เปรียบเทียบความยาก "เขาฉลาก" กับ "เขาใหญ่ฝั่งปราจีน"
(โดยมือใหม่ ที่เพิ่งเริ่มปั่นปั่นจักรยาน เมื่อเดือน พฤศจิกายน 58)
อยากเล่าเผื่อเป็นกำลังใจให้มือใหม่ได้บ้างค่ะ
(แถมเรื่องการใช้ชีวิต...สำหรับคนที่แวะมาอ่านด้วย)
...................
"เขาฉลาก_ยากกว่า" ชัดเจนมากๆ
(อยากบอกแค่นี้ค่ะ...คงยากพอๆ กับเขาเขียว ที่อยู่บนเขาใหญ่
เพื่อที่มือใหม่จะไม่หลงไปปั่นที่เขาฉลากก่อน....ไม่มีเจตนาอื่นใดค่ะ
เคยได้ประโยชน์จากการเตรียมปั่นขึ้นเขา จากการอ่านกระทู้ที่นี่ เลยมาเล่าให้ฟังค่ะ)
..................
ขึ้นเขาใหญ่ครั้งแรก เมื่อ 20 มค. ก็ปั่นขึ้นได้เลย (ขึ้นเขาครั้งแรก)
วันที่ 29 มค. ปั่น ขึ้น-ลง เขาใหญ่ ครั้งที่ 2..สบายๆ ทำเวลาได้ดีด้วย
...................
แต่...เมื่อ 24 มค. ปั่นขึ้นเขาฉลาก...อ่างเก็บน้ำบางพระ....ไม่ไหวค่ะ
ทุกเนินขึ้นได้แค่ครึ่ง-ค่อนเนินก็ต้องจูง
แต่พี่ที่แนะนำวิธีซ้อม ปั่นขึ้นเขาฉลากได้ แม้จะขึ้นเขาเป็นครั้งแรก
(จขกท. และพี่ท่านนี้ ใช้เฟือง 11-28 ค่ะ)
พี่ๆ ท่านอื่นที่เคยขึ้นแล้ว ปั่นขึ้นลง 3 รอบ (เปลี่ยนเป็นเฟืองขึ้นเขากัน)
...................
วิธีซ้อมคือ ปั่นรอบขา 80-100 เสมอ
ปั่นทุกวัน วันละ 25 กม.
ปั่นแบบเร็วสุดๆ ให้ HR สูงๆ ...สลับกับปั่นธรรมดา บ้าง
....................

Max Speed 69.5 ลงเขาไม่ค่อยเบรคแระ
แต่ยังไม่กล้าใส่รองเท้าครีท..ใส่ผ้าใบเหมือนเดิม
.
ขาขึ้น...แวะน้ำตกเหวนรก
เพื่อซื้อเครื่องดื่มเกลือแร่ ถ่ายรูปกับป้าย
และทักทายพี่จิ๊บ จนท.อุทยาน ที่จำเราได้ด้วย...ดีใจ
............
ขึ้นถึงเขาใหญ่ ถ่ายรูปกับ "หลัก กม. 0"
แล้วปั่นเลี้ยวขวา ขึ้นไปทางลานกางเต้นท์
แค่ 100 เมตร ก็เจอร้านน้ำขวามือ (มีป้ายบอก)
.
คุยกับ จนท. แป๊บนึง ก็รีบปั่นลง
ถ้าเย็นมาก ช้างอาจออกหากิน
จนท.บอกว่าตอนนี้ยังไม่เจอ
ถ้าเจอเขาจะวิทยุบอกกันตลอด
และส่งเจ้าหน้าที่ลงไปยังจุดที่เจอช้าง
.
หากนักท่องเที่ยวปั่น ขึ้น-ลง
วันธรรมดา ที่คนน้อยๆ อย่างนี้
เขาจะ ว.บอก แต่ละด่านย่อย ว่า ผญ. ผช.
ใช้จักรยานสีอะไร ลักษณะอย่างไร กำลังปั่น ขึ้น-ลง
เพื่อให้อีกด่านย่อย...คอยมองหา
ว่านักปั่นต้องไม่หายไปไหนค่ะ
.
