อยากจะแชร์ประสบการณ์ที่ได้เจอมากับตัว เพื่อเป็นอุทธาหรณ์ให้กับหลายๆคน
ว่า เวลาตัดสินใจจะคบกับใคร ต้องดูให้ดีๆค่ะ ไม่ต้องรีบ ใช้เวลาดูกันนานๆ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของเรากับแฟนเก่า ช่วงเวลาที่คบกันสองปี
เราเป็นเพื่อนกันมาก่อนค่ะ บ้านก็อยู่ใกล้ๆกัน เค้าเป็นเพื่อนสมัยเรียน เคยคุยกัน ทักทายกันบ้าง แต่ไม่ได้สนิทอะไร
(ปกติเค้าก็พูดน้อยอยุ่แล้วด้วย) จะว่าไปจริงๆแล้วก็เรียนรร.เดียวกันตั้งแต่อนุบาล และม.ต้น
หลังจากนั้นก็ได้เจอกันบ้าง เพราะเพื่อนๆเค้า เราก็รู้จัก เวลาผ่านไปนานม้ากกกกกก เป็นสิบปีค่ะ
แล้ววันนึง เราก็มาเจอเค้าในเฟซบุค ก็อินบ๊อกหากัน พูดคุยกันตามประสาเพื่อน แล้วอยู่ๆเค้าก็ชวนเราไปกินข้าว
ไปเจอวันนั้น ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เค้าดูโทรมๆ ดูแปลกๆ แต่เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะปกติเมื่อก่อนเค้าก็เป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว
หลังจากนั้นก็เริ่มคบกัน เริ่มไปค้างที่บ้านเค้าบ่อยๆ จนสุดท้ายก็ไปอยู่ด้วยกันเลย ด้วยความที่บ้านใกล้กัน
เดือนแรกผ่านไป อะไรๆก็ดี เค้าดีกับเรามากกก พูดจาเพราะ ทำกับข้าวให้เรากิน
ดูแลอย่างดี ไม่เคยว่า ไม่เคยชวนทะเลาะ บอกรักเราทุกวัน ตามใจทุกอย่าง
แล้วปัญหาก็เริ่มเกิด เมื่ออยู่ๆวันนึง ก็มีผู้หญิงโทรมาหาเค้าแต่เช้า โทรเป็นสิบๆสาย แต่เค้าไม่รับ
จนแม่เค้าเดินมาเรียก บอกว่าแฟนเก่าเค้าโทรมา เห็นว่ามีปัญหา ช่วยรับโทรศัพท์หน่อย
แล้วอยู่ๆ แฟนเก่าเค้าก็มาหาถึงบ้าน มาเคาะประตูห้องนอนเลยค่ะ
ตอนนั้นเราก็อึ้งๆ แต่ไม่ได้โวยวายอะไร เพราะเค้าเกริ่นให้เราฟังแล้ว ว่าแฟนเก่าเค้าคนนี้เคยคบกันมาเป็นสิบปี
แล้วเลิกกันไป ก็เลยเป็นเพื่อนกัน มีปัญหาอะไรก็ช่วยกัน เราก็โอเค ไม่ว่าอะไร
ช่วงแรกๆ นางมาบ่อยมาก ประมาณว่าอกหัก มีปัญหากับแฟนใหม่ ก็ไม่รู้จะไปหาใคร เลยมาบ้านนี้
นางทำตัวน่ารัก มาทำดีกับเรา ทำตัวสนิทกับทุกคนไปหมด ทั้งเพื่อนทั้งแม่เค้า
เราเข้าใจนะ คนเคยอยู่ด้วยกันเป็นสิบปี เราก็เห็นใจ
แล้วนางก็เริ่มเล่าเรื่องเก่าๆของนางกันแฟนเรา (สมมติว่าชื่อ นอต ละกัน) เรื่องที่นางเล่า ทำเราอึ้งไปเลย
นางเล่าว่า นอตเป็นคนโมโหร้ายมากกกก นางโดนตบโดนเตะประจำ ถึงขนาดเลือดตกยางออกเข้าโรงบาลก็บ่อย
นางบอกว่าเมื่อก่อนนอตติดยานอนหลับ แล้วพอกินมากๆจะคลั่ง ไร้สติ บวกกับเป็นคนอารมณ์ร้อน
มีปัญหาทะเลาะกันที นางเกือบตายทุกที
จนนางต้องหนีออกจากบ่าน ครั้งแล้วครั้งเล่า
สุดท้ายนางก็หนีได้ และไปเริ่มต้นใหม่ มีชีวิตที่ดีแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกัน
เราก็แบบ.... ได้ยินแล้วตกใจสุดๆ แต่ก็ยังบอกนางไปว่า
นอตไม่กล้าทำอะไรเราหรอก
ไม่เคยแม้แต่จะเสียงดังใส่เราหรือพูดจาไม่ดีกับเราเลย เรามั่นใจว่า ไม่มีทางที่จะโดนแบบนั้นแน่ๆ
แล้ววันนึง เราก็ได้เจอความจริง
วันนั้น เริ่มจากยัยแฟนเก่า (ซึ่งเริ่มจะทำตัวมีปัญหา โทรมาทุกวี่วัน วันละหลายๆรอบ หรือจู่ๆก็โผล่มาหาที่บ้าน)
นางโทรหานอต โทรๆๆๆๆหลายรอบ พอนอตรับ ก็คุยกันนานมากกกก คือเราเริ่มรู้สึกไม่ดีกับเรื่องแบบนี้แล้ว
เป็นเพื่อนกับแฟนเก่าเราไม่ว่า แต่ไม่จำเป็นต้องคุยกันทุกวันแบบนี้ วันนั้นเราเลยปรี๊ดแตก
ทำท่าทางฟึดฟัดใส่นอต แล้วอยู่ๆ นอตก็ตะคอกเรา เสียงดังมาก ด้วยคำพูดหยาบๆ
แค่ประโยคเดียว เราอึ้ง แล้วเก็บเสื้อผ้าเดินออกจากบ่านมาเลย คือเกิดมาไม่เคยเจอแบบนี้
หลังจากวันนั้น นอตก็มาง้อค่ะ เราก็กลับไป เค้าสัญญาว่าจะไม่ตะคอก ไม่พูดคำหยาบใส่เราอีก
เราก็ให้โอกาส ....
