" นี่ๆ นี่เธอจะไปบาหลี หรอ ว้าววว น่าสนใจอะ ธรรมชาติและวัดต้องสวยแน่ๆเลย…." เสียงจากเพื่อนสาวคนหนึ่งลอยมาหลังจากที่เปิ้ลได้เกริ่นทริปใหม่ไว้กับเพื่อน..... ทริปนี้ที่เปิ้ลจะพาเพื่อนๆไปกันคือ บาหลี วู้ววววว ทำไมต้องบาหลีหรอคะ เหตุผลง่ายๆเลยคะเพราะบาหลีเป็นเมืองที่มีความสงบและผู้คนใจดี เรียกได้ว่าอย่างกับ....ดินแดนแห่งสรวงสวรรค์
เหตุผลที่เปิ้ลใช้คำนี้ก็เพราะว่าหลายๆสถานทีนั้นสวยเหมือนเราได้ไปอยู่บนสวรรค์จริงๆเลยคะวัดบางแห่งอยู่บนภูเขาที่สูงขึ้นไปจากน้ำทะเล1000กว่าเมตร และทุกๆสถานที่ก็มีทั้งความเชื่อและตำนานที่น่าติดตามบาหลีเป็นเมืองที่ตอบโจทย์มากๆสำหรับ
คนที่ชอบความสงบ - คนที่ชอบผลไม้ - คนที่ชอบเครื่องเทศ - คนที่ชอบประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม - คนที่ชอบเรื่องราวของศาสนาฮินดู และรามายณะ สตอรี่
เปิ้ลเลยได้โอกาสอันดีที่ได้มาเยือนเกาะบาหลี ประเทศอินโดเนเซีย โดยทริปนี้จะควบประเทศสิงค์โปร์ด้วยคะ ใช้เวลา3วันใน2ประเทศเพราะเป็นทริปที่แอบที่บ้านมาเที่ยวนั่นเองเลยต้องทำเวลานิดนึงคะ5555
ข้อครวทราบและความรู้เล็กๆน้อยๆก่อนไปเที่ยวกันนะคะ
-อินโดเป็นประเทศที่มีเกาะมากกว่า2000เกาะ (เห็นพี่คนขับบอกมานะคะ)
- เกาะบาหลี ประชากรส่วนใหญ่นับถือฮินดู แต่มัสยิดก็พอมีให้เห็นบ้างนะคะ
-หากจะมาเที่ยวครวมีเวลา 3วันเป็นอย่างต่ำเพราะแต่ละที่เที่ยวอาจจะต้องขับรถนานเป็น ชั่วโมง
- ครวเซ็คสภาพอากาศก่อนจองตั๋วเดินทางก็จะดีมากคะเพราะอย่างที่ทราบกันว่าสถานที่ส่วนใหญ่เป็นวัด และธรรมชาติหากมาตอนฝนตกคงหมดสนุกแน่ๆ
- การเดินทางค่อนข้างลำบาก และถนนบางช่วงค่อนข้างเล็กป้ายบอกทางก็ไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่
- แนะนำซื้อ Local Tourหรือไม่ก็ เหมารถพร้อมคนขับนะคะ คุ้มคะ บางเจ้า นั่งได้ห้าคน ในราคาเหมาทั้งรถประมาณ1300เองคะ เท่ากับจ่ายคนละไม่กี่ร้อย หลังไมค์มาถามได้นะคะ เดี่ยวหาว่าโฆษณา555 แต่ดีจริงเลยกล้าบอกต่อคะ คนขับเป็นคนพื้นที่คุยเก่งทุกคน ถึงสำเนียงจะฟังยากอยู่บ้างคะ555
