สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 43
แหมะ
กลับมาอยู่กับตัวเองก่อนสิครับ กลับมาอยู่กับตัวเอง ที่ผ่านมาเคยกลับมาอยู่กับตัวเองบ้างมั้ย เคยมองลมหายใจตัวเองบ้างมั้ย อาบน้ำแล้วน้ำเย็นๆผ่านร่างตัวเอง เคยซึมซาบกับความสุขที่อยู่กับตัวเองบ้างไหม ชิวิตนี้ ร่างกายนี้ จริงๆต้องการอะไรกันแน่ ก็แค่อาหารและที่อยู่อาศัย
---- ถ้าไปไม่ไหวก็ปิด ปิดแล้วก็เปิดใหม่ได้ ปิดแล้วก็เปิดใหม่ได้ ปิดแล้วก็เปิดใหม่ได้ ลดทิฐิมานะลง อย่ามึน ตื้อ อื้อ อึง คนเรายังหายใจเข้า และหายใจออกเลย
แม้จะปิดตัวลง อนาคตก็กลับไปใหม่ได้ และอีกไม่นานด้วย การกลับไปใหม่ง่ายกว่าเดิมอีก เพราะมันไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่หมดแล้ว ง่ายกว่าการเริ่มต้นครั้งแรกด้วยซ้ำ ประสบการณ์ของเราในทุกๆด้านมีแล้ว ช่องทางธุรกิจมีแล้ว และคุณรู้มั้ย ทุกๆที่ ทุกๆเวลา ไม่ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้ หรืออีกสิบปี มันไม่มีวันเต็ม มันมีช่องว่างให้เราหยั่งเท้าหยั่งก้าวลงไปเสมอ ไม่ใช่ว่าคุณปิดตัวลงแล้วจะมีคนมาแทนที่เราแล้วจากนั้นก็จะไม่มีช่องว่างให้ลงไปอีกเลย ไม่ใช่นะครับ ทุกๆที่ ทุกๆวงการในโลกนี้ จะมีที่ว่างให้เมล็ดพันธ์ต่างๆหยั่งรากและเติบต่อตลอดเวลา
ผมเห็นเด็กหลายๆคนลำบากมาก ไม่มีเงินเรียน ไม่มีเงินกินข้าว กยศ จ่ายเงินช้า ต้องกินน้ำก๊อกในห้องน้ำ
บางคนไม่รู้จะไปนอนไหน ไม่รู้จะไปค่ำที่ไหน จะกินอะไร
สาวเวียดนาม ดิ้นรนชีวิต จากบ้านจากเมือง เพื่อมาหางานทำในไทย
หนุ่มสาวพม่า มาหาชีวิตรอดในไทย ไม่รู้ชะตากรรม แออัดในรถบรรทุก หนุ่มสาวเหล่านั้นขาดอากาสหายใจตายไปยี่สิบกว่าคน
โลกนี้เต็มไปด้วยชะตากรรมและมีคนมากมายที่ไม่ยอมแพ้ชะตากรรม
คุณเองโชคดีขนาดไหนแล้ว มีที่กินมีที่หลับนอน ทำวันนี้ให้รอดก่อน พรุ่งนี้ยังมีหวังเสมอ
---- จริงๆแล้วหนี้ทั้งหลาย มันคุยกันได้ คุยกัน เล่าที่มาที่ไป และแสดงเจตจำนงค์ให้เขาเห็นอย่างเด่นชัด ว่าคุณจะจ่าย และพยายามอย่างยิ่งที่จะจ่าย ผ่อนผัน ทะยอย หรือกำหนดทะยอยแบบไหนก็ได้ คุยกัน กล้าแก้ปัญหา เขาไม่ตามฆ่า ตามยิง ตามทำร้ายอยู่แล้ว เพราะถ้าทำแบบนั้นเขาก็จะไม่ได้อะไรเลย ไม่ได้เงินคืน และผิดกฏหมาย แต่ถ้าคุณแสดงเจตจำนงค์ให้เขาเห็น ด้วยวิธีใดๆก็ตาม ด้วยปัญญาความคิดของคุณ เขาก็ย่อมให้โอกาสคุณเสมอ
--- อะไรขายได้ขาย อะไรปล่อยได้ปล่อย สิ่งของเครื่องใช้ ของนอกตัว ไม่ตายก็หาใหม่ได้ บริหารอย่างมีความสุขในใจ แล้วมันจะกลับมาเอง
ถ้ามันถึงขีดสุดใดๆแล้ว เอาบ้านไปจำนำจำนอง ขาย หรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วไปเช่าห้องเช่าบ้านอยู่ เพื่อตั้งทัพกันใหม่ยังได้เลย
กองทัพไปตั้งหลักในถ้ำ แล้วกลับมีตีเมืองใหม่
--- คิดเรื่องขายตัวทำไม เคยทำเหรอถึงคิดได้ ไม่น่ารักเลย ถ้าติดเอดส์มาทำไง ไม่ว่าการขายแบบไหน เสี่ยงทั้งนั้น พริตตี้สปาก็เสี่ยง ที่ต้องไปดูดไปอม น้ำกามน้ำคาวชายแปลกหน้า บางคนหน้าตายิ่งกว่าขุนช้าง และผ่านศึกมามากมาย พวกเที่ยวมันก็เที่ยวมาเกือบทั้งชีวิต เสี่ยงโรคทั้งนั้น ต้องผ่านผู้ชายเยอะแยะมากมายหลายคนอาจจะเจอแจ๊กพอร์ตเข้าสักคนแหละครับ แหม่ แล้วถ้าทำแบบนี้แล้วหลังจากนั้นความนับถือตัวเองหมดลงไป ไม่ว่าด้วยจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก ความนับถือตัวเองหายไป ถ้าความนับถือตัวเองหายไป อนาคตจะทำธุรกิจอะไร มันก็ยุ่งยาก หมดพลังวังชา หมดจิตหมดใจ หมดพลังบวก เกิดปม การเติบโตใหม่ของต้นไม้ต้นนี้ก็อาจจะยากมากมาย
