ก่อนอื่น จขกท ต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่าสิ่งที่พิมพ์มามันเกี่ยวกับความรู้สึกล้วนๆ
ข้อมูลที่มีเป็นสิ่งที่ จขกท เจอมาในขณะทำงาน ไม่มีเจตนาพาดพิงองค์กรใดๆทั้งนั้น
จขกท แอบเก็บกดนิดๆ เครียดหน่อยๆ ขอพื้นที่ระบายนิดนึงนะคะ
***หากแท็กผิดห้อง จขกท ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ
บริษัทที่ จขกท ทำงานอยู่ตอนนี่ เป็นบริษัทของนายทุนต่างชาติค่ะ บริษัทนี้จะแบ่งออกเป็น 2 บริษัทย่อยๆค่ะคือ
บริษัทฝั่งที่เป็นของต่างชาติ และ ฝั่งที่เป็นของคนไทยค่ะ ทั้ง 2 ที่จะใช้ชื่อบริษัทไม่เหมือนกัน แต่นายทุนคือคนคนเดี่ยวค่ะ
จขกท ทำงานอยู่ในส่วนของบริษัทต่างชาติค่ะ
เริ่มต้นก็คือ เดือนที่แล้ว จขกท ได้รับมอบหมายจากเจ้านายต่างชาติให้เข้าประชุมร่วมกับพี่ๆฝั่งไทย เพื่อวางแผนที่จะรับพนักงานเพิ่ม
ในที่ประชุมก็จะคุยรายละเอียดงาน เงินเดือน รวมถึงสวัสดิการต่างๆ โดยคนไทยจะมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 15000 บาท
มีสวัสดิการคือประกันสังคม ส่วนต่างชาติจะเริ่มต้นที่ 25000 บาท สวัสดิการคือ วีซ่า พร้อมที่พักค่ะ ตอนแรก จขกท ก็คิดในใจแบบ
ไม่ยุติธรรมเลยนะ แต่ก็ทำได้แค่คิดค่ะ เพราะเราไม่มีอำนาจในการตัดสินเกี่ยวกับรายละเอียดพวกนี้
และแล้ววันสัมภาษณ์ก็มาถึงค่ะ เมื่อวานเป็นวันสัมภาษณ์งาน มีทั้งคนไทยและต่างชาติมาสมัคร หลังจากสัมภาษณ์ครบแล้ว
เราก็มานั่งคุยกันค่ะว่าจะเลือกใคร และเอารายชื่อไปเสนอเจ้านายค่ะ ผลที่ไทยคือ ในตัดคนไทยออกไป 3 คนและรับต่างชาติเพิ่มมา
อีก 3 คน ได้ยินคำตอบมาก็แบบ เฮ้ยยย แล้วแบบนี้มันจะมีผลกระทบกับกฎหมายรึเปล่าต่างชาติเยอะขนาดนั้น
คำตอบที่ได้รับคือ ไม่กระทบ ... ไม่กระทบเหรอ ? ใช่ ก็เพราะีที่ไทยมีบริษัทเยอะแยะที่รับทำพวกวีซ่าในกับต่างชาติที่จะเข้ามาทำงาน
และอีกเหตุผลคือ ไม่เห็นจำเป็นต้องมีคนไทยหลายๆคนเลย เวลามีเอกสารต้องแปลก็ให้คนไทยที่อยู่นั้นแหละช่วยๆกันแปล เป็นเจ้าของภาษางานแปลพวกนี้คงไม่มีปัญหาอะไร
