โมโน กรุ๊ป รีแบรนด์ธุรกิจหนังออนไลน์ใหม่ใช้ชื่อ “MONOMAXXX” พร้อมรุกตลาดอย่างเต็มตัวด้วยการเพิ่มคอนเทนต์อีก 10,000 เรื่อง ตั้งเป้าลูกค้าเพิ่มในปีนี้อีก 1 ล้านราย มั่นใจการมาของ 4G และการใช้งานสมาร์ทโฟนที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ธุรกิจนี้เติบโตขึ้นไปอีก ชูจุดเด่นดูผ่านอุปกรณ์ได้หลากหลาย จัดแพกเกจแบบบุฟเฟต์ราคาเดียว 129 บาท/เดือน ดูได้ทุกเรื่องทุกหมวดหมู่
นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโนฟิล์ม จำกัด หรือโมโนกรุ๊ป กล่าวว่า โมโน กรุ๊ป ได้ทำการรีแบรนด์ธุรกิจดูหนังออนไลน์ใหม่ จากเดิมดูหนังดอทคอม เป็น MONOMAXXX หรือโมโนแม็กซ์ และพร้อมที่จะรุกตลาดดูหนังออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ โดยได้เตรียมเพิ่มคอนเทนต์ออนไลน์อีกกว่า 10,000 ชั่วโมงในปีนี้ ตั้งเป้าลูกค้าเพิ่มในปีนี้อีก 1 ล้านราย จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1 ล้านราย
ทั้งนี้ มูลค่าหนังออนไลน์มีสัดส่วนอยู่ที่ 10% หรือประมาณ 500 ล้านบาท จากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยในปี 2558 ที่มีมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท โมโนแม็กซ์มีส่วนแบ่งการตลาดหนังออนไลน์อยู่ที่ 20% และคาดว่าในปีนี้ตลาดหนังออนไลน์จะเติบโตได้อีก เนื่องจากปัจจุบันอุปกรณ์การใช้งานที่รองรับการดูหนังออนไลน์อย่างสมาร์ทโฟน และสมาร์ททีวีมีราคาไม่สูง
“การเปิดให้บริการ 4G ของโอเปอเรเตอร์ทุกค่ายในปีนี้จะส่งผลดีต่อธุรกิจดูหนังออนไลน์ให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นเป็น 48.2 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นประมาณ 50% ของจำนวนผู้ใช้งานมือถือในประเทศไทย ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยจะส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถดูหนังออนไลน์ได้ง่าย และรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งลูกค้าของโมโนแม็กซ์ 1 แอ็กเคานต์สามารถดูหนังออนไลน์ได้ 3 อุปกรณ์”
นายปฐมพงศ์ กล่าวว่า โมโนแม็กซ์สามารถรองรับการดูหนังออนไลน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ททีวี สมาร์ทโฟน พีซี และแอนดรอยด์บ็อกซ์ และสามารถเลือกใช้ bitrate ได้ตามความเร็วอินเทอร์เน็ต โดยได้มีการจัดแพกเกจแบบบุฟเฟต์ราคาเดียว 129 บาท/เดือน ดูได้ทุกเรื่องทุกหมวดเพื่อให้ง่ายต่อลูกค้า และไม่สร้างความสับสนใจการซื้อแพกเกจ ซึ่งที่ผ่านมา ลูกค้าของโมโนแม็กซ์มีการดูผ่านสมาร์ทโฟน 60% สมาร์ททีวี 30% ที่เหลือเป็นการดูผ่านเว็บ ออนไลน์ โดยขณะนี้มีลูกค้าที่ใช้บริการอย่างต่อเนื่องประมาณ 60% ของยอดลูกค้าทั้งหมด
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดในปีนี้นั้นนอกจากจะใช้สื่อภายในเป็นตัวกระตุ้นแล้ว จะเร่งทำการโปรโมตไปยังหัวเมืองต่างๆ ในต่างจังหวัดให้มากขึ้น ผ่านการโรดโชว์ รวมไปถึงการจับมือกับผู้ให้บริการ Set Top Box รายต่างๆ พร้อมเจรจากับซัปพลายเออร์หลายรายในการป้องกันการขโมยคอนเทนต์ เพื่อให้สามารถนำคอนเทนต์จากต่างประเทศที่มีความเฉพาะตัวเข้ามาให้บริการได้มากขึ้น ปัจจุบันรายได้ของโมโนแม็กซ์อยู่ที่ 8-10% ของโมโนกรุ๊ป ส่วนในปีนี้น่าจะสร้างรายได้เป็น 12% ของรายได้รวมทั้งกลุ่มในปีนี้
“ถ้าเมืองไทยมีการดูแลเรื่องลิขสิทธิ์เพิ่มมากขึ้น จะทำให้คนหันมาดูหนังแบบถูกกฎหมายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังรวมไปคนในปัจจุบันมีเวลาน้อยลง ทำให้จะเข้ามาใช้งานช่องทางนี้มากขึ้น ปัจจุบันมีลูกค้าประจำของโมโนแม็กซ์ใช้เวลาดูหนังเฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หมวดที่คนใช้เยอะเป็นหมวดแอ็กชัน ตลกขบขัน ทริลเลอร์ อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 35 ปีขึ้นไป”
