เจรจาตกลงผ่อนชำระหนี้เงินกู้ ส่งทุกเดือน โทรมาจิกตลอด เสนอโปรฯลดบ้าง เสนอให้กู้สถาบันการเงินอื่นมาปิดบ้าง
ส่งมาปีกว่า อยู่ดีๆกลับมาบ้านเจอหมายประกาศยึดทรัพย์ โทรตามตัวแทนก็บ่ายเบี่ยง ตอบว่าเป็นคดีพิพากษาไปแล้วผ่อนไมไ่ด้
ให้หาเงินก้อนมาปิดอย่างเดียว ไม่งั้นบ้านถูกขายทอดตลาด มีเวลา 1-2 เดือนนะ
แล้วทำไมไม่บอกว่าผ่อนไม่ได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
พยายามขอเข้าพบ พนง ธนาคารที่ดูแลและมีอำนาจตัดสินใจ ก็ถูกสกัดเข้าไม่ถึงสักที
จนต้องเข้าไปเสียงดังที่ธนาคาร ถึงได้เจอนิติกรอีกแผนก เข้ามาช่วยประสานงาน
ทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้น แต่น้องนิติกร คงโดนตำหนิมาว่าก้าวก่ายงาน สรุปให้เรารอ จนท ติดต่อกลับเหมือนเดิม
วันนั้นสงสารน้องนิติกรเลยอ่ะ เค้ารู้เต็มอกว่าเราโดนอะไร แต่ทำอะไรไม่ได้ พูดมากทำลายองค์กร
เราเองแค่อยากจะเข้ามาเจรจาในฐานะที่เป็นลูกหนี้ที่แสดงเจตนาชำระหนี้มาโดยตลอด จะเอาระยะเวลาการขายทอดตลาด
มาบีบเอาเงินก้อนกับเรา เราว่าธนาคารทำกับเราเกินไป เราผิดที่เคยผิดนัดชำระหนี้มาก่อน แต่เราก็หันหน้าเข้ามารับใช้หนี้
และเจรจาตกลงกันแล้ว ( ผ่อนขั้นต่ำ 1 ปี แล้วปรับยอดผ่อนใหม่ ไม่เกิน 36 เดือนหาเงินมาปิดบัญชีที่เหลือ ) และตั้งแต่มีการเจรจา
เราก็ผ่อนมาทุกเดือนไม่มีขาดหรือล่าช้า อ้นที่จริงการแจ้งกองบังคับคดียึดทรัพย์ ต้องทำกับลูกหนี้ที่นิ่งเงียบ
ไม่คุย ไม่เจรจา ไม่หนี ไม่จ่าย แต่นิติกรที่เข้ามาช่วยประสานงานเค้าก็หลุดมาว่า ถ้าขอตั้งเรื่องยึดทรัพย์ไปแล้ว
ทางสำนักกฏหมายไม่ยอมไปชะลอการยึดทรัพย์ หรือตั้งใจให้เกิดการยึดทรัพย์
เราเสนอ 1. ขอปิดบัญชี ตามที่ตัวแทนเคยเสนอยอดไป.......... ไม่ยอมให้ปิดในราคาลดหนี้แล้ว............
