จากในโลกโซเชียล มีข่าวคนฆ่าตัวตายเยอะ และโดยส่วนใหญ่ คนที่มาเม้นก็มักจะด่าผู้ตายว่า ไม่มีความคิด โง่ บลาๆๆ เสียๆ หายๆ ผมอ่านผมก็กลับมาคิดย้อนดูตัวเอง เพราะเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมาผมก็เคยคิดสั้นแบบนั้นเหมือนกัน เอาตรงๆคือ ก่อนที่จะถึงจุดมี่เราคิดสั้น ผมก็เป็นพวกด่าไว้ก่อนเหมือนกัน พอเกิดกับตัวผมก็พอเข้าใจ ปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และวิธีการแก้ไขไม่เหมือนกัน อย่างผม สาเหตุที่คิดสั้นคือ ขอเล่าเลนนะครับ สมัยก่อน ที่บ้านผทฐานะค่อนข้างดี พีคสุดๆ มีรถเก๋งหลายคัน คัน เรียนโรงเรียนเอกชน พ่อมีลูกน้องรับใช้หลายคน ช่วงที่พ่อแม่อยุ่ด้วยกันแต่พอผม อยู่ ป. 2 พ่อกับ แม่ ก็แยกทางกัน ผมอยู่กับแม่ จนถึงป.4 ละพอขึ้น ป.5 แม่ก็ให้ผมมาอยู่กับพ่อเพราะฐานะทางฝ่ายแม่ก็ไม่ค่อยดี เลี้ยงไม่ไหว และท่านก็มีสามีใหม่ จนผมมาอยู่กับพ่อ ซึ่งพ่อก็มีภรรยาใหม่เหมือนกัน บอกเลย ช่วง ป.5 - ม.3 ทางบ้านฐานะโอเคมาก จนผมขึ้น ม.4 พ่อก็ให้ผมย้ายมาอยุ่กับเพื่อนพ่อ(คนละจังหวัด) ผมก็สอบเข้าโรงเรียนรัฐประจำ จ. นี้ได้ แต่ด้วยความที่ว่า ผมกับลุงไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย จึงไม่ค่อยสนิท แต่สงสัยว่า ผมเป็นใครก็ไม่รู้ ทำไมให้ผมมาอาศัย แต่ลุงให้ผมมาพักบ้านสวน อยู่กับคนใช้ของลุง ช่วงที่ผมเรียน ม.4 ม.5 ผมลำบากมาก เพราะ พ่อไม่เคยส่งเงินให้ผมเลยส่งเดือนละ 500 เงินที่ใช้ ผมได้จาดการไปเป็นเด็กล้างจาน - เสิร์ฟ ที่ร้านผัดไทยแห่งหนึ่ง ก็พอมีค่าข้าวไปวัน ๆ อีกส่วนก็มาจากการยืม เพราะบางวันผมไม่มีตังติดตัวเลยแม้แต่บาทเดียว
ช่วง ม.ปลาย ผมลำบากมาก ดิ้นรนอยุ่คนเดียว เพื่อนที่โรงเรียน พูดเลยว่า มีแต่ลูกคุณหนู ผมจะไม่ค่อยมีเพื่อนมาก (เขาจะคบกันเอง) ผมอยู่คนเดียวตลอด ตอนทำงานกลุ่ม ผมต้องเข้าไปขออยู่ด้วยตลอด ลำบากแบบนี้มาจนขึ้น ม.6 และมีช่วงนึงผมป่วยเป็นไข้เลือดออก ผมไปหาหมอเอง นอนโรงบาลคนเดียว โดยไม่มีใครมาเยี่ยนสักคน ติดต่อแม่ไม่ได้ โทรหาพ่อ พ่อบอกว่า "ฉันไม่มีตังให้นะ" ผมเลยเสียใจมากๆ คิดตอนนั้นอยากตายมากๆ ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ บวกกับความเครียดตลอด 2 3 ปี ผมท้อมาก หมดหนทาง เลยกรีดข้อมือ กะจะตายไปให้สิ้นๆจบๆ เพราะขนาดผมป่วยยังไม่มีใครมาเหลียวแลเลย หลังจากกรีด เลือดออกเยอะมาก ตอนนั้นแหละ ทำให้ผมมีสติ ดึงกลับมา ไปหยิบสำลีกะพาสเตอร์มาแปะๆๆๆๆ หมดค่ารักษาไปพอสมควร