แต่.. แล้ว ก็มีเหตุการณ์แบบนี้มาอีก เรื่อยๆ เรื่อยๆ เรือ่ยๆ
แค่ขึ้นเดือนที่สอง ที่สาม เราเริ่มมีปากเสียงกัน สาเหตุหลักๆมาจากแฟนเก่าเค้าน่ะล่ะค่ะ
เราไม่รู้ว่านางต้องการอะไร แต่นางเริ่มเข้ามาในชีวิตเราสองคนมาเกินไป
เคยแอบเห็นแชตกับเมสเสจ มีบอกรักมีคิดถึงกันตลอดเวลา
ตอนแรกๆเราก็ยอมนะ แต่บ่อยๆเข้า เราเริ่มระแวง เริ่มเช็คโทรศัพท์พอเค้าจับได้ว่าเช็คโทรศัพท์ บ้านพังค่ะ
อารมณ์เค้าเริ่มรุนแรงขึ้น จนเรารู้สึกกลัว แต่ด้วยความรัก
ก็คิดว่าจะอดทนต่อไป เพราะตอนที่เค้าดี ก็ดีมากจริงๆ
เราเริ่มรับรุ้เรื่องราวมากมาย จากญาติๆเค้า จากเพื่อนๆเค้า ว่าตัวเค้าเป็นโรคซึมเศร้า และติดยานอนหลับอย่างหนัก
เคยพาไปหาหมอหลายครั้ง เคยจะพาไปบำบัด แต่ก็ไม่ได้ไป สารพัดเรื่องราวร้ายๆที่เราไม่คิดว่าจะได้ยินได้เจอ
ไหนจะเรื่องยาอีก เราไม่รุ้หรอกว่ามันคือยาอะไร เคยแอบจับได้ แต่เค้าก็บอกว่าแค่ยานอนหลับธรรมดา
และเรามั่นใจว่า เค้าต้องเป็นไบโพลาร์แน่ๆ (อันนี้ไม่ได้พาไปตรวจหรือรักษานะ แต่รู้สึกว่าต้องใช่ ตอนดีก็ดีใจหาย
ตอนโมโหนี่เปลี่ยนเป็นคนละคน)
เหตุการณ์เริ่มร้าย และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากที่แค่ตะคอกใส่ กลายเป็นทำลายข้าวของ
(พังประตูบ่าง พังโต๊ะบ้าง เขวี้ยงของใส่บ้าง) แต่เราก็ยังทน เพราะใจหวังว่า อยากจะช่วยให้เค้าดีขึ้น
มีครั้งนึง จำไม่ได้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร เราเห็นเค้าเริ่มโกรธ เราก็จะหนี เพราะกลัวโดนทำร้ายค่ะ
เราว่ิงไปหน้าบ้าน เค้าวิ่งตามมาดักเราไว้ แล้วอยู่ๆก็หยิบลูกหมามาบีบคอ บอกว่าถ้าเราไม่เข้าบ้าน เค้าจะบีบคอมันจนตาย
เราตกใจมาก ใจก็อยากหนี แต่ก็สงสารหมา ก็เลยต้องยอม (น้องหมาไม่เป็นอะไรมากค่ะ แต่คงจะเจ็บและกลัวเจ้าของไปเลย)
พอเราเดินเข้าบ้าน เค้าก็จับเราเหวี่ยงไปจนเราลงไปกลิ้งกับพื้น หัวไปโขกกับกำแพงแรงมาก ขาแขนช้ำไปหมด
เราตกใจนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น ตัวสั่นไปหมด ทำอะไรไม่ถูก จะหนีก็กลัว จนเค้าเริ่มอารมณ์เย็นลง
เค้าก็มาปลอบ มากอดเรา บอกว่าขอโทษ จะไม่ทำอีกแล้ว
จากวั้นนั้นก็มีเหตุการณ์แบบนี้มาเรื่อยๆค่ะ เราต้องหนีออกจากบ้านนั้นตอนตีสองตีสามบ่อยมากกกกก
คือพอเริ่มมีปากเสียงกัน เราก็รู้ละว่า ต้องรอเค้าเผลอ แล้วคว้าโทรศัพท์กับกระเป๋าตังหนีทันที ไม่งั้นโดนอีกแน่ๆ
(ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้มีเรื่องอะไรทะเลาะ แต่แค่เราพูดอะไรนิดหน่อยไม่เข้าหูเค้า ก็จะโกรธเป็นไฟแบบฉุดไม่อยู่
สติหาย แปลงร่างเหมือนเป็นคนละคนเลย)
บางทีก็เหมือนคนเมาอะไรแปลกๆ พูดจาไม่รู้เรื่อง น่ากลัวมาก เวลาเราหนีออกมาดึกๆแบบนั้น
เราก็จะไม่กลับบ้านเรา เพราะกลัวแม่เป็นห่วง