เพิ่งทราบ ฟังแล้วรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาก
..................

พี่จิ๊บ จนท.อุทยาน ที่จำเราได้ด้วย
.
ทีแรก หาเงินไม่เจอ
พี่จิ๊บบอกไม่เป็นไรให้ติดไว้ก่อนได้
และยังใจดีจะให้ยืมเงินติดตัวขึ้นไปอีก
เผื่อต้องไปซื้อน้ำ หรือขนมด้านบน
มีน้ำใจมากๆ..ขอขอบคุณ
.
แต่ตอนหลังก็หาเจอในกระเป๋าเสื้อ จกย. นั่นแหละ
กล้วยไข่บังอยู่
.
นักปั่นแวะทักทายพี่จิ๊บได้นะคะ
พี่เขาก็ดีใจที่นักท่องเที่ยวจำเขาได้ด้วยเช่นกันค่ะ
><><><><><><><
ตอน "ปั่นลง" เขาใหญ่...ฟินสุดๆ
ปั่นส่งแรงบ้าง max speed 69.5 กม./ชม
.................
ชีวิตช่วงต้นๆ เหมือนการปั่นขึ้นเขามากๆ
.
ช่วงแรกทำงานเงินเดือนน้อยเหลือเกิน
(ทุกคนแหละ..เป็นเรื่องปกติ...โดยเฉพาะ ขรก.อย่างเรา)
ต้องรับจ้างอยู่เวรห้องพยาบาลโรงงาน
รับขนมมาขาย...รับไข่ไก่มาขายส่งให้ร้านอาหาร
.
ประหยัดสุดๆ ทนมากๆ
แต่มีเป้าหมายว่า "อยากเลิกทำงานก่อนเกษียณ"
.
พอมาลงทุนก็อ่านหนังสือหนังหาเยอะ
อ่านและชื่นชมแนวคิดของผู้ที่สำเร็จ และ IDOL ทุกคน
(ไม่รู้จักใครเลย_จินตนาการว่า IDOL เขียนเล่าให้เราฟัง 55+)
..................
ชีวิตวันนี้...เหมือนปั่นลงเขามากๆ...ฟินสุดๆ
ได้เกษียณก่อนกำหนด เร็วกว่าที่คิดมากๆ
มีชีวิตที่สบายขึ้นมาก ใช้ชีวิตแบบมีคุณภาพได้บ้าง
เป็นผลของความพยายาม และมุทิตาจิต
เวลาอ่านเรื่องของคนที่สำเร็จรู้สึกชื่นชมจากใจ
น้อมนำเอามาใช้ฝึกฝนตนเองตามท่านเหล่านั้น
ขอขอบคุณทุกๆ ท่าน..ที่ไม่อาจเอ่ยชื่อถึงได้หมด เยอะมากๆๆๆๆๆ
..................
"การบริหารการเงินส่วนบุคคล" และ "การลงทุน" สำคัญมาก
คนรุ่นใหม่ทุกๆ คนควรใส่ใจเสียแต่เนิ่นๆ
ถ้าอยากมีชีวิตช่วงท้ายๆ เหมือนการปั่นลงเขา
หากอยาก "สบายเมื่อปลายมือ"
ตอนต้นมือ "ก็ต้องยอมลำบาก+อดเปรี้ยวไว้กินหวาน" ให้เป็นค่ะ
.
เมื่อพลังของ "การทบต้น" ทำงานเต็มที่
ชีวิตเราจะเปลี่ยนในอัตราเร่งเลยหละ
.
อยากให้มีกำลังใจสู้ตอนขึ้นเขากัน
เพราะรางวัลคือ "การลงเขา" รออยู่ค่ะ
แม้จะยังไม่เห็น แต่ใช่ว่ามันไม่มีอยู่จริง
.................