(กราบขอโทษน้องๆที่ทำอาชีพนี้อยู่ ไม่ได้ตั้งใจจะว่าในทางไม่ดี เพราะบางคนอาจจะไม่มีทางเลือกจริงๆแต่ไม่ใช่คนๆนี้ ต้องกราบขอโทษด้วยครับ รักเคารพเพื่อนมนุษย์ทุกคนครับ)
--- มีหนี้ คุย อย่าหลบ อะไรที่ขายเพื่อผ่อนได้ก็ขายออกไปเลย นอกจากขายตัว เพราะตัวและใจต้องเป็นของเรา ชาวนาชาวไร่หลายๆคนมีความสุข สุขุมนุ่มลึก เบิกบาน กว่าคนที่ทำะุรกิจแล้วจิตฟุ้งซ่านแบบคุณ
--- มีกฏจักรวาลอย่างหนึ่ง ทางพุทธปรัชญา เรียกว่า ทุกขัง ทุกขังไม่ได้หมายความว่าความทุกข์แบบภาษาไทยนะ กฏไตรลักษณ์ตัวที่เรียกว่าทุกขังนี้คือ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่สามารถทนอยู่ในสภาพสภาวะนั้นๆได้ยาวนาน และแล้วก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป ทุกสิ่งทุกอย่างในที่นี้ ทั้งนามธรรมและรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ ก็จะอยู่กับเราไม่นาน เดี๋ยวก็เปลี่ยนไป ความสุขก็อยู่ไม่นานเดี๋ยวก็เปลี่ยนไป คำว่าเปลี่ยนไปนี้ อาจจะหมายถึงสุขขึ้นเรื่อย และทุกข์ขึ้นเรื่อยๆก็ได้ หรือสุขๆทุกข์ๆก็ได้ มันแล้วแต่ปัญญาการจัดการของสิ่งนั้นๆ
และถ้าคนๆนั้น ไม่หยุดนิ่ง ไม่หยุดดิ้นรน ไม่ยอมแพ้ ไปเรื่อยๆ ชีวิตเมื่อถึงจุดต่ำที่สุดแล้ว มันก็ไม่มีที่ให้ต่ำกว่านี้แล้ว แล้วมันก็จะค่อยๆขึ้นไป เปรียบเหมือนคลื่นเชือก หรือคลื่นน้ำ หรือคลื่น sine ที่ขึ้นลงๆ สบายใจได้เลยว่า เมื่อคุณยังสู้อยู่ อย่างมีปัญา มีความพยายาม และไม่จำนน เวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง มันก็จะค่อยๆไต่ขึ้นไป ดีขึ้น และไม่แน่การขึ้นไปใหม่ครั้งนี้ จะพุ่งทะยานไปกว่าที่เคยผ่านมา เพราะอดีตที่เป็นบทเรียน คุณจะต้องไม่ไปเรียนมันซ้ำอีก
--- ระหว่างหาทางปลดหนี้ ผ่อนหนี้ แค่ให้เป็นทำหน้าที่ แต่จิตใจอย่าไปจมปรักอยู่กับหนี้ อย่าให้ในหัวมีเรื่องหนี้ แต่ให้ในหัวมีแต่แนวทางการทำงาน มีความรู้สึกทางบวก กลับมุมมองชีวิต กลับมุมมองว่าได้ประสบการณ์เพิ่ม เพื่อพุ่งทะยานครั้งใหม่ได้ไกลกว่าเดิม ถ้าสมองมีแต่ คิดแต่ ทุกข์แต่เรื่องหนี้ ตามหลักของแรงดึงดูบอกว่ามันจะเป็นงานให้พลังกับหนี้มากขึ้นไปอีก และมันก็จะมีหนี้ใหม่ๆมาเรื่อยๆ จบสิ้นยาก
เพื่อเป็นการสร้างพลังด้านบวก ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเป็นจุดหักเหในชีวิต ให้ทำความเข้าใจว่า รู้สึกว่า คาดหวังว่า วิกฤตินั้น เหตุการณ์นั้น ก็เพื่อจะดีดเรา จะเตะเรา จะผลัก เราไปยังที่ๆดีกว่าเดิม จุดที่ดีกว่าเดิม ชั้น ขั้น เสตจ ชีวิตที่ดีกว่าเดิมเป็นแน่ สร้างความรู้สึกแบบนี้ไว้ มันจะเกิดพลังด้านบวกในตัวคุณขึ้นมาเอง และพลังนี้จะเติบโตในตัวคุณ ช่วยให้ผ่านไปได้ และงอกงาม
--- อนาคตเมื่อผ่านเรื่องราวเหล่านี้ไปแล้ว ปรับเปลี่ยนจิตใจ สร้าง มอบ ความรักความปราถนาดี ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อ เห็นอกเห็นใจ มอบความรัก ให้มนุษย์คนอื่น ผู้อื่นบ้าง แพร่ความปราถนาดีออกไป อนาคตจะได้ไม่เห็นแก่ตัวเองอย่างเดียวว่า ฉันต้องสำเร็จอย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อตัวเอง เพื่อพ่อแม่ ทำแค่เพื่อตัวเอง เพื่อพ่อแม่เท่านั้น เพราะชีวิตถ้าคิดแต่เพื่อตัวเองหรือครอบครัวตัวเอง มันหักง่ายกว่า มันมีทุกข์ง่ายกว่า การมีสังคมหรือผู้คนมากมายรองรับในใจด้วย
--- ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ทุกคนทำดีที่สุด เท่าที่ ทุกๆคนจะทำได้ เท่าที่ความสามารถของคนๆนั้นจะทำได้อยู่แล้ว ในทุกๆเรื่องราว โลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เด็กน้อยต้องการให้พ่อแม่รักก็จะแสดงออกแสดงวิธีที่แตกต่างกันของแต่ละคน เท่าที่เด็กคนนั้นจะรู้จะทราบจะเข้าใจได้
