เมื่อวานไปดูเรื่อง Zootopia มาครับ ที่โรงเมเจอร์ เซ็นทรัลหาดใหญ่ รอบ 1 ทุ่ม 5 นาที เป็นการกลับไปดูหนังครั้งแรกในรอบหลายเดือน ที่จริงเป็นคนชอบดูหนังมากครับ แต่ว่าจะไปดูแค่วันจันทร์ที่มีโปร imax 1 แถม 1 ซะมากกว่า ซึ่งโรงปกติของเมเจอร์ผมแทบจะไม่แตะเลยแต่เพราะแฟนอยากดูเรื่องนี้ก็เลยไปดูด้วย เนื่องด้วยราคาที่ดู "เอาเปรียบ" กันหลายช่องทางและมากเกินไป
กลับเข้าเรื่องครับ 555 เมื่อวานก็เลยดูโรงปกติครับเพราะโรง Imax ไม่มีเรื่องนี้ เป็นเรื่อง London has fallen แทน พอไปถึงก็ตรงไปที่เคาร์เตอร์ขายตั๋วละก็สั่งตั๋ว2ใบ แล้วพี่พนักงานก็ถามว่าใช้โปรโมชั่นอะไรคะ ? นี่ก็งงก็เลยตอบกลับไปว่า ไม่มีครับ ไม่ทราบว่าจะซื้อตั๋วเงินสดได้มั้ยครับ? พี่พนักงานก็บอกงั้นลองไปตรงเคาเตอร์ที่ทำบัตรนะคะ ก็ไปถามสรุปว่าต้องมีบัตร Mcash ครับ ทีนี้ก็เริ่มหงุดหงิดละครับ เพระปกติที่เคยมาดูก็ซื้อตั๋วเงินสดได้ แต่ไหงครั้งนี้ต้องทำบัตร เลยไปถาม(เรียกว่าโวยดีกว่า)พี่พนักงานคนเดิม ว่าปกติก็ใช้เงินสดได้หนิทำไมครั้งนี้ต้องทำบัตร? จนมีพี่ผู้ชายที่เป็นพนักงานเหมือนกันมาบอกว่าให้ไปที่ตู้ละก็เดี๋ยวให้พนักงานอีกคนกดให้โดยใช้บัตรของเค้า ผมก็คิดในใจ(แล้วจะให้ทำบัตรทำด๋อยไรอะ - -)
ต่อครับ ก็ไปหน้าตู้ละพี่พนักงานก็กดให้ปรากฎว่าราคาที่นั่งธรรมดา 200 ครับ ผมนี่แบบอึ้งไปเลยครับคิดว่าอะไรวะหนังเข้าสัปดาห์กว่าละ ยัง200อีกเหรอ แพงไปมั้ย? บอกเลยตอนนั้นคิดถึง SF จับใจครับ(แต่หาดใหญ่ไม่มี)โรง SF ที่เคยดู 120 เองครับ แต่ที่หงุดหงิดกว่านั้นคือเข้าไปในโรงราวๆ 1 ทุ่ม แทนที่ตั๋วหนังแพงแล้วจะฉายหนังเลย ไม่ครับ มีโฆษณาอีกครับพี่น้อง!!! รวมๆเวลาที่ลองจับเวลาดูราวครึ่งชั่วโมงครับ โอ้ยยยย นี่ตูเสียตังค์แพงๆมาดูหนังแล้วต้องมาทนดูโฆษณาอีกเหรอฟะ จะเอาเปรียบผู้บริโภคมากไปละ เลยอยากจะให้ทุกคนมาแชร์กันครับว่าโรงหนังค่ายนี้มีวิธีอะไรที่นำมาคิดตังค์เอาเปรียบผู้บริโภคอีกครับ อันนี้ที่ผมเจอนะครับ
1. ค่าตั๋วหนังที่แพงบรรลัยแพงกว่าอีกค่ายจนเกือบจะถึงสองเท่าและราคาตั๋วที่ผันผวน