ที่มา :
http://manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9590000011520 
โมโนรีแบรนด์ดูหนังออนไลน์ MONOMAXXX ตั้งเป้าลูกค้าเพิ่ม 1 ล้านราย
นายปฐมพงศ์ สิรชัยรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โมโนฟิล์ม จำกัด หรือโมโนกรุ๊ป กล่าวว่า โมโน กรุ๊ป ได้ทำการรีแบรนด์ธุรกิจดูหนังออนไลน์ใหม่ จากเดิมดูหนังดอทคอม เป็น MONOMAXXX หรือโมโนแม็กซ์ และพร้อมที่จะรุกตลาดดูหนังออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ โดยได้เตรียมเพิ่มคอนเทนต์ออนไลน์อีกกว่า 10,000 ชั่วโมงในปีนี้ ตั้งเป้าลูกค้าเพิ่มในปีนี้อีก 1 ล้านราย จากปัจจุบันที่มีอยู่ 1 ล้านราย
ทั้งนี้ มูลค่าหนังออนไลน์มีสัดส่วนอยู่ที่ 10% หรือประมาณ 500 ล้านบาท จากอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของไทยในปี 2558 ที่มีมูลค่ารวมประมาณ 5,000 ล้านบาท โมโนแม็กซ์มีส่วนแบ่งการตลาดหนังออนไลน์อยู่ที่ 20% และคาดว่าในปีนี้ตลาดหนังออนไลน์จะเติบโตได้อีก เนื่องจากปัจจุบันอุปกรณ์การใช้งานที่รองรับการดูหนังออนไลน์อย่างสมาร์ทโฟน และสมาร์ททีวีมีราคาไม่สูง
“การเปิดให้บริการ 4G ของโอเปอเรเตอร์ทุกค่ายในปีนี้จะส่งผลดีต่อธุรกิจดูหนังออนไลน์ให้เติบโตเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันมีผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นเป็น 48.2 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นประมาณ 50% ของจำนวนผู้ใช้งานมือถือในประเทศไทย ซึ่งทั้ง 2 ปัจจัยจะส่งผลให้ผู้บริโภคสามารถดูหนังออนไลน์ได้ง่าย และรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งลูกค้าของโมโนแม็กซ์ 1 แอ็กเคานต์สามารถดูหนังออนไลน์ได้ 3 อุปกรณ์”
นายปฐมพงศ์ กล่าวว่า โมโนแม็กซ์สามารถรองรับการดูหนังออนไลน์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ททีวี สมาร์ทโฟน พีซี และแอนดรอยด์บ็อกซ์ และสามารถเลือกใช้ bitrate ได้ตามความเร็วอินเทอร์เน็ต โดยได้มีการจัดแพกเกจแบบบุฟเฟต์ราคาเดียว 129 บาท/เดือน ดูได้ทุกเรื่องทุกหมวดเพื่อให้ง่ายต่อลูกค้า และไม่สร้างความสับสนใจการซื้อแพกเกจ ซึ่งที่ผ่านมา ลูกค้าของโมโนแม็กซ์มีการดูผ่านสมาร์ทโฟน 60% สมาร์ททีวี 30% ที่เหลือเป็นการดูผ่านเว็บ ออนไลน์ โดยขณะนี้มีลูกค้าที่ใช้บริการอย่างต่อเนื่องประมาณ 60% ของยอดลูกค้าทั้งหมด
สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดในปีนี้นั้นนอกจากจะใช้สื่อภายในเป็นตัวกระตุ้นแล้ว จะเร่งทำการโปรโมตไปยังหัวเมืองต่างๆ ในต่างจังหวัดให้มากขึ้น ผ่านการโรดโชว์ รวมไปถึงการจับมือกับผู้ให้บริการ Set Top Box รายต่างๆ พร้อมเจรจากับซัปพลายเออร์หลายรายในการป้องกันการขโมยคอนเทนต์ เพื่อให้สามารถนำคอนเทนต์จากต่างประเทศที่มีความเฉพาะตัวเข้ามาให้บริการได้มากขึ้น ปัจจุบันรายได้ของโมโนแม็กซ์อยู่ที่ 8-10% ของโมโนกรุ๊ป ส่วนในปีนี้น่าจะสร้างรายได้เป็น 12% ของรายได้รวมทั้งกลุ่มในปีนี้
“ถ้าเมืองไทยมีการดูแลเรื่องลิขสิทธิ์เพิ่มมากขึ้น จะทำให้คนหันมาดูหนังแบบถูกกฎหมายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังรวมไปคนในปัจจุบันมีเวลาน้อยลง ทำให้จะเข้ามาใช้งานช่องทางนี้มากขึ้น ปัจจุบันมีลูกค้าประจำของโมโนแม็กซ์ใช้เวลาดูหนังเฉลี่ย 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หมวดที่คนใช้เยอะเป็นหมวดแอ็กชัน ตลกขบขัน ทริลเลอร์ อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 35 ปีขึ้นไป”
ที่มา : http://manager.co.th/CbizReview/ViewNews.aspx?NewsID=9590000011520