เด็ก 2ขวบเมื่อเห็นแม่ตัวเองโดนพ่อทำร้าย สิ่งที่เขาคิดได้และทำได้ตอนนี้อย่างดีที่สุดแล้วคือการร้องไห้ เขาไม่สามารถช่วยอะไรอย่างอื่นได้แล้ว และคุณก็ไม่ต้องไปตราหน้าว่าทำไมเด็ก 2 ขวบถึงปล่อยให้แม่ตัวเองโดนพ่อทำร้าย ทำไมเด็กไม่ห้ามพ่อไม่จับพ่ออุ้มออกไปจากบ้าน คุณไม่ต้องไปตราหน้าเด็กคนนั้นว่าเขาน่าจะทำได้ดีกว่านั้น และคุณเองก็ไม่ต้องตราหน้าตัวเองว่าคุณน่าจะทำได้ดีกว่านั้น ไม่ต้องคิดคุณผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัยคุณไม่ได้ทำดีที่สุด หละ
--- คนรวยที่ล้มละลาย เป็นเรื่องง่ายมากที่เขาสามารถกลับมารวยใหม่ได้อย่างง่ายดาย เขามีพื้นฐาน องค์ความรู้ และทุกอย่างอยู่พร้อมแล้ว เขาแค่พลาดบางจุด เมื่อเขากลับมาใหม่เขาไม่ได้เริ่มใหม่จากศูนย์ คุณเองก็เหมือนกัน จะกลับไปใหม่ตอนไหนก็ได้
--- คนเรานั้น เกิดมา ก็เพื่อใช้วิตวิตให้เป็นสุข งาน ธุรกิจ แค่หน้าที่ อย่าเอาตัวเองไปจมกับสิ่งนั้น คนเราเกิดมาไม่เท่าไหร่ก็ตายแล้ว อายุไม่ยืน เกิดมาต้องมอบความสุขให้ตัวเอง ทั้งกายทั้งใจ ทำหน้าที่ก็ทำไป ปัญญาก็แก้ไป แต่ใจอย่าหลงตาม อย่าทุกข์ตาม อย่าฟุ้งตาม
"การคาดหวังในชีวิตอย่างไร้สติเกินไปเรียกว่า ตัณหา การคาดหวังอย่างมีสติ เรียกว่า ฉันทะ "
--- กลับมาอยู่กับตัวเอง มาอยู่กับลมหายใจเข้าออก ค่อยๆแก้ อย่าใช้แค่หัวตัวเองหัวเดียว บอกพ่อสิ หนูจะไปขายตัวดีมั้ยพ่อ หนูจะฆ่าตัวตายดีมั้ยพ่อ ปรึกษาพ่อสิครับ และอย่าไปคbดแทนพ่อว่าสงสารพ่อเหลือเกิน เพราะมีคนมากมายบนโลกนี้ทุกข์ทนกว่าพ่อคุณอีก บางคนหาบไข่ปิ้งขายได้วันละ 7 ใบ ต้องเดินไปเป็นยี่สิบกิโล
--- เรื่องปกติมาก ที่คนเราจะเดิน แล้วไปเหยียบขี้หมาแบบไม่ตั้งใจ ก็แค่ล้างเท้าแล้วเดินต่อไป การเหยียบขี้หมาไม่ได้ตัดสินว่าคุณล้มเหลวแล้ว game over
ทำในสิ่งที่ผู้มีสติปัญญาควรทำนะครับ อย่ายอมแพ้ แต่ตั้งหลักได้ ชีวิตผมก็ไม่ได้มีดีอะไรนะครับ ผมก็สู้อยู่อย่างมีความสุข ผมแค่จำเขามาแล้วเล่าต่อ คุณจะเลือกทางไหนนั้น สิทธิ์ของคุณ 100%
กลับมาอยู่กับตัวเองก่อนสิครับ กลับมาอยู่กับตัวเอง ที่ผ่านมาเคยกลับมาอยู่กับตัวเองบ้างมั้ย เคยมองลมหายใจตัวเองบ้างมั้ย อาบน้ำแล้วน้ำเย็นๆผ่านร่างตัวเอง เคยซึมซาบกับความสุขที่อยู่กับตัวเองบ้างไหม ชิวิตนี้ ร่างกายนี้ จริงๆต้องการอะไรกันแน่ ก็แค่อาหารและที่อยู่อาศัย
---- ถ้าไปไม่ไหวก็ปิด ปิดแล้วก็เปิดใหม่ได้ ปิดแล้วก็เปิดใหม่ได้ ปิดแล้วก็เปิดใหม่ได้ ลดทิฐิมานะลง อย่ามึน ตื้อ อื้อ อึง คนเรายังหายใจเข้า และหายใจออกเลย
แม้จะปิดตัวลง อนาคตก็กลับไปใหม่ได้ และอีกไม่นานด้วย การกลับไปใหม่ง่ายกว่าเดิมอีก เพราะมันไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่หมดแล้ว ง่ายกว่าการเริ่มต้นครั้งแรกด้วยซ้ำ ประสบการณ์ของเราในทุกๆด้านมีแล้ว ช่องทางธุรกิจมีแล้ว และคุณรู้มั้ย ทุกๆที่ ทุกๆเวลา ไม่ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้ หรืออีกสิบปี มันไม่มีวันเต็ม มันมีช่องว่างให้เราหยั่งเท้าหยั่งก้าวลงไปเสมอ ไม่ใช่ว่าคุณปิดตัวลงแล้วจะมีคนมาแทนที่เราแล้วจากนั้นก็จะไม่มีช่องว่างให้ลงไปอีกเลย ไม่ใช่นะครับ ทุกๆที่ ทุกๆวงการในโลกนี้ จะมีที่ว่างให้เมล็ดพันธ์ต่างๆหยั่งรากและเติบต่อตลอดเวลา
ผมเห็นเด็กหลายๆคนลำบากมาก ไม่มีเงินเรียน ไม่มีเงินกินข้าว กยศ จ่ายเงินช้า ต้องกินน้ำก๊อกในห้องน้ำ
บางคนไม่รู้จะไปนอนไหน ไม่รู้จะไปค่ำที่ไหน จะกินอะไร
