อันน ยองงงง สวัสดีมากๆ ครับทุกคน กลับมาอีกครั้งนึงหลังจากห่างหายไปไม่นาน ยังจำได้มั้ย จำได้รึเปล่า ยังจำได้ มั้ย จำได้รึเปล่าาาา กับทริป "ONCE JOURNEY TO กาญจนบุรี” ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่ให้การ ตอบรับที่ดีมากๆ จนทำให้เกิดความคิดที่จะรีวิวทริปต่อมา นั่นก็คืออออออออ “ONCE JOURNEY TO SINGAPORE” นี้ นี่เองงงง
กะมาฝากท้องกับ THAI AIRWAYS ROYAL SILK LOUNGE เต็มที่เลยครับ และเค้าก็ไม่ทำให้ผิดหวัง จริงๆ 55555+ อาหารตระการตารออยู่ตรงหน้า ไม่อาจห้ามใจได้ อิ่มถึงพรุ่งนี้เลยครับ
ได้ตั๋วแบบ 3-DAY ในราคา 30 ดอลล่าสิงคโปร์มาจ้า ก็ตกคนละเกือบๆ 800 บาท คุณสมบัติของบัตรนี้คือ
1. ท่านสามารถใช้บัตรนี้นั่งรถไฟฟ้า MRT ไปไหน เมื่อไหร่ ได้หมดทุกที่ (ยกเว้นตอนรถไฟปิดตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตีห้า ครึ่งสิงคโปร์)
2. ท่านสามารถใช้บัตรนี้นั่งรถบัสในเครือเดียวกันได้อีกด้วยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ (แต่ต้องดูให้ดีว่าเป็นชื่อเดียว กันจริงๆ ไม่งั้นเสียตังนะหนู)
3. หลังจากครบกำหนดสามวันแล้วท่านสามารถนำบัตรมาแลกเงินคืนได้ 10 เหรียญ(ประมาณ 260บาท)
**สรุปว่าซื้อตั๋วแบบนี้คุ้มสุดครับสำหรับ 3-4 วัน สะดวกสบาย ไปได้ทุกที่
ได้บัตรมาแล้ว รออะไรล่ะครับ ลุยเล้ยยยยยยยย! รถไฟฟ้าที่นี่จะมีที่นั่งน้อยครับ และจะมีราวให้ยืนจับเยอะมากกว่า สันนิษฐานว่าเพื่อให้บรรจุคนได้มากกว่า
ไม่เปลืองพื้นที่ครับ (ถูกมั้ยไม่รู้ 5555+)
ในขณะที่เราเดินตามเซ้นท์ไปเรื่อยๆ เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น “ฝนครับ ฝนตก” บางทีเราก็ต้องขอบคุณฝนนะครับ ที่ทำให้เราได้หยุดคิดอะไรบางอย่าง เช่น
– ทางนี้คือทางไปโรงแรมจริงๆหรอ?
– ทำไมไม่เห็นเจอชื่อถนนที่เราตามหา?
– ทำไมเราไม่ถามทางคนแถวนั้น?
จากนั้นครับเราก็ส่งล่ามประจำกลุ่มไปถามทางทันที จึงได้ความว่าเดินไปอีกทางนึงจากสถานีที่เราลง พระเจ้า! เรา เดินมาผิดทาง ไม่ต้องคิดไรมากเลยครับ รอฝนหยุดแล้วเดินกลับไปทางเดิม น้ำตาจะไหล TT
[CR] "ONCE IN SINGAPORE" เที่ยวสิงคโปร์แบบเบาๆ เน้นช๊อปกันกระจุย [เน้นรูปเยอะ]
- สิงคโปร์จ๋า พี่มาหาแล้วนะ -
DAY1
“เริ่มเลยมั้ย รออะไรล่ะ”
123
คำเตือน : กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่พากล้องตะลอนช้อปปิ้งอาจไม่ค่อยได้เที่ยวเท่าไหร่ฮ๊ะ วันแรกของการเดินทางก็มาถึง
เป็นคนชอบความคุ้มครับ จองไฟล์แรกเลยจ้า แหกตาไปสนามบินตั้งแต่ตีห้า พาลูกทัวร์นั่งหาวไปตามๆ กัน (หน้าเดิมๆ เพิ่มเติมคือความง่วงนอน)
กะมาฝากท้องกับ THAI AIRWAYS ROYAL SILK LOUNGE เต็มที่เลยครับ และเค้าก็ไม่ทำให้ผิดหวัง จริงๆ 55555+ อาหารตระการตารออยู่ตรงหน้า ไม่อาจห้ามใจได้ อิ่มถึงพรุ่งนี้เลยครับ
หลังจากอิ่มกันถ้วนหน้าพวกเราก็มานั่งย่อยกันที่ GATE ครับ ประตูเปิดจะได้กระโดดขึ้น เครื่องได้เลยไม่ต้องเดินไกล
ทันทีที่เครื่องออก ทุกคนต่างก็เอนกายพักผ่อน (ก่อนจะโดนปลุกขึ้นมาเพื่อเลือกว่า "จะรับอะไรดีคะ?")
