โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนค่อนข้าง ”ชง” กับบทละครของนักเขียน ”โนฮีคยอง” เป็นอย่างมาก รู้สึกว่าบทละครของเธอในแต่ละเรื่องนั้นเหมือนภาพ ”ศิลปะ” ที่ต้องพิศมองอย่างลึกซึ้งจึงจะพบความหมายที่ซ่อนอยู่ในภาพนั้น
ดังนั้น ซีรีส์แทบจะทุกเรื่องที่ โนฮีคยองเขียนบทที่ผู้เขียนมีโอกาสชมไม่ว่าจะซีรีส์เรื่อง Goodbye solo , Padam Padam The sound of his and her heartbeats , World within, That winter, The winds blows ผู้เขียนแทบเข้าไม่ถึงสาร์นที่เธอต้องการสื่อถึงผู้ชมสักครั้ง ด้วยเทคนิคการนำเสนออย่างเก๋ ๆ ในแบบฉบับโนฮีคยองโดยใช้วิธีให้ผู้ชมได้คิดอย่างลึกซึ้งลงไปอีกนิด และไม่อธิบาย ”เรื่อง” ที่เธอต้องการจะ ”สื่อ” อย่างโจ่งแจ้งนัก แต่แอบซ่อน ”สาร์น” นั้นไว้อย่างแนบเนียนใน ”ฉาก” “บทสนทนา” ของบทละครของเธอ
ทว่าก็ยังมีผู้ชมอีกจำนวนไม่น้อยที่ชอบงานของโนฮีคยองโดยเฉพาะในซีรีส์เนื้อหาแปลกอย่าง It’s okay That’s love ที่มีเรตติ้งดีและเป็นที่ชื่นชอบของคอซีรีส์บ้านเรา โดยเฉพาะเมื่อทีมงานและนักแสดงได้มีการเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนหลังปิดกล้องที่เมืองไทยเราด้วยก็ยิ่งเพิ่มกระแสให้ It’s okay That’s love อยู่ในความสนใจของแฟน ๆ ซีรีส์มากขึ้นอีก ชนิดที่เรียกว่าอินกันในจอไม่พอบางคนยังแอบไปอินกันนอกจอกับนักแสดงในเรื่องด้วย
It’s okay That’s love นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ป่วยโรคจิต ช่างคือความกล้าของโนฮีคยองที่สร้างตัวละครผู้ไม่สมบูรณ์แบบให้กลายเป็นพระเอกสมบูรณ์แบบได้อย่างน่าหลงใหล เธอเจ๋งมาก ...ส่วนใหญ่หน้าจอทีวีบ้านเราจะคุ้นกับพระเอกในมาดคุณชายผู้เพียบพร้อม หล่อ รวย เลิศ เก่งกาจ หรือแม้แต่ในซีรีส์เกาหลีก็ไม่ค่อยเห็นว่าใครจะเขียนบทให้ตัวละครแทบจะทั้งหมดในเรื่องเป็นคนผู้มีปัญหาทางจิต ...ด้วยพลอตที่แหวกแนวนั้นโนฮีคยองเธอสามารถทำได้โดยไม่ให้คนดูไม่รู้สึกว่า การดูซีรีส์เรื่อง It’s okay That’s love ฉันจะต้องบ้าไปด้วย ! จึงจะดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วบทละครของเธอแม้จะเป็นเรื่องของคนบ้าแต่บทไม่บ้านะขอยืนยัน! ดังนั้นจากที่ผู้เขียนเกริ่นตอนแรกว่า”ชง” กับบทละครของโนฮีคยอง แต่เรื่อง It’s okay That’s love ผู้เขียนขอเขียนถึงแบบลดความ”ชง” ลงแล้วนิดหนึ่งนะ
It’s okay That’s love มีความน่าสนใจคือ ...
