เรื่องราวของฉันในวัยมัธยม

สวัสดีเราขอใช้น้ำามสมมุตว่าชื่อเตวิชเราจบป. 6 และเข้าม. 1 ที่โรงเรียนหนึ่งคนเดียวแบตที่ไม่รู้จักใครเลยและเราก็เริ่มมีเพื่อนจนตอนนี้เรามีเพื่อนถือว่าเยอะมากคือเรามีเพื่อนคนหนึงเราเจอเขาตอนม.1ความรู้สึกส่วนตัวคือเขาเป็นคนที่ค่อนข้างชอบความสนใจเราก็เข้าใจนะแค่รู้สึกว่าบางทีมันก็เกินไปเพราะเราไปรู้มาว่าเหมือนที่บ้านเขาไม่ให้ความสนใจเท่าไหร่นักแต่ที่มันเริ่มไม่ไหวคือเราเป็นคนใช้เหตุผลมาตลอดแต่ก็พร้อมให้โอกาสตลอดเช่นกันเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้วแล้วเราก็ให้โอกาสเขาทุกครั้งอย่างเช่นครั้งหนึ่งเขาหลอกคบกับเพื่อนเราเพื่อเอาเงินตอนนั้นเราคงรู้สึกลืมไม่โอเคเท่าไหร่แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไรหรอกชีวิตวัยรุ่นแล้วก็เงินมันก็ไม่ได้เยอะขนาดนั้นแล้วก็มีที่เราทนไม่ไหวจริงๆอย่างเช่นครั้งหนึ่งตอนม 2 น้องเราเข้าม. 1 มา 3 คนเข้ามาแค่ไม่กี่วันเรารอรถกลับบ้านแล้วน้องเราก็เป็นคนที่ค่อนข้างกวนตีนแต่ก็อยู่ในระดับที่ไม่ปีนเกลียวแล้วเขาไปคุยกับน้องเราเราก็บอกแล้วว่าน้องเรากวนนะใจเย็นๆกับเขาหน่อยแต่ถ้ามันด่าก็ด่ากลับได้แต่สิ่งที่ได้คือน้องเราก็ควรตามปกติและสิ่งที่มันทำคือเอามือไปหยิกผมน้องเราตอนนั้นเรายอมรับว่าเรารู้สึกไม่ค่อยดีแต่ก็ทำเป็นไม่รู้จนมันพิมพ์มาในแชทว่างอนทุกคนเพราะไม่สนใจมันตอนมันโดนน้องเรากวนตอนนั้นเราโมโหมากเราเลยตอบกลับไปว่าเรื่องของน้องกูกูเลี้ยงอย่างดีตั้งแต่กูเป็นพี่มันมากูไม่เคยทำกับมันขนาดนั้นเลยแล้วคิดว่าเป็นใครตอนนี้เราไม่ได้คุยกับเขาแล้วมาประมาณ 2-3 วันแต่เพราะมันมีเหตุการณ์หนึ่งเราจะบอกว่าเราเป็นคนที่ค่อนข้างกวนอยู่แล้วถ้านิสัยของเราเราจึงเลือกคบกลุ่มที่ค่อนข้างกวนเช่นกันอย่างเช่นเพื่อนต้องการคำปรึกษาเราก็ให้คำปรึกษาเต็มที่แต่บางทีก็มีคำกวนที่พูดไปบ้างแต่เพื่อนก็เข้าใจตลอดเราคิดว่าเขาเป็นอย่างนั้นเหมือนกันเพราะตอนที่เพื่อนเราต้องการคำปรึกษาทุกคนให้คำปรึกษาเต็มที่และพร้อมพูดกวนนิดหน่อยเพื่อให้บรรยากาศดีขึ้นจนเมื่อไม่กี่วันที่แล้วเขาพิมพ์มาว่า
งอน
น้อยใจ
ถอก
เเม่
แฟนไม่รักกู
แล้วก็พิมพ์มาว่า
เหนื่อยน้อยใจอยากร้องให้
เราเลยตอบเขาไปกวนๆตามประสาเราว่าร้องไห้ไม่ใช่ร้องให้
แต่อยู่ดีๆเขาก็พิมพ์มาว่าตลกมากมั้งตอนนั้นเราเลยหมดความอดทนจริงๆเราเลยบอกเขาว่า
เรื่องของเถอะ
โกรธคนอื่น
แล้วบอกตลกมากมั้ง
กูก็ตลกมากมั้ง
อยู่ดีๆก็กลายเป็นคนผิด
ตลกจังเลย
ไม่เข้าใจว่ากลับกลายมาเป็นคน ไม่มีเหตุผลตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่ก็ช่างเถอะ
เพราะก็เป็นอย่างนี้มาตลอด
ไม่เคยเปลี่ยน
กูก็เบื่อเหมือนกัน
ก็เคยคิดว่าจะเปลี่ยนได้
แต่ก็เป็นเหมือนเดิม
บางทีกูก็ไม่เข้าใจว่ากูทนไปทำไม
กับคนที่ให้โอกาสทำซ้ำซากๆแต่ก็ ไม่เคยรักษา
เเล้วเขาก็ตอบเราว่าก็ชอบตัดสินคนอื่นมาตลอด ไม่ใช่เหรอ ก็แทบไม่สนใจความ รู้สึกกูอยู่แล้ว อยากจะทำอะไรก็ ทำได้ มีคนรักก็เยอะ กูก็เป็นหนึ่ง ในนั้น กูก็ขอโทษด้วยที่กูเป็นแบบ นี้ตลอด แต่กูมีแต่พวกไงที่กูนั่ง ได้ คนอื่นกูก็ไม่ได้ไว้ใจทำพวก

