เหมือนพันทิป จะเอาแท้กออก คงจะแท้กเยอะไป
แต่อยากขอให้คง แท้กห้องสวนลุมไว้
เผื่อคุณหมอจุฬาในห้องจะได้เห็น สงสารหลาน ช่วยหลานด้วย
ลูกสาวหมอจุฬารุ่น42 กำลังลำบากครับ
ยาวหน่อยนะครับ แต่อยากให้ช่วยอ่านกัน น่าเห็นใจมาก
ชนะเลิศเรียงความวันแม่ ของ เด็กหญิงอารดา วงษ์ดีเลิศ ม.1/1
โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใหม่ท่าพาณิชย์) ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
--------------------------------------------------------
ชีวิตของลูกกำพร้า
สวัสดีท่านผู้ปกครอง และคุณครูที่เคารพรักทุกท่าน หนูชื่อ เด็กหญิงอารดา วงษ์ดีเลิศ ขณะนี้หนูกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 หนูอยากเล่าชีวิตของหนูให้ทุกท่าน และเพื่อนทุกคนได้รับรู้ว่าชีวิตที่ขาดทั้งพ่อและแม่เป็นอย่างไร แต่ยังโชคดีที่หนูมีคุณย่าเลี้ยงหนูมาแทนคุณพ่อและคุณแม่ได้อย่างดีที่สุด
คุณพ่อของหนูชื่อ นายแพทย์กฤษดา วงษ์ดีเลิศ เรียนจบจากคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้ารับราชการทำงานมาหลายจังหวัด ครั้งล่าสุดย้ายมาเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จังหวัดปราจีนบุรี ในปี พ.ศ. 2544 ส่วนแม่ของหนูชื่อ คุณแม่อารมณ์ วงษ์ดีเลิศ มีกิจการเปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่กรุงเทพฯ หนูเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว คุณพ่อและคุณแม่ของหนูก็เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เมื่อทุกท่านฟังแล้วชีวิตของหนูน่าจะสมบูรณ์พร้อม แต่ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน คุณย่าเล่าให้หนูฟังว่าหนูกับญาติของแม่เดินทางไปทำธุระที่ต่างจังหวัด รถเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนในรถเสียชีวิตพร้อมกันหมด เหลือเพียงหนูซึ่งมีอายุได้เพียง 5 เดือน รอดชีวิต หนูยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ที่คุณพ่อไม่ได้เดินทางไปด้วย คุณพ่อของหนูเป็นแพทย์ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต เคารพในจรรยาบรรณแพทย์อย่างเคร่งครัด มีจิตใจดี หลายครั้งที่รักษาคนไข้ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
คุณพ่อกับคุณย่าเลี้ยงหนูมาด้วยความรักและความเมตตา ไม่ทำให้หนูรู้สึกว่าขาดแม่ แต่ชะตาฟ้าลิขิตเล่นตลกกับครอบครัวหนู เมื่อหนูอายุได้ประมาณ 2 ขวบ คุณย่าเล่าว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับครอบครัวของหนูอีก วันหนึ่งคุณพ่อรักษาคนไข้ที่มีอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต ด้วยความเป็นห่วงคนไข้ ขณะที่พ่อกำลังปั๊มหัวใจให้คนไข้ คุณพ่อไม่ได้ใส่ผ้าปิดปาก ปรากฏว่าคนไข้ได้อาเจียนใส่คุณพ่อทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ทางปาก คุณพ่อไม่ได้คำนึงความปลอดภัยของตนเอง จึงไม่ได้ทานยาเพื่อป้องกัน ต่อมาไม่นานคุณพ่อก็เริ่มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแล้วลามไปที่สมองอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดก็เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 30 กว่าปี เท่านั้น ซึ่งขณะนั้นหนูเองก็ยังจำหน้าพ่อไม่ได้ เพราะหนูก็มีอายุเพียง 2 ขวบ เท่านั้น