บทละครลึกซึ้ง
อย่างที่บอกว่างานของของโนฮีคยองเหมือนภาพศิลปะ ดังนั้น บทละครของเธอก็เช่นกัน ใน It’s okay That’s love นั้นมีเรื่องราวเก๋ ๆ เกี่ยวกับคนไข้โรคจิตและหมอจิตเวช โดยผู้เขียนสื่อให้เรามองเห็นเชิงลึกว่า คนเราทุกคน “คนเราล้วนมีปัญหาทางจิตด้วยกันทั้งนั้น มีอาการมาก หรือ น้อย แสดงอาการออกมารุนแรงจนต้องรับการบำบัดหรือไม่ก็เท่านั้นเอง “ บางคนแสดงออกด้วยพฤติกรรมเพี้ยน ๆ แปลก ๆ ก็โดนสังคมพร้อมด้วยครอบครัวเข้าใจว่าเป็น”โรคจิต” แต่ทว่า แท้จริงแล้วสิ่งที่แสดงออกอาจมีผลมาจากความเจ็บปวด ความทรงจำบางอย่างในส่วนลึกที่ซ่อนไว้ ดังนั้น การได้รับความเข้าอกเข้าใจ การเยียวยารักษาอย่างถูกวิธี และการได้รับความรักจากครอบครัวจึงมีความสำคัญยิ่ง คนที่ทำอะไรแปลก ๆ อาจไม่ได้ป่วยด้วยโรคจิตเสมอไป ขณะที่คนที่ดูเป็นปกติดีและได้รับการยอมรับในสังคมอาจกำลังป่วยอยู่ก็ได้ ใครจะรู้ !...เหมือนอย่างจางแจยอลตัวละครหลักของเรื่องที่โนฮีคยองจำลองเคสของเขาไว้ในเรื่องนี้ซึ่งกว่าทั้งหมอและคนรอบตัวจะรู้ว่าเขาป่วยก็นานมากเชียว
It’s okay That’s love มีความคมคายของบทสนทนา และการสื่อด้วยฉากต่าง ๆ ในเชิงลึก บางครั้งเหมือนทำให้คนดู”เข้าใจยาก” แต่เวลาชมต้องมี”สติ” และคิดตามให้ทันบทสนทนาของตัวละครแต่ละตัว มีหลุมพรางลวงตาเราอยู่ในที และมีปมที่ผูกไว้แต่ค่อย ๆ คลายออกอย่างช้า ๆ ตัวอย่างเช่น ความลับเกี่ยวกับสาเหตุที่จางแจบอมต้องติดคุก ...สรุปว่าใครกันเป็นผู้ร้ายตัวจริง ...เชื่อว่าขณะที่ชม คนดูต้องสงสัย บ้างคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ...ใครรู้แนวงานเขียนของโนฮีคยองอาจเดากันถูกแต่ผู้เขียนสารภาพว่า”ไม่กล้าเดา” นะ ... แม้เรื่องราวเกี่ยวกับคนป่วยโรคจิตคล้ายจะเป็นเรื่องเครียด แต่ It’s okay That’s love กลับสามารถนำเสนอผ่านเคสของผู้ป่วยคนแล้วคนเล่าด้วยมุมเบา ๆ ที่เจือมากับสายสัมพันธ์ที่น่ารัก โยงเคสของคนไข้มาสู่เคสจริงของตัวละครหลักอย่างจางแจยอล จีแฮซู โจดงมิน และพัคซูกวาง ได้อย่างชิล ๆ โดยรายละเอียดที่ถ่ายทอดนั้นก็สะท้อนให้เห็นว่าคนเขียนบทและทีมงานทำการบ้านกันมาอย่างดี ข้อมูลแน่นมากจริง ๆ
ฉาก มุมกล้อง ดนตรี เลอค่า ...