มีคำถามมากมายอยู่ในใจ แต่เราก็เข้าใจว่าเจ้าของเค้าก็เป็นคนต่างชาติ ก็คงอยากได้ชาติเดียวกันมา่ทำงานมากกว่า แต่ที่นี้ก็ประเทศไทยเนอะ ทำไมถึงไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้คนไทยสูงกว่านี้อีกนิด ทั้งๆที่เวลาทำงานจริงๆพนักงานต่างชาติเหล่านั้นก็ไม่ได้จะเข้าใจภาษาไทยไปทั้งหมด หลายๆครั้งที่เค้าสื่อสารผิดพลาด แปลความหมายของภาษาไทยผิดไปหมด สุดท้ายงานก็มาลงที่พนักงานคนไทยอยู่ดี และทั้งที่จริงๆคนไทยส่วนใหญ่ที่ได้ภาษาเค้าก็ค่อนข้างที่จะสื่อสารได้ดี พอๆกับเจ้า่ของภาษาเลย หลายๆครั้งที่แอบมีมาบ่นๆกันบ้าง แต่ก็แค่นั้น เราก็พนักงานรับเงินเดือนไปวันๆ
จขกท กลับถึงบ้าน นอนคิดไปคิดมา เรามาถึงจุดนี่แล้วเหรอ จุดที่มีคนไทยตั้งหลายๆคนที่เก่งภาษาเอามากๆ แต่ได้รับเงินเดือน 15000 และก็มีต่างชาติอีกตั้งเยอะแยะที่พอพูดไทยได้ กลับได้เงินเดือนเริ่มต้นที่ 25000 บาทพร้อมที่พัก ทั้งๆ ที่ 2 คนนี้เป็นนักศึกษาจบใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ต่างกันแค่น้องคนไทยคือคนไทย และต่างชาติคือต่างชาติ เฮ้อออ สำหรับ จขกท มันรู้สึกไม่ยุติธรรมเลย
เจอแบบก็ทำให้ย้อนมาคิดถึงตัวเอง จขกท ทำงานได้รับเงินเดือน เดือนละ 20000 ตัดประกันสังคมเหลือ 19250 บาท ดีหน่อยคือ มีที่พักให้ ที่พักก็อยู่กับเจ้านายนี้แหละ ทำงานวันจันทร์ถึงเสาร์ แต่ด้วยเพราะเราอยู่กับเค้า งานเีราเลยกลายเป็นจันทร์ถึงอาทิตย์ และที่สำคัญคือ ต้องพร้อมทำตลอด 24 ชั่วโมงด้วย ไม่ว่าจะตื่นตี 2 ตี3 ไปสนามบิน หรือเรียกประชุมตอน 3 ทุ่ม เช้าวันอาทิตย์เคาะประตูห้องนอนบอกไปเป็นเพื่อนช็อปปิ้งหน่อย ฟังดูคล่ายๆเหมือนจะดี ได้ไปช็อปปิ้งด้วยนะ แต่สำหรับ จขกท มันดูอึดอัดไปหมด บ่อยครั้งต้องหนีออกมานั่งร้านกาแฟ อ้างโน้นนี้สารพัด บางครั้งมีขอให้เพื่อนช่วย
โทรมาตามออกไปหน่อย ออกมาตั้งแต่เช้าและกลับเข้าไปอีกที่ตอนที่เค้าหลับกันหมดแล้ว ตอนนี้มีพนักงานพึ่งลาออกไป 1 คน เจ้านายก็ไม่ยอมหาคนใหม่มาทำงานแทน หน้าที่งานทั้งหมดเลยตกทอดมาที่ จขกท กลายเป็นโชคดีมีงานทำเยอะๆจะได้ไม่คิดฟุ้งซ่าน แต่ในความเป็นจริง ความรู้สึกลึกๆคืออยากหนีมากๆ ตลอดเวลาอยากจะลาออกแล้วไปหางานใหม่ แต่ก็ยอมรับค่ะว่ากลัว มาเจอฐานเงินเดือนแบบนี้ยิ่งรู้สึกกลัว เราเองก็ไม่อยากเป็นภาระพ่อกับแม่แล้ว คิดไปคิดมาก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้สักที่ หากอยู่ต่อก็ทนกันต่อไป ถ้าเปลี่ยนงานเ้ราจะไหวมั้ย ไหนจะค่าที่พัก ค่าเ้ดินทาง และค่าใช้จ่ายส่วนตัว เฮ้อออออ