หนูไม่เข้าใจว่าครอบครัวของหนูทำเวรกรรมอะไรไว้ ถึงต้องประสบชะตากรรมเช่นนี้
ปัจจุบันนี้หนูมีเพียงคุณย่าที่มีอายุถึง 75 ปี ส่งเสียเลี้ยงดูให้หนูได้เรียนหนังสือ โดยมีอาชีพขายขนมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อ
ประทังให้สองชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ หนูสงสารคุณย่ามาก สิ่งที่หนูทำได้ดีที่สุดในเวลานี้คือ ตั้งใจเรียนหนังสือ เป็นเด็กดี ช่วยเหลือคุณย่าทุกอย่างเท่าที่เด็กอายุขนาดหนูพึงจะทำได้ ขณะนี้หนูอาศัยอยู่ที่บ้านของคนอื่นที่เขาให้ความ
เมตตา โดยที่ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกันเลย
ทุกเย็นหนูกับย่าจะมาช่วยกันขายขนมบนทางเท้า ฝั่งตรงข้ามโรงเรียน
ทุกวัน ต้องพยายามขายให้หมดไม่หมดก็ขาดทุน เพราะครอบครัวของหนูมีเงินน้อยมากแค่หมุนขายของไปวัน ๆ เท่านั้น
หลายครั้งมีผู้ใจบุญมาช่วยซื้อขนมจนหมด ทุกวันนี้หนูได้รับความเมตตาจากโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใหม่ท่าพาณิชย์) แห่งนี้เป็นอย่างมาก ครูทุกคนให้ความเอ็นดู หนูได้รับทุนการศึกษา ได้รับประทานอาหารกลางวันฟรี รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ โรงเรียนจ่ายให้หนูหมด แต่หนูไม่รู้ว่าเมื่อหนูจบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้แล้วชีวิตหนูจะเป็นอย่างไรต่อไป
หนูคิดแต่เพียงว่าการศึกษาและความรู้เท่านั้นที่หนูจะสามารถนำไปแลกกับการทำงานในอนาคตได้
ท่านทั้งหลาย และเพื่อนๆ ที่อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้ หลายคนมีครอบครัวที่อบอุ่นและมีความพร้อมในการเรียน
หนูอยากจะบอกทุกคนว่า เมื่อมีโอกาสแล้ว ขอให้ตั้งใจเรียนหนังสือ และรักคุณพ่อ คุณแม่ให้มาก ๆ
อย่าให้เหมือนกับหนูที่ไม่มีคุณพ่อคุณแม่ให้รัก
แต่หนูมีคุณย่าที่ประเสริฐที่สุด ที่ไม่เคยทอดทิ้งหนูเลย เราสองคน
ทุกข์สุขมาด้วยกัน
หนูสัญญาว่าหนูจะดูแลคุณย่าแทนคุณพ่อหนูอย่างดีที่สุดที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหนูจะทำได้
ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่อดทนฟังประวัติชีวิตของหนู สวัสดีค่ะ
เด็กหญิงอารดา วงษ์ดีเลิศ"
"ลูกเอ๋ย คนดีกตัญญูรู้คุณ ยังไงก็ต้องเจริญก้าวหน้า ต้องมึคนช่วยเหลืออยู่แล้ว"
ท่านคุณหมออิทธิพร กำลังหาทางช่วยเหลืออยู่
http://www.manager.co.th/HotShare/ViewNews.aspx?NewsID=9590000017794
ข่าวเพิ่มเติมครับ
ตั้งกองทุนช่วยเหลือน้องอารดา ลูก นพ.กฤษฎา ได้เงิน 1.5 แสน
สำหรับเงินเหล่านี้ จะนำมาช่วยนางสาวอารดาในรูปแบบของคณะกรรมการกองทุน มอบเงินช่วยเหลือสัปดาห์ละ 1,600 บาท ซึ่งค่าเช่าบ้านกับค่าเล่าเรียนจะนำเงินจากกองทุนนี้มาใช้ด้วย มีอายุกองทุนถึงตอนที่นางสาวอารดาเรียนจบปริญญาตรี ทั้งนี้นางสาวอารดา อยากเรียนด้านบัญชี ส่วนการรักษาโรคลมชัก ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจากสิทธิบัตรทอง
http://hilight.kapook.com/view/133081
เรียงความลูกหมอ แม่รถชนตาย-เสียพ่อติดเชื้อในกระแสเลือด ไม่มีเงินเรียนหนังสือต้องออกมาขายขนมกับย่า
แต่อยากขอให้คง แท้กห้องสวนลุมไว้
เผื่อคุณหมอจุฬาในห้องจะได้เห็น สงสารหลาน ช่วยหลานด้วย
ลูกสาวหมอจุฬารุ่น42 กำลังลำบากครับ
ยาวหน่อยนะครับ แต่อยากให้ช่วยอ่านกัน น่าเห็นใจมาก
ชนะเลิศเรียงความวันแม่ ของ เด็กหญิงอารดา วงษ์ดีเลิศ ม.1/1
โรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใหม่ท่าพาณิชย์) ต.กบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
--------------------------------------------------------
ชีวิตของลูกกำพร้า
สวัสดีท่านผู้ปกครอง และคุณครูที่เคารพรักทุกท่าน หนูชื่อ เด็กหญิงอารดา วงษ์ดีเลิศ ขณะนี้หนูกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 หนูอยากเล่าชีวิตของหนูให้ทุกท่าน และเพื่อนทุกคนได้รับรู้ว่าชีวิตที่ขาดทั้งพ่อและแม่เป็นอย่างไร แต่ยังโชคดีที่หนูมีคุณย่าเลี้ยงหนูมาแทนคุณพ่อและคุณแม่ได้อย่างดีที่สุด
คุณพ่อของหนูชื่อ นายแพทย์กฤษดา วงษ์ดีเลิศ เรียนจบจากคณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้ารับราชการทำงานมาหลายจังหวัด ครั้งล่าสุดย้ายมาเป็นแพทย์ที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ จังหวัดปราจีนบุรี ในปี พ.ศ. 2544 ส่วนแม่ของหนูชื่อ คุณแม่อารมณ์ วงษ์ดีเลิศ มีกิจการเปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่กรุงเทพฯ หนูเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว คุณพ่อและคุณแม่ของหนูก็เป็นลูกคนเดียวของครอบครัว เมื่อทุกท่านฟังแล้วชีวิตของหนูน่าจะสมบูรณ์พร้อม แต่ความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน คุณย่าเล่าให้หนูฟังว่าหนูกับญาติของแม่เดินทางไปทำธุระที่ต่างจังหวัด รถเกิดอุบัติเหตุ ทุกคนในรถเสียชีวิตพร้อมกันหมด เหลือเพียงหนูซึ่งมีอายุได้เพียง 5 เดือน รอดชีวิต หนูยังมีความโชคดีอยู่บ้าง ที่คุณพ่อไม่ได้เดินทางไปด้วย คุณพ่อของหนูเป็นแพทย์ที่มีความซื่อสัตย์สุจริต เคารพในจรรยาบรรณแพทย์อย่างเคร่งครัด มีจิตใจดี หลายครั้งที่รักษาคนไข้ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
คุณพ่อกับคุณย่าเลี้ยงหนูมาด้วยความรักและความเมตตา ไม่ทำให้หนูรู้สึกว่าขาดแม่ แต่ชะตาฟ้าลิขิตเล่นตลกกับครอบครัวหนู เมื่อหนูอายุได้ประมาณ 2 ขวบ คุณย่าเล่าว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นกับครอบครัวของหนูอีก วันหนึ่งคุณพ่อรักษาคนไข้ที่มีอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต ด้วยความเป็นห่วงคนไข้ ขณะที่พ่อกำลังปั๊มหัวใจให้คนไข้ คุณพ่อไม่ได้ใส่ผ้าปิดปาก ปรากฏว่าคนไข้ได้อาเจียนใส่คุณพ่อทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ทางปาก คุณพ่อไม่ได้คำนึงความปลอดภัยของตนเอง จึงไม่ได้ทานยาเพื่อป้องกัน ต่อมาไม่นานคุณพ่อก็เริ่มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายแล้วลามไปที่สมองอย่างรวดเร็ว ท้ายที่สุดก็เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 30 กว่าปี เท่านั้น ซึ่งขณะนั้นหนูเองก็ยังจำหน้าพ่อไม่ได้ เพราะหนูก็มีอายุเพียง 2 ขวบ เท่านั้น