สาวเวียดนาม ดิ้นรนชีวิต จากบ้านจากเมือง เพื่อมาหางานทำในไทย
หนุ่มสาวพม่า มาหาชีวิตรอดในไทย ไม่รู้ชะตากรรม แออัดในรถบรรทุก หนุ่มสาวเหล่านั้นขาดอากาสหายใจตายไปยี่สิบกว่าคน
โลกนี้เต็มไปด้วยชะตากรรมและมีคนมากมายที่ไม่ยอมแพ้ชะตากรรม
คุณเองโชคดีขนาดไหนแล้ว มีที่กินมีที่หลับนอน ทำวันนี้ให้รอดก่อน พรุ่งนี้ยังมีหวังเสมอ
---- จริงๆแล้วหนี้ทั้งหลาย มันคุยกันได้ คุยกัน เล่าที่มาที่ไป และแสดงเจตจำนงค์ให้เขาเห็นอย่างเด่นชัด ว่าคุณจะจ่าย และพยายามอย่างยิ่งที่จะจ่าย ผ่อนผัน ทะยอย หรือกำหนดทะยอยแบบไหนก็ได้ คุยกัน กล้าแก้ปัญหา เขาไม่ตามฆ่า ตามยิง ตามทำร้ายอยู่แล้ว เพราะถ้าทำแบบนั้นเขาก็จะไม่ได้อะไรเลย ไม่ได้เงินคืน และผิดกฏหมาย แต่ถ้าคุณแสดงเจตจำนงค์ให้เขาเห็น ด้วยวิธีใดๆก็ตาม ด้วยปัญญาความคิดของคุณ เขาก็ย่อมให้โอกาสคุณเสมอ
--- อะไรขายได้ขาย อะไรปล่อยได้ปล่อย สิ่งของเครื่องใช้ ของนอกตัว ไม่ตายก็หาใหม่ได้ บริหารอย่างมีความสุขในใจ แล้วมันจะกลับมาเอง
ถ้ามันถึงขีดสุดใดๆแล้ว เอาบ้านไปจำนำจำนอง ขาย หรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วไปเช่าห้องเช่าบ้านอยู่ เพื่อตั้งทัพกันใหม่ยังได้เลย
กองทัพไปตั้งหลักในถ้ำ แล้วกลับมีตีเมืองใหม่
--- คิดเรื่องขายตัวทำไม เคยทำเหรอถึงคิดได้ ไม่น่ารักเลย ถ้าติดเอดส์มาทำไง ไม่ว่าการขายแบบไหน เสี่ยงทั้งนั้น พริตตี้สปาก็เสี่ยง ที่ต้องไปดูดไปอม น้ำกามน้ำคาวชายแปลกหน้า บางคนหน้าตายิ่งกว่าขุนช้าง และผ่านศึกมามากมาย พวกเที่ยวมันก็เที่ยวมาเกือบทั้งชีวิต เสี่ยงโรคทั้งนั้น ต้องผ่านผู้ชายเยอะแยะมากมายหลายคนอาจจะเจอแจ๊กพอร์ตเข้าสักคนแหละครับ แหม่ แล้วถ้าทำแบบนี้แล้วหลังจากนั้นความนับถือตัวเองหมดลงไป ไม่ว่าด้วยจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก ความนับถือตัวเองหายไป ถ้าความนับถือตัวเองหายไป อนาคตจะทำธุรกิจอะไร มันก็ยุ่งยาก หมดพลังวังชา หมดจิตหมดใจ หมดพลังบวก เกิดปม การเติบโตใหม่ของต้นไม้ต้นนี้ก็อาจจะยากมากมาย
(กราบขอโทษน้องๆที่ทำอาชีพนี้อยู่ ไม่ได้ตั้งใจจะว่าในทางไม่ดี เพราะบางคนอาจจะไม่มีทางเลือกจริงๆแต่ไม่ใช่คนๆนี้ ต้องกราบขอโทษด้วยครับ รักเคารพเพื่อนมนุษย์ทุกคนครับ)
--- มีหนี้ คุย อย่าหลบ อะไรที่ขายเพื่อผ่อนได้ก็ขายออกไปเลย นอกจากขายตัว เพราะตัวและใจต้องเป็นของเรา ชาวนาชาวไร่หลายๆคนมีความสุข สุขุมนุ่มลึก เบิกบาน กว่าคนที่ทำะุรกิจแล้วจิตฟุ้งซ่านแบบคุณ
--- มีกฏจักรวาลอย่างหนึ่ง ทางพุทธปรัชญา เรียกว่า ทุกขัง ทุกขังไม่ได้หมายความว่าความทุกข์แบบภาษาไทยนะ กฏไตรลักษณ์ตัวที่เรียกว่าทุกขังนี้คือ ทุกสิ่งทุกอย่างไม่สามารถทนอยู่ในสภาพสภาวะนั้นๆได้ยาวนาน และแล้วก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป ทุกสิ่งทุกอย่างในที่นี้ ทั้งนามธรรมและรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ ก็จะอยู่กับเราไม่นาน เดี๋ยวก็เปลี่ยนไป ความสุขก็อยู่ไม่นานเดี๋ยวก็เปลี่ยนไป คำว่าเปลี่ยนไปนี้ อาจจะหมายถึงสุขขึ้นเรื่อย และทุกข์ขึ้นเรื่อยๆก็ได้ หรือสุขๆทุกข์ๆก็ได้ มันแล้วแต่ปัญญาการจัดการของสิ่งนั้นๆ
และถ้าคนๆนั้น ไม่หยุดนิ่ง ไม่หยุดดิ้นรน ไม่ยอมแพ้ ไปเรื่อยๆ ชีวิตเมื่อถึงจุดต่ำที่สุดแล้ว มันก็ไม่มีที่ให้ต่ำกว่านี้แล้ว แล้วมันก็จะค่อยๆขึ้นไป เปรียบเหมือนคลื่นเชือก หรือคลื่นน้ำ หรือคลื่น sine ที่ขึ้นลงๆ สบายใจได้เลยว่า เมื่อคุณยังสู้อยู่ อย่างมีปัญา มีความพยายาม และไม่จำนน เวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง มันก็จะค่อยๆไต่ขึ้นไป ดีขึ้น และไม่แน่การขึ้นไปใหม่ครั้งนี้ จะพุ่งทะยานไปกว่าที่เคยผ่านมา เพราะอดีตที่เป็นบทเรียน คุณจะต้องไม่ไปเรียนมันซ้ำอีก