- แบงค์เค้าจะสี และตัวเลข คล้ายๆกับไทยเลยคะ 20000เค้าเป็นสีเขียวเหมือน20บาทไทย เป็นต้นคะ
- รถสาธารณะเค้าก็ป้ายเหลืองเหมือนไทยเลยคะ
- ค่าเข้าสถานที่ เช่นวัดค่อนข้างถูกแต่ พิพิธภัณฑ์บางที่แพงมากคะหลักร้อย
- อาหารมีหลากหลายเครื่องเทศเน้นๆจริงๆคะ รสชาติเข้มข้นอร่อยดีคะ
- พี่คนขับบอกว่าที่นี่มีFull Moon ด้วยนะแต่ไม่ใช่Full Moonแบบบ้านYouนะ5555 เป็นพิธีกรรมหรือไรสักอย่างในวันพระจันทร์เต็มดวง
- ศาสนาฮินดูกับพุทธมีหลายอย่างคล้ายกันเลยคะ เช่น เมื่อคนตายแล้วถ้าไม่เก็บกระดูกไว้ ก็ไปลอยน้ำขึ้นอยู่กับแต่ละการตัดสินใจของครอบครัว
- บ้านเรามีความเชื่อเกี่ยวกับการตั้งศาลไว้หน้าบ้าน บ้านเค้าก็เช่นกันคะ แต่เค้าชื่อว่าอะไรเปิ้ลลืมละแหะๆๆๆ
-ตัวละคร ในเรื่องรามายณะของเค้ากับเราใช้ชื่อคล้ายกัน ยกเว้นบางตัวเช่น นางสีดา เค้าก็จะเป็นอีกชื่อไปเลยคะ
- ครวแลกเงินเป็นUSDแล้วไปแลกเงินเค้าที่โน้น อัตราจะดีกว่าคะ
จริงๆทริปนี้ทรหดมากคะ เพราะไปนอนสนามบิน หนาวนอนไม่หลับ บนเครื่องก็ไม่หลับ สรุป40 ชั่วโมงได้มั้งคะ ที่ไม่ได้นอน เที่ยวยาว พอได้นอนก็หลับตื่นหก เจ็ดโมง และก็ไม่เหนื่อยไม่ง่วงด้วย ไม่สตรองจริงทำไม่ได้นะคะ เที่ยวคนเดียวสติ ต้องอยู่เสมอ
เกริ่นมาก็เยอะแล้วอย่าพึ่งกดเปลี่ยนหน้าไปไหนนะคะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เนื่องจากเปิ้ลได้เหมารถพร้อมคนขับไว้ วันแรกในบาหลี เลยไปแค่สองที่คะเพราะว่ากว่าจะมาถึงก็เกือบเที่ยงแล้ว ค่าใช้จ่ายก็จ่ายหลังจบทริปคะ
ที่แรกนั่นก็คือ
วัดทานาล็อต Tanah Lot
ทานาล็อต (Tanah Lot) เป็นวัดที่สำคัญของบาหลี เป็น 1 ใน 5 วัดที่ตั้งอยู่บริเวณชายหาด ริมทะเล สร้างขึ้นโดยนักบวชฮินดูชื่อว่า ดัง ฮยัง นิราร์ธา ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 เพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าและปีศาจแห่งท้องทะเลเวลาน้ำขึ้นจะดูเหมือนวัดตั้งอยู่กลางทะเลเวลาน้ำลงผู้คนจึงจะสามารถเดินข้ามทางเดินไปยังตัววัดได้ เป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวบาหลีให้ความเคารพบูชาอย่างมาก
: cr .