ก็เข้าใจนะครับว่าบางคนอาจจะคิดว่า เห้ย เงินแค่นี้จะมาบ่นทำไมอะ อันนี้ไม่เกี่ยวนะครับผมว่าเพราะนี่คือการเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างแท้จริง ตังค์สองร้อยบางคนอาจจะอยู่ได้ถึงสองวัน หนักไปกว่านั้นแค่หนังเรื่องเดียวก็เกือบจะเท่ากับอัตรค่าครองชีพขั้นต่ำซะด้วยซ้ำ และที่มากกว่านั้นคือความผันผวนของราคาครับ บางวันอยากจะขึ้นก็ขึ้นเอาเอง ถ้าหนังยาวๆก็คิดเพิ่มอีก โถ่
2. ป๊อปคอร์นหน้าโรงที่นึกว่านำเข้าจากดาวอังคาร(หรืออาจจะคั่วกลางแดดทุ่งหญ้าสะวันนา)
อืมมม ข้อนี้นี่ผมก็ไม่ค่อยสันทัดนะครับเพราะส่วนมากจะกินให้อิ่มก่อนเข้าไปดูในโรง แต่จากที่สอบถามเพื่อนมาก็บอกกันว่าราคาป๊อปคอร์นกล่องนึง สามารถเอาไปดูหนังได้อีกเรื่องนึงสบายๆ นี่ก็สงสัยนะป๊อปคอร์นนี่ก็ตอกแถวบ้านชัดๆ แถวบ้านห่อ 10 บาทด้วย หรือเค้าอาจจะนำเข้าข้าวโพดสายพันธุ์ดีที่ฝากพี่ มาร์ค วัทนีย์ ใน The Martian ไปปลูกบนดาวอังคาร
3. โฆษณาจะเยอะไปไหมเพ่
ข้อนี้มันน่าบ่นจริงๆนะครับ คิดดูคิดค่าตั๋วก็แพ๊งงง แพงงง กว่าชาวบ้านเค้าก็แล้ว ยังต้องมาเสียเวลานั่งดูโฆษณาอีกราวๆครึ่ง ชม ทีหลังก็บอกไว้หน้าโรงเลยก็ได้นะครับว่าหนังจะฉาย "จริง" ตอนกี่โมง ไม่ใช่ให้มานั่งดูโฆษณาจนเซ็ง สรุปว่าโรงน่าจะได้เงินจากโฆษณาอีกนะเนี่ยนอกจากค่าตั๋วแล้ว ยอมใจจริงๆ
4. พกบัตรจนล้นกระเป๋า
จากที่ลองนับๆดูบัตรของทางเมเจอร์มีถึงสามใบด้วยกัน คือ M cash, M gen และสุดท้าย IMAX คือก็เข้าใจนะครับว่าอยากให้สะดวกและอาจจะปูไปสู่การไม่ต้องจ้างพนักงานในอนาคต แต่คือพี่ครับผมรู้สึกว่าพี่ก็ทำมานานนนนน แล้วนะครับนี่พี่ก็ยังไม่เปลี่ยนไปเป็นตู้ขายแบบไม่มีพนักงานอีกเหรอครับ ไปกี่ครั้ง กี่ครั้ง ก็เจอแต่พนักงานเต็มไปหมดจนคิดว่าทำไมไม่จ้างแค่พนักงานฟะ แหม่ มีการเชียร์ขายบัตรกันด้วยนะครับ เปิดบัตรใหม่ก็ต้องเสียตังค์อีกนะครับแหม่ ถ้าสมมติปีนึงดูหนังนานๆที เงินที่เหลือก็โอนเข้าบัตรใหม่ไม่ได้ด้วย อุ๊ย กำไรสองต่อ สมมติเหลือใบละ 20 แสนใบก็ 2 ล้านแล้วนะครับ ทั้งๆที่กำตังค์ละจ่ายเงินสดเลยง่ายกว่ามั้ย?