ไม่รู้จะบอกแม่ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้น เราต้องไปเช่าห้องนอนข้างนอก เป็นแบบนั้นอยู่บ่อยมาก
หลายครั้งที่หนีไม่ทัน เราก็จะโดนจับขังในห้อง แล้วเค้าก็จะทั้งด่าทั้งพังข้าวของอยู่ตรงนั้น ไม่ให้เราไปไหน
จะลุกหนี ก็จะโดนดึงโดนจับตัวไว้ บอกเลยว่า เป็นช่วงเวลาที่โหดร้ายที่สุดในชีวิต
เพราะไม่รู้ว่าจะโดนทำร้ายตอนไหนอีก
เราคิดจะเก็บข้าวของหนีกลับบ้าน หลายครั้ง แต่พอกลับไป เค้าก็ไปง้อกลับมา หรือไม่เราก็กลับมาเอง
ด้วยความเป็นห่วง อยากดูแล อยากช่วยให้เค้าหายจากอาการแบบนี้
มีอยู่วันนึง เป็นเหตุการณที่เราคงจำไปตลอดชีวิต
วันนั้นเป็นวันที่เราหนีออกมาตอนกลางคืนเพราะเห็นเค้าตาลอยๆแปลกๆ ไม่รู้ว่าไปกินยานอนหลับอะไรมาอีก ดูน่ากลัวอีกแล้ว
ถามอะไรไปตอบอีกอย่าง หรืออยู่ๆก็พูดอะไรมาก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าพูดเรื่องอะไร
เราเลยถามเค้าว่าไปกินยาอะไรมาอีก ทำไมเป็นแบบนี้อีกแล้ว เท่านั้นล่ะ บ้านแตกค่ะ อาละวาดเหมือนเดิม
โชคดีที่คืนนั้นมีเพื่อนๆพี่ๆเค้ามาที่บ้าน เราเลยแอบหนีออกมาทัน
แต่พอตอนสายๆ เรากลับเข้าบ้านไป เพราะเป็นห่วง พอกลับถึงบ้านก็ไม่เจอเค้า เรานั่งรอจนเค้ากลับมา
แต่งงว่า ทำไมนอตกลับมามอไซค์รับจ้าง รถก็ไม่อยู่ แล้วรถหายไปไหน ถามไปก็คุยกันไม่รู้เรื่อง
แถมเค้ายังถือถุงที่ใส่ยาเป็นยาน้ำขวดๆมาอีกสองสามขวด เท่าที่ดูเหมือนจะเป็นยาแก้แพ้อะไรนี่ล่ะ ที่กินแล้วจะง่วง
กับยาแก้ไออะไรสักอย่าง เค้าบอกว่า ยิ่งเราห้าม เค้าก็จะยิ่งกิน
ตอนนั้นเราพยายามไม่พูดอะไร แล้วหาทางหนีออกจากบ้านให้ได้ รอเค้าเดินไปหลังบ้าน เราก็คว้าถุงยาแล้ววิ่งออกจากบ้านไป
ก็โทรหาป้าเค้า เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง บอกว่านอตอาการหนักมาก ตาลอย เดินไปเดินมา
เราเป็นห่วง แต่ไม่กล้าอยู่ด้วยจริงๆ เพราะเค้าเริ่มอาละวาดพังบ้านอีกแล้ว
แล้วญาติๆเค้าก็รีบเข้าไปที่บ้านค่ะ เค้าอาละวาดหนักจริงๆ แบบสติหลุด ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรไปบ้าง
โทรหาเราบอกว่า ถ้าเราไม่กลับไป เค้าจะฆ่าให้หมดทุกคนเลย
แล้วเค้าก็คว้ามีดมาฟันตัวเอง ป้าๆน้าๆช่วยกันห้ามจนเลือดตกยางออก พากันไปโรงบาล เย็บไปหลายสิบเข็ม
ไปถึงมือหมอก็ยังไปอาละวาดต่อที่นั่นอีก แล้วหมอก็จ่ายยาอะไรมาไม่รู้ ที่กินแล้วจะสงบลง
หลังจากนั้นก็พากันกลับบ้านโดยมีญาติๆคอยดูแลใกล้ชิด (แถมยังต้องไปช่วยกันตามหารถที่เค้าไปจอดทิ้งไว้อีกนะ)
ผ่านไปหนึ่งวัน เค้าหลับยาวจนฟื้นขึ้นมา ป้าบอกว่าเค้าถามหาเรา และดูซึมๆไป คงรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ
เราก็สงสารอีก ทั้งๆที่ในใจคิดว่า พอแล้ว ไม่เอาแล้ว รับไม่ไหวแล้ว แต่ก็กลับไปค่ะ
เค้าก็ดีขึ้นพักนึง และสัญญาว่าจะไม่กินยาอีก .... แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทุกอย่างก็กลับไปโหดร้ายเหมือนเดิม
