เห็นซีรี่เรื่อง 'เดอะดรีมเมอร์ คอนโด บาริสต้า สถาปนิก' ผ่านๆ ตา และก็ได้ลองฟังเพลงของดา เอ็นโดรฟิน ที่เค้าบอกว่ามันเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดซีรี่เรื่องนี้ชื่อเพลง 'อย่าทิ้งฝัน' พร้อมกับไปเห็นที่เค้าแนะนำตัวละครของซีรี่ที่มีสถาปนิก และอีกคนเป็นบาริสต้าสาวตัวเล็กๆ
เอออว!! ทำให้กลับมานึกถึงตัวเองอยู่เหมือนกันแฮะ เพราะเราก็ตัวเล็ก เราเน้นสะสมประสบการณ์การชงกาแฟ มากกว่าตัวเลขในบัญชี เราไม่ชอบพึ่งพาใคร และพยามอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้ก็มีความฝันอยากเป็นบาริสต้าแบบสุดๆ (ตอนนี้ลงมือทำฝันให้เป็นรูปเป็นร่างแล้วนะ)
ปล. ยืมแอคเค้าท์รุ่นพี่มาค่ะ
.
ส่วนนี่คือต้นเหตุที่อยากเขียนกระทู้นี้ เห็นแล้วแอบคิดถึงตัวเองเลยทันที หน้าตาก็สูสีนะ ฮิๆ

พระแพง จินตนัดดา รับบท “เติ้ล” บาริสต้าสาวอินดี้ โลกส่วนตัวสูง มองโลกในแง่ดี มีความฝัน ใจเย็น รักการชง กาแฟ ใส่ใจเรื่องกาแฟมากกว่ารายได้ที่ควรจะได้รับ เธอรักการแต่งตัว เก๋ ดูดี มีสไตล์ ภายนอกดูไม่สู้คน แต่จริงๆ แล้ว เติ้ลเป็นคนอ่อนนอก แข็งใน ไม่ชอบพึ่งพาใคร ชอบที่จะยืนหยัดด้วยตัวเอง และด้วยความที่เป็นคนใส่ใจคนอื่น ทําให้เธอมักจะคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ
(ภาพและข้อความจากเว็บไซต์ของช่อง one ค่ะ)
.
อ่ะ ทีนี้มาเข้าเรื่องประสบการณ์ที่อยากแชร์ ยาวหน่อยนะ อยากเขียน อ่านเหอะ!
.
Chapter 1 : หลงรัก
โห...... หอมว่ะ !
นี่คือความคิดแรกที่ผุดขึ้นในใจตั้งแต่สมัยเรายังเด็กๆ เวลาเห็นผู้ใหญ่สั่งกาแฟสด เราชอบไปร้านกาแฟ เพราะยิ่งอยู่นานยิ่งรู้สึกว่ากลิ่นมันอบอวลเข้าไปตามหลืบเสื้อผ้าหน้าผม ณ จังหวะชีวิตนั้น เรารู้จักกาแฟด้วยการนิยามมันว่าเป็นเครื่องดื่มสำหรับผู้ใหญ่ และประทับใจมันด้วยเรื่องของกลิ่นล้วนๆ ไม่ได้ชิมไม่ได้รู้เรื่องอะไรหรอก แค่ดมก็ฟินละ อ่าห์ หอมมมมมม
.
