ตอนนี้เรามีเรื่องกลุ้มใจอยากพูดกับสามี แต่ไม่รู้จะพูดยังไงให้สามีเข้าใจ
ที่อาศัยอยู่เป็นบ้านหารเช่ากันสามครอบครัว ที่อาศัยอยู่ด้วยกันจะมีน้องชายของสามี และอาของสามี
เรื่องมีอยู่ว่าเลยคือ โดยแม่ของสามีทำงานอยู่ต่างจังหวัด ขึ้นมาบ้างเป็นครั้งคราว อยู่มาคือแม่สามีพูดขึ้นมาทำนอง อยากให้ซื้อบ้านกันจะได้ไม่ต้องเช่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
เราก็เข้าใจแม่เขานะ ว่าต้องการให้มีบ้านอยู่กัน ตอนแรกที่คุยเรื่องนี้ไปสามีเราบอกกับแม่เขาว่ากู้ไปเลยคนละหลังจะได้ไม่ต้องมีปัญหากันในอนาคต
ตรงนี้ที่เราเข้าใจคือจะให้ชื่อเรากู้บ้านหลังนึง ชื่อสามีอีกหลังนึง และยังบอกต่อว่าอีกหลังนึงให้แม่ของเขาส่ง
แต่แม่เขาบอกว่าเขาแก่แล้ว ส่งไม่ไหว สามีเลยบอกอีกให้น้องชายส่ง แต่แม่สามีบอกกับสามีเราว่าน้องมันเอาอะไร มันจะเอาปัญญาที่ไหนไปส่งล่ะ
คือเราเป็นคนฟังเรามองเหมือนแม่ของสามีจะโยนมาให้สามีเรารับผิดชอบ คือถ้ากู้สองหลังสามีเราก็ต้องส่งทั้งบ้านของตัวเองและบ้านของน้อง
เท่ากับส่งสองหลัง ถ้ากู้หลังเดียวก็ต้องซื้อบ้านที่อย่างน้อยมีห้อง 4 ห้อง เพื่อให้ครอบครัวสามีมาอยู่ด้วย เรื่องนี้ทำให้เรานอนไม่หลับไม่สบายใจ
อยากพูดอยากปรึกษาหาทางออกว่าควรจะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะลำพังบ้านราคา ล้านต้นๆคำนวณแล้วก็ยังถือว่าส่งหนักอยู่ เพราะรายได้สองคนรวมกันก็พอไปได้ แต่ยังมีลูกเรา ค่าใช้จ่ายต่างๆที่จำเป็น ค่าเล่าเรียน ไหนจะเงินเก็บสำรองไว้ยามฉุกเฉิน คือตอนนี้ปัญหามันไม่ได้มีแค่ครอบครัวเราแล้ว
แต่ยังต้องแบกรับคนอื่นด้วย คือความคิดเราอาจจะเห็นแก่ตัว แต่ถ้าให้เราแบกภาระของครอบครัวสามีด้วยไม่ไหวจริงๆค่ะ เรามีลูกเราที่ต้องยังรับผิดชอบ ถ้าสมมุติเราเอาครอบครัวเรามาให้แบกแบบนี้บ้าง เพราะเราก็ยังมีพ่อแม่ น้องที่ต้องดูแลอยู่เหมือนกันค่ะ แต่โชคดีตรงที่มีบ้านอยู่และมีรายได้กันหมดค่ะ แต่ถ้าไม่มีล่ะแล้ว เราเอาครอบครัวเรามาให้เขาแบกด้วย เขาก็ไม่เอาเหมือนกัน แล้วครอบครัวสามีรายได้ก็ไม่หลักแหล่งไม่แน่นอน เราไม่รู้นะว่าเขาทำงานอะไรกันเพราะเราไม่เคยถาม แต่เห็นอยู่บ้านกันทุกวัน พอสิ้นเดือนจะจ่ายค่าเช่า จ่ายช้าทุกที
คือเราไม่ได้มีปัญหากับแม่สามีนะ หรือญาติพี่น้องเขาทั้งสิ้น แต่เราคิดว่าเราก็มีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งพี่น้องแต่ละคนของฝ่ายสามี มีลูกมีเมียกันแล้ว เราไม่สามารถที่จะช่วยรับผิดชอบได้ แล้วบ้านหลังนี้ที่อาศัยอยู่รวมกันทุกคนก็ต้องหาเงินค่าเช่าที่ต้องหารกัน ไหนจะค่าน้ำค่าไฟอยู่แล้วด้วย
กับสามีเราพยายามพูดเป็นนัยๆให้รู้แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก ที่จะแบกปัญหาน้องเขาหรือญาติเขาด้วยเรื่องบ้าน เข้าใจค่ะว่ารักพี่น้อง แต่ถ้ามันไม่รอดจะกลายมาเป็นปัญหาอีกเยอะแยะ คือมองแล้วในอนาคตปัญหาตามมาอีกเยอะมากค่ะ เพราะอุปนิสัยของน้องชายสามี ไหนจะอาของสามีอีก
เราถึงอยากหาทางที่จะพูดกับสามีให้เข้าใจเราด้วยวิธีที่ประนีประนอมมากที่สุด
และเราก็ไม่อยากให้สามีคิดด้วยค่ะว่าเราจะไปแยกครอบครัวเขาออกจากกัน
รบกวนช่วยให้คำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆคะ
ขอคำปรึกษา จะซื้อบ้านทั้งทีต้องให้คนในครอบครัวสามีมาอยู่ด้วยทั้งหมดเลยเหรอ? เรากลุ้มใจมาก
ที่อาศัยอยู่เป็นบ้านหารเช่ากันสามครอบครัว ที่อาศัยอยู่ด้วยกันจะมีน้องชายของสามี และอาของสามี
เรื่องมีอยู่ว่าเลยคือ โดยแม่ของสามีทำงานอยู่ต่างจังหวัด ขึ้นมาบ้างเป็นครั้งคราว อยู่มาคือแม่สามีพูดขึ้นมาทำนอง อยากให้ซื้อบ้านกันจะได้ไม่ต้องเช่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
เราก็เข้าใจแม่เขานะ ว่าต้องการให้มีบ้านอยู่กัน ตอนแรกที่คุยเรื่องนี้ไปสามีเราบอกกับแม่เขาว่ากู้ไปเลยคนละหลังจะได้ไม่ต้องมีปัญหากันในอนาคต
ตรงนี้ที่เราเข้าใจคือจะให้ชื่อเรากู้บ้านหลังนึง ชื่อสามีอีกหลังนึง และยังบอกต่อว่าอีกหลังนึงให้แม่ของเขาส่ง
แต่แม่เขาบอกว่าเขาแก่แล้ว ส่งไม่ไหว สามีเลยบอกอีกให้น้องชายส่ง แต่แม่สามีบอกกับสามีเราว่าน้องมันเอาอะไร มันจะเอาปัญญาที่ไหนไปส่งล่ะ
คือเราเป็นคนฟังเรามองเหมือนแม่ของสามีจะโยนมาให้สามีเรารับผิดชอบ คือถ้ากู้สองหลังสามีเราก็ต้องส่งทั้งบ้านของตัวเองและบ้านของน้อง
เท่ากับส่งสองหลัง ถ้ากู้หลังเดียวก็ต้องซื้อบ้านที่อย่างน้อยมีห้อง 4 ห้อง เพื่อให้ครอบครัวสามีมาอยู่ด้วย เรื่องนี้ทำให้เรานอนไม่หลับไม่สบายใจ
อยากพูดอยากปรึกษาหาทางออกว่าควรจะแก้ปัญหาอย่างไร เพราะลำพังบ้านราคา ล้านต้นๆคำนวณแล้วก็ยังถือว่าส่งหนักอยู่ เพราะรายได้สองคนรวมกันก็พอไปได้ แต่ยังมีลูกเรา ค่าใช้จ่ายต่างๆที่จำเป็น ค่าเล่าเรียน ไหนจะเงินเก็บสำรองไว้ยามฉุกเฉิน คือตอนนี้ปัญหามันไม่ได้มีแค่ครอบครัวเราแล้ว
แต่ยังต้องแบกรับคนอื่นด้วย คือความคิดเราอาจจะเห็นแก่ตัว แต่ถ้าให้เราแบกภาระของครอบครัวสามีด้วยไม่ไหวจริงๆค่ะ เรามีลูกเราที่ต้องยังรับผิดชอบ ถ้าสมมุติเราเอาครอบครัวเรามาให้แบกแบบนี้บ้าง เพราะเราก็ยังมีพ่อแม่ น้องที่ต้องดูแลอยู่เหมือนกันค่ะ แต่โชคดีตรงที่มีบ้านอยู่และมีรายได้กันหมดค่ะ แต่ถ้าไม่มีล่ะแล้ว เราเอาครอบครัวเรามาให้เขาแบกด้วย เขาก็ไม่เอาเหมือนกัน แล้วครอบครัวสามีรายได้ก็ไม่หลักแหล่งไม่แน่นอน เราไม่รู้นะว่าเขาทำงานอะไรกันเพราะเราไม่เคยถาม แต่เห็นอยู่บ้านกันทุกวัน พอสิ้นเดือนจะจ่ายค่าเช่า จ่ายช้าทุกที
คือเราไม่ได้มีปัญหากับแม่สามีนะ หรือญาติพี่น้องเขาทั้งสิ้น แต่เราคิดว่าเราก็มีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งพี่น้องแต่ละคนของฝ่ายสามี มีลูกมีเมียกันแล้ว เราไม่สามารถที่จะช่วยรับผิดชอบได้ แล้วบ้านหลังนี้ที่อาศัยอยู่รวมกันทุกคนก็ต้องหาเงินค่าเช่าที่ต้องหารกัน ไหนจะค่าน้ำค่าไฟอยู่แล้วด้วย
กับสามีเราพยายามพูดเป็นนัยๆให้รู้แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก ที่จะแบกปัญหาน้องเขาหรือญาติเขาด้วยเรื่องบ้าน เข้าใจค่ะว่ารักพี่น้อง แต่ถ้ามันไม่รอดจะกลายมาเป็นปัญหาอีกเยอะแยะ คือมองแล้วในอนาคตปัญหาตามมาอีกเยอะมากค่ะ เพราะอุปนิสัยของน้องชายสามี ไหนจะอาของสามีอีก
เราถึงอยากหาทางที่จะพูดกับสามีให้เข้าใจเราด้วยวิธีที่ประนีประนอมมากที่สุด
และเราก็ไม่อยากให้สามีคิดด้วยค่ะว่าเราจะไปแยกครอบครัวเขาออกจากกัน
รบกวนช่วยให้คำแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณมากๆคะ