
สวัสดีค่ะ เรื่องนี้อยากให้เป็นประสบการณ์สอน สำหรับสาวๆ ที่ชอบพึ่งพา facebook
***ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยนะคะ เพราะเพิ่งเคยมาตั้งกระทู้แรกในพันทิป และขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ เพราะไม่ได้มีรูปหลักฐานมายืนยันอะไรเลย ซึ่งเหตุผลจะบอกด่านล่างนะคะ***
เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ
เราเคยเปิดอ่านกระทู้พันทิปของนศ.สาวคนหนึ่ง ที่เป็นข่าวเกี่ยวกับการแต่งหน้า ในวันรับปริญญาที่ทำร้ายความรู้สึก แล้วก็รู้สึกว่าน่าเห็นใจและเสียใจแทนมากๆในฐานะที่เป็นบัณฑิตรอรับปริญฯเหมือนกัน ขอยืมอ้างอิงหน่อยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://pantip.com/topic/33590047แต่ก็ใครจะไปทันคาดคิดคะ... ว่าจะเกิดเรื่องกับตัวเองเหมือนกัน
ตอน 1: โดนทิ้ง ก่อนวันรับปริญญา ซึ่งแน่นอนว่าใครๆก็คงหาช่างล่วงหน้าเตรียมกันไว้ใช่ไหมคะ เราเองก็มีการเตรียมหา
ช่างแต่งหน้าล่วงหน้าไว้ ถ้าใครเข้าค้นfacebook บ่อยๆก็จะรู้ว่ามีเยอะมากๆ และในที่สุดเราก็เจอ ก็เลยตกลงแต่งหน้ากันไปเพราะเขาแต่งสวยและเปิดรับกรุ๊ปใกล้ม.เราพอดี แต่...
ใครจะคาดคิดคะ ว่าอยู่ดีๆเดือนถัดมาพี่เขาก็โทรมาขอยกเลิก เพราะว่าคนมาจองเข้ากรุ๊ปน้อยและเขาติดงานของลูกค้าประจำที่แต่งกันมานาน เป็นม.อื่น
เลยขอร้องให้เราไปแต่งกับช่างคนอื่น ซึ่งพี่เขาก็แนะนำมาเยอะ แล้วก็ขอโทษหลายครั้ง ส่วนเรา...SHOCK นั่งพิงโซฟาเลยคะ ความรู้สึกเหมือนจะแต่งงานแล้วอยู่ดีๆแฟนมาทิ้งเลยคะตอนนั้น แม่ยังถามเราเลยคะเป็นอะไรหน้าซีดๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่ได้รับเงินโอนกลับมาเต็มจำนวนคะ และก็เข้าใจพี่เขาคะ เรื่องจำนวนคน
แต่ไม่เปนไรคะ คนเราล้มแล้วต้องรีบลุก ก็เลยๆมานั่งค้นๆหาๆในfacebook ใหม่คะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ที่จริงเพื่อนคนอื่นๆก็มีกรุ๊ปแต่งหน้ากันคะ ยังช่วยกันหาเลย แต่ณตอนนั้นคือ ที่ไหนก็เต็มเลยคะ ไม่ก็ได้คิวแต่งตอนเที่ยงคืน(เพิ่มให้) และเรารับ 7.30 เวลาทิ้งห่างกันมาก เลยไม่ไหวคะ
ตอน 2: รักครั้งแรกอีกครั้ง โดยเราไปเจอ facebook คนหนึ่งที่เป็นช่างแต่งหน้าและฝีมือการแต่งหน้าเรียกได้ว่าสวยงาม(ตามรูปรีวิวในเฟสบุค) เลยแอดfacebookไป เพื่อที่จะติดตาม และสอบถามราคา แต่งหน้าทำผมไปทางไลน์(สะดวก) และดูรีวิวแต่งหน้าทำผมอีกครั้งให้เต็มตาก็สวย(งาม)ดี ความรู้สึกตอนเจอนะคะเหมือน poppy love อีกครั้งเลย ซึ่งอันนี้เราคุยแชทกับช่างแต่งหน้าโดยตรงเลยคะ
แรกๆเขาก็จะไม่รับคะเพราะคิวเต็มแล้ว +ไม่ได้เปิดกรุ๊ปแต่งเป็นห้องๆ ออกแนวรับแต่งน้อยคนคะ แต่สไตล์แต่งเขา เราชอบมากเลยคะ(อ้างอิงจากรูปรีวิว facebook) เราเลยขอร้องว่าเราไม่ฟิตเวลา แต่งตอนไหนก็ได้ เพราะต้องยอมรับว่าเราให้สิทธิเพื่อนบัณฑิตที่จองไว้ก่อนคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนนั้นตารางเวลายังไม่ออกเลยคะ ดีตรงที่พอตารางออกมา เรารับเช้า เพื่อน(จองไว้ก่อน)รับบ่าย เราก็เลยได้คิวคะ ดีใจมากๆ
ช่างเขาก็รับคิวเราคะ เพราะว่าเขามีแต่งแค่ช่วงบ่าย เลยเช้าว่างรับคิวเราได้ทั้ง 2 วัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราจ้างแต่งกับแม่ 2 คนคะ 2 วัน วันซ้อมย่อย เราแต่งเองคะเพราะแค่ซ้อมกับคณะ และช่างโอเคเรื่องสถานที่คะว่าไปที่ไหนก็ได้ แต่เราเองก็พยายามหาหอพักที่ใกล้มหาลัยที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยคะ เพื่อให้สะดวกสำหรับช่างด้วย เพราะ เพื่อน(จองไว้ก่อน)บ้านเขาอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยคะ สรุปก็ตกลงค่าแต่งหน้า โอนเงินมัดจำไปคะ แล้วก็รอสำหรับวันน่ายินดีของเรา...


