ขออนุญาตให้ข้อมูลก่อนนะคะ
1. เราทำงานบริษัท IT มีสำนักงานใหญ่ที่จังหวัดเเห่งหนึ่งทางภาคใต้
2. ทำงานมา 3 ปีกว่าๆ แล้วโดนย้ายให้มาทำงานที่ กทม.อีกปีกว่าๆ รวมเป็น 4 ปีกว่าๆที่ทำงานที่นี่มา อยู่มาวันนึงบริษัทเลิกจ้าง ได้เงินชดเชยมา 1 ก้อนตามกฎหมายเเรงงาน
scenario เป็นดังนี้ค่ะ
A. ตอนถูกเลิกจ้าง เจ้าของเเจ้งทางเเชทในวันที่ 30 กันยายน 2558 พอวันที่ 1 ตุลาคม HR เอาเอกสารเลิกจ้างมาให้เซ็นต์ที่ กทม. ในเอกสารระบุสาเหตุว่าบริษัทขาดทุน ต้องลดพนักงาน จะเเบ่งจ่ายเงินชดเชยเป็นงวดๆ บลาๆๆ
B. ไม่มีค่าบอกกล่าวล่วงหน้า ทวงถามเเล้ว HR บอกว่าบริษัทก็ลำบาก ให้ไปเอาจากเงินว่างงานเอาละกัน หื้มม???
C. เรารับรายได้จากบริษัทนี้สองทางด้วยกัน หนึ่งจากบริษัทโดยตรง โอนเข้าบัญชีให้ทุกเดือนตอนสิ้นเดือน เเละอีกส่วนนึงได้จากเจ้าของบริษัทแยกออกมาต่างหาก เป็นค่าเช่าบ้านที่ กทม. โดยให้เท่ากันทุกเดือน ไม่ต้องเเสดงใบเสร็จ
ช่วงหลังมานี่ บริษัทเริ่มจ่ายเงินเดือนช้า ทุกทีจ่ายสิ้นเดือน ก็อาจเลื่อนไปวันที่ 5 หรือบางเดือนจ่ายวันที่ 15 เเต่ก็จ่ายเเค่ครึ่งเดือนอีก คือทบเดือนนี้โประเดือนโน้นจนงง เเต่ว่าโดยสรุปก็จ่ายครบเเต่ว่าไม่ตรงกำหนด ถามว่าซีเรียสไหม ก็เดือดร้อนประมาณนึงนะคะ สิ้นเดือนปกติทุกคนก็จะต้องมีภาระจ่ายค่าโน่นนี่ จัดการกันไปตามปกติสุข เเต่พอได้เงินช้า บัตรเครดิตก็ทวง ค่าบ้านก็ทวง ก็เป็นปัญหาสุขภาพจิดในเบอร์อ่อนๆ
ยังไม่พอ เจ้าของบริษัทที่เคยจ่ายค่าเช่าบ้าน ก็เริ่มจ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง ทวงทีก็จ่ายมาที เเต่เข้าใจว่าเเกอาจจะงานเยอะ ก็ทวงกันไปทุกเดือนนี่เเหละไม่เป็นไร สุดท้ายตอนเเจ้งว่าจะให้ออก เจ้าของบริษัทเเจ้งว่า เงินค่าเช่าบ้านเป็นคนละส่วนกะเงินบริษัท ให้รับค่าเช่าที่ค้างจากเค้า "พร้อมค่าชดเชยส่วนหนึ่ง" (อันนี้ไม่รู้ว่าเค้าหมายถึงเงินชดเชยจากข้อ 2 นั่นหรือเปล่า เดาไม่ออก) สรุปยอด ณ วันที่เลิกจ้าง มีค้างค่าเช่าบ้านอยู่ 3 เดือน เเละเคยค้างเงินพิเศษที่ต้องได้ทุกเดือน ของปี 2557 เดือนละ 20,000 บาท อีก 1 เดือน คราวนี้พอเราถูกเลิกจ้างสัญญาเช่าบ้านที่ทำไว้รายปี เจ้าของห้องเช่าใจดีคืนให้ครึ่งนึงคือ 1 เดือน 10,000 บาท อีก 1 เดือนยึดไว้ เพราะอยู่ไม่ครบสัญญา