Chapter 2 : ทำความรู้จัก
บางคนชอบบรรยากาศในวงเหล้า แต่เราชอบบรรยากาศในร้านกาแฟ
เวลาผ่านไปไม่ถึง 10 ปี ร้านกาแฟสดมันก็ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนเป็นแฟชั่น แต่ละร้านนี่ตกแต่งอย่างเท่ ดูแล้วเพลินดี บวกกับการที่เราเรียนจบ ป.ตรีใหม่ๆ แต่ดันไม่รู้ว่าอยากทำงานอะไร ไม่มีอะไรที่ชอบจริงๆ จังๆ เท่ากับกลิ่นหอมๆ และบรรยากาศในร้านกาแฟ และไม่รู้ว่าชีวิตจะไปทางไหนต่อ
เอาวะ เป็นคนชอบภาษาอังกฤษ มีความฝันที่อยากจะไปใช้ชีวิตลุยๆ ต่างประเทศสักครั้ง งั้นไม่ทำหรอกงานออฟฟิส ไม่ชอบงานแบบนั้น เดินหน้าสมัครงานร้านกาแฟดีกว่า ลองดูสิว่าจะเป็นยังไง แล้วจะไปไหนค่อยว่ากัน
ในที่สุดก็ได้งานในร้านกาแฟสดที่โอเคแห่งหนึ่ง ตอนนี้ต้องยกย่องน้ำใจเจ้าของร้านกาแฟที่เราไปสมัครงาน คือเป็นการสัมภาษณ์งานที่คนสมัครงานเสร่อที่สุดแล้วมั้ง เพราะเราไม่กินกาแฟเลยและไม่มีความรู้อื่นใดเกี่ยวกับกาแฟทั้งสิ้น เหตุผลเดียวที่ให้กับเค้าคือ “หนูชอบกลิ่นมันค่ะ” 555 ตอบไปแล้วคิดในใจว่าติดลบแน่ ทำไงดี แต่ก็ไม่อยากโกหก ไม่ชอบพยายามเป็นผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้งาน ขอจริงใจไว้ก่อน สรุปคือ เขารับเฉยเลย !! เย้!
ฝึกไปประมาณ 6 เดือน กลายเป็นว่าหลงรักงานตัวเองมากๆ ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่อยากไปทำงานเลย ไม่มีปัญหากับวันจันทร์เหมือนคนออฟฟิสทั่วไป มีความสุขมากๆ พอดีกับที่ได้บังเอิญรู้จักโครงการหนึ่งที่ให้เด็กไทยไปทำงานหรือท่องเที่ยวที่ออสเตรเลีย [Working and Holiday] หลายคนในนี้คงรู้จักกันดี
รอไรล่ะครับ โกวโลดดด …
ได้บินไปตามหาฝันแล้ว ต่อในคอมเม้นต์นะคะ เขียนยาวไปหน่อย
เรื่องจริงจากบาริสต้า ออกตามหาฝันที่แดนจิงโจ้
เอออว!! ทำให้กลับมานึกถึงตัวเองอยู่เหมือนกันแฮะ เพราะเราก็ตัวเล็ก เราเน้นสะสมประสบการณ์การชงกาแฟ มากกว่าตัวเลขในบัญชี เราไม่ชอบพึ่งพาใคร และพยามอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง ก่อนหน้านี้ก็มีความฝันอยากเป็นบาริสต้าแบบสุดๆ (ตอนนี้ลงมือทำฝันให้เป็นรูปเป็นร่างแล้วนะ)
ปล. ยืมแอคเค้าท์รุ่นพี่มาค่ะ
.
ส่วนนี่คือต้นเหตุที่อยากเขียนกระทู้นี้ เห็นแล้วแอบคิดถึงตัวเองเลยทันที หน้าตาก็สูสีนะ ฮิๆ
พระแพง จินตนัดดา รับบท “เติ้ล” บาริสต้าสาวอินดี้ โลกส่วนตัวสูง มองโลกในแง่ดี มีความฝัน ใจเย็น รักการชง กาแฟ ใส่ใจเรื่องกาแฟมากกว่ารายได้ที่ควรจะได้รับ เธอรักการแต่งตัว เก๋ ดูดี มีสไตล์ ภายนอกดูไม่สู้คน แต่จริงๆ แล้ว เติ้ลเป็นคนอ่อนนอก แข็งใน ไม่ชอบพึ่งพาใคร ชอบที่จะยืนหยัดด้วยตัวเอง และด้วยความที่เป็นคนใส่ใจคนอื่น ทําให้เธอมักจะคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ
(ภาพและข้อความจากเว็บไซต์ของช่อง one ค่ะ)
.