ตอน 3: วันน่ายินดี แต่ทำไมน้ำตา..
พอถึงวันรับปริญญา เราก็รอที่หอพักที่จองไว้คะ มากันทั้งครอบครัว บ้านเราอยู่ตจว. ช่างนัดเราไว้ตี 2คะ เราก็ตื่นอาบน้ำรอ ใส่ชุดอยู่บ้านพร้อมคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่วันนี้แม่ไม่ได้แต่งด้วยคะ เพราะไม่สบายว่าจะให้นอนอยู่ห้อง เพราะมันแค่ซ้อม เราเลยขอยกเลิกเขาไป เวลาก็ประมาณก่อนรับได้ 1 อาทิตคะ ฉุกเฉินจริงๆ ช่างก็โทรมาคะว่ามาถึงที่หอแล้ว ก็ลงไปรับ-ขึ้นมาบนห้อง ตอนนั้นเราก็ว่าพี่เขาเพลียหรือปล่าวนะ สีหน้าดูไม่มีอารมณ์เลย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรคะ เช้าๆใครเขาก็คงเป็นแบบนี้
แต่พอมาถึงห้อง รู้สึกได้เลยคะว่ามันเข้ากับคำว่า
บรรยากาศเริ่มไม่ดี แต่ด้วยใจที่ไม่คิดอะไรและตื้นเต้นมาก ช่างเขาก็เอากระเป๋าเครื่องสำอางค์ใหญ่ๆออกมาวางคะ อุปกรณ์อลังการเยอะมากคะ มีสปอตไลท์ส่องด้วย แลดูเหมือนอยู่ในกองถ่าย แม่กับเรายิ้มแป้นเลยคะ ดูเป็นการเป็นงานดี เราก็นั่งบนเก้าอี้คะ ช่างเขาก็เริ่มแต่งหน้าทันทีเลยคะ จิ้มนั้นนิดนี่หน่อย ต่างจากที่ๆเราเคยแต่งมาเลยคะทั้งแต่งเองและไปแต่งร้าน ที่ต้องลงบำรุง รองพื้น บลาๆหลายขั้นตอนมาก แต่.. ก็ยังเชื่อมั่นในรูปรีวิว และคอมเม้นในfacebook คะ แต่เราชอบการแต่งหน้าเขามากและห้องรับแขกของหอมันก็ไม่ได้มีกระจกเหมือนในห้องนอน เลยเอากระจกมาถือดู(บางครั้ง)ว่าพี่ช่างเขาแต่งยังไง เพื่อมีเคล็ดลับเราจะได้ไปแต่งตาม(ทีหลัง) เพราะด้วยความชอบสไตล์การแต่งหน้าเขามากและด้วยความเคยชินด้วยคะ เหมือนเห็นกระจกแล้วอุ่นใจ ก็มีกันคิ้ว(ของตาย) โดยคิ้วเราหนามากและเราก็ชอบคิ้วเรา แต่มันคง(รก)ไม่สวย สำหรับการเขียนของช่าง เขาก็ให้เราเลือกคะว่าจะกันก็ได้หรือไม่ก็ได้ แต่บอกว่า... ถ้ากันก็จะเขียนได้สวยกว่า ก็เลยกันคะ แล้วก็แต่งจนเสร็จ ตอนเสร็จเรากับแม่ยังมองหน้ากัน อ้าว นี่เสร็จแล้วหลอ ไวจัง...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คือแต่งหน้าเสร็จก่อนทำผมจบ เกือบ ชม.กว่าได้คะ อ๋อ ระหว่างแต่งหน้าไปสักพักเดียว ช่างทำผมก็มาคะ(ต่างคนต่างมา)เป็นผู้ชาย... ก็ทำผมไปด้วยแต่งหน้าไปด้วย เขาก็ถามว่ามีทรงผมที่เลือกไว้หรือยัง เราก็เลยให้ดูรูปใน ipad ว่าจะเหมาะไหม เขาก็บอกโอเค จากนั้นก็เหมือนรีบทำเลย คงเพราะมาเลท