http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/002274/lang/th/
วัดนี้นุ่งสั้นได้นะคะ เหมือนเป็นที่ท่องเที่ยวแต่ยังไงก็แต่งกายให้เกียรติสถานที่นิดนึงจะได้เป็นนักท่องเที่ยวที่น่ารักมากๆๆๆเลยคะค่าเข้ารู้สึกว่าเป็นเงินไทยไม่กี่สิบบาท น่าเสียดายมากๆวันที่มานั้นน้ำขึ้นไม่สามารถเดินไปยังเกาะเล็กๆได้ พี่คนบอกว่าเย็นๆค่ำคนจะเยอะมาก โดยเฉพาะชาวจีน คือตรงนี้มันจะมีร้านอาหารและขายของฝากด้วยคะ ซึ่งของฝากเค้าก็คล้ายๆของไทยนะคะ เสื้อ สินค้าจากไม้ งานฝีมือต่างๆ
สิ่งหนึ่งที่เปิ้ลรู้สึกได้จากที่นี่คือความเป็นมิตรของคนท้องถิ่นความเป็นกันเอง ในระหว่างทีเดินๆอยู่มีคนบาหลีทักเปิ้ลด้วยภาษาของเค้า พี่คนขับบอกว่า เมื่อกี้เค้าทักคุณ สงสัยคุณหน้าเหมือนคนที่นี่5555
ขออนุญาติแทรกเป็นความร็สักนิดนนะคะ ถ้าใครได้มาที่นี่จะเห็นเหมือนในทุกๆบ้านจะมีคล้ายๆเป็นสิ่งก่อสร้างเล็กๆหรือขนาดเหมือนวัดย่อมๆในอนาเขตบ้าน ตาที่เปิ้ลเข้าใจน่าจะอารมณ์คล้ายกับ ศาล บ้านเรานั่นเอว หรือที่พี่เค้าใช้คำภาษาอังกฤษแทนว่าTemple นั่นก็ไม่ได้มีเป็นหุ่นขึ้นมาแบบไทยนะคะ แต่เป็นแผ่นไม้แกะสลักซะมากกว่า
พี่คนขับที่เปิ้ลเหมารถเล่าให้ฟังว่า(จริงๆคือเป็นคนขี้สงสัยถามตลอด555) พี่เค้าเป็นคนพื้นที่นะ ขออนุญาตเล่าเท่าที่จำได้นะคะ ทุกๆบ้านต้องมีtempleบางทีเค้าจะใส่กระดูกของบรรพบุรุษ โดยแบ่งออก4ประเภท
1)คือแบบอันเล็กๆไว้หน้าบ้าน
2) ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่ ที่พ่อแม่ปู่ย่าน้าอา อยู่รวมกันก็จะใหญ่ขึ้นมาใช้พื้นที่ค่อนข้างเยอะ(ไม่มีในรูปนะคะ)
3)คือแบบ ประจำหมู่บ้านก็จะใหญ่ไปเลย(คือดูผ่านๆนึกว่าวัดเล็กๆๆๆ)
4)อันนี้จำไม่ได้แล้ว
แล้วแกก็บอกว่าเรื่องขนาดของtempleก็ขึ้นอยู่กับฐานะของแต่ละบ้านด้วย ผิดถูกประการใดขออภัยด้วยนะฮาฟฟฟ. จากความจำล้วนๆ
หลังจากเดินเล่น ถ่ายรูปกันเต็มอิ่มแล้วเราก็ไปกันที่วัดต่อไปกันเลยคะ แต่ก่อนจะไปสถานที่ๆสอง เราแวะมาพบสิ่งที่หน้าสนใจกันสักครู่นึงก่อน
เดี๋ยวๆๆๆๆ ไม่ใช่ๆๆๆ 555555 จริงๆจะพาไปชมอาหารกันคะตามมาเลยยย
อันนี้เค้าใช้ชื่อว่าแพนเค้กคะ ราดกับอะไรสักอย่างคล้ายน้ำผึ้งแต่พี่ฝรั่งที่เดินจาก Hostelไปทานด้วยกันนางบอกว่าไม่ใช่นะแต่คล้ายๆ ก็ไม่ร็เหมือนกันคะว่าคืออะไร55555555
อันนี้ก็อร่อยนะคะแต่จำชื่อไม่ได้ แฮะๆๆๆๆ รสชาติเครื่องเทศเข้มข้มมากๆๆๆ
พี่คนขับๆพาไปยังสถานที่ๆสองเรียกได้ว่าไกลพอสมครว เลยคะกับการเดินทางไปแต่ละสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนตัวแล้วเปิ้ลไม่ชอบทัวร์คะ ชอบอะไรที่อิสระ ไม่ก็ถ้าไม่มีรถประจำทางก็เหมารถแบบนี้ละคะ พี่คนขับก็ใจดีมากๆ ถามตลอดถ้าคุณ หิวน้ำหิวข้าวบอกได้ทุกเมื่อเลยนะเดี่ยวแวะจอดให้ อยากรู้อะไรถามได้เลยนะ ถ้าง่วงจะนอนก็นอนได้เลยนะ55555
.วัดอูลันดานูบราตัน (Pura Ulun Danu Bratan
ปุราอูลันดานูบราตัน (Pura Ulun Danu Bratan) หรือวัดอูลันดานูบราตัน ตั้งอยู่บริเวณกลางน้ำริมทะเลสาบบราตัน มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟสูงทะมึน บางช่วงถูกคั่นด้วยปุยเมฆสีขาว วัดนี้สร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้ทำพิธีทางศาสนาพุทธและฮินดู รวมทั้งอุทิศแด่เทวี ดานู เทพแห่งสายน้ำ ไม่สามารถเดินข้ามไปยังวัดได้ มีลักษณะเด่นตรงศาลาซึ่งมีหลังคาทรงสูงที่เรียกว่าเมรุ มุงด้วยฟางซ้อนกันถึง 11 ชั้น สวยงามมากมักปรากฏอยู่ในภาพถ่ายโฆษณาการท่องเที่ยวของบาหลีเสมอ ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 3,000รูเปียห์
cr.
http://www.oceansmile.com/IndoBali/WatUlanDanuBatan.htm
ท้องฟ้าสวยมากๆเลยใช่ไหมคะ จริงๆระหว่างทางฝนแอบตกเล็กน้อยด้วยคะ
หลังจากที่ขึ้นเขาคดเคี้ยวเส้นทางขึ้นลง เลี้ยวหักศอกต่อๆกัน มา เห็นหมอกตลอดทางขึ้นไปอากาศบนภูเขาเย็นนิดๆแต่สวยมากจริงๆคะคุ้มมากๆ แถมยังได้ดูโชว์ฟรีๆอีก ข้างทางบนภูเขาเค้าก็จะปลูกผลไม้ขายคะเช่น สตอเบอร์รี่ มีตลาดผลไม้เล็กๆ
เรียกได้ว่าระหว่างทางหมอกเยอะมากๆตื่นตา ตื่นใจคะไม่ค่อยได้เจอ55555
มีการเรียนการสอน การแสดงท้องถิ่นด้วยคะชาวต่างชาติสนใจกันมากๆเลย เพื่อนเปิ้ลเรียนเอกบัลเลย์ นางบอกว่า ระบำของอินโดนี่ยากสุดๆเลยคะ
งานเอว งานไหล่ งานก้นต้องมา
ดนตรีของเค้ามักเน้นที่เครื่องRhythmและประเภทเครื่องตีที่มีระดับเสียงคล้ายๆระนาดคะ
ในอีกมุมนึงคะ พี่คนขับบอกว่าที่นี่ก็เป็นไฮไล้ท์อีกที่เลยนะ
หลังจากนั้นเปิ้ลก็มาพักที่Ubud พนักงานที่โฮสเทลที่เปิ้ลพักน่ารักมากๆคือคนเค้าน่ารักจริงๆ ที่ชาร์ตไม่ได้เอาปลั๊กทดมา เค้าก็พยายามช่วยหา ตัวอื่นๆให้ ยืม จะเช็คเอ้าท์ นั่งรอรถ พนักงานก็ถามว่าชอบเพลงแนวไหนเป็นพิเศษไหมเดี่ยวเปิดให้
