ไปกะเรา บางกะเจ้า

กลับมาบ่นๆอีกแล้ว คราวนี้ไปบางกะเจ้ามาครับ ขออนุญาตไม่ตั้งเป็น CR นะครับเพราะไม่ได้มีข้อมูลถึงขนาดจะเรียกว่าเป็นรีวิวได้
มีแค่รูปกับบ่นอะไรไม่รู้เยอะแยะเสียมากกว่า รูปก็ถ่ายมาไม่ครบ นี่ไง เริ่มมาก็บ่นละ -*-

นัดเจอกับเพื่อนอีก 2 คนที่สถานีรถไฟใต้ดินศูนย์การประชุมสิริกิติ์ตอนสายๆ ออกทางออกฝั่งตรงข้ามศูนย์สิริกิติ์แล้วเรียกแท็กซี่ไปลงที่วัดคลองเตยนอก ไปช่วงรถไม่ติดเสียค่าแท็กซี่ไป 49 บาท แท็กซี่จอดตรงหน้าวัดมีร้านข้าวร้านขายของอะไรเยอะแยะ ลงจากรถปุ๊บก็ถูกจู่โจมปั๊บ มีน้าคนนึงแกเข้ามาถามว่าจะขึ้นเรือไปปั่นจักรยานฝั่งนู้นใช่มั้ย เนี่ยๆเช้าจักรยานร้านนี้สิใหม่ๆทั้งนั้นแล้วนั่งเรือฟรีเที่ยวนึงด้วยนะ จริงๆถ้าคิดๆไปแล้วก็ถูกกว่าไปเองแหละเพราะได้นั่งเรือฟรีขาไป แต่ด้วยความไม่ชอบการถูกฮาร์ดเซลล์ขนาดนั้นเลยหันหน้าหนีแล้วปล่อยให้เพื่อนเอาตัวรอดไปเอง

เดินตามทางข้างวัดไปถึงท่าน้ำหน้าตาอาคารก็เก่าได้ใจแบบในรูป จ่ายเงินค่าตั๋วเรือคนละ 10 บาท อันนี้เป็นเรือเล็กนะ จ่ายเงินเสร็จเค้าก็ข้ามไปส่งเลยไม่ต้องรอใคร แต่จริงๆก็มีเรือใหญ่ค่าโดยสารคนละ 5 บาทด้วย นั่งเรือเล็กก็สนุกดี เพื่อนกลัวตกน้ำตายจนเสียบุคลิกไปเลย จริงๆเรือไม่ได้ซิ่งขนาดนั้นหรอกแต่คนไม่ชินก็จะกลัวนิดๆหละ

เรือเราไปขึ้นฝั่งที่ท่าเรือกำนันขาว ตรงนั้นมีให้เช่าจักรยานเลย เช่าทั้งวันราคา 80 บาท แล้วก็มีแบบ 120 ซึ่งสภาพดีกว่า แต่ด้วยความงกเอา 80 บาทก็พอ เช็คสภาพรถ จ่ายเงิน ยื่นบัตรไว้เป็นตัวประกัน รับแผนที่แล้วก็ออกปั่นกันเลย จะไปไหนก็ไป วันนั้นแดดไม่ค่อยแรง ฟ้าครึ้มๆถ่ายอะไรมาก็ไม่สวย แต่อากาศอบอ้าวมาก มากที่สุด

เราแวะที่แรกที่สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เป็นสวนกว้างๆมีบึงน้ำใหญ่ๆ มีสะพานให้ถ่ายรูปสวยๆ มีที่ให้ดูนก ใครๆมาก็แวะปั่นจักรยานที่นี่กันทั้งนั้น ถ้าอยากได้เจ้าหน้าที่นำเที่ยวก็ติดต่อที่เคาท์เตอร์ทางเข้าสวนได้เลย เห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติเค้าติดต่อกันอยู่แต่เราคิดว่าคงไม่ต้องเลยไม่ได้เข้าไปสอบถามราคา ปั่นกันไปเองตามทาง ชอบมุมไหนก็แวะถ่ายรูปได้ตามใจ