อีกครั้งนะคะ..."ปั่นลงเขา....ฟิน มากๆๆๆ"
><><><><><><><
ปั่นขึ้นเขาใหญ่ครั้งแรก (20 มค. 59)
http://pantip.com/topic/34747860
เปรียบเทียบความยาก "เขาฉลาก" กับ "เขาใหญ่ฝั่งปราจีน"
(โดยมือใหม่ ที่เพิ่งเริ่มปั่นปั่นจักรยาน เมื่อเดือน พฤศจิกายน 58)
อยากเล่าเผื่อเป็นกำลังใจให้มือใหม่ได้บ้างค่ะ
(แถมเรื่องการใช้ชีวิต...สำหรับคนที่แวะมาอ่านด้วย)
...................
"เขาฉลาก_ยากกว่า" ชัดเจนมากๆ
(อยากบอกแค่นี้ค่ะ...คงยากพอๆ กับเขาเขียว ที่อยู่บนเขาใหญ่
เพื่อที่มือใหม่จะไม่หลงไปปั่นที่เขาฉลากก่อน....ไม่มีเจตนาอื่นใดค่ะ
เคยได้ประโยชน์จากการเตรียมปั่นขึ้นเขา จากการอ่านกระทู้ที่นี่ เลยมาเล่าให้ฟังค่ะ)
..................
ขึ้นเขาใหญ่ครั้งแรก เมื่อ 20 มค. ก็ปั่นขึ้นได้เลย (ขึ้นเขาครั้งแรก)
วันที่ 29 มค. ปั่น ขึ้น-ลง เขาใหญ่ ครั้งที่ 2..สบายๆ ทำเวลาได้ดีด้วย
...................
แต่...เมื่อ 24 มค. ปั่นขึ้นเขาฉลาก...อ่างเก็บน้ำบางพระ....ไม่ไหวค่ะ
ทุกเนินขึ้นได้แค่ครึ่ง-ค่อนเนินก็ต้องจูง
แต่พี่ที่แนะนำวิธีซ้อม ปั่นขึ้นเขาฉลากได้ แม้จะขึ้นเขาเป็นครั้งแรก
(จขกท. และพี่ท่านนี้ ใช้เฟือง 11-28 ค่ะ)
พี่ๆ ท่านอื่นที่เคยขึ้นแล้ว ปั่นขึ้นลง 3 รอบ (เปลี่ยนเป็นเฟืองขึ้นเขากัน)
...................
วิธีซ้อมคือ ปั่นรอบขา 80-100 เสมอ
ปั่นทุกวัน วันละ 25 กม.
ปั่นแบบเร็วสุดๆ ให้ HR สูงๆ ...สลับกับปั่นธรรมดา บ้าง
....................
Max Speed 69.5 ลงเขาไม่ค่อยเบรคแระ
แต่ยังไม่กล้าใส่รองเท้าครีท..ใส่ผ้าใบเหมือนเดิม
.
ขาขึ้น...แวะน้ำตกเหวนรก
เพื่อซื้อเครื่องดื่มเกลือแร่ ถ่ายรูปกับป้าย
และทักทายพี่จิ๊บ จนท.อุทยาน ที่จำเราได้ด้วย...ดีใจ
............
ขึ้นถึงเขาใหญ่ ถ่ายรูปกับ "หลัก กม. 0"
แล้วปั่นเลี้ยวขวา ขึ้นไปทางลานกางเต้นท์
แค่ 100 เมตร ก็เจอร้านน้ำขวามือ (มีป้ายบอก)
.
คุยกับ จนท. แป๊บนึง ก็รีบปั่นลง
ถ้าเย็นมาก ช้างอาจออกหากิน
จนท.บอกว่าตอนนี้ยังไม่เจอ
ถ้าเจอเขาจะวิทยุบอกกันตลอด
และส่งเจ้าหน้าที่ลงไปยังจุดที่เจอช้าง
.
หากนักท่องเที่ยวปั่น ขึ้น-ลง
วันธรรมดา ที่คนน้อยๆ อย่างนี้
เขาจะ ว.บอก แต่ละด่านย่อย ว่า ผญ. ผช.
ใช้จักรยานสีอะไร ลักษณะอย่างไร กำลังปั่น ขึ้น-ลง
เพื่อให้อีกด่านย่อย...คอยมองหา
ว่านักปั่นต้องไม่หายไปไหนค่ะ
.