ตัวเมืองUBUDคะ แทบนี้เป็นอีกแทบที่มีนักท่องเที่ยวพักกันมากมายเลยคะ
ที่นี่เค้าก็มีความเชื่อเช่นเดียวกันคะ ในเรื่องของงาของพระพิฆเนศ ว่างาของท่านหักด้านไหนมีความหมายว่ายังไง ที่สำคัญกลิ่นธูปที่นี่หอมมากจนอยากซื้อกลับไปจุดดมเล่นเองที่บ้านเลยคะ5555
[CR] MISSION COMPLETE : BALI-SINGAPORE 3Days 2Nights คนเดียวก็เปรี้ยวได้นะจ๊ะ
เหตุผลที่เปิ้ลใช้คำนี้ก็เพราะว่าหลายๆสถานทีนั้นสวยเหมือนเราได้ไปอยู่บนสวรรค์จริงๆเลยคะวัดบางแห่งอยู่บนภูเขาที่สูงขึ้นไปจากน้ำทะเล1000กว่าเมตร และทุกๆสถานที่ก็มีทั้งความเชื่อและตำนานที่น่าติดตามบาหลีเป็นเมืองที่ตอบโจทย์มากๆสำหรับ
คนที่ชอบความสงบ - คนที่ชอบผลไม้ - คนที่ชอบเครื่องเทศ - คนที่ชอบประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม - คนที่ชอบเรื่องราวของศาสนาฮินดู และรามายณะ สตอรี่
เปิ้ลเลยได้โอกาสอันดีที่ได้มาเยือนเกาะบาหลี ประเทศอินโดเนเซีย โดยทริปนี้จะควบประเทศสิงค์โปร์ด้วยคะ ใช้เวลา3วันใน2ประเทศเพราะเป็นทริปที่แอบที่บ้านมาเที่ยวนั่นเองเลยต้องทำเวลานิดนึงคะ5555
-อินโดเป็นประเทศที่มีเกาะมากกว่า2000เกาะ (เห็นพี่คนขับบอกมานะคะ)
- เกาะบาหลี ประชากรส่วนใหญ่นับถือฮินดู แต่มัสยิดก็พอมีให้เห็นบ้างนะคะ
-หากจะมาเที่ยวครวมีเวลา 3วันเป็นอย่างต่ำเพราะแต่ละที่เที่ยวอาจจะต้องขับรถนานเป็น ชั่วโมง
- ครวเซ็คสภาพอากาศก่อนจองตั๋วเดินทางก็จะดีมากคะเพราะอย่างที่ทราบกันว่าสถานที่ส่วนใหญ่เป็นวัด และธรรมชาติหากมาตอนฝนตกคงหมดสนุกแน่ๆ
- การเดินทางค่อนข้างลำบาก และถนนบางช่วงค่อนข้างเล็กป้ายบอกทางก็ไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่
- แนะนำซื้อ Local Tourหรือไม่ก็ เหมารถพร้อมคนขับนะคะ คุ้มคะ บางเจ้า นั่งได้ห้าคน ในราคาเหมาทั้งรถประมาณ1300เองคะ เท่ากับจ่ายคนละไม่กี่ร้อย หลังไมค์มาถามได้นะคะ เดี่ยวหาว่าโฆษณา555 แต่ดีจริงเลยกล้าบอกต่อคะ คนขับเป็นคนพื้นที่คุยเก่งทุกคน ถึงสำเนียงจะฟังยากอยู่บ้างคะ555
- แบงค์เค้าจะสี และตัวเลข คล้ายๆกับไทยเลยคะ 20000เค้าเป็นสีเขียวเหมือน20บาทไทย เป็นต้นคะ
- รถสาธารณะเค้าก็ป้ายเหลืองเหมือนไทยเลยคะ