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนนั้นแต่งหน้าอยู่คะ แต่เหมือนเขาบอกผมเราดำ เลยต้องลงwax เก็บไรผม นานมาก เอาสีดำๆอะไรไม่รู้ สีเหมือนยาขัดรองเท้าเลยคะ กลิ่นก็เหมือนจากนั้นก็เริ่มดัด ฉีดสเปรย์เลยคะ คือตอนนั้นไม่ได้ส่องกระจกดูเลยคะ มาเห็นอีกทีตอนเขาให้ดูหน้ากระจกใหญ่...จากนั้นก็จ่ายเงินลากันไปคะ

มาเริ่ม
ข้อสงสัยของเรานะคะ ใครคิดเห็นว่ายังไงช่วยบอกเราทีนะคะ คือเราก็ไม่รู้ว่าเราผิดหรือปล่าว แต่ขอโทษจริงๆคะที่ไม่มีรูปมารีวิวให้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เหตุผลคือ ทุกอย่างจบตอนตี 5.30 เราต้องลบ แต่งตาและติดขนตาใหม่ เดชะบุญ! ที่เราติดเครื่องสำอางค์ตัวเองมาจากบ้าน เพราะไม่งั้นเช้าขนาดนั้นจะไปหาซื้อหรือยืมใครทัน เพราะเมื่อมันออกมารวมกัน มันไม่เข้ากับทรงผมและเบ้าหน้าของเราเลย เรายอมรับว่าเราก็ไม่ได้หน้าตาเรียกได้ว่าดี แต่เราและครอบครัวลงความเห็นว่ามันไม่เข้ากันเลย อยากร้องไห้คะแต่เวลาไม่รอท่าให้ร้องได้เลย เกือบไปไม่ทันซ้อมเพราะรถก็ติดมากๆเลยคะ
1.ตอนลงไปรับ-ขึ้นห้อง สีหน้าไม่แสดงอารมณ์(คิดแง่ดี อาจจะเช้าไป) แต่พอเข้าห้องมาก็มีสีหน้าแบบนี้ตลอด ต่างจากที่เราเคยๆแต่งมากับช่างแต่งหน้าคนอื่นๆ เพราะเขาจะชวนเราคุย ยิ้มแย้ม แต่นี่ขอบอกว่า บึ้งเลยคะเหมือนอารมณ์ไม่ดี หรือไปทะเลาะกับใครมา ตลอดช่วงการแต่งหน้าแม่เราก็ชวนคุยบ้างแต่ไม่ตอบเลย ถามคำตอบคำ เหมือนคุยไปแล้วการสนทนาถูกตัดบท ทุกครั้ง! เราก็สงสารแม่เราเลยคะ ไม่สบายแต่อุสามานั่งเป็นเพื่อนเรา แถมช่างแต่งหน้าเราก็หน้าบึ้งตลอด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก่อนหน้านี้แม่บอกว่าแม่จะลองชวนคุยดู ถ้าพี่เขาแต่งดีแม่จะจ้างแต่งหนูทุกงานเลย หาช่างประจำไว้บ้าง โตเป็นสาวแล้ว และเด๋วก็จะแต่งงานแล้ว
ซึ้งแม่มากมาย เพราะเราไปโม้ไว้ว่าช่างเราแต่งหน้างามมาก เราไม่รู้คะ ว่ามันเป็นมารยาทหรือข้อยึดถือของช่างแต่งหน้าหรือปล่าว ที่ห้ามคุยระหว่างแต่งหน้า? แต่บอกได้เลยคะว่าตลอดการแต่งหน้า พี่ช่างเขามีสีหน้าแบบบึ้งตลอด และดูเหมือนไม่ค่อยพอใจเรากับแม่มากๆเลยคะ ไม่รู้เหตุผลเพราะอะไร?