ขอบคุณที่รับฟังนะคะ
พักเรื่องรัก มาดราม่าเรื่องงาน
ข้อมูลที่มีเป็นสิ่งที่ จขกท เจอมาในขณะทำงาน ไม่มีเจตนาพาดพิงองค์กรใดๆทั้งนั้น
จขกท แอบเก็บกดนิดๆ เครียดหน่อยๆ ขอพื้นที่ระบายนิดนึงนะคะ
***หากแท็กผิดห้อง จขกท ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ
บริษัทที่ จขกท ทำงานอยู่ตอนนี่ เป็นบริษัทของนายทุนต่างชาติค่ะ บริษัทนี้จะแบ่งออกเป็น 2 บริษัทย่อยๆค่ะคือ
บริษัทฝั่งที่เป็นของต่างชาติ และ ฝั่งที่เป็นของคนไทยค่ะ ทั้ง 2 ที่จะใช้ชื่อบริษัทไม่เหมือนกัน แต่นายทุนคือคนคนเดี่ยวค่ะ
จขกท ทำงานอยู่ในส่วนของบริษัทต่างชาติค่ะ
เริ่มต้นก็คือ เดือนที่แล้ว จขกท ได้รับมอบหมายจากเจ้านายต่างชาติให้เข้าประชุมร่วมกับพี่ๆฝั่งไทย เพื่อวางแผนที่จะรับพนักงานเพิ่ม
ในที่ประชุมก็จะคุยรายละเอียดงาน เงินเดือน รวมถึงสวัสดิการต่างๆ โดยคนไทยจะมีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 15000 บาท
มีสวัสดิการคือประกันสังคม ส่วนต่างชาติจะเริ่มต้นที่ 25000 บาท สวัสดิการคือ วีซ่า พร้อมที่พักค่ะ ตอนแรก จขกท ก็คิดในใจแบบ
ไม่ยุติธรรมเลยนะ แต่ก็ทำได้แค่คิดค่ะ เพราะเราไม่มีอำนาจในการตัดสินเกี่ยวกับรายละเอียดพวกนี้
และแล้ววันสัมภาษณ์ก็มาถึงค่ะ เมื่อวานเป็นวันสัมภาษณ์งาน มีทั้งคนไทยและต่างชาติมาสมัคร หลังจากสัมภาษณ์ครบแล้ว
เราก็มานั่งคุยกันค่ะว่าจะเลือกใคร และเอารายชื่อไปเสนอเจ้านายค่ะ ผลที่ไทยคือ ในตัดคนไทยออกไป 3 คนและรับต่างชาติเพิ่มมา
อีก 3 คน ได้ยินคำตอบมาก็แบบ เฮ้ยยย แล้วแบบนี้มันจะมีผลกระทบกับกฎหมายรึเปล่าต่างชาติเยอะขนาดนั้น
คำตอบที่ได้รับคือ ไม่กระทบ ... ไม่กระทบเหรอ ? ใช่ ก็เพราะีที่ไทยมีบริษัทเยอะแยะที่รับทำพวกวีซ่าในกับต่างชาติที่จะเข้ามาทำงาน
และอีกเหตุผลคือ ไม่เห็นจำเป็นต้องมีคนไทยหลายๆคนเลย เวลามีเอกสารต้องแปลก็ให้คนไทยที่อยู่นั้นแหละช่วยๆกันแปล เป็นเจ้าของภาษางานแปลพวกนี้คงไม่มีปัญหาอะไร
