สวัสดีครับเพื่อน
วันนี้ผมมีเรื่องที่น่าสนใจเรื่องนึงที่จะมาแชร์ให้ฟัง
อาจจะมีประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำของแต่ละคน
ไม่มากก็น้อย ถ้าผิดพลาดหรือพูดไม่เข้าหูประการใด
ผมขออภัยมาณที่นี้ด้วยนะครับ
วันนี้ผมจะมาพูดเรื่องชีวิตของวัยรุ่นฝรั่ง
ในแต่ละช่วงของชีวิต เขาทำอะไรกันบ้าง!!!
ผมเป็นเด็กคนนึงครับที่ตอนนี้อายุ 21
ผมมาอยู่ที่ซิดนีย์ (ออสเตรเลีย) ตั้งแต่ผมเรียนจบ ม.6
(ตอนที่มาน่าจะอายุ 18 ย่าง 19 รวมๆ ตอนนี้ก็ 2 ปีแล้วครับ)
ใจจริงก็ไม่ได้อยากมาเล๊ย!!! พ่อส่งมาอ่ะดิ -..-'
มาอยู่นี่ผมมาคนเดียวครับ ไม่รู้จักกับใครเลย
ไปนู่นไปนี่ต้องใช้ GPS ตลอด แต่พอเรียนภาษาไปเรื่อยๆ ก็มีเพื่อนต่างชาติคอยพาไปนู่นไปนี่ครับ
พอผมเรียนจบภาษา 6 เดือน หลังจากนั้นผมก็ได้ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่หนึ่ง ของออสเตรเลีย
ในช่วงที่เรียนมหาลัยฯ มันทำให้ผมได้เจอเพื่อนฝรั่งมากขึ้น ได้รู้จักชีวิตในแต่ละวันของเขามากขึ้นครับ
จากที่ได้ฟังเพื่อนฝรั่งของผมเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน และชีวิตในแต่ละวัย ก็คือประมาณว่า
- ช่วงมัธยม หรือ High School เป็นช่วงที่สนุกที่สุดในชีวิตวัยรุ่นแล้ว
ช่วงเช้าตื่นมาต้องทำอาหารเช้า แต่งตัวไปเรียน นัดเจอเพื่อนๆ หน้า รร แล้วเข้า รร พร้อมกัน
ช่วงกลางวันก็มีทำกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่น เล่นรักบี้ ฟุตบอล แครกเกอร์
พอช่วงปิดเทอมก็จะมีงานเลี้ยง หรือที่เรียกว่า งาน Prom
และฝรั่งเขาเริ่มมีแฟนอย่างจริงจังเมื่อตอนอายุ 16
พอช่วงเวลาจากการเรียน หรือวันหยุดก็จะหากิจกรรมต่างๆ ทำ
อย่าเช่นทำ Passtime หรือไม่ก็อาจตะมีปาร์ตี้บ้าง
พอเข้าช่วงจบมัธยม หรืออายุประมาณ 19
ทางครอบครัวฝรั่งนั้นจะให้ลูกออกจากบ้าน หรือเรียกง่ายๆ ก็คือ ให้ไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง
ต้องเริ่มหางานทำ หาที่อยู่เอง หรือถ้าใครจะเรียนต่อในระดับมหาลัยฯ ก็ต้องทำงานเก็บเงินเรียนเอง
โดยที่ทางบ้านจะไม่เข้ามายุ่งเลย ก็จะมีติดต่อ พบปะกินข้าวสังสรรค์กันบ้าง
ในช่วงที่ไปใช้ชีวิตยอกบ้านคุณสามารถใช้ชีวิตอยู่กับแฟนหรือคนรักได้
เพราะฝรั่งเขาไม่ซีเรียสเรื่องนี้ ขอแค่คุณไม่ลืมหน้าที่ของตัวเอง
และอีกอย่าง ฝรั่งเขามีระเบียบวินัยมากครับ
เป็นคนตรงต่อเวลา อย่างเช่นถ้านัดเวลานี้ ต้องมาก่อนเวลาประมาณ 15 นาที
หรือเวลาไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ คุณอยากจะซื้อเครื่องดื่มฟรือแอลกอฮอ คุณก็ต้องต่อคิว
(ถึงจะเมามากแค่ไหนก็ตาม)
เวลาขึ้นบันไดเลื่อนต้องชิดซ้าย เพื่อให้ทางขวาโล่งตลอด เพื่อให้คนที่รีบกว่าได้เดินผ่าน
ข้ามไฟแดงต้องกดปุ่มข้ามทาง เพื่อรอสัญญาไฟในการข้าน
