คิดว่าตัวเองเหมาะจะอยู่เป็นคนโสดตลอดชีวิต

สวัสดีค่ะ ฉันเป็นผู้หญิงที่หน้าค่อนข้างดี (มีคนบอกบ่อยๆ) ฐานะทางบ้านก็ดีพอสมควร ฉันเป็นคนพูดมากค่ะ พูดตรงจนบางครั้งเพื่อนบอกว่าแรง กับเพื่อนหรือครอบครัวแล้วฉันจะรักและแคร์มากๆ อยู่กับพวกเขาแล้วฉันจะเป็นคนร่าเริง บ้าๆบอๆ โก๊ะๆ ติดตลกเสียด้วยซ้ำ แต่พออยู่กับคนที่ไม่สนิทแล้วฉันจะกลายเป็นคนขรึมขึ้นมาทันที ผู้ใหญ่ชอบชมว่าฉันเรียบร้อย ขี้อายค่ะ (55555) นอกจากนั้นยังมีนิสัยส่วนตัวอีกอย่างหนึ่งที่คิดว่าทำให้ตัวเองโสดมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือ ฉันเป็นคนติสท์ ชอบเก็บตัว (เลยทำให้ไม่ค่อยได้เจอกับคนใหม่ๆ) ทำอะไรตามอารมณ์ อย่างเช่น วันพรุ่งนี้นัดกับเพื่อนไปเที่ยวต่างจังหวัดแต่วันต่อมาเกิดเปลี่ยนใจไม่ไป หรือจู่ๆอยากไปเที่ยวไหนกะทันหันก็ไปทั้งอย่างนั้น ไม่นัดล่วงหน้า เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยมากจนเพื่อนไม่อยากชวนไปไหนด้วย (55555) ส่วนใหญ่ฉันเลยเป็นคนจัดทริปชวนเพื่อนไปเสียมากกว่า บ่อยครั้งที่ไปเที่ยวคนเดียว ดูหนังคนเดียว ร้องคาราโอเกะคนเดียว กินบุฟเฟ่คนเดียว ซึ่งก็ทำให้คนที่เห็นฉันอย่างนั้นมองด้วยสายตาแปลกชอบกล แต่ฉันก็ไม่ได้แคร์ยังทำอะไรๆคนเดียวต่อไป
            ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยมีแฟนเลยสักคนเดียว สมัยเรียนก็พอมีผู้ชายมาจีบฉันบ้าง แต่ไม่เคยเจอคนที่ใช่เลยสักคน อ่อ! จะว่าไม่มีเลยก็ไม่ใช่เสียทีเดียว มีผู้ชายคนนึงที่ฉันไม่เคยลืม เป็นเพื่อนสาขาเดียวกัน เขาเป็นคนนิสัยดีค่ะ หน้าตาก็ดีแถมเรียนเก่งอีกต่างหากเพราะอย่างนั้นฉันเลยไม่คิดว่าเพื่อนคนนั้นจะรู้สึกแบบนั้นกับฉัน เราไม่ค่อยสนิทกันเท่าไร แทบไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ (ปกติฉันไม่ค่อยคุยกับผู้ชายค่ะ นอกจากเรื่องงานหรือฝ่ายนั้นจะเข้ามาคุยด้วยก่อน) ฉันมีพี่สาวที่เรียนอยู่ที่เดียวกัน พี่บังเอิญไปเจอเขาคนนั้นเลยสนใจจึงตามสืบจนรุ้ว่าเขาเป็นเพื่อนปีเดียวกับฉัน จึงให้ฉันช่วยเป็นสายสืบต่อว่าเขามีแฟนหรือยัง ตั้งแต่ตอนนั้นมั้งที่ทำให้ฉันมองเขากว่าเดิม จากปกติแทบไม่ใส่ใจกลายเป็นมองบ่อยๆจนรู้สึกปลื้มเขาอยู่เหมือนกัน หลังจากนั้นฉันก็ได้ยินจากเพื่อนว่าเขาเคยเป็นแฟนกับรุ่นพี่ในเอกที่เป็นถึงเชียร์ลีดเดอร์ ทำให้ฉันและพี่สาวรุ้สึกเสียดายแต่ต้องตัดใจ เพราะถึงจะเลิกกับรุ่นพี่คนนั้นไปแล้วแต่ยังมีรุ่นน้องและเพื่อนหลายคนที่ชอบเขา
