american idol เหลืออีก 2 สัปดาห์ ก็ลาจากกันถาวรซะแล้ว มาวิเคราะห์ตัวเต็งกันเล่นๆดีกว่า ว่าเส้นทางของแต่ละคน เป็นอย่างไรกันบ้าง
คนแรกที่เต็งจ๋า ขวัญใจมหาชน ลาพอร์ช่า ยังจำได้เลยวันที่เธอมาออดัชั่น คือทรงผมหัวฟูแปลกสุดๆ มาในมาดตาปรือๆ เหมือนนอนไม่พอ เหมือนกำลังเศร้ายังไงไม่รู้ และอุ้มลูกสาวมาออดิชั่นกับคุณแม่ ก็ไม่คิดว่าจะเป็นตัวเก็งขนาดนั้น นึกว่าจะขายดราม่าอะไรซะมากกว่า (คลิกย้อนไปดูของเก่าตอนต้นๆ ก็ไม่เท่าไหร่นะ) ยังแอบเคืองนิดๆในรอบฮอลิวู้ด ตอนที่ทิ้งกลุ่ม 4 คนเก่าที่ซ้อมกันมาแล้วเพื่อไปช่วยอีกกลุ่มที่สมาชิก 2 คนที่ขาดและอาจโดนตัดสิทธิ์ คือจริงๆก็ดีนะที่เธอกล้าทำ มีมนุษยธรรม แต่ถ้าผมเป็นคนในกลุ่ม 4 คนเดิม คงปวดหัวน่าดูจริงๆ แต่จะว่าไปด้วยความสามารถที่โดดเด่นของเธอ ก็สามารถประสานเสียงและทั้งทีมให้ผ่านเข้ารอบเข้ามาได้ (แต่สมาชิกที่เหลือก็โดนคัดออกเกลี้ยงอยู่ดีในอีกไม่กี่วัน คือก็เข้าใจนะ เจอคนที่ร้องโดดเด่นกว่าเยอะ ก็เลยเหมือนเป็นดาบ 2 คม ที่คนเก่งก็กลายเป็นของธรรมดาไปเลย)
ความสามารถของเธอ เริ่มโดดเด่นและแตกต่าง ก็คงตอนที่ร้องเพลง diamond นี่หละมั้ง ที่แบบว่ารีฮันน่ายังชิดซ้ายเพลงเวอร์ชั่นเดิมของเธอกลายเป็นร้องแบบอนุบาลไปเลย (ขนาด sia ที่แต่งเพลงนี้ แต่มาสัปดาห์นี้มาช่วยเทรนนิ่งให้ ยังยอมรับและชอบเวอร์ชั่นนี้มากๆ) หลังจากนั้นผลงานก็โดดเด่นและแปลกใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ คือแรกๆก็คิดว่ามาแนวพาวเวอร์แบบเดิมๆนั่นแหละ ที่ใครๆก็ร้องกันได้ชักเยอะ แต่สัปดา์ห์ถัดๆมา เธอแปลกร่างเป็นแม่เสือสาว ร้องเพลงร็อคซะสะเด่ามากๆ มาสัปดาห์ล่าสุด เธอโชว์ทักษะการร้องเสียงหลบ ที่ไม่เคยใช้มาก่อนในรายการ ทำเอาแฮรี่อึ้งและชมเปาะเลยว่าแน่ใจว่าครั้งแรกเหรอ (คนมันมีพรสวรรค์ ฝึกแป๊ปเดียวก็เก่งจริงๆนี่นะ) ถ้าวิเคราห์จากความสามารถ บวกชีวิตดราม่าของเธอ แน่นอนชัวร์ๆว่าเธอเป็นว่าที่อเมริกันไอดอลคนต่อไปจริงๆ
https://www.facebook.com/AmericanIdol/videos/10156810906035601/
++++++++++++++++++++++++++++