--- ระหว่างหาทางปลดหนี้ ผ่อนหนี้ แค่ให้เป็นทำหน้าที่ แต่จิตใจอย่าไปจมปรักอยู่กับหนี้ อย่าให้ในหัวมีเรื่องหนี้ แต่ให้ในหัวมีแต่แนวทางการทำงาน มีความรู้สึกทางบวก กลับมุมมองชีวิต กลับมุมมองว่าได้ประสบการณ์เพิ่ม เพื่อพุ่งทะยานครั้งใหม่ได้ไกลกว่าเดิม ถ้าสมองมีแต่ คิดแต่ ทุกข์แต่เรื่องหนี้ ตามหลักของแรงดึงดูบอกว่ามันจะเป็นงานให้พลังกับหนี้มากขึ้นไปอีก และมันก็จะมีหนี้ใหม่ๆมาเรื่อยๆ จบสิ้นยาก
เพื่อเป็นการสร้างพลังด้านบวก ถ้ามีเหตุการณ์อะไรเป็นจุดหักเหในชีวิต ให้ทำความเข้าใจว่า รู้สึกว่า คาดหวังว่า วิกฤตินั้น เหตุการณ์นั้น ก็เพื่อจะดีดเรา จะเตะเรา จะผลัก เราไปยังที่ๆดีกว่าเดิม จุดที่ดีกว่าเดิม ชั้น ขั้น เสตจ ชีวิตที่ดีกว่าเดิมเป็นแน่ สร้างความรู้สึกแบบนี้ไว้ มันจะเกิดพลังด้านบวกในตัวคุณขึ้นมาเอง และพลังนี้จะเติบโตในตัวคุณ ช่วยให้ผ่านไปได้ และงอกงาม
--- อนาคตเมื่อผ่านเรื่องราวเหล่านี้ไปแล้ว ปรับเปลี่ยนจิตใจ สร้าง มอบ ความรักความปราถนาดี ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อ เห็นอกเห็นใจ มอบความรัก ให้มนุษย์คนอื่น ผู้อื่นบ้าง แพร่ความปราถนาดีออกไป อนาคตจะได้ไม่เห็นแก่ตัวเองอย่างเดียวว่า ฉันต้องสำเร็จอย่างนั้นอย่างนี้ เพื่อตัวเอง เพื่อพ่อแม่ ทำแค่เพื่อตัวเอง เพื่อพ่อแม่เท่านั้น เพราะชีวิตถ้าคิดแต่เพื่อตัวเองหรือครอบครัวตัวเอง มันหักง่ายกว่า มันมีทุกข์ง่ายกว่า การมีสังคมหรือผู้คนมากมายรองรับในใจด้วย
--- ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ทุกคนทำดีที่สุด เท่าที่ ทุกๆคนจะทำได้ เท่าที่ความสามารถของคนๆนั้นจะทำได้อยู่แล้ว ในทุกๆเรื่องราว โลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เด็กน้อยต้องการให้พ่อแม่รักก็จะแสดงออกแสดงวิธีที่แตกต่างกันของแต่ละคน เท่าที่เด็กคนนั้นจะรู้จะทราบจะเข้าใจได้
เด็ก 2ขวบเมื่อเห็นแม่ตัวเองโดนพ่อทำร้าย สิ่งที่เขาคิดได้และทำได้ตอนนี้อย่างดีที่สุดแล้วคือการร้องไห้ เขาไม่สามารถช่วยอะไรอย่างอื่นได้แล้ว และคุณก็ไม่ต้องไปตราหน้าว่าทำไมเด็ก 2 ขวบถึงปล่อยให้แม่ตัวเองโดนพ่อทำร้าย ทำไมเด็กไม่ห้ามพ่อไม่จับพ่ออุ้มออกไปจากบ้าน คุณไม่ต้องไปตราหน้าเด็กคนนั้นว่าเขาน่าจะทำได้ดีกว่านั้น และคุณเองก็ไม่ต้องตราหน้าตัวเองว่าคุณน่าจะทำได้ดีกว่านั้น ไม่ต้องคิดคุณผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัยคุณไม่ได้ทำดีที่สุด หละ
--- คนรวยที่ล้มละลาย เป็นเรื่องง่ายมากที่เขาสามารถกลับมารวยใหม่ได้อย่างง่ายดาย เขามีพื้นฐาน องค์ความรู้ และทุกอย่างอยู่พร้อมแล้ว เขาแค่พลาดบางจุด เมื่อเขากลับมาใหม่เขาไม่ได้เริ่มใหม่จากศูนย์ คุณเองก็เหมือนกัน จะกลับไปใหม่ตอนไหนก็ได้
--- คนเรานั้น เกิดมา ก็เพื่อใช้วิตวิตให้เป็นสุข งาน ธุรกิจ แค่หน้าที่ อย่าเอาตัวเองไปจมกับสิ่งนั้น คนเราเกิดมาไม่เท่าไหร่ก็ตายแล้ว อายุไม่ยืน เกิดมาต้องมอบความสุขให้ตัวเอง ทั้งกายทั้งใจ ทำหน้าที่ก็ทำไป ปัญญาก็แก้ไป แต่ใจอย่าหลงตาม อย่าทุกข์ตาม อย่าฟุ้งตาม
"การคาดหวังในชีวิตอย่างไร้สติเกินไปเรียกว่า ตัณหา การคาดหวังอย่างมีสติ เรียกว่า ฉันทะ "
--- กลับมาอยู่กับตัวเอง มาอยู่กับลมหายใจเข้าออก ค่อยๆแก้ อย่าใช้แค่หัวตัวเองหัวเดียว บอกพ่อสิ หนูจะไปขายตัวดีมั้ยพ่อ หนูจะฆ่าตัวตายดีมั้ยพ่อ ปรึกษาพ่อสิครับ และอย่าไปคbดแทนพ่อว่าสงสารพ่อเหลือเกิน เพราะมีคนมากมายบนโลกนี้ทุกข์ทนกว่าพ่อคุณอีก บางคนหาบไข่ปิ้งขายได้วันละ 7 ใบ ต้องเดินไปเป็นยี่สิบกิโล