(เพราะถ้าไม่กด คุณก็คงจะยืนอยูตรงนั้นทั้งคืน เพราะสัญญาณไฟสำหรับข้ามไม่ขึ้นสักที)
ในช่วงอายุ 19-39 ปีของชีวิตฝรั่ง ส่วนมากจะเน้นการทำงาน เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคตครับ
นั่นแหละครับ ที่ไม่แปลกเลย ทำไมเวลาเราเห็นฝรั่งมาเที่ยวที่ไทย ทำไมเขาดูชิวจัง ใช้จ่ายได้สบายๆ
การทำ Passtime ของฝรั่งไม่ใช่เรื่องน่าอายครับ เพราะฝรั่งเขาแข่งกันทำงาน แข่งกันโต
ใครเติบโตได้เร็วกว่านั่นคือเจ๋ง และเท่ห์มากครับ
แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนไทย เวลาเห็นคนทำ Passtime ถึงมองว่าจน
อย่ามองอย่างนั้นเลยครับ เพราะมันคือการฝึกประสบการณ์ และเพิ่มสกิลในการทำงานให้เรามากขึ้น
วัยรุ่นฝรั่งนิยมจะใช้ชีวิตร่วมกัน ก่อนจะแต่งงานครับ
ช่วงใกล้สอบ ประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก่อนสอบ เวลาว่างตอนกลางวันวัยรุ่นฝรั่งเขาจะเข้าห้องสมุดกันครับ
(เรียกว่าแทบจะอยู่เป็นบ้านเลยก็ว่าได้ครับ)
เป็นไงบ้างครับ เรื่องที่ผมเอามาแชร์ น่าจะมีผระโยชน์กับเพื่อนๆ บ้าง ไม่มากก็น้อย
ถ้าเพื่อนๆ ไม่ชอบ หรือผมพูดไม่เข้าหูตรงไหน ผมก็ขออภัยด้วยนะครับ
ที่จริงมีอีกหลายมุมจะมาเล่าให้ฟังครับ แต่ตอนนี้ดึกแล้วครับ ต้องนอนแล้ว
ขอบคุณเพื่อนๆ มากครับที่อ่านกระทู้นี้ ไว้มีโอกาสจะกลับมาแชร์ประสบการณ์ต่างๆ ให้ได้อ่านกันอีหนะครับ
ขอบคุณครับ Thanks so much everyone for reading
ชีวิตของวัยรุ่นฝรั่ง
วันนี้ผมมีเรื่องที่น่าสนใจเรื่องนึงที่จะมาแชร์ให้ฟัง
อาจจะมีประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำของแต่ละคน
ไม่มากก็น้อย ถ้าผิดพลาดหรือพูดไม่เข้าหูประการใด
ผมขออภัยมาณที่นี้ด้วยนะครับ
วันนี้ผมจะมาพูดเรื่องชีวิตของวัยรุ่นฝรั่ง
ในแต่ละช่วงของชีวิต เขาทำอะไรกันบ้าง!!!
ผมเป็นเด็กคนนึงครับที่ตอนนี้อายุ 21
ผมมาอยู่ที่ซิดนีย์ (ออสเตรเลีย) ตั้งแต่ผมเรียนจบ ม.6
(ตอนที่มาน่าจะอายุ 18 ย่าง 19 รวมๆ ตอนนี้ก็ 2 ปีแล้วครับ)
ใจจริงก็ไม่ได้อยากมาเล๊ย!!! พ่อส่งมาอ่ะดิ -..-'
มาอยู่นี่ผมมาคนเดียวครับ ไม่รู้จักกับใครเลย
ไปนู่นไปนี่ต้องใช้ GPS ตลอด แต่พอเรียนภาษาไปเรื่อยๆ ก็มีเพื่อนต่างชาติคอยพาไปนู่นไปนี่ครับ
พอผมเรียนจบภาษา 6 เดือน หลังจากนั้นผมก็ได้ศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่หนึ่ง ของออสเตรเลีย
ในช่วงที่เรียนมหาลัยฯ มันทำให้ผมได้เจอเพื่อนฝรั่งมากขึ้น ได้รู้จักชีวิตในแต่ละวันของเขามากขึ้นครับ
จากที่ได้ฟังเพื่อนฝรั่งของผมเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน และชีวิตในแต่ละวัย ก็คือประมาณว่า
- ช่วงมัธยม หรือ High School เป็นช่วงที่สนุกที่สุดในชีวิตวัยรุ่นแล้ว
ช่วงเช้าตื่นมาต้องทำอาหารเช้า แต่งตัวไปเรียน นัดเจอเพื่อนๆ หน้า รร แล้วเข้า รร พร้อมกัน
