คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
คิดแบบนี้ ผมว่ามีปัญหาแล้ว ค่าบริการไง
ทีหลังคุณก็ทำเองเลย นี่แหละต่อไปในอนาคต จะไม่มีช่างแล้ว
เพราะว่าเจอแบบนี้แหละ
จำใส่กะโหลกไว้ว่าคือค่าบริการครับ ถ้าคิดว่าแพงทำเองครับ ไม่มีใครเขาว่าหรอก
ทำเองได้ทำเลย
ผมเจอบ่อยพวกไฟเสีย แต่หาคนทำไม่ได้ เพราะว่าปากดีอย่างคุณนี่แหละ สม้ยนี้ไม่มีใครเขารับงานเล็กๆแล้ว
ทีหลังคุณก็ทำเองเลย นี่แหละต่อไปในอนาคต จะไม่มีช่างแล้ว
เพราะว่าเจอแบบนี้แหละ
จำใส่กะโหลกไว้ว่าคือค่าบริการครับ ถ้าคิดว่าแพงทำเองครับ ไม่มีใครเขาว่าหรอก
ทำเองได้ทำเลย
ผมเจอบ่อยพวกไฟเสีย แต่หาคนทำไม่ได้ เพราะว่าปากดีอย่างคุณนี่แหละ สม้ยนี้ไม่มีใครเขารับงานเล็กๆแล้ว
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
บางความเห็นนี่ก้อเว่อร์ไป ด่าซะสาดเสียเทเสีย จขกท เขาไม่ได้ก้าวร้าวซะปานนั้นนะครับ แสดงความเห็นในมุมมองตัวเองก้อคงทำให้ฉุกคิดได้รอบด้านอยู่แล้ว ประหนึ่งเหรียญมี2หน้า ด้านหนึ่งผู้ให้บริการ อีกด้านก็ผู้บริโภค
แต่ 1,800 แล้วเปลี่ยนแค่คาปาซิเตอร์ ต้นทุนแค่240 (ถ้าเป็นตามนั้นจริงๆ) นี่ก็แพงเกินไปครับ ถ้าคิดค่าวิชา500 ค่าของ240 ค่าน้ำมัน 160 ออกมาสัก900บาท ค่อยดูน่ารักหน่อยครับ
ผมเคยให้ระดับหัวหน้าช่างแอร์ ในโรงแรมหรูย่านราชดำริ มาซ่อมแอร์ที่คอนโด จ่ายแต่ละครั้งไม่เคยเกิน500 บาทเลยครับ
ค่าวิชา ค่าบริการเป็นเรื่องหนึ่ง จรรยาบรรณก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะครับ
แต่ 1,800 แล้วเปลี่ยนแค่คาปาซิเตอร์ ต้นทุนแค่240 (ถ้าเป็นตามนั้นจริงๆ) นี่ก็แพงเกินไปครับ ถ้าคิดค่าวิชา500 ค่าของ240 ค่าน้ำมัน 160 ออกมาสัก900บาท ค่อยดูน่ารักหน่อยครับ
ผมเคยให้ระดับหัวหน้าช่างแอร์ ในโรงแรมหรูย่านราชดำริ มาซ่อมแอร์ที่คอนโด จ่ายแต่ละครั้งไม่เคยเกิน500 บาทเลยครับ
ค่าวิชา ค่าบริการเป็นเรื่องหนึ่ง จรรยาบรรณก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะครับ
แสดงความคิดเห็น
ช่างแอร์ในตำนาน เรื่องนี้เป็นความจริงไหมครับ?
พัดลมคอมเพรสเซอร์ทำงานปกติ แต่มีเสียงหึ่ง ๆ เป็นช่วง ๆ อาการแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วหนึ่งครั้ง
เคยเรียกช่างมาซ่อมเปลี่ยนอะไหล่ที่มีชื่อว่า Capacitor ไป 1800 บาท แอร์ก็กลับเย็นเหมือนเดิม คอมเพรสเซอร์ทำงานปกติ !!! ดีจัง
แต่คราวนี้เมื่ออาการเดิมกำเริบวิญญาณแม็กกายเวอร์เข้าสิง อารมณ์อยากซ้อมเอง เพราะเคยเห็นช่างซ่อมแค่ถอดไอ้เจ้าแท่งทรงกระบอกแบบสีเงินในรูปออก แล้วเอาของใหม่ใส่เข้าไปก็ใช้ได้ แท่งสีเงินเรียกว่า Capacitor หรือ เรียกสั้น ๆ ว่าแคปรันครับ
เริ่มจากหาขอมูลของเจ้า Capacitor ว่ามีที่ไหนขายบ้าง ถอดซ่อมยากหรือไม่ มีร้านขายใกล้บ้านด้วย
มั่นใจปุ๊บก็ลงมือปั๊บ
-ถอดหน้ากาก คอมเพรสเซอร์ แอร์ หาตำแหน่ง Capacitor
-ถ่ายรูปตำแหน่งสายไฟที่เชื่อมต่อขั้ว แคปรัน เก็บไว้ดูกันลืม
-ถอดแคปรันหรือ Capacitor ออกเอาไปเป็นตัวอย่างให้ร้านดู
ถึงกับต้องร้อง OMG !!! เมื่อรู้ว่าแบบที่ช่างเปลี่ยนให้คราวที่แล้วเป๊ะ ของผลิตจากจีนราคาส่งแค่ 60-70 บาท ร้านขายอะไหล่แอร์แถว ๆ บ้านก็ 100 กว่าบาท
ปล.เจ้าของร้านบอกของจีนใช้ไม่นานก็ต้องเปลี่ยน ไม่ถึงปีหรอก
****แล้วเราจ่ายค่าอะไรไป 1800 บาท
คราวนี้เลยได้อะไหล่จากญี่ปุ่นไปมาแค่ 240 บาท ใช้ได้หลายปีอาเฮียบอก ได้อะไหล่กลับบ้านมาพร้อมคำถามมากมายว่า 1800 ค่าอะไรว้าาาาา ต่อๆๆ
-นำ Capacitor ตัวใหม่ที่ได้มาใส่กลับตำแหน่งเดิม ดูรูปที่ถ่ายไว้อีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
-ลองเปิดแอร์ดู ว้าววววเย็นฉ่ำเหมือนเดิม ง่ายมั๊ยครับ
ปล.ทุกขั้นตอนก่อนซ่อมต้องตัดกระแสไฟไม่ให้เข้าระบบแอร์ก่อนทุกขั้นตอนเลยนะครับ
แล้วผมควรจะเรียกเงิน 1,800 บาทที่จ่ายไปคราวที่แล้วว่า เป็นค่าโง่หรือค่าครูดีครับ !!!
เครคิด คุณ Ramate Chuamuangphan