คนที่ 2 ที่เป็นตัวเต็งเข้ารอบ 2 คนสุดท้ายแน่ๆ (ถ้าไม่ผิดพลาดโดนแฟนคลับกลุ่มอื่นสอยไปซะก่อน) คือหนุ่มเทรท์ ฮาร์มอน คนนี้ประวัติดราม่าไม่ค่อยเยอะ เป็น farm boy มาจากต่างจังหวัด ทำไร่ไถนาไปเรื่อย ออกโชว์แถวๆบ้านกับเพื่อนๆแถวๆบ้านแบบชิวๆ แต่พอได้มาออดิชั่นกับอเมริกันไอดอล ยอมรับว่าแรกๆจำไม่ได้เลยนะ ว่าเป็นไง รู้แต่ว่าร้องได้หน้าตาเหยเกบูดเบี้ยวดีจังตลกดี เสียงร้องก็โอเคเลยได้ผ่านเข้าไปรอบฮอลีวู้ด
แต่รอบฮอลลีวู้ดนี่แหละที่ช่วยระเบิดความสามารถของเทรท์ ฮาร์มอนออกมาระดับนึง คือหนุ่มเทรท์ป่วยเป็นโรคโมโนมาจากบ้าน (โรคโมโน ไปค้นแล้ว คือประมาณติดเชือไวรัสคล้ายๆหวัดอะไรอย่างนี้ แต่เป็นโรคติดต่อแพร่ไปคนข้างๆได้ไง) เลยทำให้ทำกิจกรรมกลุ่มกับใครไม่ได้แม้แต่คนเดียว ต้องแยกเดี่ยวไปโชว์ทุกครั้งแบบคนเดียว คือโหดมากกก ต้องโชว์อย่างไรให้เข้าตากรรมการให้ได้โดยเฉพาะรอบโชว์กลุ่ม ซึ่งเทรนท์แสดงความเหนือชั้น โดยรับผิดชอบ ร้องเพลกรุ๊ฟ 4 คน 4 บุคลิคด้วยตัวคนเดียว ซึ่งบ้ามากๆ (ไปดูตอนที่ ep15.8 นาทีที่ 24 ได้) เรียกว่าเป็นครั้งแรกของอเมริกันไอดอลรอบฮอลีวู้ด ที่อนุมัติให้แสดงกรุ๊ฟคนเดียวได้ แต่ยอมรับเลยว่าโชว์ของเทรนท์โชว์นี้ แม้จะแสดงคนเดียว แต่สามารถดึงดูดและสะกดให้ผู้ชมและกรรมการ รู้สึกทึ่งกับความสามารถ และไม่รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อยตลอดโชว์ (เหมือนได้ดูละครเวทีแสดงเดี่ยวยังไงไม่รู้) เลยสามารถรอดจากสัปดาห์ฮอลิวู้ดไปได้
และพอเทรนท์ได้มาเทรนกับโปรดิวเซอร์ใหญ๋อย่างสก็อต มาเชสต้า ที่เป็นเทรนเนอร์มืออาชีพสร้างนักร้องดังอย่างวง maroon5 เหมือนเทรนท์ ได้ปลดล็อกความสามารถเพิ่มขึ้นอีกหลายอย่าง มีพัฒนาการมากขึ้น และมากขึ้นในแต่ละสัปดาห์ มีโชว์ที่หลากหลายและดูดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างสัปดาห์ล่าสุด เพลงแรกมาในสไตล์เท่ๆแบบไมเคิล บลูเบล หล่อเนียบแบบเจมส์บอนด์ แต่ร้องเพลงได้ถึงอารมณ์จัดจ้านกว่านิดนึง คือเท่มากๆ พอเพลงที่ 2 ร้องเพลงของ sia และได้ sia เป็นเทรนเนอร์แนะนำ ยิ่งโชว์ได้แบบดราม่ามาก คืออารมณ์พลุ้งพล่านจริงๆ
https://www.facebook.com/AmericanIdol/videos/10156810911195601/
(ผมเอาเพลงนี้ที่ลงใน facebook ของ ameriacn idol มาแปะ แต่ถ้าอยากดูเวอร์ัชั่นที่มีสกู๊ปเทรนเนอร์ของ sia ก็คงต้องไปดูเวอร์ชั่นเต็มเองนะ จะยิ่งอินว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ทำได้อย่างไร)