หมดเรื่องบ่นละครับ ก็สำหรับคนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ขอบคุณนะครับที่อุตส่านั่งฟังผมบ่น ก็รู้อยู่ว่าเสียงเล็กๆของผมมันไม่มีความหมายหรอกครับแต่ถ้าทุกคน
ช่วยๆกันแชร์ ช่วยๆกันดันกระทู้นี้เป็นกระทู้แนะนำ ถึงแม้เราอาจเปลี่ยนอะไรไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าอย่างน้อยมันก็ดีกว่าเราไม่พยายามทำอะไรเลย แล้วยอมโดนโขกสับแบบนี้ไปตลอด แล้วก็ถ้าทางเมเจอร์ผ่านมาเห็นกระทู้นี้ผมอยากบอกว่า ถ้าคุณทำธุรกิจแบบหวังแต่ได้ คุณก็จะได้แค่เงินไม่มีทางได้ใจลูกค้าแน่นอนครับ คุณลองคิดดูหากคุณลองลดค่าตั๋วหรือค่าป๊อปคอร์นหน้าโรงลงหน่อย พอตั๋วถูกคนก็จะออกมาดูหนังมากขึ้น เผลอๆคุณได้กำไรเยอะกว่าตอนที่คุณขึ้นค่าตั๋วแพงซะด้วยว้ำ เหมือนผมที่ถ้าเกิดว่าตั๋วราคาสมเหตุสมผลก็จะออกมาดูในโรงอย่างแน่นอน เงินสองร้อยสำหรับบางคนอาจน้อยแต่ถ้าลองคิดดูว่าเงินสองร้อยคูณคนดูไปอีก แสน หรือล้านคน มันเป็นจำนวนเงินที่มากโขอยู่นะครับ
ปล. ผมก็แค่ผู้บริโภคตัวเล็กๆคนนึงที่ออกมาบ่นและอยากให้การดูหนังของไทยเข้าถึงได้ทุกระดับชั้น ไม่ได้อยากจะดิสเครดิตหรืออะไรนะครับ แค่พูดตามที่ตัวเองและคนรอบข้างเคยเจอมา หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ลองอ่านกันดูครับ http://manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9590000025602
คิดว่าโรงหนังค่ายเมเจอร์ค้ากำไรเกินควรรึเปล่าครับ ?
กลับเข้าเรื่องครับ 555 เมื่อวานก็เลยดูโรงปกติครับเพราะโรง Imax ไม่มีเรื่องนี้ เป็นเรื่อง London has fallen แทน พอไปถึงก็ตรงไปที่เคาร์เตอร์ขายตั๋วละก็สั่งตั๋ว2ใบ แล้วพี่พนักงานก็ถามว่าใช้โปรโมชั่นอะไรคะ ? นี่ก็งงก็เลยตอบกลับไปว่า ไม่มีครับ ไม่ทราบว่าจะซื้อตั๋วเงินสดได้มั้ยครับ? พี่พนักงานก็บอกงั้นลองไปตรงเคาเตอร์ที่ทำบัตรนะคะ ก็ไปถามสรุปว่าต้องมีบัตร Mcash ครับ ทีนี้ก็เริ่มหงุดหงิดละครับ เพระปกติที่เคยมาดูก็ซื้อตั๋วเงินสดได้ แต่ไหงครั้งนี้ต้องทำบัตร เลยไปถาม(เรียกว่าโวยดีกว่า)พี่พนักงานคนเดิม ว่าปกติก็ใช้เงินสดได้หนิทำไมครั้งนี้ต้องทำบัตร? จนมีพี่ผู้ชายที่เป็นพนักงานเหมือนกันมาบอกว่าให้ไปที่ตู้ละก็เดี๋ยวให้พนักงานอีกคนกดให้โดยใช้บัตรของเค้า ผมก็คิดในใจ(แล้วจะให้ทำบัตรทำด๋อยไรอะ - -)