กูก็เคารพการตัดสินใจของถ้า จะไป กูก็รู้กูผิด กูพยายามแล้ว

กูทำได้แค่นั้

คนที่กูนั่งได้ก็มีแค่บวก

ขอโทษด้วยที่บางทีกูก็เหมือนเด็ก เอาแต่ใจ แต่พวกเป็นเพื่อนกลุ่ม แรกเลยที่กูมี

กูจะไม่นั่งพวกแล้ว

ขอโทษ

กูก็รู้แหละว่าขอโทษไปยังไงมันก็ทำ อะไรไม่ได้

เพราะกูก็ไปแก้ไขอดีตไม่ได้ เหมือนกันขอโทษด้วยที่กูทำอะไรแบบไม่คิดให้มันดีๆ จนต้องมาทำให้พวกเสียใจ ต้องทำให้พวกคนนึงไม่พอใจกูจะไม่ไปกวนพวกแล้ว
เราเลยตอบไปว่า
กูไม่สนใจอะไร

กูสนใจทุกคน
เรื่องไอ้ aไอ้bกูก็เป็นคน อธิบายให้
เรื่องไอ้k
กูก็หาทางให้มันทุกครั้ง
จนกระทั่งเรื่องกับแฟน
กูก็หาทางให้
แล้วกูตัดสินใครอะไร
เราต้องบอกว่าเราเป็นคนที่ไม่ตัดสินใครเลยไม่ว่าจะจากรูปลักษณ์ภายนอกเพราะถ้าเราตัดสินจริงเราคงตัดสินใจเลือกเป็นเพื่อนกับเขาไปนานแล้วและที่บอกเราไม่เคยสนใจเขาเขาสนใจเขาตลอดไม่ว่าเขาจะเครียดจากที่บ้านหรือที่ไหนเราก็ให้กำลังใจและเป็นเพื่อนคุยเขาตลอดแต่ครั้งนี้มันไม่ไหวจริงๆเขาทะเลาะกับแฟนเขาแล้วมาลงอารมณ์ที่เราเราไม่ไหว
ปล เราตอนม. 1 อยู่ห้องเดียวกับเขาแต่พอขึ้นม 2 แยกห้องกันตอนนี้เรารู้สึกหลายอย่างแล้วเราพยายามห่างจากเขาไปเรื่อยๆเว้นระยะจากเขาเพราะเราให้โอกาสเขาแล้วแต่เขาเลือกที่จะไม่รับไว้เรารู้สึกว่าเราให้โอกาสเขาเยอะมากแต่เขาก็ทิ้งมันไปเล่นๆแล้วเราก็ให้โอกาสเขาตลอดจนถึงตอนนี้เขาเลือกที่จะไม่รับโอกาสนั้นไว้เราก็เคารพการตัดสินใจของเขาถึงแม้ตอนแรกจะมีความคิดอยากกลับไปเป็นเพื่อนแต่ตอนนี้ความคิดแบบนั้นก็แทบไม่มีหัวแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่