ช่วงเวลาดีๆของเราสองคนเริ่มหายไป มีแต่ความเกลียดชังในใจเรา มีแต่ความไม่เข้าใจ
พูดจาไม่เข้าหูนิดๆหน่อยๆก็จะทะเลาะกันรุนแรงมากขึ้นๆ เรายังต้องหนีออกมา แล้วก็กลับไป
เป็นแบบนั้นอยู่สองปี
ไม่รู้ว่าทนได้ไง ไม่รู้ว่าทนทำไม
ไม่รู่ว่า ใครเคยเจอ เคยรุ้จัก หรือมีคนใกล้ตัวเป็นแบบนี้ไหม
จริงๆแล้ว ลึกๆเค้าเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวมากกกกกกกก มากที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมา เค้ามีปมอยู่ในใจ
เพราะพ่อกับแม่ทะเลาะกัน เขวี้ยงปาข้าวของทำร้ายกันต่อหน้าเค้าตอนเด็กๆ เหมือนเป็นคนเก็บกด
เวลาเจออะไรแย่ๆ เค้าจะไม่สามารถรับได้ เจอลูกค้าโกงเงิน เจอเพื่อนหลอกใช้งาน เจอคนพูดจาไม่ดีใส่
เค้าจะเจ็บหนักกว่าคนปกติสิบเท่า เค้าเป็นคนน่าสงสาร และด้วยความสงสาร ผสมกับความรัก
เราก็เลยทนอยู่แบบนั้นมั้ง หวังว่าเค้าจะดีขึ้นสักวัน
สุดท้าย ความรักที่เรามีให้เค้า มันไม่สามารถเอาชนะอะไรได้เลย เราคิดมาตลอดว่า ถ้าเราทำดี ให้ความรักเค้ามากๆ เค้าจะดีขึ้น
เค้าจะหายจากโรคซึมเศร้า เค้าจะมองเห็นสิ่งดีๆในโลกนี้ได้มากกว่านี้
แต่ไม่เลย สุดท้ายเราตัดสินใจ หนีไปจากชีวิตเค้า ย้ายบ้าน ย้ายที่ทำงานไปอยู่คนละจังหวัด ไม่ติดต่อกันอีก
บล๊อกทุกทางทั้งโทรศัพท์ เฟซบุค ไอจี ไลน์
แล้วชีวิตเราก็ดีขึ้นๆๆ จนกลับมาปกติอีกครั้ง
บอกเลยว่า ที่เค้าว่ากันว่า เราอยุ่กับใคร เราก็จะเป็นแบบนั้น มันคือจริงสุดๆ
จากปกติที่เราเป็นคนใจเย็น ร่าเริง แต่พอไปอยู่แบบนั้นนานๆ เรากลายเป็นคนที่ปรี๊ดง่ายมาก เริ่มตะโกนเสียงดัง
หรือบางทีก็กรี๊ดขึ้นมาซะงั้น ชีวิตเหมือนตกอยู่ในนรกจริงๆ
วันนี้รอดมาได้ แต่ก็ไม่ถือโทษโกรธใคร ทุกอย่าง อยู่ที่ตัวเรา เราตัดสินใจ เราเลือกเอง เราทำตัวเองทั้งนั้น
คิดซะว่า เป็นเวรกรรมที่เราเคยทำไว้ แล้วมันก็ผ่านไปแล้ว
มองย้อนกลับไป ก็นึกสงสารว่า คงมีผู้หญิงอีกหลายคนที่น่าจะเคยเจอเหตุการณ์แบบเรา
ขอเป็นกำลังใจให้เข้มแข็งและก้าวผ่านมันมาให้ได้นะคะ
มีแฟนโมโหร้าย ติดยานอนหลับ เป็นโรคซึมเศร้า และเป็นไบโพลาร์ ..ชีวิตเหมือนตกนรกทั้งเป็น
ว่า เวลาตัดสินใจจะคบกับใคร ต้องดูให้ดีๆค่ะ ไม่ต้องรีบ ใช้เวลาดูกันนานๆ
เรื่องนี้เป็นเรื่องของเรากับแฟนเก่า ช่วงเวลาที่คบกันสองปี
เราเป็นเพื่อนกันมาก่อนค่ะ บ้านก็อยู่ใกล้ๆกัน เค้าเป็นเพื่อนสมัยเรียน เคยคุยกัน ทักทายกันบ้าง แต่ไม่ได้สนิทอะไร
(ปกติเค้าก็พูดน้อยอยุ่แล้วด้วย) จะว่าไปจริงๆแล้วก็เรียนรร.เดียวกันตั้งแต่อนุบาล และม.ต้น
หลังจากนั้นก็ได้เจอกันบ้าง เพราะเพื่อนๆเค้า เราก็รู้จัก เวลาผ่านไปนานม้ากกกกกก เป็นสิบปีค่ะ
แล้ววันนึง เราก็มาเจอเค้าในเฟซบุค ก็อินบ๊อกหากัน พูดคุยกันตามประสาเพื่อน แล้วอยู่ๆเค้าก็ชวนเราไปกินข้าว