It’s okay That’s love นอกจากยกกองไปเก็บภาพสวย ๆ กันที่เกาะสวรรค์อย่าง “โอกินาวา” เกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่นสร้างฉากแปลกใหม่ให้ได้ชื่นชมอย่างเพลิดเพลินแล้ว มุมกล้องกับการจัดแสงในเรื่องนี้ยังสวยงามมาก โดยเฉพาะซีนแรกที่เปิดฉากการพบกันระหว่างจางแจยอลกับ จีแฮซู ในการขับรถไล่ล่าคนไข้โรคจิตนั้นใช้มุมกล้องอลังการยังกับ It’s okay That’s love เป็นซีรีส์แนวแอคชั่น อย่างนั้นละ อีกทั้งยังมีการเลือกใช้ทั้งสี และภาพ แทนสัญลักษณ์ที่สื่อถึงปมทางจิตของคนไข้ และถ่ายทอดความคิดส่วนลึกของตัวละคร นอกจากนั้นดนตรีที่ขนมาใช้ประกอบในเรื่องก็ไพเราะมาก ไม่ว่าจะเพลงสากลหรือเพลงเกาหลีที่แต่งขึ้นเพื่อ It’s okay That’s love โดยเฉพาะก็ตาม ...โนฮีคยองเธอมักเจอคำวิจารณ์มาตลอดว่าซีรีส์ของเธอนั้นมีเสน่ห์แค่ภาพสวยแต่ขาดความสมจริง ซึ่ง It’s okay That’s love ก็จัดเป็นซีรีส์ที่มีฉากและภาพสวยเหมือนกันนะ แต่เรื่องนี้มีความ”สมจริง” อีกมุมหนึ่งที่คนดูอาจไม่เคยคิดถึง
มีคนกล่าวว่าซีรีส์เกาหลีนั้นสร้างขึ้นเพื่อช่วย ”สร้างสังคม” ถ้าเช่นนั้น It’s okay That’s love ก็คือซีรีส์เรื่องที่มีบทละครที่ดีเยี่ยมในการสร้างทัศนคติที่ดีที่ผู้คนควรมีควรมอบให้แก่ผู้ป่วยโรคจิต และเปิดใจยอมรับ และมอบพื้นที่ว่างในสังคมให้แก่พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ นั่นคือเจตจำนงที่ยอดเยี่ยมที่โนฮีคยองต้องการสื่อถึงผู้ชมซีรีส์เรื่องนี้ของเธอ
ข้อมูลจาก
http://www.popcornfor2.com
รวมฉากฟิน ๆ
MV
อยากให้ GMM ซื้อลิขสิทธิ์ ผลงานของนักเขียน "โน ฮี คยอง" มาทำเวอร์ชั่นไทย
ดังนั้น ซีรีส์แทบจะทุกเรื่องที่ โนฮีคยองเขียนบทที่ผู้เขียนมีโอกาสชมไม่ว่าจะซีรีส์เรื่อง Goodbye solo , Padam Padam The sound of his and her heartbeats , World within, That winter, The winds blows ผู้เขียนแทบเข้าไม่ถึงสาร์นที่เธอต้องการสื่อถึงผู้ชมสักครั้ง ด้วยเทคนิคการนำเสนออย่างเก๋ ๆ ในแบบฉบับโนฮีคยองโดยใช้วิธีให้ผู้ชมได้คิดอย่างลึกซึ้งลงไปอีกนิด และไม่อธิบาย ”เรื่อง” ที่เธอต้องการจะ ”สื่อ” อย่างโจ่งแจ้งนัก แต่แอบซ่อน ”สาร์น” นั้นไว้อย่างแนบเนียนใน ”ฉาก” “บทสนทนา” ของบทละครของเธอ