- ค่าเข้าสถานที่ เช่นวัดค่อนข้างถูกแต่ พิพิธภัณฑ์บางที่แพงมากคะหลักร้อย
- อาหารมีหลากหลายเครื่องเทศเน้นๆจริงๆคะ รสชาติเข้มข้นอร่อยดีคะ
- พี่คนขับบอกว่าที่นี่มีFull Moon ด้วยนะแต่ไม่ใช่Full Moonแบบบ้านYouนะ5555 เป็นพิธีกรรมหรือไรสักอย่างในวันพระจันทร์เต็มดวง
- ศาสนาฮินดูกับพุทธมีหลายอย่างคล้ายกันเลยคะ เช่น เมื่อคนตายแล้วถ้าไม่เก็บกระดูกไว้ ก็ไปลอยน้ำขึ้นอยู่กับแต่ละการตัดสินใจของครอบครัว
- บ้านเรามีความเชื่อเกี่ยวกับการตั้งศาลไว้หน้าบ้าน บ้านเค้าก็เช่นกันคะ แต่เค้าชื่อว่าอะไรเปิ้ลลืมละแหะๆๆๆ
-ตัวละคร ในเรื่องรามายณะของเค้ากับเราใช้ชื่อคล้ายกัน ยกเว้นบางตัวเช่น นางสีดา เค้าก็จะเป็นอีกชื่อไปเลยคะ
- ครวแลกเงินเป็นUSDแล้วไปแลกเงินเค้าที่โน้น อัตราจะดีกว่าคะ
จริงๆทริปนี้ทรหดมากคะ เพราะไปนอนสนามบิน หนาวนอนไม่หลับ บนเครื่องก็ไม่หลับ สรุป40 ชั่วโมงได้มั้งคะ ที่ไม่ได้นอน เที่ยวยาว พอได้นอนก็หลับตื่นหก เจ็ดโมง และก็ไม่เหนื่อยไม่ง่วงด้วย ไม่สตรองจริงทำไม่ได้นะคะ เที่ยวคนเดียวสติ ต้องอยู่เสมอ
เกริ่นมาก็เยอะแล้วอย่าพึ่งกดเปลี่ยนหน้าไปไหนนะคะ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เนื่องจากเปิ้ลได้เหมารถพร้อมคนขับไว้ วันแรกในบาหลี เลยไปแค่สองที่คะเพราะว่ากว่าจะมาถึงก็เกือบเที่ยงแล้ว ค่าใช้จ่ายก็จ่ายหลังจบทริปคะ
ที่แรกนั่นก็คือ
วัดทานาล็อต Tanah Lot
ทานาล็อต (Tanah Lot) เป็นวัดที่สำคัญของบาหลี เป็น 1 ใน 5 วัดที่ตั้งอยู่บริเวณชายหาด ริมทะเล สร้างขึ้นโดยนักบวชฮินดูชื่อว่า ดัง ฮยัง นิราร์ธา ตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 เพื่ออุทิศแด่เทพเจ้าและปีศาจแห่งท้องทะเลเวลาน้ำขึ้นจะดูเหมือนวัดตั้งอยู่กลางทะเลเวลาน้ำลงผู้คนจึงจะสามารถเดินข้ามทางเดินไปยังตัววัดได้ เป็นวัดที่มีความศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวบาหลีให้ความเคารพบูชาอย่างมาก
: cr .http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/002274/lang/th/
วัดนี้นุ่งสั้นได้นะคะ เหมือนเป็นที่ท่องเที่ยวแต่ยังไงก็แต่งกายให้เกียรติสถานที่นิดนึงจะได้เป็นนักท่องเที่ยวที่น่ารักมากๆๆๆเลยคะค่าเข้ารู้สึกว่าเป็นเงินไทยไม่กี่สิบบาท น่าเสียดายมากๆวันที่มานั้นน้ำขึ้นไม่สามารถเดินไปยังเกาะเล็กๆได้ พี่คนบอกว่าเย็นๆค่ำคนจะเยอะมาก โดยเฉพาะชาวจีน คือตรงนี้มันจะมีร้านอาหารและขายของฝากด้วยคะ ซึ่งของฝากเค้าก็คล้ายๆของไทยนะคะ เสื้อ สินค้าจากไม้ งานฝีมือต่างๆ