ช่วงกลางวันก็มีทำกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่น เล่นรักบี้ ฟุตบอล แครกเกอร์
พอช่วงปิดเทอมก็จะมีงานเลี้ยง หรือที่เรียกว่า งาน Prom
และฝรั่งเขาเริ่มมีแฟนอย่างจริงจังเมื่อตอนอายุ 16
พอช่วงเวลาจากการเรียน หรือวันหยุดก็จะหากิจกรรมต่างๆ ทำ
อย่าเช่นทำ Passtime หรือไม่ก็อาจตะมีปาร์ตี้บ้าง
พอเข้าช่วงจบมัธยม หรืออายุประมาณ 19
ทางครอบครัวฝรั่งนั้นจะให้ลูกออกจากบ้าน หรือเรียกง่ายๆ ก็คือ ให้ไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง
ต้องเริ่มหางานทำ หาที่อยู่เอง หรือถ้าใครจะเรียนต่อในระดับมหาลัยฯ ก็ต้องทำงานเก็บเงินเรียนเอง
โดยที่ทางบ้านจะไม่เข้ามายุ่งเลย ก็จะมีติดต่อ พบปะกินข้าวสังสรรค์กันบ้าง
ในช่วงที่ไปใช้ชีวิตยอกบ้านคุณสามารถใช้ชีวิตอยู่กับแฟนหรือคนรักได้
เพราะฝรั่งเขาไม่ซีเรียสเรื่องนี้ ขอแค่คุณไม่ลืมหน้าที่ของตัวเอง
และอีกอย่าง ฝรั่งเขามีระเบียบวินัยมากครับ
เป็นคนตรงต่อเวลา อย่างเช่นถ้านัดเวลานี้ ต้องมาก่อนเวลาประมาณ 15 นาที
หรือเวลาไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ คุณอยากจะซื้อเครื่องดื่มฟรือแอลกอฮอ คุณก็ต้องต่อคิว
(ถึงจะเมามากแค่ไหนก็ตาม)
เวลาขึ้นบันไดเลื่อนต้องชิดซ้าย เพื่อให้ทางขวาโล่งตลอด เพื่อให้คนที่รีบกว่าได้เดินผ่าน
ข้ามไฟแดงต้องกดปุ่มข้ามทาง เพื่อรอสัญญาไฟในการข้าน
(เพราะถ้าไม่กด คุณก็คงจะยืนอยูตรงนั้นทั้งคืน เพราะสัญญาณไฟสำหรับข้ามไม่ขึ้นสักที)
ในช่วงอายุ 19-39 ปีของชีวิตฝรั่ง ส่วนมากจะเน้นการทำงาน เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ในอนาคตครับ
นั่นแหละครับ ที่ไม่แปลกเลย ทำไมเวลาเราเห็นฝรั่งมาเที่ยวที่ไทย ทำไมเขาดูชิวจัง ใช้จ่ายได้สบายๆ
การทำ Passtime ของฝรั่งไม่ใช่เรื่องน่าอายครับ เพราะฝรั่งเขาแข่งกันทำงาน แข่งกันโต
ใครเติบโตได้เร็วกว่านั่นคือเจ๋ง และเท่ห์มากครับ
แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมคนไทย เวลาเห็นคนทำ Passtime ถึงมองว่าจน
อย่ามองอย่างนั้นเลยครับ เพราะมันคือการฝึกประสบการณ์ และเพิ่มสกิลในการทำงานให้เรามากขึ้น
วัยรุ่นฝรั่งนิยมจะใช้ชีวิตร่วมกัน ก่อนจะแต่งงานครับ
ช่วงใกล้สอบ ประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก่อนสอบ เวลาว่างตอนกลางวันวัยรุ่นฝรั่งเขาจะเข้าห้องสมุดกันครับ
(เรียกว่าแทบจะอยู่เป็นบ้านเลยก็ว่าได้ครับ)
เป็นไงบ้างครับ เรื่องที่ผมเอามาแชร์ น่าจะมีผระโยชน์กับเพื่อนๆ บ้าง ไม่มากก็น้อย
ถ้าเพื่อนๆ ไม่ชอบ หรือผมพูดไม่เข้าหูตรงไหน ผมก็ขออภัยด้วยนะครับ
ที่จริงมีอีกหลายมุมจะมาเล่าให้ฟังครับ แต่ตอนนี้ดึกแล้วครับ ต้องนอนแล้ว
ขอบคุณเพื่อนๆ มากครับที่อ่านกระทู้นี้ ไว้มีโอกาสจะกลับมาแชร์ประสบการณ์ต่างๆ ให้ได้อ่านกันอีหนะครับ
ขอบคุณครับ Thanks so much everyone for reading