ต่อครับ ก็ไปหน้าตู้ละพี่พนักงานก็กดให้ปรากฎว่าราคาที่นั่งธรรมดา 200 ครับ ผมนี่แบบอึ้งไปเลยครับคิดว่าอะไรวะหนังเข้าสัปดาห์กว่าละ ยัง200อีกเหรอ แพงไปมั้ย? บอกเลยตอนนั้นคิดถึง SF จับใจครับ(แต่หาดใหญ่ไม่มี)โรง SF ที่เคยดู 120 เองครับ แต่ที่หงุดหงิดกว่านั้นคือเข้าไปในโรงราวๆ 1 ทุ่ม แทนที่ตั๋วหนังแพงแล้วจะฉายหนังเลย ไม่ครับ มีโฆษณาอีกครับพี่น้อง!!! รวมๆเวลาที่ลองจับเวลาดูราวครึ่งชั่วโมงครับ โอ้ยยยย นี่ตูเสียตังค์แพงๆมาดูหนังแล้วต้องมาทนดูโฆษณาอีกเหรอฟะ จะเอาเปรียบผู้บริโภคมากไปละ เลยอยากจะให้ทุกคนมาแชร์กันครับว่าโรงหนังค่ายนี้มีวิธีอะไรที่นำมาคิดตังค์เอาเปรียบผู้บริโภคอีกครับ อันนี้ที่ผมเจอนะครับ
1. ค่าตั๋วหนังที่แพงบรรลัยแพงกว่าอีกค่ายจนเกือบจะถึงสองเท่าและราคาตั๋วที่ผันผวน
ก็เข้าใจนะครับว่าบางคนอาจจะคิดว่า เห้ย เงินแค่นี้จะมาบ่นทำไมอะ อันนี้ไม่เกี่ยวนะครับผมว่าเพราะนี่คือการเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างแท้จริง ตังค์สองร้อยบางคนอาจจะอยู่ได้ถึงสองวัน หนักไปกว่านั้นแค่หนังเรื่องเดียวก็เกือบจะเท่ากับอัตรค่าครองชีพขั้นต่ำซะด้วยซ้ำ และที่มากกว่านั้นคือความผันผวนของราคาครับ บางวันอยากจะขึ้นก็ขึ้นเอาเอง ถ้าหนังยาวๆก็คิดเพิ่มอีก โถ่
2. ป๊อปคอร์นหน้าโรงที่นึกว่านำเข้าจากดาวอังคาร(หรืออาจจะคั่วกลางแดดทุ่งหญ้าสะวันนา)
อืมมม ข้อนี้นี่ผมก็ไม่ค่อยสันทัดนะครับเพราะส่วนมากจะกินให้อิ่มก่อนเข้าไปดูในโรง แต่จากที่สอบถามเพื่อนมาก็บอกกันว่าราคาป๊อปคอร์นกล่องนึง สามารถเอาไปดูหนังได้อีกเรื่องนึงสบายๆ นี่ก็สงสัยนะป๊อปคอร์นนี่ก็ตอกแถวบ้านชัดๆ แถวบ้านห่อ 10 บาทด้วย หรือเค้าอาจจะนำเข้าข้าวโพดสายพันธุ์ดีที่ฝากพี่ มาร์ค วัทนีย์ ใน The Martian ไปปลูกบนดาวอังคาร
3. โฆษณาจะเยอะไปไหมเพ่
ข้อนี้มันน่าบ่นจริงๆนะครับ คิดดูคิดค่าตั๋วก็แพ๊งงง แพงงง กว่าชาวบ้านเค้าก็แล้ว ยังต้องมาเสียเวลานั่งดูโฆษณาอีกราวๆครึ่ง ชม ทีหลังก็บอกไว้หน้าโรงเลยก็ได้นะครับว่าหนังจะฉาย "จริง" ตอนกี่โมง ไม่ใช่ให้มานั่งดูโฆษณาจนเซ็ง สรุปว่าโรงน่าจะได้เงินจากโฆษณาอีกนะเนี่ยนอกจากค่าตั๋วแล้ว ยอมใจจริงๆ