--- เรื่องปกติมาก ที่คนเราจะเดิน แล้วไปเหยียบขี้หมาแบบไม่ตั้งใจ ก็แค่ล้างเท้าแล้วเดินต่อไป การเหยียบขี้หมาไม่ได้ตัดสินว่าคุณล้มเหลวแล้ว game over
ทำในสิ่งที่ผู้มีสติปัญญาควรทำนะครับ อย่ายอมแพ้ แต่ตั้งหลักได้ ชีวิตผมก็ไม่ได้มีดีอะไรนะครับ ผมก็สู้อยู่อย่างมีความสุข ผมแค่จำเขามาแล้วเล่าต่อ คุณจะเลือกทางไหนนั้น สิทธิ์ของคุณ 100%
ความคิดเห็นที่ 83
คนเห็นใจจขกท.มาเยอะแล้ว
แต่ผมไปอ่านกระทู้ก่อนของคุณจนถึงกระทู้นี้ ผมตอบสวนกระแสจากคนอื่นนะ
ใครอ่านแล้วไม่ถูกใจ อาจหาว่าผมใจร้าย แต่ผมว่า จขกท.ต้องมองปัญหาตามความเป็นจริง ได้แล้วนะ
สถานะของจขกท.ไม่ได้ลำบากขนาดนั้น สถานภาพจริงแค่หมื่นแต่คุณคร่ำครวญซะแสน
เรื่องมันเลยดูใหญ่เกินจริงไป
- จขกท.และพ่อ ยังไม่มีคนป่วย ยังแข็งแรงดี แค่นี้ก็++ แล้ว กลัวอะไร
- คุณยังมีกิจการ ไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอก
- คุณยังมีสินทรัพย์ในกิจการ ตีเป็นเงินได้
- ปัญหาเกิดจากขาดสภาพคล่อง บวกกับรายได้ลดลง ยังไม่ถึงขั้นหายนะ
- หนี้ไม่ได้เยอะมาก ยังอยู่ในสภาพจัดการได้
- แบงก์พร้อมปล่อยกู้ ขอแค่คุณจ่ายหนี้ตรง 1 ปี
เห็นไหม มันไม่ได้โลกจบสิ้นต้องไปขายตัวเลย
แต่ที่คุณแก้ไม่ได้เพราะ ใส่ดราม่ามาเต็มแม็กซ์
คุณทำให้พ่อโดนโกง 2 ล้าน สามัญสำนึกคนต้องสู้สุดชีวิตเพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์เพื่อพ่อ
แต่คุณเลือกโอดครวญฟูมฟาย แถมทู้นี้ถึงกับจะขายตัวเลยทีเดียว แล้วก็มีดราม่าว่าจะโดนยึดบ้านนู่นนี่อีก
ไปใหญ่เลยนะ
แถมจขกท.เหวี่ยงใส่คนตอบ อ้างว่าใครไม่โดนแบบจขกท.ไม่รู้หรอก
นี่-เห็นมั้ย ใช้อารมณ์อีกแล้ว
คุณไม่มีทางรู้เลยว่าคนในกระทู้เขาเจออะไรมาบ้างที่สาหัสกว่าคุณอีก
ฉะนั้นอย่าเหวี่ยง มันไม่ช่วยอะไร
หนทางแก้นะครับ
1. หนี้เป็นคดีแพ่ง ต่อรองได้ทุกบาท ฉะนั้นอย่าฟูมฟายเกินจริง ค่อยๆคิด
แบงก์
- จะใช้วิธีส่งแต่ดอกพักต้นไว้ก็ได้
- จะใช้วิธียืดหนี้ให้ยาวขึ้นก็ได้
- จะใช้วิธีตีสินทรัพย์ของกิจการใช้หนี้ก็ได้ (พวกอลูมิเนียมอะไรที่สะสมไว้ให้ต้องเสียค่าเช่าโกดัง)
- จะใช้วิธีตีลูกหนี้กิจการไปใช้หนี้แบงก์ก็ได้
- การยึดบ้าน มันไม่ได้ยึดกันวันนี้นะ เจ้าหนี้ยังไม่ฟ้องคุณเลยนะ กว่าจะฟ้องกว่าศาลจะตัดสิน รวม 2 ปี
ไม่มีเงินใช้หนี้จริงๆถึงยึดบ้าน ก็มีกระบวนการอีกยาวววววววววววววววววววววววววววววววววววนาน
เจ้าหนี้การค้า
- ผ่อนจ่ายครับ แสนนึงขอผ่อน 1 หมื่น 10 เดือนพร้อมดอก
ไม่ให้ให้ไปฟ้องเอา-จบ
2. เอาบัญชีกิจการมากางดูครับ รายรับเท่าไหร่ อนาคตรายรับเท่าไหร่ แล้วตัดทุกอย่างที่เกินรายรับออก
ผมไม่เห็นจขกท.ทำเลยง่ะ
ลูกน้องไม่ต้องแบกแล้วครับ ทำเองได้ทำก่อน
ส่วนไหนของกิจการที่เสียเงินมาก ตัดได้ตัด (กางบัญชีดูก็รู้แล้ว)
คุณประคองส่วนนี้ได้ 1 ปี แล้วจ่ายหนี้แบงก์ตรงเป๊ะ คุณก็กู้ได้แล้วนะ
3. ถ้าคุณยืนยันว่าทำไม่ได้อีก worst case คือปิดกิจการครับ แล้วต่อรองลดหนี้ เอาให้หนี้จบ
พ่อคุณล้มจริง แต่คุณก็ทำธุรกิจต่อได้ สร้างขึ้นใหม่สิ
หนึ่งสมองสองมือยังมี พ่อแม่พี่น้องยังรักกันดี ยังอยู่พร้อมหน้า ของขวัญดีที่สุดแล้ว
จะกลัวอะไร จะดราม่าเพื่ออะไร
แต่ผมไปอ่านกระทู้ก่อนของคุณจนถึงกระทู้นี้ ผมตอบสวนกระแสจากคนอื่นนะ
ใครอ่านแล้วไม่ถูกใจ อาจหาว่าผมใจร้าย แต่ผมว่า จขกท.ต้องมองปัญหาตามความเป็นจริง ได้แล้วนะ
สถานะของจขกท.ไม่ได้ลำบากขนาดนั้น สถานภาพจริงแค่หมื่นแต่คุณคร่ำครวญซะแสน