สิ่งหนึ่งที่เปิ้ลรู้สึกได้จากที่นี่คือความเป็นมิตรของคนท้องถิ่นความเป็นกันเอง ในระหว่างทีเดินๆอยู่มีคนบาหลีทักเปิ้ลด้วยภาษาของเค้า พี่คนขับบอกว่า เมื่อกี้เค้าทักคุณ สงสัยคุณหน้าเหมือนคนที่นี่5555
ขออนุญาติแทรกเป็นความร็สักนิดนนะคะ ถ้าใครได้มาที่นี่จะเห็นเหมือนในทุกๆบ้านจะมีคล้ายๆเป็นสิ่งก่อสร้างเล็กๆหรือขนาดเหมือนวัดย่อมๆในอนาเขตบ้าน ตาที่เปิ้ลเข้าใจน่าจะอารมณ์คล้ายกับ ศาล บ้านเรานั่นเอว หรือที่พี่เค้าใช้คำภาษาอังกฤษแทนว่าTemple นั่นก็ไม่ได้มีเป็นหุ่นขึ้นมาแบบไทยนะคะ แต่เป็นแผ่นไม้แกะสลักซะมากกว่า
พี่คนขับที่เปิ้ลเหมารถเล่าให้ฟังว่า(จริงๆคือเป็นคนขี้สงสัยถามตลอด555) พี่เค้าเป็นคนพื้นที่นะ ขออนุญาตเล่าเท่าที่จำได้นะคะ ทุกๆบ้านต้องมีtempleบางทีเค้าจะใส่กระดูกของบรรพบุรุษ โดยแบ่งออก4ประเภท
1)คือแบบอันเล็กๆไว้หน้าบ้าน
2) ถ้าเป็นครอบครัวใหญ่ ที่พ่อแม่ปู่ย่าน้าอา อยู่รวมกันก็จะใหญ่ขึ้นมาใช้พื้นที่ค่อนข้างเยอะ(ไม่มีในรูปนะคะ)
3)คือแบบ ประจำหมู่บ้านก็จะใหญ่ไปเลย(คือดูผ่านๆนึกว่าวัดเล็กๆๆๆ)
4)อันนี้จำไม่ได้แล้ว
แล้วแกก็บอกว่าเรื่องขนาดของtempleก็ขึ้นอยู่กับฐานะของแต่ละบ้านด้วย ผิดถูกประการใดขออภัยด้วยนะฮาฟฟฟ. จากความจำล้วนๆ
หลังจากเดินเล่น ถ่ายรูปกันเต็มอิ่มแล้วเราก็ไปกันที่วัดต่อไปกันเลยคะ แต่ก่อนจะไปสถานที่ๆสอง เราแวะมาพบสิ่งที่หน้าสนใจกันสักครู่นึงก่อน
เดี๋ยวๆๆๆๆ ไม่ใช่ๆๆๆ 555555 จริงๆจะพาไปชมอาหารกันคะตามมาเลยยย
อันนี้เค้าใช้ชื่อว่าแพนเค้กคะ ราดกับอะไรสักอย่างคล้ายน้ำผึ้งแต่พี่ฝรั่งที่เดินจาก Hostelไปทานด้วยกันนางบอกว่าไม่ใช่นะแต่คล้ายๆ ก็ไม่ร็เหมือนกันคะว่าคืออะไร55555555
อันนี้ก็อร่อยนะคะแต่จำชื่อไม่ได้ แฮะๆๆๆๆ รสชาติเครื่องเทศเข้มข้มมากๆๆๆ
พี่คนขับๆพาไปยังสถานที่ๆสองเรียกได้ว่าไกลพอสมครว เลยคะกับการเดินทางไปแต่ละสถานที่ท่องเที่ยว ส่วนตัวแล้วเปิ้ลไม่ชอบทัวร์คะ ชอบอะไรที่อิสระ ไม่ก็ถ้าไม่มีรถประจำทางก็เหมารถแบบนี้ละคะ พี่คนขับก็ใจดีมากๆ ถามตลอดถ้าคุณ หิวน้ำหิวข้าวบอกได้ทุกเมื่อเลยนะเดี่ยวแวะจอดให้ อยากรู้อะไรถามได้เลยนะ ถ้าง่วงจะนอนก็นอนได้เลยนะ55555
