ปกติเป็นคนอ่านอย่างเดียว คราวนี้ขอลองเป็นคนตั้งกระทู้ดูบ้าง ถ้าผิดพลาดอะไรไปก็ขออภัยมา ณ ที่นี้นะคะ (แต่ยืมไอดีเพื่อนมาตั้งนะคะ)
สาเหตุที่มาตั้งก็เพราะเอือมกับการจัดการเรื่องของลูกค้าหายของ Bounce Thailand และเราอยากให้เรื่องของเราเป็นกรณีตัวอย่างเตือนคนที่กำลังคิดจะไปเล่นที่ Bounce Thailand นะคะ เพราะราคาค่าเล่นก็สูงพอสมควร ชั่วโมงล่ะ 390 บาทต่อคน แถมต้องซื้อถุงเท้าของ Bounce อีกคู่ละ 85 บาทเมื่อเล่นครั้งแรก
ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ. 59 เราและเพื่อน (รวมเป็นชาย 2 หญิง 2) ได้เข้าไปใช้บริการที่ Bounce Thailand สาขา The Street ด้วยความที่เราติดตามมาตั้งแต่ตอนที่เราได้ข่าวว่า Bounce จะเข้ามาเมืองไทย แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองสักที วันนี้เลยขอจัดสักหน่อย หลังจากที่จ่ายเงินเรียบร้อย ก็จะได้รับสายรัดข้อมือกระดาษมาคนละ 1 อัน เพื่อระบุว่าจะได้เข้าไปเล่นรอบไหน ซึ่งของเราเป็นรอบตอน 18.00 น. ค่ะ และก่อนที่จะเข้าไปเล่น จะมีตู้ล็อคเกอร์ที่สามารถตั้งรหัสเปิด-ปิดได้เองหรือที่เขาเรียกว่าตู้รับฝากของอัตโนมัติ โดยเสียเงิน 40 บาทเก็บได้ 4 ชั่วโมง ให้เราได้เก็บของที่จะเป็นภาระไว้ข้างนอกก่อน ไม่ต้องเอาเข้าไปข้างใน ซึ่งเพื่อนผู้ชายเรากับเราก็ทำตามขั้นตอนของล็อคเกอร์ปกติไม่มีอะไร ใส่รหัสผ่าน จ่ายเงินเรียบร้อย จนไปถึงตอนเก็บกระเป๋า ซึ่งจะมีกระเป๋าของเพื่อนผู้หญิงเราและกระเป๋าเรารวมเป็น 2 ใบ และเราได้ตัดสินใจถอดนาฬิกา Issey ของเราใส่ไว้ในล็อคเกอร์ด้วย โดยที่ไม่ได้เก็บใส่ในกระเป๋าอีกทีแต่อย่างใด และเมื่อเก็บของทุกอย่างเสร็จ เพื่อนเราก็เป็นคนเชคว่าล็อกเกอร์ได้ปิดสนิทดีไหมเพื่อความปลอดภัย แล้วหลังจากนั้นเราก็เดินเข้าไปเล่นใน Bounce กัน
พอครบ 1 ชั่วโมง เวลาประมาณ 19.00 น. ด้วยความที่แต่ละคนก็เหนื่อยกันพอสมควร ก็มีเราและเพื่อนผู้ชายอีกคนเดินมาเอาของออกจากล็อคเกอร์ ซึ่งตอนนั้นมีเพียงแค่กระเป๋าของเรากับเพื่อนผู้หญิงเรา และก็ช่วยกันเชคอีก 2-3 รอบว่าไม่มีของอะไรตกหล่นในล็อคเกอร์ และเราเองก็ลืมไปว่าเราใส่นาฬิกาไว้ในล็อคเกอร์ด้วย ต่างคนก็หยิบของออกมาเพื่อเตรียมตัวออกไปด้านนอกและไปกินข้าวกัน
พวกเราตัดสินใจไปกินข้าวกันที่ Esplanade รัชดาและเดินเล่นกันต่อจนประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง เราก็นึกได้ว่านาฬิกาข้อมือเราหายไป ก็เลยช่วยกันหา เผื่อทำตกไว้ที่ไหนหรือลืมไว้ตรงไหนหรือเปล่า ซึ่งเราจำได้ล่าสุดว่าเราใส่ไว้ในล็อคเกอร์ที่ Bounce แล้วตอนนั้นมันดึกแล้วเราก็เลยตัดสินใจส่ง inbox ไปที่เพจ Bounce Thailand แทน เพื่อสอบถามว่าพอมีใครจะเห็นนาฬิกาของเราบ้างหรือเปล่า เพราะเผื่อว่าเราอาจจะทำตกไว้หลังจากหยิบกระเป๋าออกจากล็อคเกอร์ แต่ก็ยังไม่มีข้อความใดๆ ตอบกลับ
