เพราะส่วนดีของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็มีเหมือนกัน มันเป็นการร่างขึ้นมาจากประสบการณ์ล้วนๆของคณะบุคคลที่ไม่เคยผ่านการเลือกตั้ง ไม่เคยต้องคลุกคลีตีโมงกับประชาชนอย่างใกล้ชิด จึงเป็นการมองปัญหาจากข้างบน ดังนั้นจึงน่าจะชัดเจนกว่าพวกเราที่อยู่กับปัญหา จนมองสาเหตุแห่งปัญหาไม่ได้รอบด้านไงครับ
อย่างเช่นการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีปัญหาก็จากการที่เสียงส่วนน้อยไม่ยอมรับการชัยชนะของเสียงส่วนใหญ่ เลยออกชุมนุมประท้วงต่อต้าน ส่วนทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ไม่พยายามทำตามหน้าที่ เลยทำให้เกิดความวุ่นวาย ประเทศเกิดวิกฤติ จนทำให้การเมืองเข้าสู่ทางตัน
คุณมีชัยก็เลยตั้งกติกาใหม่ จะเป็นการจัดสรรปันส่วนผสมก็ดี หรือจะเป็นการใช้บัตรเดียวก็ดี หรือจะเป็นการมีผู้แทน 3 คน แต่ประชาชนเลือกได้คนเดียวก็ดี ล้วนแต่เป็นการแก้ปัญหาที่จะทำให้ไม่มีพรรคไหนสามารถชนะการเลือกตั้งแบบเสร็จเหมือนที่ผ่านมา นี่คือการแก้ปัญหาไม่ต้องให้เสียงส่วนน้อยต้องออกแรงมาก่อการกู้ชาติให้ประเทศล่มจมเหมือนที่ผ่านมา
ข้อดีอีกข้อก็คือ พรรคที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งบ่อยครั้ง จนไม่กล้าลงแข่งเลือกตั้งในสถานการณ์ปกติ แล้วทำการบอยคอตการเลือกตั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้การเมืองวิกฤติเข้าไว้ หรือต้องออกแรงพามวลชนออกมาสู่ท้องถนน จับประชาชนเป็นตัวประกัน เพื่อล้มล้างรัฐบาลจากการเลือกตั้งอีก เพราะกติกาใหม่ เขามีการจัดสรรปันคะแนนไปให้ แม้ประชาชนจะไม่ได้เลือกก็ตาม
เมื่อไม่มีพรรคไหนสามารถชนะได้อย่างเด็ดขาด จึงยิ่งไม่ต้องเป็นห่วง สว.ลากตั้งจะมี 250 หรือ 300 คนมันก็ครือกันนั่นแหละครับ เพราะเมื่อไม่มีรัฐบาลของคนส่วนใหญ่ สว.ก็ไม่จำเป็นต้องแสดงบทบาทอะไรมาก เพียงรอยกมือโหวตนายกฯปริศนาก็พอแล้วครับ
อย่าไปกังวลกับ 40 สว.ในอดีตเลยครับ พวกนั้นเป็นพวกที่คอยขัดขวางการทำงานของรัฐบาลที่มาจากคนส่วนใหญ่เท่านั้น จึงเกิดปรากฎการณ์เดี๋ยวคนนั้นยื่นฟ้องให้กับองค์กรนี้ คนนี้ยื่นฟ้องให้กับองค์กรโน้น เป้าหมายก็แค่สกัดยับยั้งไม่ให้สร้างผลงาน ไม่ให้บริหารงานอย่างราบรื่น
ส่วนองค์กรต่างๆก็มีเป้าหมายเดียวกัน เราจึงได้เห็นแต่ละองค์กรพร้อมจะออกมารับลูกต่อทันที ถ้าเป็นการยื่นฟ้องเกี่ยวกับรัฐบาล แต่ถ้าเป็นการยื่นเรื่องเกี่ยวกับพวกเดียวกัน ก็หาวิธีไม่รับบ้าง ยกคำร้องบ้างหรือดองไว้ก่อนอะไรเทือกนี้ ทำให้ความวุ่นวายกลายเป็นความสองมาตรฐานให้องค์กรตกต่ำ เกิดวิกฤติศรัทธาอย่างแรง
แต่รัฐธรรมนูญใหม่นั้นมันไม่ใช่แล้วครับ สว.ไม่จำเป็นต้องไปฟ้องใครให้ยุ่งยาก ให้วุ่นวาย สุ่มเสี่ยงต่อความเสื่อมศรัทธา และยังสามารถรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับประเทศได้อีกด้วย นั่นคือ พวกท่านสามารถจะซักฟอกรัฐบาลได้ เสนอชื่อถอดถอนก็ได้ กลั่นกรองกฎหมายก็ได้ เห็นไหมครับ ต่อไปคงไม่มีการฟ้องร้องการอุตลุดเหมือนที่ผ่านมา