เพิ่งทราบ ฟังแล้วรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาก
..................
พี่จิ๊บ จนท.อุทยาน ที่จำเราได้ด้วย
.
ทีแรก หาเงินไม่เจอ
พี่จิ๊บบอกไม่เป็นไรให้ติดไว้ก่อนได้
และยังใจดีจะให้ยืมเงินติดตัวขึ้นไปอีก
เผื่อต้องไปซื้อน้ำ หรือขนมด้านบน
มีน้ำใจมากๆ..ขอขอบคุณ
.
แต่ตอนหลังก็หาเจอในกระเป๋าเสื้อ จกย. นั่นแหละ
กล้วยไข่บังอยู่
.
นักปั่นแวะทักทายพี่จิ๊บได้นะคะ
พี่เขาก็ดีใจที่นักท่องเที่ยวจำเขาได้ด้วยเช่นกันค่ะ
><><><><><><><
ตอน "ปั่นลง" เขาใหญ่...ฟินสุดๆ
ปั่นส่งแรงบ้าง max speed 69.5 กม./ชม
.................
ชีวิตช่วงต้นๆ เหมือนการปั่นขึ้นเขามากๆ
.
ช่วงแรกทำงานเงินเดือนน้อยเหลือเกิน
(ทุกคนแหละ..เป็นเรื่องปกติ...โดยเฉพาะ ขรก.อย่างเรา)
ต้องรับจ้างอยู่เวรห้องพยาบาลโรงงาน
รับขนมมาขาย...รับไข่ไก่มาขายส่งให้ร้านอาหาร
.
ประหยัดสุดๆ ทนมากๆ
แต่มีเป้าหมายว่า "อยากเลิกทำงานก่อนเกษียณ"
.
พอมาลงทุนก็อ่านหนังสือหนังหาเยอะ
อ่านและชื่นชมแนวคิดของผู้ที่สำเร็จ และ IDOL ทุกคน
(ไม่รู้จักใครเลย_จินตนาการว่า IDOL เขียนเล่าให้เราฟัง 55+)
..................
ชีวิตวันนี้...เหมือนปั่นลงเขามากๆ...ฟินสุดๆ
ได้เกษียณก่อนกำหนด เร็วกว่าที่คิดมากๆ
มีชีวิตที่สบายขึ้นมาก ใช้ชีวิตแบบมีคุณภาพได้บ้าง
เป็นผลของความพยายาม และมุทิตาจิต
เวลาอ่านเรื่องของคนที่สำเร็จรู้สึกชื่นชมจากใจ
น้อมนำเอามาใช้ฝึกฝนตนเองตามท่านเหล่านั้น
ขอขอบคุณทุกๆ ท่าน..ที่ไม่อาจเอ่ยชื่อถึงได้หมด เยอะมากๆๆๆๆๆ
..................
"การบริหารการเงินส่วนบุคคล" และ "การลงทุน" สำคัญมาก
คนรุ่นใหม่ทุกๆ คนควรใส่ใจเสียแต่เนิ่นๆ
ถ้าอยากมีชีวิตช่วงท้ายๆ เหมือนการปั่นลงเขา
หากอยาก "สบายเมื่อปลายมือ"
ตอนต้นมือ "ก็ต้องยอมลำบาก+อดเปรี้ยวไว้กินหวาน" ให้เป็นค่ะ
.
เมื่อพลังของ "การทบต้น" ทำงานเต็มที่
ชีวิตเราจะเปลี่ยนในอัตราเร่งเลยหละ
.
อยากให้มีกำลังใจสู้ตอนขึ้นเขากัน
เพราะรางวัลคือ "การลงเขา" รออยู่ค่ะ
แม้จะยังไม่เห็น แต่ใช่ว่ามันไม่มีอยู่จริง
.................
อีกครั้งนะคะ..."ปั่นลงเขา....ฟิน มากๆๆๆ"
><><><><><><><
ปั่นขึ้นเขาใหญ่ครั้งแรก (20 มค. 59)
http://pantip.com/topic/34747860