+++++++++++++++++++++++++++++
คนที่ 3 เจ้าชายหิมะ อารมณ์ 2 ขั้ว ดาลตั้น ที่แรกๆตอนรอบคัดตัว ยอมรับว่าโดดเด่นกว่าใครเพื่อนเลย กับบุคลิคที่ดูมันส์ๆ ติสต์ๆ เขียนขอบตาดำหล่อเท่มากๆ ยังจำได้เลยตอนมาออดิชั่นมีคู่ปรับเป็นสาวนักร้องวงร้อคที่อยู่ระแวกเดียวกัน ที่ผ่านเข้ารอบฮอลิวู้ดมาทั้งคู่ แต่ดาลตั้งโดดเด่นและดูดีกว่า โดยเฉพาะการโขว์บนเวที ที่ดูแล้วมันส์มากๆ เลยเข้ารอบชนะคู่ปรับมาแบบลอยลำเลยก็ว่าได้
แต่พอมารอบแสดงบนเวทีสด อาจด้วยบุคลิคอารมณ์ 2 ขั้วของเขา เลยทำให้บางโชว์แบบว่ากร่อยยังไงไม่รู้ ดูจืดสนิทชอบกล แต่บางโชว์์ก็อารมณ์พลุ้งพล่าน ดูโดดเด่นและมีพลังมากกก (แต่ช่วงหลังๆ ชอบโชว์แต่เพลงช้าๆ ไม่ค่อยมันส์แบบแรกๆเลย) โชว์สัปดาห์นี้ก็แบบ...ดูเอาเองในคลิปแล้วกันครับ
https://www.facebook.com/AmericanIdol/videos/10156810428195601/
คิดว่าดาลตั้นก็คงอย่างเก่งอยู่ในรอบ 3 คนสุดท้าย ถ้าเทียบกันด้านฝีมือแล้ว แต่ก็ไม่แน่ เพราะฐานแฟนคลับของดาลตั้นเยอะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ถ้าแฟนคลับฮึดๆหน่อย ไม่แน่ว่า 2 คนแรก อาจจะมีหนาวพลิกโผก็ได้
+++++++++++++++++++++++++++++
คนสุดท้าย นายแม็คเคนซี่ ที่จะเรียกว่าม้ามืดก็คงได้มั้ง คืองั้นๆมาก ออกจะชอบโชว์พาวเวอร์แบบแปลกๆ อย่างมั่นใจจัด เอาเพลงที่แต่งเองมาโชว์ในรอบออดิชั่น แต่ก็ยอมรับนะว่าโชว์ของเขาเหมือนมีพลังบางอย่างที่มีสเน่ห์ดีเหลือเกิน มีคาริสม่าเอามากๆเลยนะ
ที่มาโดดเด่นเอามากๆ ก็คงหลังจากเปิดเผยเรื่องดราม่าส่วนตัว ที่จู่ๆก็ติดเชื้อที่หัวใจตอนสมัยมัธยม จากนักกีฬาของโรงเรียน ที่เล่นทั้งบาส ทั้งเบสบอล เลยล้มป่วย ไม่สามารถเสี่ยงเล่นกีฬาได้อีกตลอดชีวิต ต้องเบนเข็มชีวิตมาเป็นนักดนตรีแบบเต็มตัว (จากที่แรกๆก็เป็นนักดนตรีแบบชิวๆเพลินๆเวลาว่างๆ) และโชว์ช่วงนั้นของนายแม็คเคนซี่ ก็โดดเด่นมีออร่าสุดๆ