ส่วนพรรคการเมืองก็สบายขึ้นอีกมากโข ไม่ต้องคิดนโยบายให้เมื่อยตุ้ม ไม่ต้องลอกนโยบายพรรคอื่นให้ขายหน้า แค่เตรียมหาคนสัก 3 ชื่อมาเสนอให้เป็นนายกฯ เมื่อได้เป็นรัฐบาลก็ทำตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีอย่างเคร่งครัด แค่นั้นก็จะอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ ดีอะไรอย่างนี้นะครับ
เมื่อรัฐบาลหมดวาระ ก็ไม่ต้องเป็นห่วง คุณมีชัยยังเผื่อ สว.ให้อีก 1 ปี ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ไว้ควบคุมรัฐบาลใหม่ให้อยู่ในกรอบ เห็นไหมครับ คุณมีชัยทำตามโรดแมปแค่ไหน
แต่ถ้ารัฐบาลไหนเกิดของเข้า อยากทำตามการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคดิจิตอล ก็ไม่ต้องห่วงจะเกิดความวุ่นวาย หาก สว.ยังเอาไม่อยู่ เพราะ ส.ส.ทั้งหมดเกิดกำแหง คุณมีชัยยังมีศาลรัฐธรรมนูญคอยดูแลในส่วนนี้ ด้วยการมอบอำนาจพิเศษให้สามารถเขียนกฎหมายใดก็ได้ ที่ไม่มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ให้เป็นไปตามประเพณีปฏิบัติ เพื่อมีอำนาจไว้สอดส่องจริยธรรมของเหล่า ส.ส.อีกด้วย อย่างนี้ใครกล้าหืออีกล่ะครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นศาลจะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการตรวจค้นหาความหมายในพจนานุกรม หรือต้องไปหาแหล่งอ้างอิงจากรัฐธรรมนูญไทยฉบับภาษาอังกฤษให้คนไทยสับสนกันอีกต่อไป นี่ก็อีกหนึ่งข้อดีของรัฐธรรมนูญฉบับนี้
ส่วนการงดเปิดรายชื่อว่าที่นายกฯ 3 คนก่อนการเลือกตั้ง ก็อย่ามองโลกในแง่ร้ายจนเกินไปนะครับ
มันจะเป็นการสืบทอดอำนาจไปได้อย่างไรกันครับ
ในเมื่อพวกท่านบอกแต่แรก ที่ยอมเสียสละเข้ามาในครั้งนี้ทั้งๆที่ใจไม่ต้องการเลย
ก็เพื่อไม่ให้คนไทยฆ่ากันเอง
ก็เพื่อปฏิรูปประเทศให้ยั่งยืน
ก็เพื่อปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นให้หมดประเทศ
พวกท่านยังบอกอีกด้วยว่า ไม่เคยคิดจะนั่งตำแหน่งนายกฯอีกด้วย
อีกทั้งพวกท่านๆก็ยังบอกเป็นนัยๆทุกวัน
“เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แผ่นดินจะดีไม่ช้า ขอคืนความสุขให้เธอ ประชาชน”
ดังนั้นผมจึงอยากให้พวกเรามั่นใจได้เต็มที่ การไม่เปิดเผยนายกฯก่อนการเลือกตั้ง คงเป็นเพียงความต้องการให้ประชาชนเกิดความรู้สึกเซอร์ไพร์ก็ได้นะครับ เหมือนการประกาศนางงามในรอบชิงชนะเลิศไงครับ
กว่าพิธีกรจะประกาศผลผู้ชนะประกวด ต้องค่อยๆแง้ม พร้อมเสียงดนตรีประกอบอย่างตื่นเต้น ทุกๆคนคอยนั่งลุ้นกันแทบจะฉี่ราดกันเลยทีเดียวเชียว แหม ผมคิดถึงแล้ว อยากให้ถึงวันนั้นจริงๆเลยครับ จะได้ลุ้นกันมันหยดไม่แพ้ประกวดนางงามเป็นแน่แท้ครับ