เรื่องมันเลยดูใหญ่เกินจริงไป
- จขกท.และพ่อ ยังไม่มีคนป่วย ยังแข็งแรงดี แค่นี้ก็++ แล้ว กลัวอะไร
- คุณยังมีกิจการ ไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอก
- คุณยังมีสินทรัพย์ในกิจการ ตีเป็นเงินได้
- ปัญหาเกิดจากขาดสภาพคล่อง บวกกับรายได้ลดลง ยังไม่ถึงขั้นหายนะ
- หนี้ไม่ได้เยอะมาก ยังอยู่ในสภาพจัดการได้
- แบงก์พร้อมปล่อยกู้ ขอแค่คุณจ่ายหนี้ตรง 1 ปี
เห็นไหม มันไม่ได้โลกจบสิ้นต้องไปขายตัวเลย
แต่ที่คุณแก้ไม่ได้เพราะ ใส่ดราม่ามาเต็มแม็กซ์
คุณทำให้พ่อโดนโกง 2 ล้าน สามัญสำนึกคนต้องสู้สุดชีวิตเพื่อพลิกฟื้นสถานการณ์เพื่อพ่อ
แต่คุณเลือกโอดครวญฟูมฟาย แถมทู้นี้ถึงกับจะขายตัวเลยทีเดียว แล้วก็มีดราม่าว่าจะโดนยึดบ้านนู่นนี่อีก
ไปใหญ่เลยนะ
แถมจขกท.เหวี่ยงใส่คนตอบ อ้างว่าใครไม่โดนแบบจขกท.ไม่รู้หรอก
นี่-เห็นมั้ย ใช้อารมณ์อีกแล้ว
คุณไม่มีทางรู้เลยว่าคนในกระทู้เขาเจออะไรมาบ้างที่สาหัสกว่าคุณอีก
ฉะนั้นอย่าเหวี่ยง มันไม่ช่วยอะไร
หนทางแก้นะครับ
1. หนี้เป็นคดีแพ่ง ต่อรองได้ทุกบาท ฉะนั้นอย่าฟูมฟายเกินจริง ค่อยๆคิด
แบงก์
- จะใช้วิธีส่งแต่ดอกพักต้นไว้ก็ได้
- จะใช้วิธียืดหนี้ให้ยาวขึ้นก็ได้
- จะใช้วิธีตีสินทรัพย์ของกิจการใช้หนี้ก็ได้ (พวกอลูมิเนียมอะไรที่สะสมไว้ให้ต้องเสียค่าเช่าโกดัง)
- จะใช้วิธีตีลูกหนี้กิจการไปใช้หนี้แบงก์ก็ได้
- การยึดบ้าน มันไม่ได้ยึดกันวันนี้นะ เจ้าหนี้ยังไม่ฟ้องคุณเลยนะ กว่าจะฟ้องกว่าศาลจะตัดสิน รวม 2 ปี
ไม่มีเงินใช้หนี้จริงๆถึงยึดบ้าน ก็มีกระบวนการอีกยาวววววววววววววววววววววววววววววววววววนาน
เจ้าหนี้การค้า
- ผ่อนจ่ายครับ แสนนึงขอผ่อน 1 หมื่น 10 เดือนพร้อมดอก
ไม่ให้ให้ไปฟ้องเอา-จบ
2. เอาบัญชีกิจการมากางดูครับ รายรับเท่าไหร่ อนาคตรายรับเท่าไหร่ แล้วตัดทุกอย่างที่เกินรายรับออก
ผมไม่เห็นจขกท.ทำเลยง่ะ
ลูกน้องไม่ต้องแบกแล้วครับ ทำเองได้ทำก่อน
ส่วนไหนของกิจการที่เสียเงินมาก ตัดได้ตัด (กางบัญชีดูก็รู้แล้ว)
คุณประคองส่วนนี้ได้ 1 ปี แล้วจ่ายหนี้แบงก์ตรงเป๊ะ คุณก็กู้ได้แล้วนะ
3. ถ้าคุณยืนยันว่าทำไม่ได้อีก worst case คือปิดกิจการครับ แล้วต่อรองลดหนี้ เอาให้หนี้จบ
พ่อคุณล้มจริง แต่คุณก็ทำธุรกิจต่อได้ สร้างขึ้นใหม่สิ
หนึ่งสมองสองมือยังมี พ่อแม่พี่น้องยังรักกันดี ยังอยู่พร้อมหน้า ของขวัญดีที่สุดแล้ว
จะกลัวอะไร จะดราม่าเพื่ออะไร
ความคิดเห็นที่ 16
อย่าได้กังวลเลยครับ ถ้าเราปล่อยวางเรื่องเงิน เป็นหนี้ไม่มีก็ไม่ต้องจ่าย ใครจะยึดอะไรก็ปล่อยไปครับ
ถ้าเรายังอยู่ ก็ยังเป็นกำลังให้ครอบครัวได้
ถ้าเราตายคิดสั้นครอบครัวก็ขาดกำลัง
ผมมีเพื่อนโดนโกง 10 ล้าน และหยุดทำธุรกิจ4 ปี
กินอดกินอยากมาตลอด
แล้วก็เริ่มธุรกิจให้ ทำมาได้4ปี ก็ไปได้ดี
ตัวผมเองก็เริ่มจากศูนย์ จะกลับไปศูนย์ก็ไม่กลัว รอวันที่เป็นของเรามาถึง แล้วลงมือ
มันเป็นเรื่องแปลกคนที่ขาดทุนเหลือเงินหลักแสนหรือหมดตัวเครียดกว่าคนไม่มีเงินเลย ทั้งๆที่ควรมีความรู้สึกเท่ากัน เพราะแค่เรายึดติดว่าเราเคยมี
ถ้าเรายังอยู่ ก็ยังเป็นกำลังให้ครอบครัวได้
ถ้าเราตายคิดสั้นครอบครัวก็ขาดกำลัง
ผมมีเพื่อนโดนโกง 10 ล้าน และหยุดทำธุรกิจ4 ปี
กินอดกินอยากมาตลอด
แล้วก็เริ่มธุรกิจให้ ทำมาได้4ปี ก็ไปได้ดี
ตัวผมเองก็เริ่มจากศูนย์ จะกลับไปศูนย์ก็ไม่กลัว รอวันที่เป็นของเรามาถึง แล้วลงมือ
มันเป็นเรื่องแปลกคนที่ขาดทุนเหลือเงินหลักแสนหรือหมดตัวเครียดกว่าคนไม่มีเงินเลย ทั้งๆที่ควรมีความรู้สึกเท่ากัน เพราะแค่เรายึดติดว่าเราเคยมี
ความคิดเห็นที่ 113