2.ตอนคุยกันในไลน์ เคยบอกว่าเราชอบสีโทนพีช และอยากให้แต่งแบบนั้น เราชอบสีสว่างๆแต่ผลคือ ตาชมพู(พี่เขาเถียงว่าไม่ใช่ชมพู งั้นก็ม่วงละคะ) สีปากนี่ก็ชมพู คือชมพูทั้งหน้า... แก้ม ปาก ตา

เราออกหน้าดุเพราะคิ้วเข้ม(คนใต้) แต่เขียนขอบตาบน-ล่างดำหมดและหนา... พอมองรวมๆแล้วตาเราดุกว่าเดิมไป2เท่าเลยคะ ขนตาก็ไม่เห็นเหมือนในfacebookที่ติดกัน ที่สำคัญเขียนคิ้วแล้วหัวคิ้วเรามีเฉไม่เท่ากันด้วยคะ ส่วนเครื่องสำอางพี่เขาขนมาเยอะจริงๆ แต่ใช้กับหน้าเราแค่ไม่ถึง 10 ชิ้นมั้งคะ ที่กันคิ้วก็เห็นหยิบขึ้นมากันให้เราเลย เสร็จแล้วเก็บ คืออะไร?
3.ค่าเสียหายทั้งหมด 4900 บาท = แต่งหน้า 1 วัน แต่งหน้า 1900 + ล่วง2000
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ค่าแต่งหน้า ปกติ 4000 แต่เขาคิดราคากรุ๊ปให้ = 2000 ฉะนั้น 2 วัน = 4000 + แม่ 1800 (แม่ผมสั้นเท่าผมเด็กนร. เราผมยาวกลางหลัง) = 5800 - มัดจำล่วงหน้า 2000 = 3800 พอถึงวันแต่งหน้า จบงานเราก็จ่ายเขาไปอีก 1900 เพราะเขาบอกว่าต้องจ่ายวันต่อวันอีก แต่พอพี่เขาแต่งหน้าเราซะเสียความรู้สึก หลังซ้อม เราก็เลยโทรไปขอเงินคืนที่จ่ายไป 1900 เขาก็บอกว่ามันคือเงินมัดจำวันถัดไป และก็พูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ จากนั้นก็เริ่มว่าเรา ว่าน้องไม่ให้เกียรติช่างแต่งหน้าที่เอากระจกมาส่องๆตลอด อ้าวว ถามจริงๆคะว่ามันเป็นมารยาทที่ไม่ควรทำหรือป่าวคะ? คืออันนี้ไม่รู้ว่าช่างแต่งหน้าบางคน ไม่อนุญาติให้เอากระจกมาส่องหน้าตัวเองก่อนจบงาน เพราะที่เคยมาช่างเขาก็ยื่นกระจกมาให้และคอยถามตลอดว่า เป็นไงคะ?สวยไหม ชอบหรือปล่าว ตอนนั้นคือ สตั๊น!!แปลกใจมากกกับอารมณ์ที่เหมือนเราไปขอทานแต่งหน้าเขา และกฎระเบียบมากมายในการแต่งหน้าที่เพิ่มมาในสมอง แต่สรุปคือก็ไม่ได้เงินคืนแหละคะ เพราะเขาบอกว่าเงินที่จ่ายไปวันนี้คือมัดจำในวันถัดไปว่าจะไม่ยกเลิก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพราะเราโทรไปยกเลิกเขา ก็โอเคคะเงินเข้ากระเป๋าไปแล้ว และไม่รู้ว่าที่เขาพูดว่าช่างทำผมคนไหนก็ยึดถือกฎแบบเขาทั้งนั้น จริงไหมคะ?