2. ถ้าธนาคารจะเอาเงินก้อนแบบไม่ลดหนี้ เราขอผ่อนเป็นงวดๆ โดยการทำสัญญาใหม่ก็ได้ แต่ขอให้มีการชะลอการขายทอดตลาด
................. ไม่ยอม บอกเพียงว่า ธนาคารไม่มีนโยบาย ...... ถ้าไม่หาเงินมาปิด ธนาคารจะดำเนินการขายทอดตลาดต่อไป
ขณะ นิติกร ธนาคารเดียวกันยังถกเถียงกันเอง ( จรรยาบรรณมีไม่เท่ากันอ่ะนะ) เราคงต้องเลิกหวังความเห็นใจจากคนธนาคารนี้
ต้องร้องขอความเป็นธรรม ขอพิจารณาคดีใหม่ เด่วผลเป็นไง มาแชร์นะคะ ใครตกที่นั่งแบบเรา อ่านไว้เป็นอุทธาหรณ์ อย่าเสียรู้เป็นรายต่อไป
ผ่อนชำระเงินกู้มาตลอด แต่โดนหมายยึดทรัพย์... ทำไมธนาคารสีม่วงทำกับเราแบบนี้
ส่งมาปีกว่า อยู่ดีๆกลับมาบ้านเจอหมายประกาศยึดทรัพย์ โทรตามตัวแทนก็บ่ายเบี่ยง ตอบว่าเป็นคดีพิพากษาไปแล้วผ่อนไมไ่ด้
ให้หาเงินก้อนมาปิดอย่างเดียว ไม่งั้นบ้านถูกขายทอดตลาด มีเวลา 1-2 เดือนนะ
แล้วทำไมไม่บอกว่าผ่อนไม่ได้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
พยายามขอเข้าพบ พนง ธนาคารที่ดูแลและมีอำนาจตัดสินใจ ก็ถูกสกัดเข้าไม่ถึงสักที
จนต้องเข้าไปเสียงดังที่ธนาคาร ถึงได้เจอนิติกรอีกแผนก เข้ามาช่วยประสานงาน
ทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้น แต่น้องนิติกร คงโดนตำหนิมาว่าก้าวก่ายงาน สรุปให้เรารอ จนท ติดต่อกลับเหมือนเดิม
วันนั้นสงสารน้องนิติกรเลยอ่ะ เค้ารู้เต็มอกว่าเราโดนอะไร แต่ทำอะไรไม่ได้ พูดมากทำลายองค์กร
เราเองแค่อยากจะเข้ามาเจรจาในฐานะที่เป็นลูกหนี้ที่แสดงเจตนาชำระหนี้มาโดยตลอด จะเอาระยะเวลาการขายทอดตลาด
มาบีบเอาเงินก้อนกับเรา เราว่าธนาคารทำกับเราเกินไป เราผิดที่เคยผิดนัดชำระหนี้มาก่อน แต่เราก็หันหน้าเข้ามารับใช้หนี้
และเจรจาตกลงกันแล้ว ( ผ่อนขั้นต่ำ 1 ปี แล้วปรับยอดผ่อนใหม่ ไม่เกิน 36 เดือนหาเงินมาปิดบัญชีที่เหลือ ) และตั้งแต่มีการเจรจา
เราก็ผ่อนมาทุกเดือนไม่มีขาดหรือล่าช้า อ้นที่จริงการแจ้งกองบังคับคดียึดทรัพย์ ต้องทำกับลูกหนี้ที่นิ่งเงียบ
ไม่คุย ไม่เจรจา ไม่หนี ไม่จ่าย แต่นิติกรที่เข้ามาช่วยประสานงานเค้าก็หลุดมาว่า ถ้าขอตั้งเรื่องยึดทรัพย์ไปแล้ว
ทางสำนักกฏหมายไม่ยอมไปชะลอการยึดทรัพย์ หรือตั้งใจให้เกิดการยึดทรัพย์
เราเสนอ 1. ขอปิดบัญชี ตามที่ตัวแทนเคยเสนอยอดไป.......... ไม่ยอมให้ปิดในราคาลดหนี้แล้ว............
2. ถ้าธนาคารจะเอาเงินก้อนแบบไม่ลดหนี้ เราขอผ่อนเป็นงวดๆ โดยการทำสัญญาใหม่ก็ได้ แต่ขอให้มีการชะลอการขายทอดตลาด
................. ไม่ยอม บอกเพียงว่า ธนาคารไม่มีนโยบาย ...... ถ้าไม่หาเงินมาปิด ธนาคารจะดำเนินการขายทอดตลาดต่อไป
ขณะ นิติกร ธนาคารเดียวกันยังถกเถียงกันเอง ( จรรยาบรรณมีไม่เท่ากันอ่ะนะ) เราคงต้องเลิกหวังความเห็นใจจากคนธนาคารนี้
ต้องร้องขอความเป็นธรรม ขอพิจารณาคดีใหม่ เด่วผลเป็นไง มาแชร์นะคะ ใครตกที่นั่งแบบเรา อ่านไว้เป็นอุทธาหรณ์ อย่าเสียรู้เป็นรายต่อไป