แต่มาสัปดาห์นี้ ทั้ง 2 โชว์ของนายแม็คเคนซี่ ผมว่าจืดไปหน่อยนะ มันเหมือนๆเดิมยังไงไม่รู้ ไม่มีอะไรโดดเด่นออกมาเลยนะ ถ้านายจะรอดจากสัปดาห์นี้ไป ก็ต้องพี่งแฟนคลับกันสุดๆเลยแหละ (แต่เวลาที่ให้โหวด ก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงหลังรายการจบ ไม่รู้แฟนคลับจะช่วยทันไหมหนอ แม้ว่ากระแสช่วงหลังๆในอินเตอร์เน็ตของแม็คเคนซี่จะดีขึ้นมากก็เถอะ) แต่ถึงรอดได้ โอกาสจะติด 2 คนสุดท้าย ก็ยากมากๆเลยนะ ถ้ายังไม่มีโชว์ดีๆเด่นๆที่เรียกคะแนนจากคนดูทั่วๆไปได้
https://www.facebook.com/AmericanIdol/videos/10156810908120601/
++++++++++++++++++++++++++
แป๊ปๆก็เหลือแค่ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก็ต้องอำลาอาลัยกับรายการนี้กันแบบเป็นทางการซะแล้ว (แฮชแท็ค #TEAR แบบที่พิธีกรบอกไง) น่าเสียดายจัง ก็ต้องติดตามกันต่อไป ถ้าใครอยากรู้อัพเดททันเหตุการณ์ ก็ไปดูในเฟชบ็ครายการได้
https://www.facebook.com/AmericanIdol/ ช่วงนี้มีคลิปมาลงตลอดๆเลย แนะนำว่าน่าจะหาตอนเก่าๆมาดูนะครับ โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์ฮอลีวู้ด เวลาย้อนไปดูคือแบบว่า คนคุ้นๆหน้าที่เข้ารอบลึกๆ รายการก็ตัดต่อออกมาได้เด่นดีเหมือนกันนะ ดูไปก็เพลินๆดีเหมือนกันดีจังเลยครับ ยิ่งรู้สึกอินกับเส้นทางกว่าจะมาถึงจุดนี้ของแต่ละคนมากยิ่งขึ้นจริงๆ
American Idol 15 เหลืออีก 2 สัปดาห์ ก็ลาจากกันถาวรซะแล้ว มาวิเคราะห์ตัวเต็งกันเล่นๆดีกว่า (มีคลิปโชว์ด้วยครับ)
คนแรกที่เต็งจ๋า ขวัญใจมหาชน ลาพอร์ช่า ยังจำได้เลยวันที่เธอมาออดัชั่น คือทรงผมหัวฟูแปลกสุดๆ มาในมาดตาปรือๆ เหมือนนอนไม่พอ เหมือนกำลังเศร้ายังไงไม่รู้ และอุ้มลูกสาวมาออดิชั่นกับคุณแม่ ก็ไม่คิดว่าจะเป็นตัวเก็งขนาดนั้น นึกว่าจะขายดราม่าอะไรซะมากกว่า (คลิกย้อนไปดูของเก่าตอนต้นๆ ก็ไม่เท่าไหร่นะ) ยังแอบเคืองนิดๆในรอบฮอลิวู้ด ตอนที่ทิ้งกลุ่ม 4 คนเก่าที่ซ้อมกันมาแล้วเพื่อไปช่วยอีกกลุ่มที่สมาชิก 2 คนที่ขาดและอาจโดนตัดสิทธิ์ คือจริงๆก็ดีนะที่เธอกล้าทำ มีมนุษยธรรม แต่ถ้าผมเป็นคนในกลุ่ม 4 คนเดิม คงปวดหัวน่าดูจริงๆ แต่จะว่าไปด้วยความสามารถที่โดดเด่นของเธอ ก็สามารถประสานเสียงและทั้งทีมให้ผ่านเข้ารอบเข้ามาได้ (แต่สมาชิกที่เหลือก็โดนคัดออกเกลี้ยงอยู่ดีในอีกไม่กี่วัน คือก็เข้าใจนะ เจอคนที่ร้องโดดเด่นกว่าเยอะ ก็เลยเหมือนเป็นดาบ 2 คม ที่คนเก่งก็กลายเป็นของธรรมดาไปเลย)