และแล้วเราก็เดินทางมาถึงสนามบิน ชางฮี ฟังอีกครั้งนะครับ ชาง-ฮี (ออกเสียงให้ถูกต้องกันด้วยนะครับ เด็กๆ 555+)
บอกได้คำเดียวเลยครับว่า “ยังไม่ได้นอนเยย” ก็ถึงเร็วกว่านั่งรถจากกรุงเทพไปหัวหินซะอีก ถ่อออออออ
ด้วยความที่พวกเราไม่อยากให้การเดินทางนั้นง่ายจนเกินไป เราจึงตัดสินใจจะทำตัวเฟี้ยวเงาะด้วยการนั่ง MRT ไปโรงแรมครับผม
(ในใจคิดว่าใครๆ เขาก็ขึ้น MRT กันทั้งนั้นแหละ ไม่มีไรยากเกินความสามารถเราหรอก)
ว่าอย่างนั้นแล้วพวกเราก็ต้องนั่งรถไฟภายในสนามบินเพื่อไปขึ้น MRT ที่ Terminal2 ครับ เริ่ม!
หน้าตาของ Ticket Office สำหรับซื้อตั๋วรถไฟ MRT ครับ มีหลากหลายรูปแบบให้ได้เลือกสรรกัน
ไม่ว่า จะเป็นรายวัน รายสองวัน รายสามวัน รายเดือน
โอ้โหมีให้เลือกเยอะจนคอนแทคเลนส์ยังอายอ่ะ ก็แล้วแต่นะว่าใครจะสะดวกแบบไหน ลองไปยืนเลือกกันดูเนาะ อิอิ
ว่าแล้วเราก็ส่งล่ามประจำทีมไปเจรจาซื้อตั๋ว MRT มาครับ แปปเดียวก็เรียบร้อย
1. ท่านสามารถใช้บัตรนี้นั่งรถไฟฟ้า MRT ไปไหน เมื่อไหร่ ได้หมดทุกที่ (ยกเว้นตอนรถไฟปิดตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตีห้า ครึ่งสิงคโปร์)
2. ท่านสามารถใช้บัตรนี้นั่งรถบัสในเครือเดียวกันได้อีกด้วยโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ (แต่ต้องดูให้ดีว่าเป็นชื่อเดียว กันจริงๆ ไม่งั้นเสียตังนะหนู)
3. หลังจากครบกำหนดสามวันแล้วท่านสามารถนำบัตรมาแลกเงินคืนได้ 10 เหรียญ(ประมาณ 260บาท)
**สรุปว่าซื้อตั๋วแบบนี้คุ้มสุดครับสำหรับ 3-4 วัน สะดวกสบาย ไปได้ทุกที่
ได้บัตรมาแล้ว รออะไรล่ะครับ ลุยเล้ยยยยยยยย! รถไฟฟ้าที่นี่จะมีที่นั่งน้อยครับ และจะมีราวให้ยืนจับเยอะมากกว่า สันนิษฐานว่าเพื่อให้บรรจุคนได้มากกว่า
ไม่เปลืองพื้นที่ครับ (ถูกมั้ยไม่รู้ 5555+)
เราลง MRT ที่สถานี Sumerset ถ้าถามว่าทำไมถึงลงสถานีนี้ผมมีคำตอบครับ ก็เพราะโรงแรมอยู่ตรงนี้งายยยยย
พอขึ้นมาบนดินเท่านั้นแหละ ทุกคนหันมามองหน้ากันว่า “โรงแรมอยู่ตรงไหนว้าา?”
