มีชายวัย 50 กว่าๆ 3 คนเคยเป็นเพื่อนกันสมัยมัธยม มาเจอกันที่สนามบินแห่งหนึ่งเพราะต่างก็มาคอยรับลูกสาวที่กำลังเรียนมหาลัย พอเจอกันก็พากันไปนั่งที่มุมกาแฟ คนที่ 1 ทำธุรกิจขับเบ๊นช์ ราคา 3 ล้านกว่า แต่เขาเป็นหนี้แบ๊งค์อยู่ 12 ล้าน ชีวิตอยู่แบบเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย คนที่ 2 เป็น ผอ.ขับคัมรี่ไฮบริด ล้านเจ็ด แต่เป็นหนี้แบ๊งค์ อยู่เกือบ 4 ล้านเพราะสร้างบ้านหลังโตด้วย ชีวิตเขาเลยต้องวุ่นๆ อยู่กับเรื่องเงินๆ ทองๆ คนที่ 3 เป็นคนบ้านๆ ทำสวนยางและไร่นาผสม มีเงินฝากแบ๊งค์ 2 ล้าน ขับอีซูซุมังกรทอง ราคาแสนสอง แต่ชีวิตเขาเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร พอเล่าเรื่องชีวิตกันแล้ว คนที่ 2 บอกว่าอิจฉาคนที่ 1 คนที่ 3 บอกว่าอิจฉาคนที่ 2 ส่วนคนที่ ขับเบ๊นช์ ดันมาอิจฉาคนขับมังกรทอง แล้วเมื่อเครื่องบินลงจอด ลูกสาวของทั้ง 3 คนมาถึงต่างก็แนะนำให้รู้จักคุณพ่อทั้ง 3 แล้วแยกย้ายกันไปขึ้นรถ แล้วช่างบังเอิญว่ารถของ ทั้ง 3 คันจอดตามหลังกันอยู่อีก คิดว่าลูกๆ จะคิดเหมือนพ่อๆ เขาไหม
จริงไหม ที่เขาว่ารถยนต์นอกจากเป็นยานพาหนะแล้วยังเป็นตัวบ่งบอกอะไรบางอย่างด้วย