คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
ก่อนกลับมาสู่เนื้อหา
ผมอยากกล่าวว่า เวลาซึนามิ คลื่นหายนะกำลังมา ชายทะเลจะน้ำลด จนเห็นปลาดิ้นแด๋วๆในพื้นทราย ห่างจากชายหาดออกไป
คนญึ่ปุ่นรู้เรื่องซึนามิ มาก่อน จะรีบหนี ส่วนคนไทย หรือ ต่างชาติ ที่ไม่มีประสบการณ์ ส่วนใหญ่เห็นแล้วจะวิ่งลงไปทะเล เพื่อเก็บปลา
พอลงไปเก็บ ยื่นเล่นกับปลาสักพัก ซึนามิจะไล่หลังมา พัดร่างนักลงทุนจมน้ำทะเล
เห็น ptt ราคาถูก ก็อย่า วิ่งลงไปช้อนมันขึ้นมาเลยครับ เก็บมันขึ้นมา ซึนามิไล่หลังมา ตายห่าน ทุกคน
อีกอย่างนึง คือผมก็ฟังคำแถลงของนางเยแลนเหมือนกัน จากbloomberg.com
เยแลน แถลงว่า ยังไงก็จะยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอยู่ ครับ(กรุณาอย่าแปลเข้าข้างตัวเอง จนไม่มองสภาพความจริง เดี๋ยวจะหนีไม่ทันนะครับ)
วุฒิสมาชิก ซักถามกรณีปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ เยแลนแค่บอกว่า ถ้ามีปัญหา ก็พร้อมจะดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยนโยบายติดลบแบบญึ่ปุ่นได้เช่นกัน (คือโชว์ว่า พร้อมรับมือกับปัญหาในรูปแบบต่างๆ ยินดีที่จะเปลี่ยนแผน จากขึ้นดอกเบี้ยเป็นลดดอกเบี้ย เพื่อสอดรับสถานการณ์ที่พลิกเปลี่ยน)

กรณีถ้าเฟด ปรับขึ้นดอกเบี้ย เราก็ต้องมาคิดต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
พื้นฐานเลยโดยทฤษฎีแล้ว หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายขึ้นไปอีก
จะทำให้ผลตอบแทนการลงทุนในสหรัฐปรับตัวดีขึ้น จนถึงระดับจูงใจให้นักลงทุนทั่วโลก หันกลับมาลงทุนในสหรัฐมากขึ้น
ทั้งในรูปของการซื้อพันธบัตร ซื้อหุ้น
แน่นอนนักลงุทนทั่วโลกจะขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเช่นหุ้น โลหะต่างๆ เพื่อแลกเงินดอลล่าร์แล้วเอาไปลงทุนที่สหรัฐ
ฉะนั้น หลังปรับดอกเบี้ยขึ้น ค่าเงินดอลล่าร์จะแข็ง หุ้นสหรัฐจะดีดขึ้น ในขณะที่หุ้นไทยจะร่วงลงไปอีก(ผู้เขียนคิดว่า ยิ่งหุ้นไทยขึ้นแรงใน2อาทิตย์หลังของกพ 59 จะยิ่งร่วงแรงหลังประกาศขึ้นดอกเบี้ย แถวๆ1100)

แล้วผลกระทบต่อราคาทองคำล่ะ?
อันนี้ต้องใช้ตัวช่วย คือ ประวัติศาสตร์ ทองคำและการขึ้นลงอัตราดอกเบี้ยของเฟด มาช่วยชี้แนะ
http://money.cnn.com/2006/06/29/news/economy/fed_rates/
ดูกราฟ อัตราดอกเบี้ยเฟด