ความสามารถของเธอ เริ่มโดดเด่นและแตกต่าง ก็คงตอนที่ร้องเพลง diamond นี่หละมั้ง ที่แบบว่ารีฮันน่ายังชิดซ้ายเพลงเวอร์ชั่นเดิมของเธอกลายเป็นร้องแบบอนุบาลไปเลย (ขนาด sia ที่แต่งเพลงนี้ แต่มาสัปดาห์นี้มาช่วยเทรนนิ่งให้ ยังยอมรับและชอบเวอร์ชั่นนี้มากๆ) หลังจากนั้นผลงานก็โดดเด่นและแปลกใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ คือแรกๆก็คิดว่ามาแนวพาวเวอร์แบบเดิมๆนั่นแหละ ที่ใครๆก็ร้องกันได้ชักเยอะ แต่สัปดา์ห์ถัดๆมา เธอแปลกร่างเป็นแม่เสือสาว ร้องเพลงร็อคซะสะเด่ามากๆ มาสัปดาห์ล่าสุด เธอโชว์ทักษะการร้องเสียงหลบ ที่ไม่เคยใช้มาก่อนในรายการ ทำเอาแฮรี่อึ้งและชมเปาะเลยว่าแน่ใจว่าครั้งแรกเหรอ (คนมันมีพรสวรรค์ ฝึกแป๊ปเดียวก็เก่งจริงๆนี่นะ) ถ้าวิเคราห์จากความสามารถ บวกชีวิตดราม่าของเธอ แน่นอนชัวร์ๆว่าเธอเป็นว่าที่อเมริกันไอดอลคนต่อไปจริงๆ
https://www.facebook.com/AmericanIdol/videos/10156810906035601/
++++++++++++++++++++++++++++
คนที่ 2 ที่เป็นตัวเต็งเข้ารอบ 2 คนสุดท้ายแน่ๆ (ถ้าไม่ผิดพลาดโดนแฟนคลับกลุ่มอื่นสอยไปซะก่อน) คือหนุ่มเทรท์ ฮาร์มอน คนนี้ประวัติดราม่าไม่ค่อยเยอะ เป็น farm boy มาจากต่างจังหวัด ทำไร่ไถนาไปเรื่อย ออกโชว์แถวๆบ้านกับเพื่อนๆแถวๆบ้านแบบชิวๆ แต่พอได้มาออดิชั่นกับอเมริกันไอดอล ยอมรับว่าแรกๆจำไม่ได้เลยนะ ว่าเป็นไง รู้แต่ว่าร้องได้หน้าตาเหยเกบูดเบี้ยวดีจังตลกดี เสียงร้องก็โอเคเลยได้ผ่านเข้าไปรอบฮอลีวู้ด
แต่รอบฮอลลีวู้ดนี่แหละที่ช่วยระเบิดความสามารถของเทรท์ ฮาร์มอนออกมาระดับนึง คือหนุ่มเทรท์ป่วยเป็นโรคโมโนมาจากบ้าน (โรคโมโน ไปค้นแล้ว คือประมาณติดเชือไวรัสคล้ายๆหวัดอะไรอย่างนี้ แต่เป็นโรคติดต่อแพร่ไปคนข้างๆได้ไง) เลยทำให้ทำกิจกรรมกลุ่มกับใครไม่ได้แม้แต่คนเดียว ต้องแยกเดี่ยวไปโชว์ทุกครั้งแบบคนเดียว คือโหดมากกก ต้องโชว์อย่างไรให้เข้าตากรรมการให้ได้โดยเฉพาะรอบโชว์กลุ่ม ซึ่งเทรนท์แสดงความเหนือชั้น โดยรับผิดชอบ ร้องเพลกรุ๊ฟ 4 คน 4 บุคลิคด้วยตัวคนเดียว ซึ่งบ้ามากๆ (ไปดูตอนที่ ep15.8 นาทีที่ 24 ได้) เรียกว่าเป็นครั้งแรกของอเมริกันไอดอลรอบฮอลีวู้ด ที่อนุมัติให้แสดงกรุ๊ฟคนเดียวได้ แต่ยอมรับเลยว่าโชว์ของเทรนท์โชว์นี้ แม้จะแสดงคนเดียว แต่สามารถดึงดูดและสะกดให้ผู้ชมและกรรมการ รู้สึกทึ่งกับความสามารถ และไม่รู้สึกเบื่อเลยแม้แต่น้อยตลอดโชว์ (เหมือนได้ดูละครเวทีแสดงเดี่ยวยังไงไม่รู้) เลยสามารถรอดจากสัปดาห์ฮอลิวู้ดไปได้
