สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
การพยายามเป่าเทียนคนอื่นให้ดับ มันไม่ได้ทำให้เทียนของตัวเองสว่างขึ้นนะครับ
ผมยังมองไม่ให้ประโยชน์ของการตั้งคำถามหรือการจับผิดที่คุณมองคนที่ทำงานพวกนี้เลยครับว่ามันทำให้คุณมีเงินเก็บที่มากขึ้นหรือใช้เงินฟุ่มเฟือยน้อยลง ตราบใดที่เค้าไม่ได้มายืมเงินเราหรือมาโอ้อวดโดยตรงกับเรา เราเองก็ไม่เห็นต้องไปยุ่งกับชีวิตของพวกเค้าเลยครับ
ถ้าคุณเห็นแล้วคุณไม่ชอบการ unfriend ไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไรเลยครับ ลองลบแล้วปล่อยทิ้งไว้สักปีนึงก็ได้ครับ บางทีพวกเค้าอาจไม่รู้ก็ได้ว่าคุณ unfriend พวกเค้าไปแล้ว เพราะเค้าคงให้ความสำคัญกับงานหรือชีวิตพวกเค้าเองมากกว่ามานั่งดูว่าใครไม่ชอบพวกเค้าบ้าง
เงินที่พวกเค้าได้มามากกว่าคนอื่นไม่ได้เป็นค่าเอาไปใช้จ่าย "สุรุ่ยสุร่าย" นะครับ มันเป็นค่า "เสี่ยงชีวิต", ค่า "เสียสุขภาพ" ที่พวกเค้าต้องเผชิญ
ส่วนใครจะใช้จ่ายยังไงมันเป็นวิถีชีวิตของเค้าหรือเปล่าครับ บางคนเห็นคุณค่าของวัตถุ พวกเค้าก็จะเลือกตอบแทนความสูญเสียตัวเองด้วยการ ซื้อรถใหม่ ซื้อบ้าน,คอนโด แหวน เพชร พลอย ของแบรนเนมให้ตัวเองหรือคนที่รัก บางคนเห็นคุณค่าเป็นตัวเงิน เค้าก็จะเอาเงินไปลงทุน เผื่อวันนึงจะผันตัวเองเป็นเถ้าแก่
ผมไม่บอกครับว่าคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย โพสรูปโอ้อวด มันไม่มี แต่อย่าไปโทษที่อาชีพครับ เพราะคน"พวกนี้" อาชีพไหนๆ ก็มี ให้มองว่ามันเป็นที่ตัวบุคคลดีกว่าครับ คนพวกนี้วันนึงเค้าก็จะได้บทเรียนกับตัวเค้าเอง เพราะงั้นไม่ต้องไปเป็นห่วงเค้าว่าเค้าจะใช้จ่ายยังไงก็ได้ครับ
ค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นก็มีครับไม่ต้องห่วง ตัวผมเองก็เกิดมาในฐานะที่ครอบครัวค่อนข้างประหยัดมาก ตัวผมเองก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะมีโอกาสได้ซื้อแว่นราคาเป็นหมื่นๆ ขนาดแต่ก่อนแว่น 2-300 ยังคิดแล้วคิดอีกเลย แต่เมื่อมาทำงานด้านนี้การลงทุนแล้วลดความเสี่ยงที่ตัวเราจะเป็นอันตรายมันก็คุ้มครับ เช่นเดียวกับเครื่องสำอางที่คุณผู้หญิงใช้กัน เค้าก็คงต้องให้ความสำคัญมากขึ้นกับการดูแลตัวเองมากขึ้นจากการที่ต้องตื่นตี 2 บ้าง ตื่นบ่ายโมงบ้างป่ะครับ
ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่ดีกว่า คุณต้องทำตัวเองให้เข้มแข็งกว่านี้ครับ เพราะการที่คุณเอาเวลามานั่งจับผิดคนอื่นอยู่ มันทำให้คุณ"ด้อย"กว่าครับ
ผมยังมองไม่ให้ประโยชน์ของการตั้งคำถามหรือการจับผิดที่คุณมองคนที่ทำงานพวกนี้เลยครับว่ามันทำให้คุณมีเงินเก็บที่มากขึ้นหรือใช้เงินฟุ่มเฟือยน้อยลง ตราบใดที่เค้าไม่ได้มายืมเงินเราหรือมาโอ้อวดโดยตรงกับเรา เราเองก็ไม่เห็นต้องไปยุ่งกับชีวิตของพวกเค้าเลยครับ