ปล.แต่ถึงรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีส่วนดีดังกล่าวก็ตาม ผมก็คงไม่โหวตให้อยู่ดี เพราะผมไม่เกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมเลยแม้แต่น้อยไงครับ
อย่ามัววิตกจริตกับรัฐธรรมนูญฉบับมีชัยกันเลยนะครับ--------------ทวดเอง
อย่างเช่นการเลือกตั้งที่ผ่านมา มีปัญหาก็จากการที่เสียงส่วนน้อยไม่ยอมรับการชัยชนะของเสียงส่วนใหญ่ เลยออกชุมนุมประท้วงต่อต้าน ส่วนทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ก็ไม่พยายามทำตามหน้าที่ เลยทำให้เกิดความวุ่นวาย ประเทศเกิดวิกฤติ จนทำให้การเมืองเข้าสู่ทางตัน
คุณมีชัยก็เลยตั้งกติกาใหม่ จะเป็นการจัดสรรปันส่วนผสมก็ดี หรือจะเป็นการใช้บัตรเดียวก็ดี หรือจะเป็นการมีผู้แทน 3 คน แต่ประชาชนเลือกได้คนเดียวก็ดี ล้วนแต่เป็นการแก้ปัญหาที่จะทำให้ไม่มีพรรคไหนสามารถชนะการเลือกตั้งแบบเสร็จเหมือนที่ผ่านมา นี่คือการแก้ปัญหาไม่ต้องให้เสียงส่วนน้อยต้องออกแรงมาก่อการกู้ชาติให้ประเทศล่มจมเหมือนที่ผ่านมา
ข้อดีอีกข้อก็คือ พรรคที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งบ่อยครั้ง จนไม่กล้าลงแข่งเลือกตั้งในสถานการณ์ปกติ แล้วทำการบอยคอตการเลือกตั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าให้การเมืองวิกฤติเข้าไว้ หรือต้องออกแรงพามวลชนออกมาสู่ท้องถนน จับประชาชนเป็นตัวประกัน เพื่อล้มล้างรัฐบาลจากการเลือกตั้งอีก เพราะกติกาใหม่ เขามีการจัดสรรปันคะแนนไปให้ แม้ประชาชนจะไม่ได้เลือกก็ตาม
เมื่อไม่มีพรรคไหนสามารถชนะได้อย่างเด็ดขาด จึงยิ่งไม่ต้องเป็นห่วง สว.ลากตั้งจะมี 250 หรือ 300 คนมันก็ครือกันนั่นแหละครับ เพราะเมื่อไม่มีรัฐบาลของคนส่วนใหญ่ สว.ก็ไม่จำเป็นต้องแสดงบทบาทอะไรมาก เพียงรอยกมือโหวตนายกฯปริศนาก็พอแล้วครับ
อย่าไปกังวลกับ 40 สว.ในอดีตเลยครับ พวกนั้นเป็นพวกที่คอยขัดขวางการทำงานของรัฐบาลที่มาจากคนส่วนใหญ่เท่านั้น จึงเกิดปรากฎการณ์เดี๋ยวคนนั้นยื่นฟ้องให้กับองค์กรนี้ คนนี้ยื่นฟ้องให้กับองค์กรโน้น เป้าหมายก็แค่สกัดยับยั้งไม่ให้สร้างผลงาน ไม่ให้บริหารงานอย่างราบรื่น
ส่วนองค์กรต่างๆก็มีเป้าหมายเดียวกัน เราจึงได้เห็นแต่ละองค์กรพร้อมจะออกมารับลูกต่อทันที ถ้าเป็นการยื่นฟ้องเกี่ยวกับรัฐบาล แต่ถ้าเป็นการยื่นเรื่องเกี่ยวกับพวกเดียวกัน ก็หาวิธีไม่รับบ้าง ยกคำร้องบ้างหรือดองไว้ก่อนอะไรเทือกนี้ ทำให้ความวุ่นวายกลายเป็นความสองมาตรฐานให้องค์กรตกต่ำ เกิดวิกฤติศรัทธาอย่างแรง
แต่รัฐธรรมนูญใหม่นั้นมันไม่ใช่แล้วครับ สว.ไม่จำเป็นต้องไปฟ้องใครให้ยุ่งยาก ให้วุ่นวาย สุ่มเสี่ยงต่อความเสื่อมศรัทธา และยังสามารถรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับประเทศได้อีกด้วย นั่นคือ พวกท่านสามารถจะซักฟอกรัฐบาลได้ เสนอชื่อถอดถอนก็ได้ กลั่นกรองกฎหมายก็ได้ เห็นไหมครับ ต่อไปคงไม่มีการฟ้องร้องการอุตลุดเหมือนที่ผ่านมา