และพอเทรนท์ได้มาเทรนกับโปรดิวเซอร์ใหญ๋อย่างสก็อต มาเชสต้า ที่เป็นเทรนเนอร์มืออาชีพสร้างนักร้องดังอย่างวง maroon5 เหมือนเทรนท์ ได้ปลดล็อกความสามารถเพิ่มขึ้นอีกหลายอย่าง มีพัฒนาการมากขึ้น และมากขึ้นในแต่ละสัปดาห์ มีโชว์ที่หลากหลายและดูดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างสัปดาห์ล่าสุด เพลงแรกมาในสไตล์เท่ๆแบบไมเคิล บลูเบล หล่อเนียบแบบเจมส์บอนด์ แต่ร้องเพลงได้ถึงอารมณ์จัดจ้านกว่านิดนึง คือเท่มากๆ พอเพลงที่ 2 ร้องเพลงของ sia และได้ sia เป็นเทรนเนอร์แนะนำ ยิ่งโชว์ได้แบบดราม่ามาก คืออารมณ์พลุ้งพล่านจริงๆ
https://www.facebook.com/AmericanIdol/videos/10156810911195601/
(ผมเอาเพลงนี้ที่ลงใน facebook ของ ameriacn idol มาแปะ แต่ถ้าอยากดูเวอร์ัชั่นที่มีสกู๊ปเทรนเนอร์ของ sia ก็คงต้องไปดูเวอร์ชั่นเต็มเองนะ จะยิ่งอินว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ทำได้อย่างไร)
+++++++++++++++++++++++++++++
คนที่ 3 เจ้าชายหิมะ อารมณ์ 2 ขั้ว ดาลตั้น ที่แรกๆตอนรอบคัดตัว ยอมรับว่าโดดเด่นกว่าใครเพื่อนเลย กับบุคลิคที่ดูมันส์ๆ ติสต์ๆ เขียนขอบตาดำหล่อเท่มากๆ ยังจำได้เลยตอนมาออดิชั่นมีคู่ปรับเป็นสาวนักร้องวงร้อคที่อยู่ระแวกเดียวกัน ที่ผ่านเข้ารอบฮอลิวู้ดมาทั้งคู่ แต่ดาลตั้งโดดเด่นและดูดีกว่า โดยเฉพาะการโขว์บนเวที ที่ดูแล้วมันส์มากๆ เลยเข้ารอบชนะคู่ปรับมาแบบลอยลำเลยก็ว่าได้
แต่พอมารอบแสดงบนเวทีสด อาจด้วยบุคลิคอารมณ์ 2 ขั้วของเขา เลยทำให้บางโชว์แบบว่ากร่อยยังไงไม่รู้ ดูจืดสนิทชอบกล แต่บางโชว์์ก็อารมณ์พลุ้งพล่าน ดูโดดเด่นและมีพลังมากกก (แต่ช่วงหลังๆ ชอบโชว์แต่เพลงช้าๆ ไม่ค่อยมันส์แบบแรกๆเลย) โชว์สัปดาห์นี้ก็แบบ...ดูเอาเองในคลิปแล้วกันครับ
https://www.facebook.com/AmericanIdol/videos/10156810428195601/