.วัดอูลันดานูบราตัน (Pura Ulun Danu Bratan
ปุราอูลันดานูบราตัน (Pura Ulun Danu Bratan) หรือวัดอูลันดานูบราตัน ตั้งอยู่บริเวณกลางน้ำริมทะเลสาบบราตัน มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟสูงทะมึน บางช่วงถูกคั่นด้วยปุยเมฆสีขาว วัดนี้สร้างตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 เพื่อใช้ทำพิธีทางศาสนาพุทธและฮินดู รวมทั้งอุทิศแด่เทวี ดานู เทพแห่งสายน้ำ ไม่สามารถเดินข้ามไปยังวัดได้ มีลักษณะเด่นตรงศาลาซึ่งมีหลังคาทรงสูงที่เรียกว่าเมรุ มุงด้วยฟางซ้อนกันถึง 11 ชั้น สวยงามมากมักปรากฏอยู่ในภาพถ่ายโฆษณาการท่องเที่ยวของบาหลีเสมอ ต้องเสียค่าเข้าชมคนละ 3,000รูเปียห์
cr. http://www.oceansmile.com/IndoBali/WatUlanDanuBatan.htm
ท้องฟ้าสวยมากๆเลยใช่ไหมคะ จริงๆระหว่างทางฝนแอบตกเล็กน้อยด้วยคะ
หลังจากที่ขึ้นเขาคดเคี้ยวเส้นทางขึ้นลง เลี้ยวหักศอกต่อๆกัน มา เห็นหมอกตลอดทางขึ้นไปอากาศบนภูเขาเย็นนิดๆแต่สวยมากจริงๆคะคุ้มมากๆ แถมยังได้ดูโชว์ฟรีๆอีก ข้างทางบนภูเขาเค้าก็จะปลูกผลไม้ขายคะเช่น สตอเบอร์รี่ มีตลาดผลไม้เล็กๆ
เรียกได้ว่าระหว่างทางหมอกเยอะมากๆตื่นตา ตื่นใจคะไม่ค่อยได้เจอ55555
มีการเรียนการสอน การแสดงท้องถิ่นด้วยคะชาวต่างชาติสนใจกันมากๆเลย เพื่อนเปิ้ลเรียนเอกบัลเลย์ นางบอกว่า ระบำของอินโดนี่ยากสุดๆเลยคะ
งานเอว งานไหล่ งานก้นต้องมา
ดนตรีของเค้ามักเน้นที่เครื่องRhythmและประเภทเครื่องตีที่มีระดับเสียงคล้ายๆระนาดคะ
ในอีกมุมนึงคะ พี่คนขับบอกว่าที่นี่ก็เป็นไฮไล้ท์อีกที่เลยนะ
หลังจากนั้นเปิ้ลก็มาพักที่Ubud พนักงานที่โฮสเทลที่เปิ้ลพักน่ารักมากๆคือคนเค้าน่ารักจริงๆ ที่ชาร์ตไม่ได้เอาปลั๊กทดมา เค้าก็พยายามช่วยหา ตัวอื่นๆให้ ยืม จะเช็คเอ้าท์ นั่งรอรถ พนักงานก็ถามว่าชอบเพลงแนวไหนเป็นพิเศษไหมเดี่ยวเปิดให้
ตัวเมืองUBUDคะ แทบนี้เป็นอีกแทบที่มีนักท่องเที่ยวพักกันมากมายเลยคะ
ที่นี่เค้าก็มีความเชื่อเช่นเดียวกันคะ ในเรื่องของงาของพระพิฆเนศ ว่างาของท่านหักด้านไหนมีความหมายว่ายังไง ที่สำคัญกลิ่นธูปที่นี่หอมมากจนอยากซื้อกลับไปจุดดมเล่นเองที่บ้านเลยคะ5555
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น