วันจันทร์ที่ 22 ก.พ. 59 ตอน 10 โมงเช้า เรารีบโทรไปหาที่ Bounce Thailand เพื่อแจ้งเรื่องนาฬิกาของเรา แต่ได้รับการตอบกลับมาแค่ว่ายังไม่มีใครเก็บได้หรือมาแจ้งนะคะ ถ้ายังไงให้ทิ้งข้อมูลไว้และจะติดต่อกลับ หลังจากนั้นตอนเวลา 15.38 น. ทางเพจได้ตอบกลับมาว่าจะสอบถามเจ้าหน้าที่ให้ พร้อมกับขอข้อมูลว่าเรามาเล่นช่วงเวลาไหน นาฬิกายี่ห้ออะไร ล็อคเกอร์เป็นแบบเสียเงินหรือธรรมดา ซึ่งเราก็ได้ตอบให้ข้อมูลไปหมด พร้อมกับแจ้งไปด้วยว่า เมื่อเช้าได้โทรไปประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ของ Bounce แล้วเหมือนกัน แค่นั้นก็เงียบไป จนเวลา 17.07 น. ทางเพจก็ติดต่อกลับมาอีกทีว่าได้แจ้งเจ้าหน้าที่แล้วและจะทำการตรวจสอบให้
วันอังคารที่ 23 ก.พ.59 เวลา10.06 น. ด้วยความที่ร้อนใจและเราไม่รู้เลยว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว เราก็เลยตัดสินใจโทรหา Bounce อีกรอบ ซึ่งครั้งนี้คุยไปประมาณ 10 นาที แล้วได้คำตอบคล้ายลักษณะเดิมว่ายังไม่มีพนักงานหรือใครแจ้งว่าเก็บของได้ เราเลยถามถึงรายละเอียดว่าปกติแล้วถ้าของลูกค้าหายมีการจัดการอย่างไรบ้าง แล้วคำตอบที่เราได้รับก็คือ พนักงานแต่ละคนทำงานเป็นกะ และเท่าที่ถามคนที่เข้ามาทำงานก็ยังไม่มีใครเจอ เราเลยถามต่อไปว่าแล้วเราจะต้องรอถึงเมื่อไรเพื่อที่จะให้สอบถามพนักงานแต่ละคนแต่ละรอบได้ครบหมด พนักงานก็ไม่สามารถให้คำตอบแก่เราได้ ได้แต่พูดว่าเชคดูล็อกเกอร์ให้แล้วก็ไม่พบอะไร หลังจากนั้นเราเลยถามว่าจะขอเข้าไปดูกล้องวงจรปิดต้องทำยังไง เขาก็บอกว่าจะต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนว่าจะเข้ามาเมื่อไรจะดูช่วงไหนเวลาไหน จนสุดท้ายคือพนักงานบอกว่าจะแจ้งผู้จัดการให้ทันที เพราะพอดีเมื่อวานเป็นวันหยุดผู้จัดการไม่เข้า (ทำให้เราเพิ่งรู้ว่าเมื่อวานเรื่องของเราก็ไม่ได้ถูกส่งต่อไปยังระดับที่สูงกว่าเลย เป็นแค่การจัดการสอบถามพนักงานไปเรื่อยๆ แล้วรอเวลา) ก่อนจะวางสาย เราเลยบอกว่าเราแน่ใจแน่ๆ ว่าเราไม่ได้ลืมของไว้ในล็อคเกอร์แน่นอน แต่ที่เรากังวลคือ ถ้าเกิดว่านาฬิกาเราไม่ได้หล่นระหว่างที่เราหยิบกระเป๋าออกมาจากล็อคเกอร์ นั่นหมายความว่าการฝากของไว้ในล็อคเกอร์ของ Bounce นั่นไม่มีความปลอดภัยเลย สุดท้ายเราเลยกำชับเขาไปว่าขอให้โทรกลับมาบอกหน่อยก็ยังดีนะคะว่าจะต้องให้ลูกค้ารอถึงเมื่อไรว่าทาง bounce จะถามหรือตรวจสอบพนักงานทุกคนได้ครบเมื่อไร เพราะไม่งั้นลูกค้าก็ร้อนใจเหมือนกัน เพราะของที่มีมูลค่ามันหายไป ซึ่งพนักงานปลายสายก็ได้รับปากอย่างดิบดีว่า เดี๋ยวแจ้งกลับทันทีเลยค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ
จนถึงวันนี้ 26 ก.พ. 59 ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จาก Bounce Thailand อีกเลยค่า บายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ทั้งนาฬิกาและ Bounce ที่จะไม่กลับไปอีกเลย
[CR] ลาขาด Bounce Thailand ครั้งแรกและครั้งเดียว!!!