ไปเจอวันนั้น ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เค้าดูโทรมๆ ดูแปลกๆ แต่เราก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะปกติเมื่อก่อนเค้าก็เป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว
หลังจากนั้นก็เริ่มคบกัน เริ่มไปค้างที่บ้านเค้าบ่อยๆ จนสุดท้ายก็ไปอยู่ด้วยกันเลย ด้วยความที่บ้านใกล้กัน
เดือนแรกผ่านไป อะไรๆก็ดี เค้าดีกับเรามากกก พูดจาเพราะ ทำกับข้าวให้เรากิน
ดูแลอย่างดี ไม่เคยว่า ไม่เคยชวนทะเลาะ บอกรักเราทุกวัน ตามใจทุกอย่าง
แล้วปัญหาก็เริ่มเกิด เมื่ออยู่ๆวันนึง ก็มีผู้หญิงโทรมาหาเค้าแต่เช้า โทรเป็นสิบๆสาย แต่เค้าไม่รับ
จนแม่เค้าเดินมาเรียก บอกว่าแฟนเก่าเค้าโทรมา เห็นว่ามีปัญหา ช่วยรับโทรศัพท์หน่อย
แล้วอยู่ๆ แฟนเก่าเค้าก็มาหาถึงบ้าน มาเคาะประตูห้องนอนเลยค่ะ
ตอนนั้นเราก็อึ้งๆ แต่ไม่ได้โวยวายอะไร เพราะเค้าเกริ่นให้เราฟังแล้ว ว่าแฟนเก่าเค้าคนนี้เคยคบกันมาเป็นสิบปี
แล้วเลิกกันไป ก็เลยเป็นเพื่อนกัน มีปัญหาอะไรก็ช่วยกัน เราก็โอเค ไม่ว่าอะไร
ช่วงแรกๆ นางมาบ่อยมาก ประมาณว่าอกหัก มีปัญหากับแฟนใหม่ ก็ไม่รู้จะไปหาใคร เลยมาบ้านนี้
นางทำตัวน่ารัก มาทำดีกับเรา ทำตัวสนิทกับทุกคนไปหมด ทั้งเพื่อนทั้งแม่เค้า
เราเข้าใจนะ คนเคยอยู่ด้วยกันเป็นสิบปี เราก็เห็นใจ
แล้วนางก็เริ่มเล่าเรื่องเก่าๆของนางกันแฟนเรา (สมมติว่าชื่อ นอต ละกัน) เรื่องที่นางเล่า ทำเราอึ้งไปเลย
นางเล่าว่า นอตเป็นคนโมโหร้ายมากกกก นางโดนตบโดนเตะประจำ ถึงขนาดเลือดตกยางออกเข้าโรงบาลก็บ่อย
นางบอกว่าเมื่อก่อนนอตติดยานอนหลับ แล้วพอกินมากๆจะคลั่ง ไร้สติ บวกกับเป็นคนอารมณ์ร้อน
มีปัญหาทะเลาะกันที นางเกือบตายทุกที
จนนางต้องหนีออกจากบ่าน ครั้งแล้วครั้งเล่า
สุดท้ายนางก็หนีได้ และไปเริ่มต้นใหม่ มีชีวิตที่ดีแล้ว ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกัน
เราก็แบบ.... ได้ยินแล้วตกใจสุดๆ แต่ก็ยังบอกนางไปว่า นอตไม่กล้าทำอะไรเราหรอก
ไม่เคยแม้แต่จะเสียงดังใส่เราหรือพูดจาไม่ดีกับเราเลย เรามั่นใจว่า ไม่มีทางที่จะโดนแบบนั้นแน่ๆ
แล้ววันนึง เราก็ได้เจอความจริง
วันนั้น เริ่มจากยัยแฟนเก่า (ซึ่งเริ่มจะทำตัวมีปัญหา โทรมาทุกวี่วัน วันละหลายๆรอบ หรือจู่ๆก็โผล่มาหาที่บ้าน)
นางโทรหานอต โทรๆๆๆๆหลายรอบ พอนอตรับ ก็คุยกันนานมากกกก คือเราเริ่มรู้สึกไม่ดีกับเรื่องแบบนี้แล้ว
เป็นเพื่อนกับแฟนเก่าเราไม่ว่า แต่ไม่จำเป็นต้องคุยกันทุกวันแบบนี้ วันนั้นเราเลยปรี๊ดแตก
ทำท่าทางฟึดฟัดใส่นอต แล้วอยู่ๆ นอตก็ตะคอกเรา เสียงดังมาก ด้วยคำพูดหยาบๆ
แค่ประโยคเดียว เราอึ้ง แล้วเก็บเสื้อผ้าเดินออกจากบ่านมาเลย คือเกิดมาไม่เคยเจอแบบนี้
หลังจากวันนั้น นอตก็มาง้อค่ะ เราก็กลับไป เค้าสัญญาว่าจะไม่ตะคอก ไม่พูดคำหยาบใส่เราอีก
เราก็ให้โอกาส ....