4. หลังแต่งหน้าเราเสร็จ พี่เขาก็พักคะเพราะเหลือแค่ทำผม แต่มีจุดสังเกตคะ คือ 1.เล่นมือถือไป เม้ากับช่างทำผมไป เสียงดังมากเหมือนตัวเองครองห้องอยู่ ไม่เกรงใจคนในครอบครัวคนอื่นๆของเราที่กำลังนอนอยู่เลยคะ แล้วถ้าคุยได้ ทำไมแม่เราชวนคุย ไม่คุยด้วย? 2.นินทาอดีตลูกค้า(ดารา)ถึงเรื่องส่วนตัว ที่เหมือนเล่าข่มว่าเป็นช่างแต่งหน้าดารา และรู้เรื่องส่วนตัวดารา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซึ่งข่าวเก่ามาก เราก็รู้คะ แต่เราคิดว่าคนทั้งประเทศก็คงรู้ แต่เขาเสียงดัง และเราก็กำลังทำผมอยู่ เรากับแม่ก็เลยเงียบคะ เม้าไปสักพัก สงสัยไม่มีเรตติ้ง เลยเลิกพูดไปเองเลยคะ
5.สิ่งที่หลงเหลือไว้ให้เราหลังกลับมา และ ล้างหน้า
หน้าบวม ตาอักเสบ ผื่นแดงจากอาการแพ้เครื่องสำอางค์ และผมที่ต้องเข้าร้าน เพิ่มเงินให้เขาสระให้เป็นพิเศษเนื่องจากสีดำๆบนผม ล้างไม่ออก ต้องนอนบนเตียงสระผมเกือบครึ่งชม. ผมร่วงไปเป็นกำมือเพราะล้างออกยากมาก ทั้ง wax สเปรย์ และแย่กว่าล้างไม่ออกคือ ตอนซ้อม.. เหงื่อออก มันก็ไหลมาเลอะปกคอเสื้อ นศ. ดำไร้สภาพ... ความภูมิใจ... เดินแบบรีบๆเดิน... รีบๆซ้อม... และไลน์ไปเลื่อนเพื่อนให้มาวันรับจริงเเทน เพราะรับสภาพตัวเอง ณ ตอนนั้นไม่ไหวจริงๆคะ ไม่ต้องถามว่าได้ถ่ายรูปไหม ไม่เลยคะไม่ได้ถ่ายเลยสักรูปวันนั้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สาเหตุที่ความมั่นใจหมดสิ้นจริงๆ คือ เพื่อนทักว่าไปทำไรมา หน้าโคตรป่วย
ถึงเรื่องมันจะผ่านแล้ว และแม่เราให้ลืมมันไป ถือว่าฟาดเคราะห์ แค่จ้างช่างแต่งหน้านี่ถือว่าเป็นเคราะห์ของเราเลยหรือคะ

หลายครั้งที่เก็บมาฝัน สุดท้ายทนไม่ได้ เลยต้องขอมาเขียนยาวๆทุกรายละเอียด เพื่อเล่าสู่กันฟัง ว่าเราได้บทเรียนสอนตัวเอง ใช้ได้จริงเพราะเจอจริง! ว่า
ชีวิตจริงอย่าเอาแต่พึ่งหน้าจอ พึ่งfacebook ควรปิดมัน และออกไปค้นหาสิ่งที่ต้องการหรือเผชิญหน้าสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง
จากนั้นมาเราเลิกเล่นเลยคะ
กลัว กลัว..

ว่าสักวันจะเจอแบบนี้อีกคะ เพราะตอนนั้นคือ คิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ตัวเองได้เป็นคนเลือกแล้วกับมือ แต่มันก็มาทำร้ายความรู้สึกเราอย่างมาก ในวันสำคัญที่ไม่ได้มีทุกวัน และสุดท้ายนี้ อยากจะมาเตือนพี่ เพื่อน และน้องๆทุกคน ที่กำลังจะหาช่างแต่งหน้า ขอให้เลือกคนที่ไว้ใจได้จริงๆ หรือเคยแต่งหน้าให้มาก่อนจะดีกว่าจะได้ไม่เป็นแบบเราอีกคนนะคะ ทำให้วันดีๆ วันสำคัญๆ ในชีวิตหมดความมั่นใจ และหมดแม้กระทั่งรอยยิ้มคะ[:เม่าในก
โดนช่างแต่งหน้าทำร้าย ความรู้สึกในวันรับปริญญา (เราผิดหรือปล่าวคะ)
***ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยนะคะ เพราะเพิ่งเคยมาตั้งกระทู้แรกในพันทิป และขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ เพราะไม่ได้มีรูปหลักฐานมายืนยันอะไรเลย ซึ่งเหตุผลจะบอกด่านล่างนะคะ***
เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ
เราเคยเปิดอ่านกระทู้พันทิปของนศ.สาวคนหนึ่ง ที่เป็นข่าวเกี่ยวกับการแต่งหน้า ในวันรับปริญญาที่ทำร้ายความรู้สึก แล้วก็รู้สึกว่าน่าเห็นใจและเสียใจแทนมากๆในฐานะที่เป็นบัณฑิตรอรับปริญฯเหมือนกัน ขอยืมอ้างอิงหน่อยนะคะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่ก็ใครจะไปทันคาดคิดคะ... ว่าจะเกิดเรื่องกับตัวเองเหมือนกัน
ตอน 1: โดนทิ้ง ก่อนวันรับปริญญา ซึ่งแน่นอนว่าใครๆก็คงหาช่างล่วงหน้าเตรียมกันไว้ใช่ไหมคะ เราเองก็มีการเตรียมหา
ช่างแต่งหน้าล่วงหน้าไว้ ถ้าใครเข้าค้นfacebook บ่อยๆก็จะรู้ว่ามีเยอะมากๆ และในที่สุดเราก็เจอ ก็เลยตกลงแต่งหน้ากันไปเพราะเขาแต่งสวยและเปิดรับกรุ๊ปใกล้ม.เราพอดี แต่...