ราคาทองคำ

เฟดขึ้นดอกเบี้ย ช่วง2004-2007 แล้วตั้งแต่ปี2008 เป็นต้นไปก็ปรับลดลงอย่างรวดเร็ว
จะเห็นได้ว่า ในภาพใหญ่ แล้วราคาทองก็ยังเป็นขาขึ้นอยู่ดี ช่วง2004-2007
แต่พอปี2008 ราคาทองก็ปรับขึ้นแบบร้อนแรงทันทีที่fed ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย
สรุปคือ มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาทอง จะยังคงปรับตัวขึ้นมาอีก โดยเฉพาะกับประเทศไทย เพราะถึงตอนนั้นค่าเงินไทยคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์ ในขณะที่ราคาทองปรับขึ้นอีกเล็กน้อย นั่นก็จะทำให้ยังไงทองคำ จะมีราคาเท่าเดิม หรือ อาจจะสูงขึ้นอีกมาก หลังจากกนั้น เนื่องจากผลของราคาทองคำในตลาดโลกปรับสูงขึ้น และค่าเงินบาที่อ่อนค่าลง
ผมอยากกล่าวว่า เวลาซึนามิ คลื่นหายนะกำลังมา ชายทะเลจะน้ำลด จนเห็นปลาดิ้นแด๋วๆในพื้นทราย ห่างจากชายหาดออกไป
คนญึ่ปุ่นรู้เรื่องซึนามิ มาก่อน จะรีบหนี ส่วนคนไทย หรือ ต่างชาติ ที่ไม่มีประสบการณ์ ส่วนใหญ่เห็นแล้วจะวิ่งลงไปทะเล เพื่อเก็บปลา
พอลงไปเก็บ ยื่นเล่นกับปลาสักพัก ซึนามิจะไล่หลังมา พัดร่างนักลงทุนจมน้ำทะเล
เห็น ptt ราคาถูก ก็อย่า วิ่งลงไปช้อนมันขึ้นมาเลยครับ เก็บมันขึ้นมา ซึนามิไล่หลังมา ตายห่าน ทุกคน
อีกอย่างนึง คือผมก็ฟังคำแถลงของนางเยแลนเหมือนกัน จากbloomberg.com
เยแลน แถลงว่า ยังไงก็จะยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอยู่ ครับ(กรุณาอย่าแปลเข้าข้างตัวเอง จนไม่มองสภาพความจริง เดี๋ยวจะหนีไม่ทันนะครับ)
วุฒิสมาชิก ซักถามกรณีปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ เยแลนแค่บอกว่า ถ้ามีปัญหา ก็พร้อมจะดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยนโยบายติดลบแบบญึ่ปุ่นได้เช่นกัน (คือโชว์ว่า พร้อมรับมือกับปัญหาในรูปแบบต่างๆ ยินดีที่จะเปลี่ยนแผน จากขึ้นดอกเบี้ยเป็นลดดอกเบี้ย เพื่อสอดรับสถานการณ์ที่พลิกเปลี่ยน)

กรณีถ้าเฟด ปรับขึ้นดอกเบี้ย เราก็ต้องมาคิดต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
พื้นฐานเลยโดยทฤษฎีแล้ว หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายขึ้นไปอีก
จะทำให้ผลตอบแทนการลงทุนในสหรัฐปรับตัวดีขึ้น จนถึงระดับจูงใจให้นักลงทุนทั่วโลก หันกลับมาลงทุนในสหรัฐมากขึ้น
ทั้งในรูปของการซื้อพันธบัตร ซื้อหุ้น
แน่นอนนักลงุทนทั่วโลกจะขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเช่นหุ้น โลหะต่างๆ เพื่อแลกเงินดอลล่าร์แล้วเอาไปลงทุนที่สหรัฐ
ฉะนั้น หลังปรับดอกเบี้ยขึ้น ค่าเงินดอลล่าร์จะแข็ง หุ้นสหรัฐจะดีดขึ้น ในขณะที่หุ้นไทยจะร่วงลงไปอีก(ผู้เขียนคิดว่า ยิ่งหุ้นไทยขึ้นแรงใน2อาทิตย์หลังของกพ 59 จะยิ่งร่วงแรงหลังประกาศขึ้นดอกเบี้ย แถวๆ1100)

แล้วผลกระทบต่อราคาทองคำล่ะ?
อันนี้ต้องใช้ตัวช่วย คือ ประวัติศาสตร์ ทองคำและการขึ้นลงอัตราดอกเบี้ยของเฟด มาช่วยชี้แนะ
http://money.cnn.com/2006/06/29/news/economy/fed_rates/
ดูกราฟ อัตราดอกเบี้ยเฟด

ราคาทองคำ

เฟดขึ้นดอกเบี้ย ช่วง2004-2007 แล้วตั้งแต่ปี2008 เป็นต้นไปก็ปรับลดลงอย่างรวดเร็ว
จะเห็นได้ว่า ในภาพใหญ่ แล้วราคาทองก็ยังเป็นขาขึ้นอยู่ดี ช่วง2004-2007
แต่พอปี2008 ราคาทองก็ปรับขึ้นแบบร้อนแรงทันทีที่fed ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย
สรุปคือ มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาทอง จะยังคงปรับตัวขึ้นมาอีก โดยเฉพาะกับประเทศไทย เพราะถึงตอนนั้นค่าเงินไทยคงอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลล่าร์ ในขณะที่ราคาทองปรับขึ้นอีกเล็กน้อย นั่นก็จะทำให้ยังไงทองคำ จะมีราคาเท่าเดิม หรือ อาจจะสูงขึ้นอีกมาก หลังจากกนั้น เนื่องจากผลของราคาทองคำในตลาดโลกปรับสูงขึ้น และค่าเงินบาที่อ่อนค่าลง