แต่.. แล้ว ก็มีเหตุการณ์แบบนี้มาอีก เรื่อยๆ เรื่อยๆ เรือ่ยๆ
แค่ขึ้นเดือนที่สอง ที่สาม เราเริ่มมีปากเสียงกัน สาเหตุหลักๆมาจากแฟนเก่าเค้าน่ะล่ะค่ะ
เราไม่รู้ว่านางต้องการอะไร แต่นางเริ่มเข้ามาในชีวิตเราสองคนมาเกินไป
เคยแอบเห็นแชตกับเมสเสจ มีบอกรักมีคิดถึงกันตลอดเวลา
ตอนแรกๆเราก็ยอมนะ แต่บ่อยๆเข้า เราเริ่มระแวง เริ่มเช็คโทรศัพท์พอเค้าจับได้ว่าเช็คโทรศัพท์ บ้านพังค่ะ
อารมณ์เค้าเริ่มรุนแรงขึ้น จนเรารู้สึกกลัว แต่ด้วยความรัก
ก็คิดว่าจะอดทนต่อไป เพราะตอนที่เค้าดี ก็ดีมากจริงๆ
เราเริ่มรับรุ้เรื่องราวมากมาย จากญาติๆเค้า จากเพื่อนๆเค้า ว่าตัวเค้าเป็นโรคซึมเศร้า และติดยานอนหลับอย่างหนัก
เคยพาไปหาหมอหลายครั้ง เคยจะพาไปบำบัด แต่ก็ไม่ได้ไป สารพัดเรื่องราวร้ายๆที่เราไม่คิดว่าจะได้ยินได้เจอ
ไหนจะเรื่องยาอีก เราไม่รุ้หรอกว่ามันคือยาอะไร เคยแอบจับได้ แต่เค้าก็บอกว่าแค่ยานอนหลับธรรมดา
และเรามั่นใจว่า เค้าต้องเป็นไบโพลาร์แน่ๆ (อันนี้ไม่ได้พาไปตรวจหรือรักษานะ แต่รู้สึกว่าต้องใช่ ตอนดีก็ดีใจหาย
ตอนโมโหนี่เปลี่ยนเป็นคนละคน)
เหตุการณ์เริ่มร้าย และรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากที่แค่ตะคอกใส่ กลายเป็นทำลายข้าวของ
(พังประตูบ่าง พังโต๊ะบ้าง เขวี้ยงของใส่บ้าง) แต่เราก็ยังทน เพราะใจหวังว่า อยากจะช่วยให้เค้าดีขึ้น
มีครั้งนึง จำไม่ได้ว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร เราเห็นเค้าเริ่มโกรธ เราก็จะหนี เพราะกลัวโดนทำร้ายค่ะ
เราว่ิงไปหน้าบ้าน เค้าวิ่งตามมาดักเราไว้ แล้วอยู่ๆก็หยิบลูกหมามาบีบคอ บอกว่าถ้าเราไม่เข้าบ้าน เค้าจะบีบคอมันจนตาย
เราตกใจมาก ใจก็อยากหนี แต่ก็สงสารหมา ก็เลยต้องยอม (น้องหมาไม่เป็นอะไรมากค่ะ แต่คงจะเจ็บและกลัวเจ้าของไปเลย)
พอเราเดินเข้าบ้าน เค้าก็จับเราเหวี่ยงไปจนเราลงไปกลิ้งกับพื้น หัวไปโขกกับกำแพงแรงมาก ขาแขนช้ำไปหมด
เราตกใจนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้น ตัวสั่นไปหมด ทำอะไรไม่ถูก จะหนีก็กลัว จนเค้าเริ่มอารมณ์เย็นลง
เค้าก็มาปลอบ มากอดเรา บอกว่าขอโทษ จะไม่ทำอีกแล้ว
จากวั้นนั้นก็มีเหตุการณ์แบบนี้มาเรื่อยๆค่ะ เราต้องหนีออกจากบ้านนั้นตอนตีสองตีสามบ่อยมากกกกก
คือพอเริ่มมีปากเสียงกัน เราก็รู้ละว่า ต้องรอเค้าเผลอ แล้วคว้าโทรศัพท์กับกระเป๋าตังหนีทันที ไม่งั้นโดนอีกแน่ๆ
(ซึ่งจริงๆแล้วไม่ได้มีเรื่องอะไรทะเลาะ แต่แค่เราพูดอะไรนิดหน่อยไม่เข้าหูเค้า ก็จะโกรธเป็นไฟแบบฉุดไม่อยู่