ทว่าก็ยังมีผู้ชมอีกจำนวนไม่น้อยที่ชอบงานของโนฮีคยองโดยเฉพาะในซีรีส์เนื้อหาแปลกอย่าง It’s okay That’s love ที่มีเรตติ้งดีและเป็นที่ชื่นชอบของคอซีรีส์บ้านเรา โดยเฉพาะเมื่อทีมงานและนักแสดงได้มีการเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนหลังปิดกล้องที่เมืองไทยเราด้วยก็ยิ่งเพิ่มกระแสให้ It’s okay That’s love อยู่ในความสนใจของแฟน ๆ ซีรีส์มากขึ้นอีก ชนิดที่เรียกว่าอินกันในจอไม่พอบางคนยังแอบไปอินกันนอกจอกับนักแสดงในเรื่องด้วย
It’s okay That’s love นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับผู้ป่วยโรคจิต ช่างคือความกล้าของโนฮีคยองที่สร้างตัวละครผู้ไม่สมบูรณ์แบบให้กลายเป็นพระเอกสมบูรณ์แบบได้อย่างน่าหลงใหล เธอเจ๋งมาก ...ส่วนใหญ่หน้าจอทีวีบ้านเราจะคุ้นกับพระเอกในมาดคุณชายผู้เพียบพร้อม หล่อ รวย เลิศ เก่งกาจ หรือแม้แต่ในซีรีส์เกาหลีก็ไม่ค่อยเห็นว่าใครจะเขียนบทให้ตัวละครแทบจะทั้งหมดในเรื่องเป็นคนผู้มีปัญหาทางจิต ...ด้วยพลอตที่แหวกแนวนั้นโนฮีคยองเธอสามารถทำได้โดยไม่ให้คนดูไม่รู้สึกว่า การดูซีรีส์เรื่อง It’s okay That’s love ฉันจะต้องบ้าไปด้วย ! จึงจะดูได้ตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วบทละครของเธอแม้จะเป็นเรื่องของคนบ้าแต่บทไม่บ้านะขอยืนยัน! ดังนั้นจากที่ผู้เขียนเกริ่นตอนแรกว่า”ชง” กับบทละครของโนฮีคยอง แต่เรื่อง It’s okay That’s love ผู้เขียนขอเขียนถึงแบบลดความ”ชง” ลงแล้วนิดหนึ่งนะ
It’s okay That’s love มีความน่าสนใจคือ ...
บทละครลึกซึ้ง
อย่างที่บอกว่างานของของโนฮีคยองเหมือนภาพศิลปะ ดังนั้น บทละครของเธอก็เช่นกัน ใน It’s okay That’s love นั้นมีเรื่องราวเก๋ ๆ เกี่ยวกับคนไข้โรคจิตและหมอจิตเวช โดยผู้เขียนสื่อให้เรามองเห็นเชิงลึกว่า คนเราทุกคน “คนเราล้วนมีปัญหาทางจิตด้วยกันทั้งนั้น มีอาการมาก หรือ น้อย แสดงอาการออกมารุนแรงจนต้องรับการบำบัดหรือไม่ก็เท่านั้นเอง “ บางคนแสดงออกด้วยพฤติกรรมเพี้ยน ๆ แปลก ๆ ก็โดนสังคมพร้อมด้วยครอบครัวเข้าใจว่าเป็น”โรคจิต” แต่ทว่า แท้จริงแล้วสิ่งที่แสดงออกอาจมีผลมาจากความเจ็บปวด ความทรงจำบางอย่างในส่วนลึกที่ซ่อนไว้ ดังนั้น การได้รับความเข้าอกเข้าใจ การเยียวยารักษาอย่างถูกวิธี และการได้รับความรักจากครอบครัวจึงมีความสำคัญยิ่ง คนที่ทำอะไรแปลก ๆ อาจไม่ได้ป่วยด้วยโรคจิตเสมอไป ขณะที่คนที่ดูเป็นปกติดีและได้รับการยอมรับในสังคมอาจกำลังป่วยอยู่ก็ได้ ใครจะรู้ !...เหมือนอย่างจางแจยอลตัวละครหลักของเรื่องที่โนฮีคยองจำลองเคสของเขาไว้ในเรื่องนี้ซึ่งกว่าทั้งหมอและคนรอบตัวจะรู้ว่าเขาป่วยก็นานมากเชียว