สาเหตุที่มาตั้งก็เพราะเอือมกับการจัดการเรื่องของลูกค้าหายของ Bounce Thailand และเราอยากให้เรื่องของเราเป็นกรณีตัวอย่างเตือนคนที่กำลังคิดจะไปเล่นที่ Bounce Thailand นะคะ เพราะราคาค่าเล่นก็สูงพอสมควร ชั่วโมงล่ะ 390 บาทต่อคน แถมต้องซื้อถุงเท้าของ Bounce อีกคู่ละ 85 บาทเมื่อเล่นครั้งแรก
ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 ก.พ. 59 เราและเพื่อน (รวมเป็นชาย 2 หญิง 2) ได้เข้าไปใช้บริการที่ Bounce Thailand สาขา The Street ด้วยความที่เราติดตามมาตั้งแต่ตอนที่เราได้ข่าวว่า Bounce จะเข้ามาเมืองไทย แต่ยังไม่มีโอกาสได้ลองสักที วันนี้เลยขอจัดสักหน่อย หลังจากที่จ่ายเงินเรียบร้อย ก็จะได้รับสายรัดข้อมือกระดาษมาคนละ 1 อัน เพื่อระบุว่าจะได้เข้าไปเล่นรอบไหน ซึ่งของเราเป็นรอบตอน 18.00 น. ค่ะ และก่อนที่จะเข้าไปเล่น จะมีตู้ล็อคเกอร์ที่สามารถตั้งรหัสเปิด-ปิดได้เองหรือที่เขาเรียกว่าตู้รับฝากของอัตโนมัติ โดยเสียเงิน 40 บาทเก็บได้ 4 ชั่วโมง ให้เราได้เก็บของที่จะเป็นภาระไว้ข้างนอกก่อน ไม่ต้องเอาเข้าไปข้างใน ซึ่งเพื่อนผู้ชายเรากับเราก็ทำตามขั้นตอนของล็อคเกอร์ปกติไม่มีอะไร ใส่รหัสผ่าน จ่ายเงินเรียบร้อย จนไปถึงตอนเก็บกระเป๋า ซึ่งจะมีกระเป๋าของเพื่อนผู้หญิงเราและกระเป๋าเรารวมเป็น 2 ใบ และเราได้ตัดสินใจถอดนาฬิกา Issey ของเราใส่ไว้ในล็อคเกอร์ด้วย โดยที่ไม่ได้เก็บใส่ในกระเป๋าอีกทีแต่อย่างใด และเมื่อเก็บของทุกอย่างเสร็จ เพื่อนเราก็เป็นคนเชคว่าล็อกเกอร์ได้ปิดสนิทดีไหมเพื่อความปลอดภัย แล้วหลังจากนั้นเราก็เดินเข้าไปเล่นใน Bounce กัน
พอครบ 1 ชั่วโมง เวลาประมาณ 19.00 น. ด้วยความที่แต่ละคนก็เหนื่อยกันพอสมควร ก็มีเราและเพื่อนผู้ชายอีกคนเดินมาเอาของออกจากล็อคเกอร์ ซึ่งตอนนั้นมีเพียงแค่กระเป๋าของเรากับเพื่อนผู้หญิงเรา และก็ช่วยกันเชคอีก 2-3 รอบว่าไม่มีของอะไรตกหล่นในล็อคเกอร์ และเราเองก็ลืมไปว่าเราใส่นาฬิกาไว้ในล็อคเกอร์ด้วย ต่างคนก็หยิบของออกมาเพื่อเตรียมตัวออกไปด้านนอกและไปกินข้าวกัน
พวกเราตัดสินใจไปกินข้าวกันที่ Esplanade รัชดาและเดินเล่นกันต่อจนประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง เราก็นึกได้ว่านาฬิกาข้อมือเราหายไป ก็เลยช่วยกันหา เผื่อทำตกไว้ที่ไหนหรือลืมไว้ตรงไหนหรือเปล่า ซึ่งเราจำได้ล่าสุดว่าเราใส่ไว้ในล็อคเกอร์ที่ Bounce แล้วตอนนั้นมันดึกแล้วเราก็เลยตัดสินใจส่ง inbox ไปที่เพจ Bounce Thailand แทน เพื่อสอบถามว่าพอมีใครจะเห็นนาฬิกาของเราบ้างหรือเปล่า เพราะเผื่อว่าเราอาจจะทำตกไว้หลังจากหยิบกระเป๋าออกจากล็อคเกอร์ แต่ก็ยังไม่มีข้อความใดๆ ตอบกลับ
