วัดทรายมูล (พม่า) มุมเล็กๆที่ถูกมองข้าม

"มิงกะลาบา"
อมยิ้ม17
สวัสดีชาวพันทิปทุกท่านครับ
ผมนักศึกษาชมรมภาษาฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยเชียงใหม่


วันนี้จะมารีวิวประสบการณ์การการจัดกิจกรรม
วัดทรายมูล (พม่า)
จังหวัดเชียงใหม่

..........................................................................




.
วัดทรายมูล (พม่า) ตั้งอยู่บริเวณถนนรอบคูเมืองฝั่งใน ด้านประตูเชียงใหม่ ก่อนถึงแจ่งก๊ะต้ำ
ให้สังเกตตึกแถวฝั่งซ้ายมือ มีป้ายสีฟ้าๆ แล้วหลังตึกนั้นจะมีทางเข้าเล็กๆระหว่างตึกแถว
พอเลี้ยวเข้าไปก็จะพบกับทางเข้าวัดแล้ว (เย่)
.





.
เมื่อผ่านทางเข้า เราก็จะพบกับลานวัด ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่มากนักครับ
ด้านหน้ามีกุฏิซึ่งบริเวณใต้ถุนใช้สอนหนังสือ ฝั่งขวามือเป็นวิหารกับโรงครัวเล็กๆ
สถาปัตยกรรมภายในวัดทั้งหมดเป็นแบบพม่า จึงทำให้เกิดความรู้สึกราวกับว่าเมื่อเข้ามาแล้ว เราก็ได้หลุดเข้ามาอีกโลกหนึ่งทันที
.




"น้องๆมาเข้าแถวรอทำเล่นเกมกันครับ"


.
และสิ่งที่วัดนี้ดึงดูดให้เราต้องหาโอกาสแวะเวียนเข้ามาก็คือ
เด็กๆชาวพม่าและไทใหญ่ ที่มาเรียนภาษาพม่ากันที่นี่
น้องๆเหล่านี้อยู่ในวัยเด็กเล็กจนถึงเด็กวัยรุ่น อายุประมาณ 14-15 ปีก็มี
ส่วนผู้สอนนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นพระสงฆ์ในวัดนั่นเองครับ
.




"จากตอนแรกที่อายๆ พอดนตรีขึ้นก็อย่างที่เห็นในภาพครับ พี่ๆนี่อายเลย"


.
จุดเริ่มต้นที่นำให้พวกเรามาที่นี่ก็คือ พวกผมและเพื่อนๆได้รับผิดชอบกิจกรรมจิตอาสาของสาขาวิชาในเทอมนี้
ตอนที่คิดกันอยู่ก็มีคนเสนอว่าอยากจะมาจัดกิจกรรมให้เด็กๆในวัดนี้เนื่องจากวัดตั้งอยู่ใจกลางเมือง
สะดวกต่อการเดินทาง รวมถึงเด็กๆก็มีจำนวนไม่เยอะเกินไป ไม่เกินกำลังของพวกเราที่จะจัดกิจกรรม
พร้อมกับเลี้ยงอาหารกลางวัน
( รวมๆแล้วก็ต้องทำอาหารถึง 150 จานเลยครับอมยิ้ม20)
.




"อาหารกลางวัน เป็นข้าวผัดอเมริกัน ไก่ทอด ปูอัดทอด เฟรนซ์ฟรายและแตงโมเป็นของหวาน
อาจจะอร่อยบ้าง ไม่อร่อยบ้าง แต่พวกเราก็ทำสุดหัวใจเลยครับ"



.
การทำกิจกรรมครั้งนี้ ผมยอมรับเลยว่ามีหลายๆสิ่งที่ผิดคาดไปจากที่ผมคิดเยอะ
เริ่มจากตัววัดเอง ตัววัดนั้นเรียกได้ว่าอยู่ใกล้ตัวผมมาก หลายครั้งหลายหนที่ผมผ่านไปทางนั้นโดยไม่สังเกตถึงวัดนี้เลย
จนกระทั่งเพื่อนผมชวนมาทำกิจกรรมนี่แหละถึงได้รู้ว่าวัดนี้มีอยู่
เม่าเหม่อ
(คนเชียงใหม่หลายๆคนก็อาจคิดแบบเดียวกับผมอยู่)
.