จากนั้น ผมมาคิดทบทวนว่า คนลำบากกว่าเราเยอะมาก คนพิการเขายังอยุ่ได้ แล้วผมละแขนขาครบ จะคิดสั้นแบบนี้ทำไม ถึงเราไม่ฆ่าตัวตาย เราก็ต้องตายอยู่ดี...ไม่วันนี้ ก็พรุ่งนี้ ใช้ชีวิตให้เต็มที่ละกัน อยากทำไรทำ
ผมเลยไปสมัครเรียนราม(จากเงิน กย ศ ) และทำงานเซเว่นควบคู่กัน , ขายของทุกช่องทาง(เน็ต ตลาดนัด)
จนถึงปัจจุบัน ผมเรียนอยุ่ ปี 3 จะ4 ( แต่คาดว่าจะจบช้า เพราะผมทำงานไปด้วย) แต่ปัจจุบัน ผมรู้สึกแฮปปี้กว่ามะก่อนมาก รายได้จากการขายของ ก็โอเคจนผมเก็บตังซื้อรถมือ 2 ได้ sunny
เวลาไปขายของ ผมก็ขนใส่รถอีคันนี้แหละครับ
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกว่า คนเรา มีทางเลือก และเลือกที่ทำ ไม่ว่าสิ่งที่เลือกมันจะผิด แต่เราก็ไปห้ามความคิดเขาไม่ได้
ปล.พิมผิดหลายตัวขออภัย ผมพิมพ์ในมือถือครับ และอาจจะรวบรัดไปนึดนึง ขออภัยด้วยครับ
ใครเคยเครียดจนถึงขั้นคิดสั้นบ้างครับ
ช่วง ม.ปลาย ผมลำบากมาก ดิ้นรนอยุ่คนเดียว เพื่อนที่โรงเรียน พูดเลยว่า มีแต่ลูกคุณหนู ผมจะไม่ค่อยมีเพื่อนมาก (เขาจะคบกันเอง) ผมอยู่คนเดียวตลอด ตอนทำงานกลุ่ม ผมต้องเข้าไปขออยู่ด้วยตลอด ลำบากแบบนี้มาจนขึ้น ม.6 และมีช่วงนึงผมป่วยเป็นไข้เลือดออก ผมไปหาหมอเอง นอนโรงบาลคนเดียว โดยไม่มีใครมาเยี่ยนสักคน ติดต่อแม่ไม่ได้ โทรหาพ่อ พ่อบอกว่า "ฉันไม่มีตังให้นะ" ผมเลยเสียใจมากๆ คิดตอนนั้นอยากตายมากๆ ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ บวกกับความเครียดตลอด 2 3 ปี ผมท้อมาก หมดหนทาง เลยกรีดข้อมือ กะจะตายไปให้สิ้นๆจบๆ เพราะขนาดผมป่วยยังไม่มีใครมาเหลียวแลเลย หลังจากกรีด เลือดออกเยอะมาก ตอนนั้นแหละ ทำให้ผมมีสติ ดึงกลับมา ไปหยิบสำลีกะพาสเตอร์มาแปะๆๆๆๆ หมดค่ารักษาไปพอสมควร
จากนั้น ผมมาคิดทบทวนว่า คนลำบากกว่าเราเยอะมาก คนพิการเขายังอยุ่ได้ แล้วผมละแขนขาครบ จะคิดสั้นแบบนี้ทำไม ถึงเราไม่ฆ่าตัวตาย เราก็ต้องตายอยู่ดี...ไม่วันนี้ ก็พรุ่งนี้ ใช้ชีวิตให้เต็มที่ละกัน อยากทำไรทำ
ผมเลยไปสมัครเรียนราม(จากเงิน กย ศ ) และทำงานเซเว่นควบคู่กัน , ขายของทุกช่องทาง(เน็ต ตลาดนัด)
จนถึงปัจจุบัน ผมเรียนอยุ่ ปี 3 จะ4 ( แต่คาดว่าจะจบช้า เพราะผมทำงานไปด้วย) แต่ปัจจุบัน ผมรู้สึกแฮปปี้กว่ามะก่อนมาก รายได้จากการขายของ ก็โอเคจนผมเก็บตังซื้อรถมือ 2 ได้ sunny
เวลาไปขายของ ผมก็ขนใส่รถอีคันนี้แหละครับ
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกว่า คนเรา มีทางเลือก และเลือกที่ทำ ไม่ว่าสิ่งที่เลือกมันจะผิด แต่เราก็ไปห้ามความคิดเขาไม่ได้
ปล.พิมผิดหลายตัวขออภัย ผมพิมพ์ในมือถือครับ และอาจจะรวบรัดไปนึดนึง ขออภัยด้วยครับ