ธุรกิจผมเพิ่งล้มมาได้ 3 เดือน หนี้ทั้งหมดรวมแล้ว 39 ล้าน
- ผมเครียหนี้การค้าได้ 30 ล้าน (นอกระบบ) อันนี้จบแล้ว
- หนี้ตึกแถวและคอนโดอีก 7 ล้านกว่า (หนี้แบงค์) อันนี้คงฟ้อง NPL ผม
- อีก 2 ล้านหนี้นอกระบบ (นอกระบบ) ยังเครียไม่ได้
ผมก็มาแยกก่อนว่าหนี้อะไรด่วนไม่ด่วน จากหนี้ 2 ล้าน ในจำนวนนี้มีเช็คเด่ง 1 ใบ 2.7 แสน แล้วผมก็ต้องมาดูว่าผมมีรายได้เท่าไหร่ ? ตอบ : ไม่มีเพราะเจ๊งหมด ผมเลยเจรจาเจ้าหนี้ว่าผมขอโอกาสค้าขายหาเงินก่อนได้มั้ย มีกำไรมีรายได้ก็จะทะยอยจ่ายให้ แผนที่ผมคิดเจ้าหนี้รายไหนทำกิจการคล้ายๆเรา ผมก็เปลี่ยนจากเจ้าหนี้มาเป็นลูกค้าซะ หาของมาขายเค้าบ้าง มีกำไรเราก็จ่ายๆเค้าไปบ้าง
ผมกันเงินส่วนหนึ่งประมาณแสนกว่าบาทไว้หาของมาขายในเน็ตตอนนี้ยังไม่ได้ขายเพราะของยังมาไม่ถึง ถ้าผมจ่ายหนี้หมดผมจะไม่เหลือทุนมาหากินเลย
- ผมเครียหนี้การค้าได้ 30 ล้าน (นอกระบบ) อันนี้จบแล้ว
- หนี้ตึกแถวและคอนโดอีก 7 ล้านกว่า (หนี้แบงค์) อันนี้คงฟ้อง NPL ผม
- อีก 2 ล้านหนี้นอกระบบ (นอกระบบ) ยังเครียไม่ได้
ผมก็มาแยกก่อนว่าหนี้อะไรด่วนไม่ด่วน จากหนี้ 2 ล้าน ในจำนวนนี้มีเช็คเด่ง 1 ใบ 2.7 แสน แล้วผมก็ต้องมาดูว่าผมมีรายได้เท่าไหร่ ? ตอบ : ไม่มีเพราะเจ๊งหมด ผมเลยเจรจาเจ้าหนี้ว่าผมขอโอกาสค้าขายหาเงินก่อนได้มั้ย มีกำไรมีรายได้ก็จะทะยอยจ่ายให้ แผนที่ผมคิดเจ้าหนี้รายไหนทำกิจการคล้ายๆเรา ผมก็เปลี่ยนจากเจ้าหนี้มาเป็นลูกค้าซะ หาของมาขายเค้าบ้าง มีกำไรเราก็จ่ายๆเค้าไปบ้าง
ผมกันเงินส่วนหนึ่งประมาณแสนกว่าบาทไว้หาของมาขายในเน็ตตอนนี้ยังไม่ได้ขายเพราะของยังมาไม่ถึง ถ้าผมจ่ายหนี้หมดผมจะไม่เหลือทุนมาหากินเลย
แสดงความคิดเห็น
หมดแรงแล้วจริงๆ ทำไมชีวิตถึงพังขนาดนี้ ท้อจังเลย
http://pantip.com/topic/34690730
วันนี้ต้องชำระเงิน ยอด 150,000 บาท ก่อนหน้านี้ขอเลื่อนเค้ามาตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว ก็ยังไม่มีไปจ่ายเค้า เค้าก็อุส่าสงสารเรา เลื่อนให้มาจ่ายสิ้นเดือน
ซ้ำร้าย เมื่อเช้า ธนาคารโทรมาแจ้งว่า ไม่ผ่านสินเชื่อที่ขอไว้ เพราะเคยผิดชำระค่างวดรถ ถ้าไม่ติดเรื่องนี้ สเตทเม้นของคุณผ่านฉลุยเลย เสียดาย และเสียใจด้วย ทางธนาคารกล่าว แต่ตอนนี้ ก็มีการชำระตรงมาเรื่อยๆ เป็นจำนวน 3 งวดแล้ว ทางธนาคาร พอจะช่วยพิจารณา ได้ไหมคะ คำตอบ มันก็คงไม่ได้อยู่ดี
วันนี้ ลูกค้านัดจ่ายเงิน จำนวน 100,000 บาท แต่ก็ต้องผิดหวัง ความหวังสุดท้ายนี้ เก็บลูกค้าไม่ได้ นัดแล้ว นัดอีก จนเราท้อเหลือเกิน ยืนอยู่ริมถนนวันนี้ มองไปบนท้องฟ้า น้ำตาก็ไหล จะเอาตังจากไหน ไปให้เค้าดี รถก็ไม่อยู่แล้ว อะไรๆ ก็ไปจนหมดแล้ว เลยติดต่อไปที่เวปนึง เพื่อจะขายตัวเอง ต้องนอนกับคนอื่น ถึง 30 คนคะ คนละ 5,000฿ จะได้ยอดนี้ ที่ต้องการ ภายใน 1-2 วันนี้ ไปจ่ายเค้า ต้องนอนกับคนอื่น ถึงวันละ 10 คน
นึกทบทวน เรากำลังทำอะไรอยู่นี่ ทำไมถึงลดค่าตัวเองลงไปถึงขนาดนี้ มันไม่มีทางออกแล้วหรือไง ขอพื้นที่ตรงนี้ สักนิด เพื่อได้พิมพ์ข้อความอันอึดอัดใจลงในนี้เถอะนะคะ กะว่าจะไปซัดยาไมเกรนให้หลับ แล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย
พ่อคะ แม่คะ ลูกขอโทษ ที่พาครอบครัวไปไม่ถึงฝั่ง
ท้อจนไม่รู้จะเดินต่อไปทางไหนแล้ว ภาระและหนี้สินก็จวนตัว อยากจะทิ้งมันไปดื้อๆ แบบนี้เลย
มันผิดที่ตัวเราเอง ตั้งแต่แรก ที่ทำพลาดไปหมดทุกอย่าง
ไม่รู้จะอดทนได้อีกนานมั๊ย หันไปทางไหนก็ไม่เจอใครที่จะช่วยได้เลย
ขออภัยด้วย หากรบกวนสมาชิกท่านอื่นๆ อย่าถือสา ว่ากล่าวกันเลยนะคะ เราแค่หมดหนทางจะไปก็เท่านั้นเอง