แสดงความคิดเห็น
ทำไมผมถึงคิดว่า fed ต้องปรับอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีค 59 และจะมีผลต่อหุ้นไทย และทองคำอย่างไร?
จนหลายคนดีอกดีใจ(เพราะยังไม่เจอวิกฤติเศรษฐกิจของจริงมาก่อน)
ถ้าฟังหรืออ่านเอกสารเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงนโยบายของเฟด แล้ว เคยสงสัยไหมครับ ว่า
1.ทำไม เฟดต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงนโยบาย โดยดูจากอัตราการว่างงานของสหรัฐ และอัตราเงินเฟ้อด้วย (และวิธีดูว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเมื่อไหร่?)
2.แล้วผลของการขึ้นดอกเบี้ยเชิงนโยบายของเฟด จะมีผลกับหุ้นไทย และ ราคาทองคำอย่างไร
ผู้เขียนเอาแนวคิดของบทความนี้มาอธิบาย ตามความเข้าใจของตัวเอง
อาจผิดพลาดได้ ลองอ่านแล้วคิดเองก็ดีครับ (ลิงค์ด้านล่าง)
http://www.economist.com/blogs/economist-explains/2015/08/economist-explains-21
ตอบคำถามข้อแรก คือ เฟด ได้รับมอบหมายภาระกิจจากรัฐสภาสหรัฐ ให้"maximum employment"ทำให้อัตราการจ้างงานสูงที่สุด และ "stable price" รักษาเสถียรภาพของราคา
จากบทความ เขาชี้ว่า เฟดคิดว่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้ ต้องรักษาอัตรเงินเฟ้อในประเทศให้อยู่ที่ระดับ2%
เฟดคิดว่า ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ อัตราเงินเฟ้อจะต่ำ (เหมือนของไทยยุคปกครองโดยข้าราชการ อัตราเงินเฟ้อต่ำ, สมัยยิ่งลักษณ์ข้าวของแพง อัตราเงินเฟ้อสูงมาก)
ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐมีการจ้างงานเกือบสูงสุด พลเมืองมีงานทำ มีเงินไปบริโภคมากขึ้น จนข้าวของขาดแคลน สินค้าราคาสูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อก็จะสูงขึ้น
เฟดคาดการณ์ว่า ถ้ารักษาอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ2%จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตแบบมั่นคง(ส่วนเรื่องทำไมต้องที่2% ผมนึกไม่ออก ไว้เป็นการบ้านให้คนอ่านทำ)
พื้นฐานธรรมดาทั่วไปที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆจะควบคุมอัตราเงินเฟ้อในประเทศ ด้วยเครื่องมือเชิงนโยบายการเงิน ก็คือ
1.ถ้าเฟดอยากลดระดับอัตราเงินเฟ้อ ด้วยนโยบายการเงิน ก็ประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบาย เพื่อบังคับให้คนกู้เงินน้อยลง ใช้เงินน้อย สะสมเงินมากขึ้น ลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจ (ซึ่งจะทำให้กองทุนหรือแบงค์ขนาดใหญ่สหรัฐ เอาเงินกลับไปสหรัฐ เพื่อฝากเงิน หรือลงทุนในสหรัฐ ก็ว่ากันไป)
2.ถ้าอยากเพิ่มอัตรเงินเฟ้อ ก็ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเชิงนโยบาย เพื่อให้คนเอาเงินออกมาจากธนาคาร แล้ว เอาไปลงทุน หรือบริโภคมากขึ้นกว่าจะเก็บไว้ในแบงค์ (ซึ่งทำให้กองทุนหรือแบงค์ขนาดใหญ่สหรัฐ เอาเงินออกมาอาละวาดทั่วโลก)
ฉะนั้น เรานักลงทุนหุ้น ก็ต้องมาดูว่า อัตราเงินเฟ้อสหรัฐ เป็นค่าเท่าไหร่แล้ว นั่นคือ
http://www.tradingeconomics.com/united-states/inflation-cpi
จะสังเกตได้ว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนธันวาคม58 คือ0.7%
พอเดือนมกราคม 59 เพิ่มเป็น 1.4%
ฉะนั้น คำตอบคือ ถ้าอัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไปจนเข้าใกล้หรือสูงเกินไปจาก 2% เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงนโยบายแน่นอน
ซึ่งด้วยอัตราการเพิ่มขึ้นแบบเท่าตัว ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า เดือนกุมภาพันธ์ 59 อัตราเงินเฟ้อจะเป็น2.8%(รุกฆาต)
เพราะตอนนี้อัตราว่างงานของสหรัฐก็มีค่าต่ำสุดในรอบหลายปี
http://data.bls.gov/timeseries/LNU04000000?years_option=all_years&periods_option=specific_periods&periods=Annual+Data
ถามผมโดยส่วนตัวคิดว่า ประกาศขึ้นดอกเบี้ยแน่ๆๆ เพราะเศรษฐกิจสหรัฐน่าจะดีขึ้นมากแล้ว (ถ้าผมทายผิด เยแลนคงเลื่อนขึ้นดอกออกไปอีก)
2.มาถึงเรื่องที่ทุกคนอยากรู้ แล้วผลของการขึ้นดอกเบี้ยเชิงนโยบายของเฟด จะมีผลกับหุ้นไทย และ ราคาทองคำอย่างไร
คำตอบคือ
(ไว้เขียนต่อพรุ่งนี้จ้า)