ส่วนพรรคการเมืองก็สบายขึ้นอีกมากโข ไม่ต้องคิดนโยบายให้เมื่อยตุ้ม ไม่ต้องลอกนโยบายพรรคอื่นให้ขายหน้า แค่เตรียมหาคนสัก 3 ชื่อมาเสนอให้เป็นนายกฯ เมื่อได้เป็นรัฐบาลก็ทำตามแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีอย่างเคร่งครัด แค่นั้นก็จะอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ ดีอะไรอย่างนี้นะครับ
เมื่อรัฐบาลหมดวาระ ก็ไม่ต้องเป็นห่วง คุณมีชัยยังเผื่อ สว.ให้อีก 1 ปี ในช่วงเปลี่ยนผ่าน ไว้ควบคุมรัฐบาลใหม่ให้อยู่ในกรอบ เห็นไหมครับ คุณมีชัยทำตามโรดแมปแค่ไหน
แต่ถ้ารัฐบาลไหนเกิดของเข้า อยากทำตามการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคดิจิตอล ก็ไม่ต้องห่วงจะเกิดความวุ่นวาย หาก สว.ยังเอาไม่อยู่ เพราะ ส.ส.ทั้งหมดเกิดกำแหง คุณมีชัยยังมีศาลรัฐธรรมนูญคอยดูแลในส่วนนี้ ด้วยการมอบอำนาจพิเศษให้สามารถเขียนกฎหมายใดก็ได้ ที่ไม่มีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ แต่ให้เป็นไปตามประเพณีปฏิบัติ เพื่อมีอำนาจไว้สอดส่องจริยธรรมของเหล่า ส.ส.อีกด้วย อย่างนี้ใครกล้าหืออีกล่ะครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้นศาลจะได้ไม่ต้องเหนื่อยกับการตรวจค้นหาความหมายในพจนานุกรม หรือต้องไปหาแหล่งอ้างอิงจากรัฐธรรมนูญไทยฉบับภาษาอังกฤษให้คนไทยสับสนกันอีกต่อไป นี่ก็อีกหนึ่งข้อดีของรัฐธรรมนูญฉบับนี้
ส่วนการงดเปิดรายชื่อว่าที่นายกฯ 3 คนก่อนการเลือกตั้ง ก็อย่ามองโลกในแง่ร้ายจนเกินไปนะครับ
มันจะเป็นการสืบทอดอำนาจไปได้อย่างไรกันครับ
ในเมื่อพวกท่านบอกแต่แรก ที่ยอมเสียสละเข้ามาในครั้งนี้ทั้งๆที่ใจไม่ต้องการเลย
ก็เพื่อไม่ให้คนไทยฆ่ากันเอง
ก็เพื่อปฏิรูปประเทศให้ยั่งยืน
ก็เพื่อปราบปรามทุจริตคอรัปชั่นให้หมดประเทศ
พวกท่านยังบอกอีกด้วยว่า ไม่เคยคิดจะนั่งตำแหน่งนายกฯอีกด้วย
อีกทั้งพวกท่านๆก็ยังบอกเป็นนัยๆทุกวัน
“เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แผ่นดินจะดีไม่ช้า ขอคืนความสุขให้เธอ ประชาชน”
ดังนั้นผมจึงอยากให้พวกเรามั่นใจได้เต็มที่ การไม่เปิดเผยนายกฯก่อนการเลือกตั้ง คงเป็นเพียงความต้องการให้ประชาชนเกิดความรู้สึกเซอร์ไพร์ก็ได้นะครับ เหมือนการประกาศนางงามในรอบชิงชนะเลิศไงครับ
กว่าพิธีกรจะประกาศผลผู้ชนะประกวด ต้องค่อยๆแง้ม พร้อมเสียงดนตรีประกอบอย่างตื่นเต้น ทุกๆคนคอยนั่งลุ้นกันแทบจะฉี่ราดกันเลยทีเดียวเชียว แหม ผมคิดถึงแล้ว อยากให้ถึงวันนั้นจริงๆเลยครับ จะได้ลุ้นกันมันหยดไม่แพ้ประกวดนางงามเป็นแน่แท้ครับ
ปล.แต่ถึงรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีส่วนดีดังกล่าวก็ตาม ผมก็คงไม่โหวตให้อยู่ดี เพราะผมไม่เกิดความรู้สึกมีส่วนร่วมเลยแม้แต่น้อยไงครับ