ใครจะคาดคิดคะ ว่าอยู่ดีๆเดือนถัดมาพี่เขาก็โทรมาขอยกเลิก เพราะว่าคนมาจองเข้ากรุ๊ปน้อยและเขาติดงานของลูกค้าประจำที่แต่งกันมานาน เป็นม.อื่น
เลยขอร้องให้เราไปแต่งกับช่างคนอื่น ซึ่งพี่เขาก็แนะนำมาเยอะ แล้วก็ขอโทษหลายครั้ง ส่วนเรา...SHOCK นั่งพิงโซฟาเลยคะ ความรู้สึกเหมือนจะแต่งงานแล้วอยู่ดีๆแฟนมาทิ้งเลยคะตอนนั้น แม่ยังถามเราเลยคะเป็นอะไรหน้าซีดๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ไม่เปนไรคะ คนเราล้มแล้วต้องรีบลุก ก็เลยๆมานั่งค้นๆหาๆในfacebook ใหม่คะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอน 2: รักครั้งแรกอีกครั้ง โดยเราไปเจอ facebook คนหนึ่งที่เป็นช่างแต่งหน้าและฝีมือการแต่งหน้าเรียกได้ว่าสวยงาม(ตามรูปรีวิวในเฟสบุค) เลยแอดfacebookไป เพื่อที่จะติดตาม และสอบถามราคา แต่งหน้าทำผมไปทางไลน์(สะดวก) และดูรีวิวแต่งหน้าทำผมอีกครั้งให้เต็มตาก็สวย(งาม)ดี ความรู้สึกตอนเจอนะคะเหมือน poppy love อีกครั้งเลย ซึ่งอันนี้เราคุยแชทกับช่างแต่งหน้าโดยตรงเลยคะ
แรกๆเขาก็จะไม่รับคะเพราะคิวเต็มแล้ว +ไม่ได้เปิดกรุ๊ปแต่งเป็นห้องๆ ออกแนวรับแต่งน้อยคนคะ แต่สไตล์แต่งเขา เราชอบมากเลยคะ(อ้างอิงจากรูปรีวิว facebook) เราเลยขอร้องว่าเราไม่ฟิตเวลา แต่งตอนไหนก็ได้ เพราะต้องยอมรับว่าเราให้สิทธิเพื่อนบัณฑิตที่จองไว้ก่อนคะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ดีตรงที่พอตารางออกมา เรารับเช้า เพื่อน(จองไว้ก่อน)รับบ่าย เราก็เลยได้คิวคะ ดีใจมากๆ
ช่างเขาก็รับคิวเราคะ เพราะว่าเขามีแต่งแค่ช่วงบ่าย เลยเช้าว่างรับคิวเราได้ทั้ง 2 วัน [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ และช่างโอเคเรื่องสถานที่คะว่าไปที่ไหนก็ได้ แต่เราเองก็พยายามหาหอพักที่ใกล้มหาลัยที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยคะ เพื่อให้สะดวกสำหรับช่างด้วย เพราะ เพื่อน(จองไว้ก่อน)บ้านเขาอยู่ไม่ไกลจากมหาลัยคะ สรุปก็ตกลงค่าแต่งหน้า โอนเงินมัดจำไปคะ แล้วก็รอสำหรับวันน่ายินดีของเรา...
ตอน 3: วันน่ายินดี แต่ทำไมน้ำตา..
