  เพราะผมเองก็ไม่อยากเห็นใครที่ตั้งใจลงทุนกับอะไรสักอย่าง แล้วต้องมาเจอกับความล้มเหลว

ปล2. ใครเดินผ่านแถวนั้น ก็ไปช่วยอุดหนุนกันด้วยนะครับ ราเมงเขาดีจริงๆ เพียงแต่เขาเดินเกมธุรกิจไม่ค่อยโดนเท่านั้นเอง

ปล3. จะว่าไปแล้ว ผมเดินผ่านร้านนั้นทุกวัน แต่ผมไม่เคยรู้ชื่อร้านเขาเลยแฮะ เพราะป้ายไม่สะดุดตาแล้วก็มีแต่ภาษาญี่ปุ่น

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่