อ่ะ ทีนี้มาเข้าเรื่องประสบการณ์ที่อยากแชร์ ยาวหน่อยนะ อยากเขียน อ่านเหอะ!
.
Chapter 1 : หลงรัก
โห...... หอมว่ะ !
นี่คือความคิดแรกที่ผุดขึ้นในใจตั้งแต่สมัยเรายังเด็กๆ เวลาเห็นผู้ใหญ่สั่งกาแฟสด เราชอบไปร้านกาแฟ เพราะยิ่งอยู่นานยิ่งรู้สึกว่ากลิ่นมันอบอวลเข้าไปตามหลืบเสื้อผ้าหน้าผม ณ จังหวะชีวิตนั้น เรารู้จักกาแฟด้วยการนิยามมันว่าเป็นเครื่องดื่มสำหรับผู้ใหญ่ และประทับใจมันด้วยเรื่องของกลิ่นล้วนๆ ไม่ได้ชิมไม่ได้รู้เรื่องอะไรหรอก แค่ดมก็ฟินละ อ่าห์ หอมมมมมม
.
Chapter 2 : ทำความรู้จัก
บางคนชอบบรรยากาศในวงเหล้า แต่เราชอบบรรยากาศในร้านกาแฟ
เวลาผ่านไปไม่ถึง 10 ปี ร้านกาแฟสดมันก็ผุดขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนเป็นแฟชั่น แต่ละร้านนี่ตกแต่งอย่างเท่ ดูแล้วเพลินดี บวกกับการที่เราเรียนจบ ป.ตรีใหม่ๆ แต่ดันไม่รู้ว่าอยากทำงานอะไร ไม่มีอะไรที่ชอบจริงๆ จังๆ เท่ากับกลิ่นหอมๆ และบรรยากาศในร้านกาแฟ และไม่รู้ว่าชีวิตจะไปทางไหนต่อ
เอาวะ เป็นคนชอบภาษาอังกฤษ มีความฝันที่อยากจะไปใช้ชีวิตลุยๆ ต่างประเทศสักครั้ง งั้นไม่ทำหรอกงานออฟฟิส ไม่ชอบงานแบบนั้น เดินหน้าสมัครงานร้านกาแฟดีกว่า ลองดูสิว่าจะเป็นยังไง แล้วจะไปไหนค่อยว่ากัน
ในที่สุดก็ได้งานในร้านกาแฟสดที่โอเคแห่งหนึ่ง ตอนนี้ต้องยกย่องน้ำใจเจ้าของร้านกาแฟที่เราไปสมัครงาน คือเป็นการสัมภาษณ์งานที่คนสมัครงานเสร่อที่สุดแล้วมั้ง เพราะเราไม่กินกาแฟเลยและไม่มีความรู้อื่นใดเกี่ยวกับกาแฟทั้งสิ้น เหตุผลเดียวที่ให้กับเค้าคือ “หนูชอบกลิ่นมันค่ะ” 555 ตอบไปแล้วคิดในใจว่าติดลบแน่ ทำไงดี แต่ก็ไม่อยากโกหก ไม่ชอบพยายามเป็นผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้งาน ขอจริงใจไว้ก่อน สรุปคือ เขารับเฉยเลย !! เย้!
ฝึกไปประมาณ 6 เดือน กลายเป็นว่าหลงรักงานตัวเองมากๆ ไม่เคยมีวันไหนที่ไม่อยากไปทำงานเลย ไม่มีปัญหากับวันจันทร์เหมือนคนออฟฟิสทั่วไป มีความสุขมากๆ พอดีกับที่ได้บังเอิญรู้จักโครงการหนึ่งที่ให้เด็กไทยไปทำงานหรือท่องเที่ยวที่ออสเตรเลีย [Working and Holiday] หลายคนในนี้คงรู้จักกันดี
รอไรล่ะครับ โกวโลดดด …
ได้บินไปตามหาฝันแล้ว ต่อในคอมเม้นต์นะคะ เขียนยาวไปหน่อย