ถ้าคุณเห็นแล้วคุณไม่ชอบการ unfriend ไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไรเลยครับ ลองลบแล้วปล่อยทิ้งไว้สักปีนึงก็ได้ครับ บางทีพวกเค้าอาจไม่รู้ก็ได้ว่าคุณ unfriend พวกเค้าไปแล้ว เพราะเค้าคงให้ความสำคัญกับงานหรือชีวิตพวกเค้าเองมากกว่ามานั่งดูว่าใครไม่ชอบพวกเค้าบ้าง
เงินที่พวกเค้าได้มามากกว่าคนอื่นไม่ได้เป็นค่าเอาไปใช้จ่าย "สุรุ่ยสุร่าย" นะครับ มันเป็นค่า "เสี่ยงชีวิต", ค่า "เสียสุขภาพ" ที่พวกเค้าต้องเผชิญ
ส่วนใครจะใช้จ่ายยังไงมันเป็นวิถีชีวิตของเค้าหรือเปล่าครับ บางคนเห็นคุณค่าของวัตถุ พวกเค้าก็จะเลือกตอบแทนความสูญเสียตัวเองด้วยการ ซื้อรถใหม่ ซื้อบ้าน,คอนโด แหวน เพชร พลอย ของแบรนเนมให้ตัวเองหรือคนที่รัก บางคนเห็นคุณค่าเป็นตัวเงิน เค้าก็จะเอาเงินไปลงทุน เผื่อวันนึงจะผันตัวเองเป็นเถ้าแก่
ผมไม่บอกครับว่าคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย โพสรูปโอ้อวด มันไม่มี แต่อย่าไปโทษที่อาชีพครับ เพราะคน"พวกนี้" อาชีพไหนๆ ก็มี ให้มองว่ามันเป็นที่ตัวบุคคลดีกว่าครับ คนพวกนี้วันนึงเค้าก็จะได้บทเรียนกับตัวเค้าเอง เพราะงั้นไม่ต้องไปเป็นห่วงเค้าว่าเค้าจะใช้จ่ายยังไงก็ได้ครับ
ค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นก็มีครับไม่ต้องห่วง ตัวผมเองก็เกิดมาในฐานะที่ครอบครัวค่อนข้างประหยัดมาก ตัวผมเองก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะมีโอกาสได้ซื้อแว่นราคาเป็นหมื่นๆ ขนาดแต่ก่อนแว่น 2-300 ยังคิดแล้วคิดอีกเลย แต่เมื่อมาทำงานด้านนี้การลงทุนแล้วลดความเสี่ยงที่ตัวเราจะเป็นอันตรายมันก็คุ้มครับ เช่นเดียวกับเครื่องสำอางที่คุณผู้หญิงใช้กัน เค้าก็คงต้องให้ความสำคัญมากขึ้นกับการดูแลตัวเองมากขึ้นจากการที่ต้องตื่นตี 2 บ้าง ตื่นบ่ายโมงบ้างป่ะครับ
ถ้าคุณอยากมีชีวิตที่ดีกว่า คุณต้องทำตัวเองให้เข้มแข็งกว่านี้ครับ เพราะการที่คุณเอาเวลามานั่งจับผิดคนอื่นอยู่ มันทำให้คุณ"ด้อย"กว่าครับ
แสดงความคิดเห็น
---- สังคมแอร์,สจ๊วต หรือ นักบิน ค่อนข้างฟุ้งเฟ้อ ?? ----
มีคนรอบๆตัว(อายุไม่ถึง 30) เพื่อน/รุ่นพี่และรุ่นน้อง ที่จบออกมาก็ไปทำแอร์หรือสจ๊วตบ้างครับ และก็มีบางส่วนไปเป็นนักบิน
เท่าที่สังเกตผ่านตามการอัพบน social คือลักษณะการอัพรูปต้องขอให้ได้โชว์ หรือได้พูดคุยกันผ่านรู้สึกว่า มีความเป็นวัตถุนิยมมากขึ้นทั้งที่เมื่อก่อนบางคนสมัยเรียนไม่เป็น แต่ละคนรายได้เยอะแต่ก็รายจ่ายเยอะทั้งของแบรนด์เนม,รถป้ายแดง
คนรอบตัวใครที่ทำงานวงการนี้ เป็นคล้ายๆแบบนี้มั้ย ครับ