และสิ่งที่น่ารักที่สุดที่ไม่ควรจะเกิด ขึ้นคือไม่ได้ปริ้นแผนที่โรงแรมมาครับ มีแต่บุคกิ้งของโรงแรม
ทุกคนต่างยืนยิ้มให้แก่กัน และใช้เซ้นท์ในการเดินไป ตามถนนเรื่อยๆ ครับ
– ทางนี้คือทางไปโรงแรมจริงๆหรอ?
– ทำไมไม่เห็นเจอชื่อถนนที่เราตามหา?
– ทำไมเราไม่ถามทางคนแถวนั้น?
จากนั้นครับเราก็ส่งล่ามประจำกลุ่มไปถามทางทันที จึงได้ความว่าเดินไปอีกทางนึงจากสถานีที่เราลง พระเจ้า! เรา เดินมาผิดทาง ไม่ต้องคิดไรมากเลยครับ รอฝนหยุดแล้วเดินกลับไปทางเดิม น้ำตาจะไหล TT
และเราก็พบว่าโรงแรมนั้นอยู่ฝั่งตรงข้ามของสถานีที่เราลงมาตอนแรก 555555555555+
ถึงแล้วครับบบบบบบบบบ SOMERSET ORCHARD SINGAPORE อยู่ใกล้แค่นี้เอง เดินไปไหนกันมาน่ะพวกเรา
โรมแรมนี้คล้ายคอนโดเลย มีห้องโถง ห้องนอน 2 ห้อง มีห้องน้ำในตัว มีโซนครัว โซนทานข้าว
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบมากถึงมากที่สุด มีทุกอย่างที่ต้องการ จาน ช้อน ส้อม มีด กระทะ ไมโครเวฟ เตาประกอบ อาหาร สากกะเบือยันเรือแจว
หลังจากแยกย้ายกันพักผ่อนตามอัธยาศัย เราก็ออกมาเดินเล่นหาอะไรกินกันตอนเย็นๆ กัน
มาดูชีวิตความ เป็นอยู่ของคนสิงคโปร์กันดีกว่า
โอ้โหคำว่า " s l o w l i f e ” หายไปในพริบตา
วันแรกก็ช้อปแหลกเลยครับผม ขอบอกว่ามีหลายๆชิ้นที่ ไม่มีในเมืองไทยนะเอ้อ
ก่อนจะร่ำลากันไปวันในแรกที่สิงคโปร์ เรามีร้านบิงซูเจ๋งๆ มาแนะนำครับ สำหรับใครที่อยากน้ำแข็งใส
มากแบบทนไม่ไหว ร้านอยู่ริมถนนใต้ตึก Orchard Gateway เลย ชื่อร้าน “ ICE LAB” ที่มีหมีเป็น LOGO ^^
เบอร์สองเลยทำหน้าที่อัตโนมัติเลยทันทีจ๊ะ
“มะม่วงไง จะใครล่ะ อิอิ” อร่อยมากกกกกกกกก แค่นี้ก็ฟินละ
ในส่วนของบรรยากาศภายในร้านมีดังต่อไปนี้ครับ
มีหิมะกลางร่วงกลางร้านด้วยยยยยยย หนาวมั้ยล่ะๆ
ระหว่างเดินกลับโรงแรมก็เจอกับ "SINGAPORE VISITORS CENTRE”
เดินปรี่เข้าไปสอบถามเรื่องการเดินทางไปมาเลเซียวันพรุ่งนี้ เขาช่วยเราได้เยอะมากเลยครับ
พูดจาดีหน้าตาดูWelcomeมาก รู้สึกประทับใจ
มีอินเตอร์เน็ตให้ค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยวและการเดินทางด้วย
วันนี้สุดมาก เหนื่อยสุด เมื่อยสุด หิว สุด หลงสุด อิ่มสุด
- ฝันดี สิงคโปร์ -