หรือเพราะชีวิตที่เศร้าสุดๆ จึงจะสามารถรังสรรค์งานเพลงที่เข้าถึงอารมณ์หรืออย่างไร? (American Idol 15 week 11 ep 16)

ช่วงนี้ผมไม่ค่อยว่างเลยครับ เลยทำให้แทบไม่ได้รีวิวหนังหรือซีรีส์อะไรเลยทั้งนั้น (แย่จัง) แต่สำหรับ american idol ผมต้องรอแบบซับไทยลงเวปทุกวันอังคารเลย และรีบแซงดูก่อนเรื่องอื่นทันที (อย่างเมื่อ่คืนก็ดูจนเผลอนอนเกือบตี 3 แนะ) อย่างว่านะ ตอนนี้กำลังเข้มข้น งานแสดงก็เริ่ดสุดพลังมากขึ้นทุกๆสัปดาห์  และก็อดที่จะมาพูดคุยกันไม่ได้ว่าแต่ละสัปดาห์เป็นอย่างไร (เผื่อจะมีใครมาร่วมกันส่งท้าย American Idol farewell season เพิ่มขึ้นบ้างไงครับ จะว่าไปก็เหลืออีก 3 สัปดาห์เท่านั้นซะแล้ว)

ต้องบอกก่อน สัปดาห์นี้ช่วง 3 เพลงแรกๆ แบบว่าจืดสนิท ไม่ว่าจะเทรท์ ลาพอร์ช่า หรือดาลตั้น ก็ร้องดีในระดับเสมอตัว คือดีเหมือนเดิม (แอบเซ็งๆอื่ดๆนิดๆแฮะ) ไม่โดดเด่นอะไรมาก อาจจะเพราะส่วนใหญ๋เพลงในวันนีเป็นเพลงที่มาจากการเลือกจากผู้ชมทางบ้านด้วย เลยทำให้บางเพลงก็แค่ฮิต แต่ไม่เหมาะกับนักร้องเท่าที่ควรก็คงจะเป็นส่วนหนึ่ง (อีกส่วนก็อาจจะกั๊กทีเด็ดไว้ปล่อยท้ายรายการด้วยมั้ง) ช่วงแรกก็ฟังเพลินๆแบบชิวๆกันไป

พอมาถึงนายแม็คเคนซี่ ค่อยสดชื่นกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาบ้าง... หมายถึงเพลงนะ ไม่ใช่ความกรี๊ดในตัวนายแม็คเคนซี่ แต่ก็ไม่แน่แล้วแฮะ ยอมรับเลยว่าจากผลงานในช่วงหลังๆ ตอนนี้ผมเป็นแฟนคลับนายแม็คเคนซี่ซะแล้วแหละ ยิ่งตอนนายแม็คเคนซี่มาร้องเพลงที่ 2 ในช่วงครึ่งหลัง เพลง billy jean ของไมเคิล แจ็คสัน โห...แบบว่ายอดมาก คือเป็นเพลงไมเคิลแจ็คสัน ที่ฉีกแนวเรียบเรียงได้ชนิดคนละเวอร์ชั่นกับไมเคิลโดยสิ้นเชิง เป็นเพลงเวอร์ชั่นของตัวเองโดยแท้จริง (บวกกับเรื่องราวสกู๊ปดราม่าก่อนเริ่มเพลง ที่เล่าต่อว่าสาเหตุที่นายแม็คเคนซี่เลิกเล่นกีฬาแล้วหันมาเอาดีทางงานเพลง เพราะเป็นโรคไวรัสลงหัวใจ รอดมาได้อย่างปาฎิหาริย์จริงๆ แต่ก็ทำให้ไม่สามารถเล่นกีฬาหนักๆได้ตลอดชีวิตแล้ว เพราะแค่มีชีวิตรอดก็แปลกแล้วขนาดนั้นเลย เวลาร้องเพลงนายแม็คเคนซี่จึงสามารถร้องออกมาได้จากหัวใจ ถ่ายทอดความรู้สึกจากข้างในออกมาได้อย่างสุดๆ

อ่ะ กลับมาที่ครึ่งแรกก่อน ตอนกลางๆรายการ ก็เป็นช่วงเวลา sudden death แข่งกันเลยว่า 2 คนที่ได้คะแนนท้ายสุด ใครที่กรรมการจะช่วย save เอาไว้เป็นคนสุดท้ายที่กรรมการจะ save ไว้ได้แล้ว และ2 คนนั้นได้แก่...ตามคาดอีกเช่นเคย โซนิก้า กับทริสตั้น

ทริสตั้นได้ขึ้นร้องก่อน ก็ต้องเลือกมา 1 เพลงเท่านั้นจากที่เตรียมมา 2 เพลงที่จะแสดงบนเวที และทริสตั้นก็เลือกเพลงสไตล์คันทรี ช้าๆซึ้งๆสไตล์ที่ทริสตั้นถนัด ก็ร้องได้ถึงอารมณ์เพลงเพราะดีเหมือนๆเดิม (จนกรรมการบอกว่าจะแปลกจะว๊าวกว่านี้ได้ไหม ถ้าเผื่อรอด)


และต่อไปที่ได้ร้องประชันเพื่อขอสิทธิ์ save คือโซนิก้า สาวภารตะแห่งบอลลีวู้ด เธอก็เตรียมเพลงขึ้นโชว์ 2 เพลงเช่นเดียวกัน แต่เธอก็เลือกเพลง let it go เพลงประกอบจากเรื่อง frozen ซึ่งจริงๆเป็นคิวเพลงที่ 2 มาโชว์ก่อนเลย ซึ่งต้องบอกเลยว่า เธอคิดถูกแล้ว เพราะเพลงนี้จริงๆเวอร์ชั่นออริจินอลก็ค่อนข้างเพอร์เฟคแล้ว จะร้องให้แตกต่างก็ยากมาก...แต่เธอทำได้ สามารถเรียบเรียงเวอร์ชั่นใหม่ที่แปลกหูแต่คุ้นเคย และพาผู้ฟังเข้าถึงอารมณ์เพลงไปกับเธอได้ทั้งฮอลล์ รวมถึงกรรมการและคนดูทางบ้าน (รวมตัวผมเองด้วย) ให้อินและมีอารมณ์ร่วมไปกับเพลงได้จริงๆ แน่นอนว่าในด้านการร้องอาจไม่เพอร์เฟคเท่าทริสตั้น แต่ในด้านไอเดียและการสร้างสรรค เธอชนะใจคนดูจริงๆ (เรียกว่าเป็นอีกเพลงที่ห้ามพลาด ต้องหาเวอร์ชั่นนี้มาฟังให้ได้เลยนะ)

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่