สติหาย แปลงร่างเหมือนเป็นคนละคนเลย)
บางทีก็เหมือนคนเมาอะไรแปลกๆ พูดจาไม่รู้เรื่อง น่ากลัวมาก เวลาเราหนีออกมาดึกๆแบบนั้น
เราก็จะไม่กลับบ้านเรา เพราะกลัวแม่เป็นห่วง
ไม่รู้จะบอกแม่ยังไงว่าเกิดอะไรขึ้น เราต้องไปเช่าห้องนอนข้างนอก เป็นแบบนั้นอยู่บ่อยมาก
หลายครั้งที่หนีไม่ทัน เราก็จะโดนจับขังในห้อง แล้วเค้าก็จะทั้งด่าทั้งพังข้าวของอยู่ตรงนั้น ไม่ให้เราไปไหน
จะลุกหนี ก็จะโดนดึงโดนจับตัวไว้ บอกเลยว่า เป็นช่วงเวลาที่โหดร้ายที่สุดในชีวิต
เพราะไม่รู้ว่าจะโดนทำร้ายตอนไหนอีก
เราคิดจะเก็บข้าวของหนีกลับบ้าน หลายครั้ง แต่พอกลับไป เค้าก็ไปง้อกลับมา หรือไม่เราก็กลับมาเอง
ด้วยความเป็นห่วง อยากดูแล อยากช่วยให้เค้าหายจากอาการแบบนี้
มีอยู่วันนึง เป็นเหตุการณที่เราคงจำไปตลอดชีวิต
วันนั้นเป็นวันที่เราหนีออกมาตอนกลางคืนเพราะเห็นเค้าตาลอยๆแปลกๆ ไม่รู้ว่าไปกินยานอนหลับอะไรมาอีก ดูน่ากลัวอีกแล้ว
ถามอะไรไปตอบอีกอย่าง หรืออยู่ๆก็พูดอะไรมาก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าพูดเรื่องอะไร
เราเลยถามเค้าว่าไปกินยาอะไรมาอีก ทำไมเป็นแบบนี้อีกแล้ว เท่านั้นล่ะ บ้านแตกค่ะ อาละวาดเหมือนเดิม
โชคดีที่คืนนั้นมีเพื่อนๆพี่ๆเค้ามาที่บ้าน เราเลยแอบหนีออกมาทัน
แต่พอตอนสายๆ เรากลับเข้าบ้านไป เพราะเป็นห่วง พอกลับถึงบ้านก็ไม่เจอเค้า เรานั่งรอจนเค้ากลับมา
แต่งงว่า ทำไมนอตกลับมามอไซค์รับจ้าง รถก็ไม่อยู่ แล้วรถหายไปไหน ถามไปก็คุยกันไม่รู้เรื่อง
แถมเค้ายังถือถุงที่ใส่ยาเป็นยาน้ำขวดๆมาอีกสองสามขวด เท่าที่ดูเหมือนจะเป็นยาแก้แพ้อะไรนี่ล่ะ ที่กินแล้วจะง่วง
กับยาแก้ไออะไรสักอย่าง เค้าบอกว่า ยิ่งเราห้าม เค้าก็จะยิ่งกิน
ตอนนั้นเราพยายามไม่พูดอะไร แล้วหาทางหนีออกจากบ้านให้ได้ รอเค้าเดินไปหลังบ้าน เราก็คว้าถุงยาแล้ววิ่งออกจากบ้านไป
ก็โทรหาป้าเค้า เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง บอกว่านอตอาการหนักมาก ตาลอย เดินไปเดินมา
เราเป็นห่วง แต่ไม่กล้าอยู่ด้วยจริงๆ เพราะเค้าเริ่มอาละวาดพังบ้านอีกแล้ว
แล้วญาติๆเค้าก็รีบเข้าไปที่บ้านค่ะ เค้าอาละวาดหนักจริงๆ แบบสติหลุด ไม่รู้ตัวว่าทำอะไรไปบ้าง
โทรหาเราบอกว่า ถ้าเราไม่กลับไป เค้าจะฆ่าให้หมดทุกคนเลย
แล้วเค้าก็คว้ามีดมาฟันตัวเอง ป้าๆน้าๆช่วยกันห้ามจนเลือดตกยางออก พากันไปโรงบาล เย็บไปหลายสิบเข็ม
ไปถึงมือหมอก็ยังไปอาละวาดต่อที่นั่นอีก แล้วหมอก็จ่ายยาอะไรมาไม่รู้ ที่กินแล้วจะสงบลง