แต่พอมาถึงห้อง รู้สึกได้เลยคะว่ามันเข้ากับคำว่าบรรยากาศเริ่มไม่ดี แต่ด้วยใจที่ไม่คิดอะไรและตื้นเต้นมาก ช่างเขาก็เอากระเป๋าเครื่องสำอางค์ใหญ่ๆออกมาวางคะ อุปกรณ์อลังการเยอะมากคะ มีสปอตไลท์ส่องด้วย แลดูเหมือนอยู่ในกองถ่าย แม่กับเรายิ้มแป้นเลยคะ ดูเป็นการเป็นงานดี เราก็นั่งบนเก้าอี้คะ ช่างเขาก็เริ่มแต่งหน้าทันทีเลยคะ จิ้มนั้นนิดนี่หน่อย ต่างจากที่ๆเราเคยแต่งมาเลยคะทั้งแต่งเองและไปแต่งร้าน ที่ต้องลงบำรุง รองพื้น บลาๆหลายขั้นตอนมาก แต่.. ก็ยังเชื่อมั่นในรูปรีวิว และคอมเม้นในfacebook คะ แต่เราชอบการแต่งหน้าเขามากและห้องรับแขกของหอมันก็ไม่ได้มีกระจกเหมือนในห้องนอน เลยเอากระจกมาถือดู(บางครั้ง)ว่าพี่ช่างเขาแต่งยังไง เพื่อมีเคล็ดลับเราจะได้ไปแต่งตาม(ทีหลัง) เพราะด้วยความชอบสไตล์การแต่งหน้าเขามากและด้วยความเคยชินด้วยคะ เหมือนเห็นกระจกแล้วอุ่นใจ ก็มีกันคิ้ว(ของตาย) โดยคิ้วเราหนามากและเราก็ชอบคิ้วเรา แต่มันคง(รก)ไม่สวย สำหรับการเขียนของช่าง เขาก็ให้เราเลือกคะว่าจะกันก็ได้หรือไม่ก็ได้ แต่บอกว่า... ถ้ากันก็จะเขียนได้สวยกว่า ก็เลยกันคะ แล้วก็แต่งจนเสร็จ ตอนเสร็จเรากับแม่ยังมองหน้ากัน อ้าว นี่เสร็จแล้วหลอ ไวจัง... [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ อ๋อ ระหว่างแต่งหน้าไปสักพักเดียว ช่างทำผมก็มาคะ(ต่างคนต่างมา)เป็นผู้ชาย... ก็ทำผมไปด้วยแต่งหน้าไปด้วย เขาก็ถามว่ามีทรงผมที่เลือกไว้หรือยัง เราก็เลยให้ดูรูปใน ipad ว่าจะเหมาะไหม เขาก็บอกโอเค จากนั้นก็เหมือนรีบทำเลย คงเพราะมาเลท [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ จากนั้นก็เริ่มดัด ฉีดสเปรย์เลยคะ คือตอนนั้นไม่ได้ส่องกระจกดูเลยคะ มาเห็นอีกทีตอนเขาให้ดูหน้ากระจกใหญ่...จากนั้นก็จ่ายเงินลากันไปคะ
มาเริ่ม ข้อสงสัยของเรานะคะ ใครคิดเห็นว่ายังไงช่วยบอกเราทีนะคะ คือเราก็ไม่รู้ว่าเราผิดหรือปล่าว แต่ขอโทษจริงๆคะที่ไม่มีรูปมารีวิวให้เลย[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1.ตอนลงไปรับ-ขึ้นห้อง สีหน้าไม่แสดงอารมณ์(คิดแง่ดี อาจจะเช้าไป) แต่พอเข้าห้องมาก็มีสีหน้าแบบนี้ตลอด ต่างจากที่เราเคยๆแต่งมากับช่างแต่งหน้าคนอื่นๆ เพราะเขาจะชวนเราคุย ยิ้มแย้ม แต่นี่ขอบอกว่า บึ้งเลยคะเหมือนอารมณ์ไม่ดี หรือไปทะเลาะกับใครมา ตลอดช่วงการแต่งหน้าแม่เราก็ชวนคุยบ้างแต่ไม่ตอบเลย ถามคำตอบคำ เหมือนคุยไปแล้วการสนทนาถูกตัดบท ทุกครั้ง! เราก็สงสารแม่เราเลยคะ ไม่สบายแต่อุสามานั่งเป็นเพื่อนเรา แถมช่างแต่งหน้าเราก็หน้าบึ้งตลอด[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เราไม่รู้คะ ว่ามันเป็นมารยาทหรือข้อยึดถือของช่างแต่งหน้าหรือปล่าว ที่ห้ามคุยระหว่างแต่งหน้า? แต่บอกได้เลยคะว่าตลอดการแต่งหน้า พี่ช่างเขามีสีหน้าแบบบึ้งตลอด และดูเหมือนไม่ค่อยพอใจเรากับแม่มากๆเลยคะ ไม่รู้เหตุผลเพราะอะไร?