It’s okay That’s love มีความคมคายของบทสนทนา และการสื่อด้วยฉากต่าง ๆ ในเชิงลึก บางครั้งเหมือนทำให้คนดู”เข้าใจยาก” แต่เวลาชมต้องมี”สติ” และคิดตามให้ทันบทสนทนาของตัวละครแต่ละตัว มีหลุมพรางลวงตาเราอยู่ในที และมีปมที่ผูกไว้แต่ค่อย ๆ คลายออกอย่างช้า ๆ ตัวอย่างเช่น ความลับเกี่ยวกับสาเหตุที่จางแจบอมต้องติดคุก ...สรุปว่าใครกันเป็นผู้ร้ายตัวจริง ...เชื่อว่าขณะที่ชม คนดูต้องสงสัย บ้างคาดเดากันไปต่าง ๆ นานา ...ใครรู้แนวงานเขียนของโนฮีคยองอาจเดากันถูกแต่ผู้เขียนสารภาพว่า”ไม่กล้าเดา” นะ ... แม้เรื่องราวเกี่ยวกับคนป่วยโรคจิตคล้ายจะเป็นเรื่องเครียด แต่ It’s okay That’s love กลับสามารถนำเสนอผ่านเคสของผู้ป่วยคนแล้วคนเล่าด้วยมุมเบา ๆ ที่เจือมากับสายสัมพันธ์ที่น่ารัก โยงเคสของคนไข้มาสู่เคสจริงของตัวละครหลักอย่างจางแจยอล จีแฮซู โจดงมิน และพัคซูกวาง ได้อย่างชิล ๆ โดยรายละเอียดที่ถ่ายทอดนั้นก็สะท้อนให้เห็นว่าคนเขียนบทและทีมงานทำการบ้านกันมาอย่างดี ข้อมูลแน่นมากจริง ๆ
ฉาก มุมกล้อง ดนตรี เลอค่า ...
It’s okay That’s love นอกจากยกกองไปเก็บภาพสวย ๆ กันที่เกาะสวรรค์อย่าง “โอกินาวา” เกาะทางตอนใต้ของญี่ปุ่นสร้างฉากแปลกใหม่ให้ได้ชื่นชมอย่างเพลิดเพลินแล้ว มุมกล้องกับการจัดแสงในเรื่องนี้ยังสวยงามมาก โดยเฉพาะซีนแรกที่เปิดฉากการพบกันระหว่างจางแจยอลกับ จีแฮซู ในการขับรถไล่ล่าคนไข้โรคจิตนั้นใช้มุมกล้องอลังการยังกับ It’s okay That’s love เป็นซีรีส์แนวแอคชั่น อย่างนั้นละ อีกทั้งยังมีการเลือกใช้ทั้งสี และภาพ แทนสัญลักษณ์ที่สื่อถึงปมทางจิตของคนไข้ และถ่ายทอดความคิดส่วนลึกของตัวละคร นอกจากนั้นดนตรีที่ขนมาใช้ประกอบในเรื่องก็ไพเราะมาก ไม่ว่าจะเพลงสากลหรือเพลงเกาหลีที่แต่งขึ้นเพื่อ It’s okay That’s love โดยเฉพาะก็ตาม ...โนฮีคยองเธอมักเจอคำวิจารณ์มาตลอดว่าซีรีส์ของเธอนั้นมีเสน่ห์แค่ภาพสวยแต่ขาดความสมจริง ซึ่ง It’s okay That’s love ก็จัดเป็นซีรีส์ที่มีฉากและภาพสวยเหมือนกันนะ แต่เรื่องนี้มีความ”สมจริง” อีกมุมหนึ่งที่คนดูอาจไม่เคยคิดถึง
มีคนกล่าวว่าซีรีส์เกาหลีนั้นสร้างขึ้นเพื่อช่วย ”สร้างสังคม” ถ้าเช่นนั้น It’s okay That’s love ก็คือซีรีส์เรื่องที่มีบทละครที่ดีเยี่ยมในการสร้างทัศนคติที่ดีที่ผู้คนควรมีควรมอบให้แก่ผู้ป่วยโรคจิต และเปิดใจยอมรับ และมอบพื้นที่ว่างในสังคมให้แก่พวกเขาได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นปกติ นั่นคือเจตจำนงที่ยอดเยี่ยมที่โนฮีคยองต้องการสื่อถึงผู้ชมซีรีส์เรื่องนี้ของเธอ
ข้อมูลจาก
http://www.popcornfor2.com
รวมฉากฟิน ๆ
MV