โดยส่วนตัวคิดว่าก็ไม่ได้สวยมาก ร้อนด้วย แต่ที่แน่ๆคือเวลาหายใจแล้วมันหายใจได้เต็มปอด มันรู้สึกอิ่ม รู้สึกว่าเออ อากาศบริสุทธิ์มันต้องแบบนี้แหละ


ปั่นจักรยานเล่นกันอยู่พักนึงก็หิวข้าวเลยออกจากสวนไปหาข้าวกินกันดีกว่า ปั่นไปเรื่อยๆก็เห็นว่าเออ สงบดี บ้านคนยังไม่เยอะ รถยังไม่ค่อยเยอะ อันนี้หมายถึงคนพื้นที่นะไม่ได้หมายถึงนักท่องเที่ยวเพราะเราไปวันอังคารไม่ค่อยมีใครมาเที่ยวหรอก ที่เห็นก็เป็นต่างชาติทั้งนั้น ร้านค้าก็เลยไม่ค่อยเปิดกันด้วย ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งก็ไม่เปิดนะ จะเปิดแค่เสาร์ อาทิตย์ เพราะงั้นใครจะไปก็ถามใจก่อนว่าอยากไปแบบไหน จะไปซื้อของทำกิจกรรมนั่นนี่เยอะๆก็ไปเสาร์อาทิตย์ ถ้าไปแบบพวกขี้เกียจทำกิจกรรมแบบเราแล้วก็ไม่ชอบเจอคนเยอะก็ไปวันธรรมดา

มาหยุดปรึกษากันอยู่หน้าร้านกาแฟว่าแวะหรือไม่แวะดี จะมีข้าวกินมั้ย จะแพงป่าว จะอิ่มมั้ย อยู่ๆก็มีลุงมอเตอร์ไซค์รับจ้างขี่มาจอดถามว่าจะไปไหนกันเลยบอกลุงว่าหาร้านข้าวอยู่ครับ ลุงเลยแนะนำว่าปั่นไปเนี่ยปากซอยมีร้านข้าวอร่อยอยู่ ด้วยความเชื่อคนง่ายแล้วก็ไม่มีอะไรให้เลือกด้วยเลยปั่นไปปากซอย ลุงนี่แม่นจริงๆ อร่อยมาก ถูกมากด้วย เราสั่งราดหน้ามาจานใหญ่มากก็ 35 บาท อิ่มกำลังดีเลย ส่วนเรื่องพิกัดร้านก็ไม่รู้หรอก ชื่อร้านก็ไม่ได้จำ ก็ตามลุงเค้ามาอะ ขอโทษด้วยครับ

เป้าหมายต่อไปคือไป Bangkok Tree House เพราะเพื่อนอ่านรีวิวมาบอกว่าถ่ายรูปสวยดี อืมๆ ไปๆ กิจกรรมหลักก็คือถ่ายรูปอยู่แล้วนี่ ตอนแรกก็ตามแผนที่กระดาษอยู่ดีๆไอ้คนนำทางก็เปิดแผนที่ในโทรศัพท์แล้วบอกมีทางลัด เอาหละ ไปทางลัดก็ได้ แต่โห ทางโคตรจะแคบ เข้าป่าเค้าดงจนกลัวว่าตายไปก็คงไม่มีใครรู้แน่ๆแต่สุดท้ายก็ไปถึงจนได้ ใครไปแนะนำนะ ไปตามแผนที่ที่เค้าแจกเถอะ อย่าหาทางเองเลย อันตราย ถึงร้านเช่าจักรยานจะบอกว่าถ้าหลงให้โทรหาได้แต่ถ้าหลงแบบอยู่กลางดงอะไรก็ไม่รู้จะบอกเค้าว่ายังไงอะ หลงแบบหลงอย่างแท้จริงมันจะแย่เอานะ