วันจันทร์ที่ 22 ก.พ. 59 ตอน 10 โมงเช้า เรารีบโทรไปหาที่ Bounce Thailand เพื่อแจ้งเรื่องนาฬิกาของเรา แต่ได้รับการตอบกลับมาแค่ว่ายังไม่มีใครเก็บได้หรือมาแจ้งนะคะ ถ้ายังไงให้ทิ้งข้อมูลไว้และจะติดต่อกลับ หลังจากนั้นตอนเวลา 15.38 น. ทางเพจได้ตอบกลับมาว่าจะสอบถามเจ้าหน้าที่ให้ พร้อมกับขอข้อมูลว่าเรามาเล่นช่วงเวลาไหน นาฬิกายี่ห้ออะไร ล็อคเกอร์เป็นแบบเสียเงินหรือธรรมดา ซึ่งเราก็ได้ตอบให้ข้อมูลไปหมด พร้อมกับแจ้งไปด้วยว่า เมื่อเช้าได้โทรไปประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ของ Bounce แล้วเหมือนกัน แค่นั้นก็เงียบไป จนเวลา 17.07 น. ทางเพจก็ติดต่อกลับมาอีกทีว่าได้แจ้งเจ้าหน้าที่แล้วและจะทำการตรวจสอบให้
วันอังคารที่ 23 ก.พ.59 เวลา10.06 น. ด้วยความที่ร้อนใจและเราไม่รู้เลยว่าเรื่องไปถึงไหนแล้ว เราก็เลยตัดสินใจโทรหา Bounce อีกรอบ ซึ่งครั้งนี้คุยไปประมาณ 10 นาที แล้วได้คำตอบคล้ายลักษณะเดิมว่ายังไม่มีพนักงานหรือใครแจ้งว่าเก็บของได้ เราเลยถามถึงรายละเอียดว่าปกติแล้วถ้าของลูกค้าหายมีการจัดการอย่างไรบ้าง แล้วคำตอบที่เราได้รับก็คือ พนักงานแต่ละคนทำงานเป็นกะ และเท่าที่ถามคนที่เข้ามาทำงานก็ยังไม่มีใครเจอ เราเลยถามต่อไปว่าแล้วเราจะต้องรอถึงเมื่อไรเพื่อที่จะให้สอบถามพนักงานแต่ละคนแต่ละรอบได้ครบหมด พนักงานก็ไม่สามารถให้คำตอบแก่เราได้ ได้แต่พูดว่าเชคดูล็อกเกอร์ให้แล้วก็ไม่พบอะไร หลังจากนั้นเราเลยถามว่าจะขอเข้าไปดูกล้องวงจรปิดต้องทำยังไง เขาก็บอกว่าจะต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนว่าจะเข้ามาเมื่อไรจะดูช่วงไหนเวลาไหน จนสุดท้ายคือพนักงานบอกว่าจะแจ้งผู้จัดการให้ทันที เพราะพอดีเมื่อวานเป็นวันหยุดผู้จัดการไม่เข้า (ทำให้เราเพิ่งรู้ว่าเมื่อวานเรื่องของเราก็ไม่ได้ถูกส่งต่อไปยังระดับที่สูงกว่าเลย เป็นแค่การจัดการสอบถามพนักงานไปเรื่อยๆ แล้วรอเวลา) ก่อนจะวางสาย เราเลยบอกว่าเราแน่ใจแน่ๆ ว่าเราไม่ได้ลืมของไว้ในล็อคเกอร์แน่นอน แต่ที่เรากังวลคือ ถ้าเกิดว่านาฬิกาเราไม่ได้หล่นระหว่างที่เราหยิบกระเป๋าออกมาจากล็อคเกอร์ นั่นหมายความว่าการฝากของไว้ในล็อคเกอร์ของ Bounce นั่นไม่มีความปลอดภัยเลย สุดท้ายเราเลยกำชับเขาไปว่าขอให้โทรกลับมาบอกหน่อยก็ยังดีนะคะว่าจะต้องให้ลูกค้ารอถึงเมื่อไรว่าทาง bounce จะถามหรือตรวจสอบพนักงานทุกคนได้ครบเมื่อไร เพราะไม่งั้นลูกค้าก็ร้อนใจเหมือนกัน เพราะของที่มีมูลค่ามันหายไป ซึ่งพนักงานปลายสายก็ได้รับปากอย่างดิบดีว่า เดี๋ยวแจ้งกลับทันทีเลยค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ
จนถึงวันนี้ 26 ก.พ. 59 ก็ยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จาก Bounce Thailand อีกเลยค่า บายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ทั้งนาฬิกาและ Bounce ที่จะไม่กลับไปอีกเลย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น