2.ตอนคุยกันในไลน์ เคยบอกว่าเราชอบสีโทนพีช และอยากให้แต่งแบบนั้น เราชอบสีสว่างๆแต่ผลคือ ตาชมพู(พี่เขาเถียงว่าไม่ใช่ชมพู งั้นก็ม่วงละคะ) สีปากนี่ก็ชมพู คือชมพูทั้งหน้า... แก้ม ปาก ตา
3.ค่าเสียหายทั้งหมด 4900 บาท = แต่งหน้า 1 วัน แต่งหน้า 1900 + ล่วง2000[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่พอพี่เขาแต่งหน้าเราซะเสียความรู้สึก หลังซ้อม เราก็เลยโทรไปขอเงินคืนที่จ่ายไป 1900 เขาก็บอกว่ามันคือเงินมัดจำวันถัดไป และก็พูดด้วยน้ำเสียงรำคาญ จากนั้นก็เริ่มว่าเรา ว่าน้องไม่ให้เกียรติช่างแต่งหน้าที่เอากระจกมาส่องๆตลอด อ้าวว ถามจริงๆคะว่ามันเป็นมารยาทที่ไม่ควรทำหรือป่าวคะ? คืออันนี้ไม่รู้ว่าช่างแต่งหน้าบางคน ไม่อนุญาติให้เอากระจกมาส่องหน้าตัวเองก่อนจบงาน เพราะที่เคยมาช่างเขาก็ยื่นกระจกมาให้และคอยถามตลอดว่า เป็นไงคะ?สวยไหม ชอบหรือปล่าว ตอนนั้นคือ สตั๊น!!แปลกใจมากกกับอารมณ์ที่เหมือนเราไปขอทานแต่งหน้าเขา และกฎระเบียบมากมายในการแต่งหน้าที่เพิ่มมาในสมอง แต่สรุปคือก็ไม่ได้เงินคืนแหละคะ เพราะเขาบอกว่าเงินที่จ่ายไปวันนี้คือมัดจำในวันถัดไปว่าจะไม่ยกเลิก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. หลังแต่งหน้าเราเสร็จ พี่เขาก็พักคะเพราะเหลือแค่ทำผม แต่มีจุดสังเกตคะ คือ 1.เล่นมือถือไป เม้ากับช่างทำผมไป เสียงดังมากเหมือนตัวเองครองห้องอยู่ ไม่เกรงใจคนในครอบครัวคนอื่นๆของเราที่กำลังนอนอยู่เลยคะ แล้วถ้าคุยได้ ทำไมแม่เราชวนคุย ไม่คุยด้วย? 2.นินทาอดีตลูกค้า(ดารา)ถึงเรื่องส่วนตัว ที่เหมือนเล่าข่มว่าเป็นช่างแต่งหน้าดารา และรู้เรื่องส่วนตัวดารา[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5.สิ่งที่หลงเหลือไว้ให้เราหลังกลับมา และ ล้างหน้า หน้าบวม ตาอักเสบ ผื่นแดงจากอาการแพ้เครื่องสำอางค์ และผมที่ต้องเข้าร้าน เพิ่มเงินให้เขาสระให้เป็นพิเศษเนื่องจากสีดำๆบนผม ล้างไม่ออก ต้องนอนบนเตียงสระผมเกือบครึ่งชม. ผมร่วงไปเป็นกำมือเพราะล้างออกยากมาก ทั้ง wax สเปรย์ และแย่กว่าล้างไม่ออกคือ ตอนซ้อม.. เหงื่อออก มันก็ไหลมาเลอะปกคอเสื้อ นศ. ดำไร้สภาพ... ความภูมิใจ... เดินแบบรีบๆเดิน... รีบๆซ้อม... และไลน์ไปเลื่อนเพื่อนให้มาวันรับจริงเเทน เพราะรับสภาพตัวเอง ณ ตอนนั้นไม่ไหวจริงๆคะ ไม่ต้องถามว่าได้ถ่ายรูปไหม ไม่เลยคะไม่ได้ถ่ายเลยสักรูปวันนั้น[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถึงเรื่องมันจะผ่านแล้ว และแม่เราให้ลืมมันไป ถือว่าฟาดเคราะห์ แค่จ้างช่างแต่งหน้านี่ถือว่าเป็นเคราะห์ของเราเลยหรือคะ
ชีวิตจริงอย่าเอาแต่พึ่งหน้าจอ พึ่งfacebook ควรปิดมัน และออกไปค้นหาสิ่งที่ต้องการหรือเผชิญหน้าสิ่งต่างๆด้วยตัวเอง
จากนั้นมาเราเลิกเล่นเลยคะ
กลัว กลัว..