             ฉันมีเพื่อนผู้ชายในเอกที่สนิทกันอยู่คนหนึ่ง ที่สนิทเพราะมันพูดมากชอบชวนคุย สมมติว่าชื่อ เผือก (มันชอบเผือกจริงๆ) ไอ้เผือกเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับเขา วันนึง ฉันไม่สบายเลยต้องขาดเรียน ไอ้เผือกโทรมาบอกว่าอาจารย์ฝากชีทไว้ที่เขาคนนั้น มันให้เบอร์เขามาแล้วบอกให้ฉันโทรไปทวงเขาเผื่อลืม เราก็ไม่ได้เอะใจว่าทำไมไอ้เผือกมันไม่โทรเอง สุดท้ายก็โทรไปตามจนได้ เขาแปลกใจมากที่เราโทรหาเพราะอยู่ในชั้นเรียนแทบไม่ได้คุยกัน เขาชวนเราคุยเรื่อยเปื่อยจนลืมเวลา หลังจากวันนั้นเขาก็โทรมาหาเราตลอด แต่เวลาอยู่ที่มอเราก็ยังเป็นเหมือนเดิม แทบไม่คุยกันแต่ฉันมองไปที่เขาบ่อยขึ้น เกือบทุกทีที่มองไปแล้วเห็นเขามองอยู่ก่อนแล้ว ตอนนั้นรู้เขินมากค่ะรีบหลบตาแทบไม่ทัน
            ช่วงนั้นเรารู้จักกันมากขึ้น รู้นิสัยใจคอกันมากขึ้น แล้วก็เริ่มทำให้ฉันรุ้สึกอึดอัด ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้เกิดขึ้นได้ยังไง อาจจะเป็นตอนที่เขาพูดถึงแฟนเก่าเขาในทางที่ไม่ค่อยให้เกียรติ ถึงการกระทำของแฟนเก่าจะไม่น่าให้เกียรติก็เถอะ หรือว่าตอนที่รู้ว่าเขาชอบฉันแล้วก็ไม่รู้สิ เขาบอกว่าชอบฉัน เขาพูดคำหวานๆ แรกๆก็รุ้สึกดีใจที่มีคนชอบเราขนาดนี้ แต่สักพักรู้สึกว่ามันเยอะไป ตอนนั้นฉันไม่ได้ตกลงเป็นแฟนเขาค่ะ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรับปากกับแม่ไว้ว่าจะไม่มีแฟนจนกว่าจะเรียนจบ หลายคนอาจมองว่าคุยกันขนาดนี้แล้วทำไมถึงไม่เป็นแฟนกันไปซะเลย ทำไมต้องเอาแม่มาอ้างนั้นอ้างนี่ อันที่จริงนี่เป็นเหตุผลสำคัญมากนะคะ สำหรับคนอื่นเราไม่รู้ว่าคิดยังไงแต่สำหรับเราแม่สำคัญที่สุด แม่ไม่เคยขออะไรเราเลยท่านให้มาตลอด ขอแค่ข้อเดียวทำไมเราจะให้ไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ ตั้งแต่นั้นเราก็เริ่มห่างๆเขา เขาก็ยังติดต่อมาเรื่อยๆและบอกว่าเขารอได้ จะรอวันที่ฉันพร้อมเป็นแฟนเขา ตอนนั้นฉันรู้สึกผิดขึ้นมาทันที รู้สึกผิดที่ตัวเองเอาแน่เอานอนไม่ได้แล้วยังให้เขารอ ปิดกั้นโอกาสไม่ให้เขาเจอคนที่ดี ที่รักเขาและพร้อมจะเป็นแฟนเขาได้อย่างไม่รู้สึกอึดอัดใจ อีกทั้งเป็นช่วงที่เราใกล้จะเรียนจบ เขาต้องกลับไปทำงานที่ต่างจังหวัดบ้านเกิดของเขา ส่วนเรายังอยู่ที่เดิม ถ้าถึงตอนนั้นแล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าใครคนใดคนนึงจะไม่เปลี่ยนไป ช่วงที่ห่างกันเขาอาจเจอคนใหม่ที่ถูกใจกว่า ถ้าหากจะเสียใจตอนนั้นสู้ตัดใจตอนนี้เลยยังดีกว่าเพราะมันเจ็บน้อยกว่ากันเยอะ สุดท้ายฉันก็บอกเขาให้ไม่ต้องรอ บอกให้เราเป็นแค่เพื่อนกัน ฉันทำร้ายจิตใจเขามากๆ ตอนที่บอกเขาฉันทั้งรู้สึกผิดและเจ็บปวด ไอ้เผือกเล่าให้ฟังทีหลังว่าเขาร้องไห้เพราะฉัน แต่จะทำอย่างไรได้ คำพูดที่พูดออกมาแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้เสียด้วยสิ ยังไงก็ต้องตัดใจ
            แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือน ผู้ชายคนนั้นก็ไปมีแฟนเป็นสาวตัวเล็กน่ารักสไตล์ญี่ปุ่นซะแล้ว! เรางงมาก คืออะไร เรารู้สึกผิดอยู่ตั้งนานจนถึงปัจจุบันยังรู้สึกผิดไม่หาย แต่เขาเปลี่ยนใจได้เร็วขนาดนั้นเลยหรอ ผู้ชายนี่เปลี่ยนได้เร็วมาก อย่างพี่สาวฉันกับแฟนคบกันมานาน5ปี แต่เลิกกันอาทิตย์เดียว(พี่เราเป็นคนบอกเลิก)ผู้ชายไปมีแฟนใหม่ โพสรูปคู่ลงหน้าเฟสอย่างหวานหย๋อย แฟนเพื่อนฉันคบกันมา7ปี ทิ้งเพื่อนเราไปแต่งงานซะงั้น แม้กระทั่งพ่อยังเป็นอย่างนั้นเลย ชีวิตนี้คงหาผู้ชายที่รักจริงไม่ได้แล้วล่ะมั้ง
            หลายปีมานี้ฉันเคยลองคุยกับผู้ชายหลายคนแต่คุยได้ไม่เกิน3วันก็เป็นอันเหลวตลอด ผู้ชายที่เข้าหาฉันมักชอบพูดคำหวานเลี่ยน บอกรักบ่อยๆจนรู้สึกอึดอัด ฉันคิดว่าคำว่ารักไม่จำเป็นต้องพูดบ่อย นานๆทีได้ฟังสักครั้งมันรุ้สึกกว่าบอกรักพร่ำเพื่อ มันมีความหมายมากกว่าไม่รุ้กี่เท่า
            หลายคนที่รู้จักแปลกใจที่ฉันยังไม่มีแฟน ไม่อยากมีหรือว่าไง? ฉันคิดว่ามนุษย์ทุกคนอยากมีคู่นะคะ ฉันก็มนุษย์คนหนึ่งทำไมจะไม่อยากมี ยิ่งช่วงที่เพื่อนมีแฟนกันหมดเหลือเราโสดคนเดียวยิ่งอยากมีไปกันใหญ่ เพราะช่วงนั้นเราจะไม่มีเพื่อนไปไหนมาไหนด้วย พวกหล่อนตัวติดแฟนอย่างกับปาท่องโก๋ พอไม่เจอคนที่ใช่ ไม่มีเพื่อนไปไหนๆด้วยฉันก็ต้องฝึกตัวเองให้ไปไหน ทำอะไรคนเดียว
            ถามว่าไม่เหงาหรอ ? เอาจริงๆคนเราทุกคนก็มีช่วงเวลาที่เหงากันทั้งนั้น ไม่ว่าจะคนโสดหรือคนมีคู่ แต่คนที่เหงาบ่อยๆอย่างคนโสดเนี่ยเราจะเริ่มชินกับมันไปเริ่มๆ จนไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของมัน จะเหงาอีกครั้งก็ต่อเมื่อมีใครบางคนผ่านเข้ามาในชีวิต ได้สนิทสนม รู้จักรู้ใจกัน แล้วพอเขาหายไป ตอนนั้นล่ะที่ความเหงาจะกลับเข้ามาในชีวิต
            ฉันพอใจกับชีวิตตัวคนเดียวที่เป็นอยู่และคิดว่ามันคงดำเนินต่อไปอีกนานเลยทีเดียว แต่ถ้ามีคนที่ใช่ผ่านมาในชีวิตสักครั้ง ฉันจะไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หายไป ฉันอยากจะมีความรักสักครั้งหนึ่งในชีวิต ถึงจะต้องเจ็บปวดแต่ฉันก็อยากลองลิ้มรสความเจ็บนั้นกับเขาดูซักครั้ง แต่ถ้าไม่เจอ ฉันก็พร้อมจะอยู่เป็นโสดจนแก่ชรา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่