ก่อนหน้านั้น เราตั้งเบิกค่าเดินทางนู่นนี่ มีเอกสารเเนบตลอด เเต่จนวันสุดท้าย ก็ไม่มีใครมาให้คำตอบว่าจะจ่ายหรือไม่ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าคอมมิชชัน
ถามว่า...(เห้อ ถามซะที)
เราควรฟ้องบริษัทเพื่อเรียกร้องหรือไม่ เเล้วควรเรียกร้องค่าอะไรบ้างคะ เช่น
1. ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า 1 เดือน = 50,000
2. ค่าใช้จ่ายทั้งหลายที่เบิกไว้เเต่ยังไม่ได้คืน = ประมาณ 5,000
4. ค่าเช่าห้อง ค้าง 2 เดือน =20,000
เงินค่าเช่าบ้านรายเดือนนี้ต้องถือรวมเป็นค่าจ้างด้วยหรือไม่คะ เราควรได้รับเงินชดเชยส่วนนี้จำนวน 6 เดือนด้วยไหมคะ
5. เงินที่ค้างตั้งเเต่ปี 57 = 20,000
6. เงินค่าประกันค่าเช่าห้องที่โดนยึดไป 1 เดือน = 10,000 ซึ่งถ้าข้อ 4 ได้ชดเชยด้วย ไอ้เงินประกันนี้เราไม่เอาก้อได้
รวมกันเเล้วก็เป็นเงินหลักแสนอยู่นะคะ แล้วอยากทราบว่า ถ้าฟ้องต้องเเยกฟ้องไหมคะ ฟ้องบริษัทก็ส่วนนึง เเล้วเจ้าของบริษัทต้องฟ้องเเพ่งหรือคะ หรือว่ารวมกันได้ เพราะเงินมันเข้ามาจากสองบัญชี อันนึงมาจาก บช บริษัท อันนึงมาจาก บช บุคคล
รบกวนขอคำเเนะนำด้วยค่ะ ปล. ได้ส่งอีเมลล์ทวงถามเเยกกัน ระหว่างทวง HR กับ ทวงเจ้าของบริษัท แยกส่งตามที่คิดว่าเงินส่วนไหนใครควรรับผิดชอบค่ะ เจ้าของบริษัทตอบเมลล์มาว่า จะดูให้ เเต่ก็ไม่โอนนะคะ ส่วน HR ไม่ตอบอะไร ถ้าสิ้นเดือนนี้ยังไม่เคลื่อนไหว เราควรดำเนินการอย่างไรคะ
สมควรหรือไม่ที่จะฟ้องร้องบริษัท??
1. เราทำงานบริษัท IT มีสำนักงานใหญ่ที่จังหวัดเเห่งหนึ่งทางภาคใต้
2. ทำงานมา 3 ปีกว่าๆ แล้วโดนย้ายให้มาทำงานที่ กทม.อีกปีกว่าๆ รวมเป็น 4 ปีกว่าๆที่ทำงานที่นี่มา อยู่มาวันนึงบริษัทเลิกจ้าง ได้เงินชดเชยมา 1 ก้อนตามกฎหมายเเรงงาน
scenario เป็นดังนี้ค่ะ
A. ตอนถูกเลิกจ้าง เจ้าของเเจ้งทางเเชทในวันที่ 30 กันยายน 2558 พอวันที่ 1 ตุลาคม HR เอาเอกสารเลิกจ้างมาให้เซ็นต์ที่ กทม. ในเอกสารระบุสาเหตุว่าบริษัทขาดทุน ต้องลดพนักงาน จะเเบ่งจ่ายเงินชดเชยเป็นงวดๆ บลาๆๆ
