Update 15.16
เอเอฟพี - เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบิน ฟลายดูไบ ประสบอุบัติเหตุตกภายในสนามบินรอสตอฟ-ออน-ดอน ทางตอนใต้ของรัสเซียเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (19 มี.ค.) ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 62 คนเสียชีวิตยกลำ
นักบินใช้ความพยายามถึง 2 ครั้งที่จะนำเครื่องลงจอดท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย แต่ปรากฏว่าเครื่องบินได้ตกกระแทกพื้นคลาดจากแนวรันเวย์ และระเบิดไฟลุกท่วม มีเศษชิ้นส่วนกระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง
สายการบินแถลงผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า “ฟลายดูไบขอแสดงความเสียใจ และยืนยันว่าเที่ยวบิน FZ981 ได้ประสบอุบัติเหตุตกขณะลงจอด โดยมีผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้”
พนักงานสอบสวนรัสเซียยืนยันว่า ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 62 คนเสียชีวิตแล้วทั้งหมด เพิ่มจากรายงานเบื้องต้นที่ระบุยอดผู้เสียชีวิตไว้เพียง 61 ราย
“จากข้อมูลในเบื้องต้น เที่ยวบินนี้มีผู้โดยสาร 55 คนและลูกเรืออีก 7 คน ซึ่งไม่มีผู้ใดรอดชีวิต” พนักงานสอบสวนแถลง
สถานีข่าวไลฟ์นิวส์ซึ่งเป็นสื่อท้องถิ่น รายงานว่า ผู้โดยสารทั้งหมดบนเที่ยวบินนี้เป็นชาวรัสเซีย และมีลูกเรือเป็น “ชาวต่างชาติ”
โศกนาฏกรรมไม่คาดฝันครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.50 GMT (7.50 น. วันนี้ตามเวลาในไทย) โดยเครื่องบินลำนี้เดินทางออกจากดูไบมุ่งหน้ามายังรัสเซีย เมื่อเวลา 18.20 GMT ของวันศุกร์ (18)
สื่อรัสเซียได้แพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะเครื่องบินตกกระแทกพื้น และระเบิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่กินบริเวณกว้าง ขณะที่กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินระบุว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 500 คนพร้อมรถดับเพลิง 60 คันต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงในการควบคุมเพลิง
“เครื่องบินลำนี้ครูดไปกับพื้นและแตกออกเป็นเสี่ยงๆ” พนักงานสอบสวนระบุ
ไลฟ์นิวส์ รายงานว่า ขณะเกิดเหตุมีฝนตกหนักและกระแสลมแรง นักบินจึงต้องนำเครื่องบินวนอยู่ถึง 2 ชั่วโมง ก่อนจะตัดสินใจลงจอด
เศษชิ้นส่วนของโบอิ้ง 737 ลำนี้กระเด็นออกห่างจากจุดตกไปไกลถึง 1.5 กิโลเมตร
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่งผลให้เที่ยวบินอื่นๆ ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่สนามบินกราสโนดาร์ ซึ่งอยู่ห่างจาก รอสตอฟ-ออน-ดอน ไปทางใต้ราว 300 กิโลเมตร
“สภาพอากาศตอนนั้นเลวร้ายมาก เครื่องบินของเราสั่นอย่างรุนแรง” ผู้โดยสารคนหนึ่งบนเที่ยวบินที่ถูกเปลี่ยนเส้นทาง ให้สัมภาษณ์กับไลฟ์นิวส์
รัสเซียได้ตั้งทีมสอบสวนเพื่อสืบหาต้นตอของโศกนาฏกรรมทางการบินครั้งนี้แล้ว โดยจะมุ่งตรวจสอบว่าเป็นผลมาจากการละเมิดกฎความปลอดภัยการบิน หรือความละเลยหรือไม่
ฟลายดูไบซึ่งมีฐานอยู่ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้แถลงผ่านเว็บไซต์ว่า “สายการบินได้มีมาตรการตอบสนองเหตุฉุกเฉิน และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เราจะชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ให้สาธารณชนทราบโดยเร็วที่สุด และมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้โบอิ้ง 737 ลำนี้ประสบอุบัติเหตุตกน่าจะเกิดจากความผิดพลาดของนักบินเอง หรือไม่ก็เหตุขัดข้องทางเทคนิค
“เวลานี้เราตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 2 ประเด็นหลักๆ คือ ความผิดพลาดของนักบินอันเนื่องมาจากสภาพอากาศเลวร้าย หรือเหตุขัดข้องทางเทคนิค” อ็อกซานา โคฟริซนายา ผู้แทนคณะกรรมการสอบสวน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์
ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ระบุว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย มีคำสั่งวันนี้ (19) ให้เจ้าหน้าที่มอบความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่
ภาพใช้ในการประกอบเนื้อหาข่าวเท่านั้น
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000028752
เครื่องบินฟลายดูไบ FZ981 ตกที่รัสเซีย เสียชีวิต 61 ราย
นักบินใช้ความพยายามถึง 2 ครั้งที่จะนำเครื่องลงจอดท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย แต่ปรากฏว่าเครื่องบินได้ตกกระแทกพื้นคลาดจากแนวรันเวย์ และระเบิดไฟลุกท่วม มีเศษชิ้นส่วนกระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง
สายการบินแถลงผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า “ฟลายดูไบขอแสดงความเสียใจ และยืนยันว่าเที่ยวบิน FZ981 ได้ประสบอุบัติเหตุตกขณะลงจอด โดยมีผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้”
พนักงานสอบสวนรัสเซียยืนยันว่า ผู้โดยสารและลูกเรือรวม 62 คนเสียชีวิตแล้วทั้งหมด เพิ่มจากรายงานเบื้องต้นที่ระบุยอดผู้เสียชีวิตไว้เพียง 61 ราย
“จากข้อมูลในเบื้องต้น เที่ยวบินนี้มีผู้โดยสาร 55 คนและลูกเรืออีก 7 คน ซึ่งไม่มีผู้ใดรอดชีวิต” พนักงานสอบสวนแถลง
สถานีข่าวไลฟ์นิวส์ซึ่งเป็นสื่อท้องถิ่น รายงานว่า ผู้โดยสารทั้งหมดบนเที่ยวบินนี้เป็นชาวรัสเซีย และมีลูกเรือเป็น “ชาวต่างชาติ”
โศกนาฏกรรมไม่คาดฝันครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.50 GMT (7.50 น. วันนี้ตามเวลาในไทย) โดยเครื่องบินลำนี้เดินทางออกจากดูไบมุ่งหน้ามายังรัสเซีย เมื่อเวลา 18.20 GMT ของวันศุกร์ (18)
“เครื่องบินลำนี้ครูดไปกับพื้นและแตกออกเป็นเสี่ยงๆ” พนักงานสอบสวนระบุ
ไลฟ์นิวส์ รายงานว่า ขณะเกิดเหตุมีฝนตกหนักและกระแสลมแรง นักบินจึงต้องนำเครื่องบินวนอยู่ถึง 2 ชั่วโมง ก่อนจะตัดสินใจลงจอด
เศษชิ้นส่วนของโบอิ้ง 737 ลำนี้กระเด็นออกห่างจากจุดตกไปไกลถึง 1.5 กิโลเมตร
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่งผลให้เที่ยวบินอื่นๆ ต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่สนามบินกราสโนดาร์ ซึ่งอยู่ห่างจาก รอสตอฟ-ออน-ดอน ไปทางใต้ราว 300 กิโลเมตร
“สภาพอากาศตอนนั้นเลวร้ายมาก เครื่องบินของเราสั่นอย่างรุนแรง” ผู้โดยสารคนหนึ่งบนเที่ยวบินที่ถูกเปลี่ยนเส้นทาง ให้สัมภาษณ์กับไลฟ์นิวส์
ฟลายดูไบซึ่งมีฐานอยู่ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้แถลงผ่านเว็บไซต์ว่า “สายการบินได้มีมาตรการตอบสนองเหตุฉุกเฉิน และประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เราจะชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ให้สาธารณชนทราบโดยเร็วที่สุด และมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียระบุว่า ปัจจัยที่ทำให้โบอิ้ง 737 ลำนี้ประสบอุบัติเหตุตกน่าจะเกิดจากความผิดพลาดของนักบินเอง หรือไม่ก็เหตุขัดข้องทางเทคนิค
“เวลานี้เราตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 2 ประเด็นหลักๆ คือ ความผิดพลาดของนักบินอันเนื่องมาจากสภาพอากาศเลวร้าย หรือเหตุขัดข้องทางเทคนิค” อ็อกซานา โคฟริซนายา ผู้แทนคณะกรรมการสอบสวน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอินเทอร์แฟกซ์
ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ระบุว่า ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย มีคำสั่งวันนี้ (19) ให้เจ้าหน้าที่มอบความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของผู้โดยสารและลูกเรือที่เสียชีวิตอย่างเต็มที่
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000028752