หนูไม่เข้าใจว่าครอบครัวของหนูทำเวรกรรมอะไรไว้ ถึงต้องประสบชะตากรรมเช่นนี้
ปัจจุบันนี้หนูมีเพียงคุณย่าที่มีอายุถึง 75 ปี ส่งเสียเลี้ยงดูให้หนูได้เรียนหนังสือ โดยมีอาชีพขายขนมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อ
ประทังให้สองชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ หนูสงสารคุณย่ามาก สิ่งที่หนูทำได้ดีที่สุดในเวลานี้คือ ตั้งใจเรียนหนังสือ เป็นเด็กดี ช่วยเหลือคุณย่าทุกอย่างเท่าที่เด็กอายุขนาดหนูพึงจะทำได้ ขณะนี้หนูอาศัยอยู่ที่บ้านของคนอื่นที่เขาให้ความ
เมตตา โดยที่ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกันเลย
ทุกเย็นหนูกับย่าจะมาช่วยกันขายขนมบนทางเท้า ฝั่งตรงข้ามโรงเรียน
ทุกวัน ต้องพยายามขายให้หมดไม่หมดก็ขาดทุน เพราะครอบครัวของหนูมีเงินน้อยมากแค่หมุนขายของไปวัน ๆ เท่านั้น
หลายครั้งมีผู้ใจบุญมาช่วยซื้อขนมจนหมด ทุกวันนี้หนูได้รับความเมตตาจากโรงเรียนเทศบาล 2 (วัดใหม่ท่าพาณิชย์) แห่งนี้เป็นอย่างมาก ครูทุกคนให้ความเอ็นดู หนูได้รับทุนการศึกษา ได้รับประทานอาหารกลางวันฟรี รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ โรงเรียนจ่ายให้หนูหมด แต่หนูไม่รู้ว่าเมื่อหนูจบการศึกษาจากโรงเรียนแห่งนี้แล้วชีวิตหนูจะเป็นอย่างไรต่อไป
หนูคิดแต่เพียงว่าการศึกษาและความรู้เท่านั้นที่หนูจะสามารถนำไปแลกกับการทำงานในอนาคตได้
ท่านทั้งหลาย และเพื่อนๆ ที่อยู่ในที่ประชุมแห่งนี้ หลายคนมีครอบครัวที่อบอุ่นและมีความพร้อมในการเรียน
หนูอยากจะบอกทุกคนว่า เมื่อมีโอกาสแล้ว ขอให้ตั้งใจเรียนหนังสือ และรักคุณพ่อ คุณแม่ให้มาก ๆ
อย่าให้เหมือนกับหนูที่ไม่มีคุณพ่อคุณแม่ให้รัก
แต่หนูมีคุณย่าที่ประเสริฐที่สุด ที่ไม่เคยทอดทิ้งหนูเลย เราสองคน
ทุกข์สุขมาด้วยกัน
หนูสัญญาว่าหนูจะดูแลคุณย่าแทนคุณพ่อหนูอย่างดีที่สุดที่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างหนูจะทำได้
ขอบคุณสำหรับทุกท่านที่อดทนฟังประวัติชีวิตของหนู สวัสดีค่ะ
เด็กหญิงอารดา วงษ์ดีเลิศ"
"ลูกเอ๋ย คนดีกตัญญูรู้คุณ ยังไงก็ต้องเจริญก้าวหน้า ต้องมึคนช่วยเหลืออยู่แล้ว"
ท่านคุณหมออิทธิพร กำลังหาทางช่วยเหลืออยู่
http://www.manager.co.th/HotShare/ViewNews.aspx?NewsID=9590000017794
ข่าวเพิ่มเติมครับ
ตั้งกองทุนช่วยเหลือน้องอารดา ลูก นพ.กฤษฎา ได้เงิน 1.5 แสน
สำหรับเงินเหล่านี้ จะนำมาช่วยนางสาวอารดาในรูปแบบของคณะกรรมการกองทุน มอบเงินช่วยเหลือสัปดาห์ละ 1,600 บาท ซึ่งค่าเช่าบ้านกับค่าเล่าเรียนจะนำเงินจากกองทุนนี้มาใช้ด้วย มีอายุกองทุนถึงตอนที่นางสาวอารดาเรียนจบปริญญาตรี ทั้งนี้นางสาวอารดา อยากเรียนด้านบัญชี ส่วนการรักษาโรคลมชัก ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจากสิทธิบัตรทอง
http://hilight.kapook.com/view/133081