http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9590000019793
“พอเรียนใกล้จบ ผมได้ไปทำงานที่บริษัทซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ช่วงหนึ่ง ก็ได้เรียน C.P.Consumer ทำให้เรามีความรู้เรื่องการตลาด ตำแหน่งที่ทำ ก็ขยับค่อนข้างเร็ว แต่ด้วยใจรักอยากจะทำงานสื่อ พอจบปริญญาตรี บังเอิญเห็นประกาศรับสมัครนักข่าวของ “ไทยไฟแนนเชียล” ก็เลยลองไปสมัครดู แม้เราจะจบสายไม่ตรง แต่นักข่าวสายหุ้นตอนนั้นต้องมีแปลข่าวจากต่างประเทศ ก็เลยลอง และก็ได้ทำที่นั้นในยุคสมัยของพี่สุนันท์ ศรีจันทรา”
ตอนนั้นคือปี 2536...
“ก็ทำเรื่องข่าวกองทุน ตอนนั้นน่าจะเป็นนักข่าวกองทุนคนแรกๆ ของเมืองไทย เพราะว่ากองทุนเพิ่งได้ใบอนุญาตในปี 2535 ก็ทำข่าวมาเรื่อยๆ ย้ายไปหลายฉบับหลายแห่ง เขาก็มอบหน้าที่ให้ดูเรื่องเศรษฐกิจการลุงทุนเป็นหลัก ก่อนจะขยับมาทำสื่อทีวีและวิทยุ และด้วยประสบการณ์ที่มีมากขึ้น ก็ได้มีโอกาสทำงานเกี่ยวข้องกับการเมืองนิดหน่อย และเคยไปนั่งเป็นประธานที่ปรึกษาการลงทุนบริษัท ต้นธาร คอร์เปอเรชั่น ของคุณณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ทำอยู่ระยะหนึ่ง แต่ก็อยู่ในแวดวงข่าว ชีวิตก็อยู่อย่างนั้น อยู่กับการลงทุนเป็นหลัก ไม่มีเรื่องต้นม้งต้นไม้มาเกี่ยวข้อง จะมีก็แค่บางจังหวะที่ไปช่วยงานของ ดร.พิจิตต รัตตกุล (อดีตผู้ว่าฯ กทม.) ด้านรณรงค์เรื่องควันพิษ พวกนี้ก็เป็นกิจกรรมทางสังคมที่ทำอยู่เนืองๆ แต่หลักๆ จะอยู่วงการหุ้นมากกว่า”
ใน พ.ศ.นั้น ชื่อ “วัลลภ สิริคุ้มครองกุล” ค่อนข้างขึ้นหม้อในยุทธจักรนักลงทุน
“ก็คิดอย่างเดียวว่าทำยังไงให้คนวางแผนการเงิน เอาเงินไปต่อเงิน แนวคิดก็เป็นแบบนี้ แบบทุนนิยม เราต้องมีเงินเยอะๆ แล้วเอาเงินไปซื้อความสุข เรามีเงินเยอะเราก็มีความสะดวกสบาย เราก็มีความสุข คนที่อยู่วงการหุ้นส่วนใหญ่จะพูดเรื่องเงิน คือเมื่อก่อนคนจะคิดกันอย่างเดียวว่า คนเราเมื่อเกษียณแล้วอยากสบาย ต้องมีเงินเยอะๆ อย่างต่ำต้อง 10-20 ล้านบาท
“ต่อมาในปี 2550-51 ก็เริ่มก่อตั้งสำนักพิมพ์ของตัวเอง ชื่อ “สมาร์ทฟัน” ผลิตหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน ก็ยังเป็นเรื่องการเงิน ได้รับการตอบรับดี จึงขยายไปซื้อเวลาข
"คนบ้า" อดีตเซียนหุ้น ผู้ทำคุณให้ผืนป่า
“พอเรียนใกล้จบ ผมได้ไปทำงานที่บริษัทซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ช่วงหนึ่ง ก็ได้เรียน C.P.Consumer ทำให้เรามีความรู้เรื่องการตลาด ตำแหน่งที่ทำ ก็ขยับค่อนข้างเร็ว แต่ด้วยใจรักอยากจะทำงานสื่อ พอจบปริญญาตรี บังเอิญเห็นประกาศรับสมัครนักข่าวของ “ไทยไฟแนนเชียล” ก็เลยลองไปสมัครดู แม้เราจะจบสายไม่ตรง แต่นักข่าวสายหุ้นตอนนั้นต้องมีแปลข่าวจากต่างประเทศ ก็เลยลอง และก็ได้ทำที่นั้นในยุคสมัยของพี่สุนันท์ ศรีจันทรา”
ตอนนั้นคือปี 2536...
“ก็ทำเรื่องข่าวกองทุน ตอนนั้นน่าจะเป็นนักข่าวกองทุนคนแรกๆ ของเมืองไทย เพราะว่ากองทุนเพิ่งได้ใบอนุญาตในปี 2535 ก็ทำข่าวมาเรื่อยๆ ย้ายไปหลายฉบับหลายแห่ง เขาก็มอบหน้าที่ให้ดูเรื่องเศรษฐกิจการลุงทุนเป็นหลัก ก่อนจะขยับมาทำสื่อทีวีและวิทยุ และด้วยประสบการณ์ที่มีมากขึ้น ก็ได้มีโอกาสทำงานเกี่ยวข้องกับการเมืองนิดหน่อย และเคยไปนั่งเป็นประธานที่ปรึกษาการลงทุนบริษัท ต้นธาร คอร์เปอเรชั่น ของคุณณัฐวุฒิ รุ่งวงษ์ ทำอยู่ระยะหนึ่ง แต่ก็อยู่ในแวดวงข่าว ชีวิตก็อยู่อย่างนั้น อยู่กับการลงทุนเป็นหลัก ไม่มีเรื่องต้นม้งต้นไม้มาเกี่ยวข้อง จะมีก็แค่บางจังหวะที่ไปช่วยงานของ ดร.พิจิตต รัตตกุล (อดีตผู้ว่าฯ กทม.) ด้านรณรงค์เรื่องควันพิษ พวกนี้ก็เป็นกิจกรรมทางสังคมที่ทำอยู่เนืองๆ แต่หลักๆ จะอยู่วงการหุ้นมากกว่า”
ใน พ.ศ.นั้น ชื่อ “วัลลภ สิริคุ้มครองกุล” ค่อนข้างขึ้นหม้อในยุทธจักรนักลงทุน
“ก็คิดอย่างเดียวว่าทำยังไงให้คนวางแผนการเงิน เอาเงินไปต่อเงิน แนวคิดก็เป็นแบบนี้ แบบทุนนิยม เราต้องมีเงินเยอะๆ แล้วเอาเงินไปซื้อความสุข เรามีเงินเยอะเราก็มีความสะดวกสบาย เราก็มีความสุข คนที่อยู่วงการหุ้นส่วนใหญ่จะพูดเรื่องเงิน คือเมื่อก่อนคนจะคิดกันอย่างเดียวว่า คนเราเมื่อเกษียณแล้วอยากสบาย ต้องมีเงินเยอะๆ อย่างต่ำต้อง 10-20 ล้านบาท
“ต่อมาในปี 2550-51 ก็เริ่มก่อตั้งสำนักพิมพ์ของตัวเอง ชื่อ “สมาร์ทฟัน” ผลิตหนังสือเกี่ยวกับการลงทุน ก็ยังเป็นเรื่องการเงิน ได้รับการตอบรับดี จึงขยายไปซื้อเวลาข