Bangkok Tree House เป็นที่พักแล้วก็เป็นร้านอาหารด้วย วันที่เราไปมีนักท่องเที่ยวนิดหน่อย พวกเราเพิ่งกินข้าวกันมาอิ่มๆเลยกินอะไรหนักๆไม่ไหวแล้ว ขอสั่งขนมมากินแก้เขินสักเล็กน้อยดีกว่า

ที่นี่บรรยากาศดีมาก ติดแม่น้ำเลย นั่งแช่กันอยู่นานมาก ถ่ายรูปเยอะมาก เรียกว่าโอ้เอ้เลยแหละ ขี้เกียจไปไหนแล้ว หลังจากนี้จะมีแต่รูปแล้วมั้ง ไม่มีอะไรจะเล่าละ แหะๆ




ไปถ่ายรูปริมน้ำได้นะแต่ระวังๆด้วย มันค่อนข้างโคลงเคลงเลย




ถ่ายไป ถ่ายทุกมุม ถ่ายให้หมด อยู่ที่นี่นานมากเพราะไม่ร้อนเท่าไหร่



ถ่ายรูปเยอะจนรู้สึกว่าควรจะย้ายที่ได้แล้ว ตอนแรกว่าจะปั่นจักรยานกลับเลยแต่ออกไปเห็นป้ายว่าถนนสีเขียวแล้วดูแผนที่แล้ววนกลับไปที่ท่าเรือได้ก็เลยปั่นไป ก็ไม่มีอะไรมาก เป็นทางจักรยานแคบๆแบบถ้ามีมอเตอร์ไซค์หรือจักรยานสวนมาต้องจอดหลบดีๆไม่งั้นตกไปคอหักตาย โปรดใช้ความระมัดระวังอย่างที่สุด ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ทำที่กั้น บางช่วงก็มีกั้นไว้ฝั่งนึง บางช่วงไม่มีอะไรกั้นแล้วถนนก็ค่อนข้างสูงเลย ตกไปก็เจ็บหนักแน่ๆ


หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว เปิดแผนที่นำทางกลับไปที่ท่าเรือ ระหว่างทางแวะกินไอติมให้พอหายร้อน ไอติมกะทิอร่อยมากๆ รักเลย ไปถึงก็คืนจักรยาน รับบัตรคืนแล้วก็รอลงเรือข้ามฝั่งกลับไป แล้วก็เดินออกมาขึ้นรถเมล์กลับไปพักผ่อน เป็นทริปที่เหนื่อยแต่ไม่มากเท่าไหร่ สนุกดี เปิดหูเปิดตา โดยส่วนตัวชอบอากาศมากที่สุดแต่อื่นๆก็เฉยๆ มีแต่เขียวๆ ถ้าไปวันเสาร์อาทิตย์คงคึกคักน่าดูแต่เราก็คงไม่อินคนเยอะอีกตามเคย

ป.ล. ที่ไปนี่คือ บางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ป้ายทุกป้ายในพื้นที่นั้นใช้คำว่า บางกะเจ้า ไม่ใช่ บางกระเจ้า แต่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมใครๆถึงใช้ บางกระเจ้า เราตรวจสอบแล้วเจอว่า บางกระเจ้า น่ะมีจริงแต่อยู่ที่ อำเภอเมืองสมุทรสาคร เป็นคนละที่กัน ทีนี้พอบอกไปก็มีคนแย้งเพราะหลายๆเว็บและหลายๆรีวิวใช้ บางกระเจ้า มาตลอด ในแมพก็ใช้ บางกระเจ้า แล้วก็ได้ถามคนในพื้นที่มาแล้วเค้าก็บอกว่า บางกะเจ้า ไม่มี ร นะ

พอละ บ่นเยอะละวันนี้ บะบายครับ มีอะไรติดขัดตรงไหนชี้แจงได้เลยครับ ขอบคุณมากครับ


เอ่อ ปกติผมจะเขียนไว้ที่บล็อก medium.com/@Alekleks นะครับ เพราะว่าลงรูปใหญ่ๆได้ ว่างๆก็แวะไปดูได้ครับแต่ก็เหมือนในกระทู้แหละแค่รูปใหญ่กว่านะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่