มีคำถามมากมายอยู่ในใจ แต่เราก็เข้าใจว่าเจ้าของเค้าก็เป็นคนต่างชาติ ก็คงอยากได้ชาติเดียวกันมา่ทำงานมากกว่า แต่ที่นี้ก็ประเทศไทยเนอะ ทำไมถึงไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้คนไทยสูงกว่านี้อีกนิด ทั้งๆที่เวลาทำงานจริงๆพนักงานต่างชาติเหล่านั้นก็ไม่ได้จะเข้าใจภาษาไทยไปทั้งหมด หลายๆครั้งที่เค้าสื่อสารผิดพลาด แปลความหมายของภาษาไทยผิดไปหมด สุดท้ายงานก็มาลงที่พนักงานคนไทยอยู่ดี และทั้งที่จริงๆคนไทยส่วนใหญ่ที่ได้ภาษาเค้าก็ค่อนข้างที่จะสื่อสารได้ดี พอๆกับเจ้า่ของภาษาเลย หลายๆครั้งที่แอบมีมาบ่นๆกันบ้าง แต่ก็แค่นั้น เราก็พนักงานรับเงินเดือนไปวันๆ
จขกท กลับถึงบ้าน นอนคิดไปคิดมา เรามาถึงจุดนี่แล้วเหรอ จุดที่มีคนไทยตั้งหลายๆคนที่เก่งภาษาเอามากๆ แต่ได้รับเงินเดือน 15000 และก็มีต่างชาติอีกตั้งเยอะแยะที่พอพูดไทยได้ กลับได้เงินเดือนเริ่มต้นที่ 25000 บาทพร้อมที่พัก ทั้งๆ ที่ 2 คนนี้เป็นนักศึกษาจบใหม่ด้วยกันทั้งคู่ ต่างกันแค่น้องคนไทยคือคนไทย และต่างชาติคือต่างชาติ เฮ้อออ สำหรับ จขกท มันรู้สึกไม่ยุติธรรมเลย
เจอแบบก็ทำให้ย้อนมาคิดถึงตัวเอง จขกท ทำงานได้รับเงินเดือน เดือนละ 20000 ตัดประกันสังคมเหลือ 19250 บาท ดีหน่อยคือ มีที่พักให้ ที่พักก็อยู่กับเจ้านายนี้แหละ ทำงานวันจันทร์ถึงเสาร์ แต่ด้วยเพราะเราอยู่กับเค้า งานเีราเลยกลายเป็นจันทร์ถึงอาทิตย์ และที่สำคัญคือ ต้องพร้อมทำตลอด 24 ชั่วโมงด้วย ไม่ว่าจะตื่นตี 2 ตี3 ไปสนามบิน หรือเรียกประชุมตอน 3 ทุ่ม เช้าวันอาทิตย์เคาะประตูห้องนอนบอกไปเป็นเพื่อนช็อปปิ้งหน่อย ฟังดูคล่ายๆเหมือนจะดี ได้ไปช็อปปิ้งด้วยนะ แต่สำหรับ จขกท มันดูอึดอัดไปหมด บ่อยครั้งต้องหนีออกมานั่งร้านกาแฟ อ้างโน้นนี้สารพัด บางครั้งมีขอให้เพื่อนช่วย
โทรมาตามออกไปหน่อย ออกมาตั้งแต่เช้าและกลับเข้าไปอีกที่ตอนที่เค้าหลับกันหมดแล้ว ตอนนี้มีพนักงานพึ่งลาออกไป 1 คน เจ้านายก็ไม่ยอมหาคนใหม่มาทำงานแทน หน้าที่งานทั้งหมดเลยตกทอดมาที่ จขกท กลายเป็นโชคดีมีงานทำเยอะๆจะได้ไม่คิดฟุ้งซ่าน แต่ในความเป็นจริง ความรู้สึกลึกๆคืออยากหนีมากๆ ตลอดเวลาอยากจะลาออกแล้วไปหางานใหม่ แต่ก็ยอมรับค่ะว่ากลัว มาเจอฐานเงินเดือนแบบนี้ยิ่งรู้สึกกลัว เราเองก็ไม่อยากเป็นภาระพ่อกับแม่แล้ว คิดไปคิดมาก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้สักที่ หากอยู่ต่อก็ทนกันต่อไป ถ้าเปลี่ยนงานเ้ราจะไหวมั้ย ไหนจะค่าที่พัก ค่าเ้ดินทาง และค่าใช้จ่ายส่วนตัว เฮ้อออออ
ขอบคุณที่รับฟังนะคะ