หลังจากนั้นก็พากันกลับบ้านโดยมีญาติๆคอยดูแลใกล้ชิด (แถมยังต้องไปช่วยกันตามหารถที่เค้าไปจอดทิ้งไว้อีกนะ)
ผ่านไปหนึ่งวัน เค้าหลับยาวจนฟื้นขึ้นมา ป้าบอกว่าเค้าถามหาเรา และดูซึมๆไป คงรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำ
เราก็สงสารอีก ทั้งๆที่ในใจคิดว่า พอแล้ว ไม่เอาแล้ว รับไม่ไหวแล้ว แต่ก็กลับไปค่ะ
เค้าก็ดีขึ้นพักนึง และสัญญาว่าจะไม่กินยาอีก .... แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทุกอย่างก็กลับไปโหดร้ายเหมือนเดิม
ช่วงเวลาดีๆของเราสองคนเริ่มหายไป มีแต่ความเกลียดชังในใจเรา มีแต่ความไม่เข้าใจ
พูดจาไม่เข้าหูนิดๆหน่อยๆก็จะทะเลาะกันรุนแรงมากขึ้นๆ เรายังต้องหนีออกมา แล้วก็กลับไป
เป็นแบบนั้นอยู่สองปี
ไม่รู้ว่าทนได้ไง ไม่รู้ว่าทนทำไม
ไม่รู่ว่า ใครเคยเจอ เคยรุ้จัก หรือมีคนใกล้ตัวเป็นแบบนี้ไหม
จริงๆแล้ว ลึกๆเค้าเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวมากกกกกกกก มากที่สุดเท่าที่เราเคยเจอมา เค้ามีปมอยู่ในใจ
เพราะพ่อกับแม่ทะเลาะกัน เขวี้ยงปาข้าวของทำร้ายกันต่อหน้าเค้าตอนเด็กๆ เหมือนเป็นคนเก็บกด
เวลาเจออะไรแย่ๆ เค้าจะไม่สามารถรับได้ เจอลูกค้าโกงเงิน เจอเพื่อนหลอกใช้งาน เจอคนพูดจาไม่ดีใส่
เค้าจะเจ็บหนักกว่าคนปกติสิบเท่า เค้าเป็นคนน่าสงสาร และด้วยความสงสาร ผสมกับความรัก
เราก็เลยทนอยู่แบบนั้นมั้ง หวังว่าเค้าจะดีขึ้นสักวัน
สุดท้าย ความรักที่เรามีให้เค้า มันไม่สามารถเอาชนะอะไรได้เลย เราคิดมาตลอดว่า ถ้าเราทำดี ให้ความรักเค้ามากๆ เค้าจะดีขึ้น
เค้าจะหายจากโรคซึมเศร้า เค้าจะมองเห็นสิ่งดีๆในโลกนี้ได้มากกว่านี้
แต่ไม่เลย สุดท้ายเราตัดสินใจ หนีไปจากชีวิตเค้า ย้ายบ้าน ย้ายที่ทำงานไปอยู่คนละจังหวัด ไม่ติดต่อกันอีก
บล๊อกทุกทางทั้งโทรศัพท์ เฟซบุค ไอจี ไลน์
แล้วชีวิตเราก็ดีขึ้นๆๆ จนกลับมาปกติอีกครั้ง
บอกเลยว่า ที่เค้าว่ากันว่า เราอยุ่กับใคร เราก็จะเป็นแบบนั้น มันคือจริงสุดๆ
จากปกติที่เราเป็นคนใจเย็น ร่าเริง แต่พอไปอยู่แบบนั้นนานๆ เรากลายเป็นคนที่ปรี๊ดง่ายมาก เริ่มตะโกนเสียงดัง
หรือบางทีก็กรี๊ดขึ้นมาซะงั้น ชีวิตเหมือนตกอยู่ในนรกจริงๆ
วันนี้รอดมาได้ แต่ก็ไม่ถือโทษโกรธใคร ทุกอย่าง อยู่ที่ตัวเรา เราตัดสินใจ เราเลือกเอง เราทำตัวเองทั้งนั้น
คิดซะว่า เป็นเวรกรรมที่เราเคยทำไว้ แล้วมันก็ผ่านไปแล้ว
มองย้อนกลับไป ก็นึกสงสารว่า คงมีผู้หญิงอีกหลายคนที่น่าจะเคยเจอเหตุการณ์แบบเรา
ขอเป็นกำลังใจให้เข้มแข็งและก้าวผ่านมันมาให้ได้นะคะ