B. ไม่มีค่าบอกกล่าวล่วงหน้า ทวงถามเเล้ว HR บอกว่าบริษัทก็ลำบาก ให้ไปเอาจากเงินว่างงานเอาละกัน หื้มม???
C. เรารับรายได้จากบริษัทนี้สองทางด้วยกัน หนึ่งจากบริษัทโดยตรง โอนเข้าบัญชีให้ทุกเดือนตอนสิ้นเดือน เเละอีกส่วนนึงได้จากเจ้าของบริษัทแยกออกมาต่างหาก เป็นค่าเช่าบ้านที่ กทม. โดยให้เท่ากันทุกเดือน ไม่ต้องเเสดงใบเสร็จ
ช่วงหลังมานี่ บริษัทเริ่มจ่ายเงินเดือนช้า ทุกทีจ่ายสิ้นเดือน ก็อาจเลื่อนไปวันที่ 5 หรือบางเดือนจ่ายวันที่ 15 เเต่ก็จ่ายเเค่ครึ่งเดือนอีก คือทบเดือนนี้โประเดือนโน้นจนงง เเต่ว่าโดยสรุปก็จ่ายครบเเต่ว่าไม่ตรงกำหนด ถามว่าซีเรียสไหม ก็เดือดร้อนประมาณนึงนะคะ สิ้นเดือนปกติทุกคนก็จะต้องมีภาระจ่ายค่าโน่นนี่ จัดการกันไปตามปกติสุข เเต่พอได้เงินช้า บัตรเครดิตก็ทวง ค่าบ้านก็ทวง ก็เป็นปัญหาสุขภาพจิดในเบอร์อ่อนๆ
ยังไม่พอ เจ้าของบริษัทที่เคยจ่ายค่าเช่าบ้าน ก็เริ่มจ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง ทวงทีก็จ่ายมาที เเต่เข้าใจว่าเเกอาจจะงานเยอะ ก็ทวงกันไปทุกเดือนนี่เเหละไม่เป็นไร สุดท้ายตอนเเจ้งว่าจะให้ออก เจ้าของบริษัทเเจ้งว่า เงินค่าเช่าบ้านเป็นคนละส่วนกะเงินบริษัท ให้รับค่าเช่าที่ค้างจากเค้า "พร้อมค่าชดเชยส่วนหนึ่ง" (อันนี้ไม่รู้ว่าเค้าหมายถึงเงินชดเชยจากข้อ 2 นั่นหรือเปล่า เดาไม่ออก) สรุปยอด ณ วันที่เลิกจ้าง มีค้างค่าเช่าบ้านอยู่ 3 เดือน เเละเคยค้างเงินพิเศษที่ต้องได้ทุกเดือน ของปี 2557 เดือนละ 20,000 บาท อีก 1 เดือน คราวนี้พอเราถูกเลิกจ้างสัญญาเช่าบ้านที่ทำไว้รายปี เจ้าของห้องเช่าใจดีคืนให้ครึ่งนึงคือ 1 เดือน 10,000 บาท อีก 1 เดือนยึดไว้ เพราะอยู่ไม่ครบสัญญา
ก่อนหน้านั้น เราตั้งเบิกค่าเดินทางนู่นนี่ มีเอกสารเเนบตลอด เเต่จนวันสุดท้าย ก็ไม่มีใครมาให้คำตอบว่าจะจ่ายหรือไม่ เช่น ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าคอมมิชชัน
ถามว่า...(เห้อ ถามซะที) เราควรฟ้องบริษัทเพื่อเรียกร้องหรือไม่ เเล้วควรเรียกร้องค่าอะไรบ้างคะ เช่น
1. ค่าบอกกล่าวล่วงหน้า 1 เดือน = 50,000
2. ค่าใช้จ่ายทั้งหลายที่เบิกไว้เเต่ยังไม่ได้คืน = ประมาณ 5,000
4. ค่าเช่าห้อง ค้าง 2 เดือน =20,000 เงินค่าเช่าบ้านรายเดือนนี้ต้องถือรวมเป็นค่าจ้างด้วยหรือไม่คะ เราควรได้รับเงินชดเชยส่วนนี้จำนวน 6 เดือนด้วยไหมคะ
5. เงินที่ค้างตั้งเเต่ปี 57 = 20,000
6. เงินค่าประกันค่าเช่าห้องที่โดนยึดไป 1 เดือน = 10,000 ซึ่งถ้าข้อ 4 ได้ชดเชยด้วย ไอ้เงินประกันนี้เราไม่เอาก้อได้
รวมกันเเล้วก็เป็นเงินหลักแสนอยู่นะคะ แล้วอยากทราบว่า ถ้าฟ้องต้องเเยกฟ้องไหมคะ ฟ้องบริษัทก็ส่วนนึง เเล้วเจ้าของบริษัทต้องฟ้องเเพ่งหรือคะ หรือว่ารวมกันได้ เพราะเงินมันเข้ามาจากสองบัญชี อันนึงมาจาก บช บริษัท อันนึงมาจาก บช บุคคล
รบกวนขอคำเเนะนำด้วยค่ะ ปล. ได้ส่งอีเมลล์ทวงถามเเยกกัน ระหว่างทวง HR กับ ทวงเจ้าของบริษัท แยกส่งตามที่คิดว่าเงินส่วนไหนใครควรรับผิดชอบค่ะ เจ้าของบริษัทตอบเมลล์มาว่า จะดูให้ เเต่ก็ไม่โอนนะคะ ส่วน HR ไม่ตอบอะไร ถ้าสิ้นเดือนนี้ยังไม่เคลื่อนไหว เราควรดำเนินการอย่างไรคะ