"คู่จิ้นในฐานชักกะเย่อ"


.
ต่อมาก็น้องๆนี่แหล่ะครับ ดูภายนอกแล้วไม่ต่างอะไรจากเด็กในเมืองคนอื่นๆเลย
เนื่องจากพูดภาษาไทยได้ ในระดับที่คล่องแคล่ว ซึ่งนี่ก็เป็นเหตุผลที่น้องๆต้องมาเรียนภาษาพม่า
เพราะถึงน้องจะมีเชื้อชาติพม่าแต่ทุกคนส่วนใหญ่โตในไทย พูดภาษาไทย และเรียนโรงเรียนไทยมาตั้งแต่เด็ก
พ่อแม่ของเด็กเหล่านี้เป็นชาวพม่าที่ใช้แรงงานอยู่ในประเทศไทยครับ
โดยอาศัยวัดทรายมูลเป็นเหมือน "ศูนย์รวมใจเล็กๆของพวกเขา"
.





.
เมื่อถึงเวลาที่พวกเราแจกขนม ของเล่น และเลี้ยงอาหารกลางวัน เด็กๆทุกคนก็ดีใจกันใหญ่เลยครับ
แสดงให้เห็นว่าจริงๆแล้วที่มุมเล็กๆใกล้ๆตัวเรานี้ก็ยังมีคนที่รอรับการช่วยเหลืออยู่ เพียงแต่เราไม่เคยรู้สึกถึงพวกเขาเลย
.





.
ท้ายที่สุด ผมได้เห็นบรรยากาศวัดแบบเดิมๆอีกครั้ง วัดซึ่งมิได้เป็นเพียงสถานที่ทางศาสนา
แต่ยังคงทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของชุมชน (ในที่นี้ก็คือชาวพม่าผู้อยู่อาศัยในเชียงใหม่นั่นเอง)
ซึ่งขับเคลื่อนสังคมให้ก้าวต่อไปได้ ในขณะเดียวกันก็ลองนึกดูว่าหากไม่มีใครมาให้ความช่วยเหลือหรือสนใจวัดนี้แล้ว
วัดก็คงไม่ได้รับการพัฒนา และถ้าไม่มีคนจากภายนอกเข้ามาช่วยเหลือบ้าง สังคมเล็กๆตรงนี้ก็คงต้องตัดขาดจากโลกภายนอกไปเรื่อยๆ
จุดประสงค์อย่างหนึ่งของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ คือนอกจากจะได้จัดกิจกรรมให้เด็กๆ
"เราหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นให้สังคมได้ทำความรู้จักกับวัดนี้" ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเราเลย


ดังนั้น หากเพื่อนๆคนไหนกำลังสนใจอยากจะทำค่ายหรือสร้างกิจกรรมอาสาต่างๆ
ผมแนะนำว่าแทนที่จะคิดถึงแต่ที่ไกลๆ ลองดูรอบๆตัวให้ดีก่อน อาจจะมีจุดเล็กๆที่เราตกสำรวจไป
เช่นเดียวกับวัดนี้ซึ่งเรียกได้ว่าตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลย แต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าที่ควร  
ทางเราขอฝากวัดทรายมูล (พม่า) ไว้ให้กับบรรดานักทำกิจกรรมทั้งหลายด้วยนะครับ ลองแวะเวียนกันเข้ามาชมได้
หรือนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆที่อาจจะเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ไม่รู้กี่สิบครั้งแล้ว อยากให้ที่นี่เป็นอีกจุดหมายหนึ่งของทุกคนครับ
แล้วทุกคนจะได้รู้ว่า


................................................................

สิ่งที่คิดว่าไกลนั้น บางทีอาจอยู่ใกล้กว่าที่คิดก็ได้

................................................................




"ปิดท้ายด้วยรอยยิ้มจากน้องปอย ขวัญใจสื่อมวลชน"


ปล. สำหรับองค์กร หน่วยงาน หรือบุคคลใดที่มีความประสงค์อยากร่วมแบ่งปันน้ำใจให้กับเด็กๆที่วัดแห่งนี้สามารถติดต่อได้ที่
หมายเลขโทรศัพท์ 083-743-5353 (หลวงพ่อปัญญา) “เพราะน้ำใจ คือการให้ที่ไม่สิ้นสุด”
ปล. ขออภัยสำหรับกระทู้แรกของผมด้วยนะครับ
ปล. เด็กๆน่ารักมากจุ๊บๆจุ๊บๆจุ๊บๆจุ๊บๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่