คิดว่าดาลตั้นก็คงอย่างเก่งอยู่ในรอบ 3 คนสุดท้าย ถ้าเทียบกันด้านฝีมือแล้ว แต่ก็ไม่แน่ เพราะฐานแฟนคลับของดาลตั้นเยอะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ถ้าแฟนคลับฮึดๆหน่อย ไม่แน่ว่า 2 คนแรก อาจจะมีหนาวพลิกโผก็ได้
+++++++++++++++++++++++++++++
คนสุดท้าย นายแม็คเคนซี่ ที่จะเรียกว่าม้ามืดก็คงได้มั้ง คืองั้นๆมาก ออกจะชอบโชว์พาวเวอร์แบบแปลกๆ อย่างมั่นใจจัด เอาเพลงที่แต่งเองมาโชว์ในรอบออดิชั่น แต่ก็ยอมรับนะว่าโชว์ของเขาเหมือนมีพลังบางอย่างที่มีสเน่ห์ดีเหลือเกิน มีคาริสม่าเอามากๆเลยนะ
ที่มาโดดเด่นเอามากๆ ก็คงหลังจากเปิดเผยเรื่องดราม่าส่วนตัว ที่จู่ๆก็ติดเชื้อที่หัวใจตอนสมัยมัธยม จากนักกีฬาของโรงเรียน ที่เล่นทั้งบาส ทั้งเบสบอล เลยล้มป่วย ไม่สามารถเสี่ยงเล่นกีฬาได้อีกตลอดชีวิต ต้องเบนเข็มชีวิตมาเป็นนักดนตรีแบบเต็มตัว (จากที่แรกๆก็เป็นนักดนตรีแบบชิวๆเพลินๆเวลาว่างๆ) และโชว์ช่วงนั้นของนายแม็คเคนซี่ ก็โดดเด่นมีออร่าสุดๆ
แต่มาสัปดาห์นี้ ทั้ง 2 โชว์ของนายแม็คเคนซี่ ผมว่าจืดไปหน่อยนะ มันเหมือนๆเดิมยังไงไม่รู้ ไม่มีอะไรโดดเด่นออกมาเลยนะ ถ้านายจะรอดจากสัปดาห์นี้ไป ก็ต้องพี่งแฟนคลับกันสุดๆเลยแหละ (แต่เวลาที่ให้โหวด ก็แค่ไม่กี่ชั่วโมงหลังรายการจบ ไม่รู้แฟนคลับจะช่วยทันไหมหนอ แม้ว่ากระแสช่วงหลังๆในอินเตอร์เน็ตของแม็คเคนซี่จะดีขึ้นมากก็เถอะ) แต่ถึงรอดได้ โอกาสจะติด 2 คนสุดท้าย ก็ยากมากๆเลยนะ ถ้ายังไม่มีโชว์ดีๆเด่นๆที่เรียกคะแนนจากคนดูทั่วๆไปได้
https://www.facebook.com/AmericanIdol/videos/10156810908120601/
++++++++++++++++++++++++++
แป๊ปๆก็เหลือแค่ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก็ต้องอำลาอาลัยกับรายการนี้กันแบบเป็นทางการซะแล้ว (แฮชแท็ค #TEAR แบบที่พิธีกรบอกไง) น่าเสียดายจัง ก็ต้องติดตามกันต่อไป ถ้าใครอยากรู้อัพเดททันเหตุการณ์ ก็ไปดูในเฟชบ็ครายการได้ https://www.facebook.com/AmericanIdol/ ช่วงนี้มีคลิปมาลงตลอดๆเลย แนะนำว่าน่าจะหาตอนเก่าๆมาดูนะครับ โดยเฉพาะช่วงสัปดาห์ฮอลีวู้ด เวลาย้อนไปดูคือแบบว่า คนคุ้นๆหน้าที่เข้ารอบลึกๆ รายการก็ตัดต่อออกมาได้เด่นดีเหมือนกันนะ ดูไปก็เพลินๆดีเหมือนกันดีจังเลยครับ ยิ่งรู้สึกอินกับเส้นทางกว่าจะมาถึงจุดนี้ของแต่ละคนมากยิ่งขึ้นจริงๆ