4. พกบัตรจนล้นกระเป๋า
จากที่ลองนับๆดูบัตรของทางเมเจอร์มีถึงสามใบด้วยกัน คือ M cash, M gen และสุดท้าย IMAX คือก็เข้าใจนะครับว่าอยากให้สะดวกและอาจจะปูไปสู่การไม่ต้องจ้างพนักงานในอนาคต แต่คือพี่ครับผมรู้สึกว่าพี่ก็ทำมานานนนนน แล้วนะครับนี่พี่ก็ยังไม่เปลี่ยนไปเป็นตู้ขายแบบไม่มีพนักงานอีกเหรอครับ ไปกี่ครั้ง กี่ครั้ง ก็เจอแต่พนักงานเต็มไปหมดจนคิดว่าทำไมไม่จ้างแค่พนักงานฟะ แหม่ มีการเชียร์ขายบัตรกันด้วยนะครับ เปิดบัตรใหม่ก็ต้องเสียตังค์อีกนะครับแหม่ ถ้าสมมติปีนึงดูหนังนานๆที เงินที่เหลือก็โอนเข้าบัตรใหม่ไม่ได้ด้วย อุ๊ย กำไรสองต่อ สมมติเหลือใบละ 20 แสนใบก็ 2 ล้านแล้วนะครับ ทั้งๆที่กำตังค์ละจ่ายเงินสดเลยง่ายกว่ามั้ย?
หมดเรื่องบ่นละครับ ก็สำหรับคนที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ขอบคุณนะครับที่อุตส่านั่งฟังผมบ่น ก็รู้อยู่ว่าเสียงเล็กๆของผมมันไม่มีความหมายหรอกครับแต่ถ้าทุกคนช่วยๆกันแชร์ ช่วยๆกันดันกระทู้นี้เป็นกระทู้แนะนำ ถึงแม้เราอาจเปลี่ยนอะไรไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าอย่างน้อยมันก็ดีกว่าเราไม่พยายามทำอะไรเลย แล้วยอมโดนโขกสับแบบนี้ไปตลอด แล้วก็ถ้าทางเมเจอร์ผ่านมาเห็นกระทู้นี้ผมอยากบอกว่า ถ้าคุณทำธุรกิจแบบหวังแต่ได้ คุณก็จะได้แค่เงินไม่มีทางได้ใจลูกค้าแน่นอนครับ คุณลองคิดดูหากคุณลองลดค่าตั๋วหรือค่าป๊อปคอร์นหน้าโรงลงหน่อย พอตั๋วถูกคนก็จะออกมาดูหนังมากขึ้น เผลอๆคุณได้กำไรเยอะกว่าตอนที่คุณขึ้นค่าตั๋วแพงซะด้วยว้ำ เหมือนผมที่ถ้าเกิดว่าตั๋วราคาสมเหตุสมผลก็จะออกมาดูในโรงอย่างแน่นอน เงินสองร้อยสำหรับบางคนอาจน้อยแต่ถ้าลองคิดดูว่าเงินสองร้อยคูณคนดูไปอีก แสน หรือล้านคน มันเป็นจำนวนเงินที่มากโขอยู่นะครับ
ปล. ผมก็แค่ผู้บริโภคตัวเล็กๆคนนึงที่ออกมาบ่นและอยากให้การดูหนังของไทยเข้าถึงได้ทุกระดับชั้น ไม่ได้อยากจะดิสเครดิตหรืออะไรนะครับ แค่พูดตามที่ตัวเองและคนรอบข้างเคยเจอมา หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้