[CR] Backpack ทริป 2 ภูกระดึง



                       ทริปที่ 2 ผู้พิชิตภูกระดึง  เป็นการ backpack อย่างเต็มรูปแบบ สมาชิกการเดินทางทริปนี้เริ่มต้นการประมูล ที่ 3 คน จาก 3 เหลือ 2 จาก 2 เป็น 4 ยุติการประมูลจบด้วยสมาชิกร่วมทริปพิชิตภูกระดึง 4 คน ที่ลงตัว
                       พวกเราเริ่มจองเต้นผ่านเว็ป http://www.dnp.go.th/parkreserve/tent_reservation.asp?lg=1 เต็นจะเลือกจุดไหนก็ได้ เพราะเวลาไปจริงเราไปเลือกเองอีกทีที่จุดกางเต็น ส่วนการเดินทางพวกเราได้จองผ่าน http://www.busticket.in.th/  ซึ่งพวกเราได้จองรอบ 2 ทุ่ม ราคาประมาณ 400 บาท จะถึงผานกเค้าปะมาณ ตี 4 ครึ่ง ซึ่งเราจะลงรถตรงผานกเค้า หน้าร้านเจ้กิม ร้านเจ้กิมจะมีห้องน้ำให้อาบน้ำ มีข้าวแกงขาย และเป็นจุดขึ้นรถสองแถวสีแดงไปอุทยานต่อ  พวกเรานั่งรถแดงจากร้านเจ้กิมไปอุทยาน  (ส่วนใครยังไม่มีตั๋วรถขากลับร้านเจ้กินมีขายนะ ฝั่งตรงข้ามร้านเจ้กิมก็มีลองถามๆกันดู แนะนำให้ซื้อไว้)

                                                        

            ถึงอุทยานก็นั่งรอเจ้าหน้าที่มาเปิดอุทยานเพื่อจ่ายค่าเข้าและยืนยันจองเต็นที่พักก่อนขึ้นอุทยาน ส่วนคนที่จะจ้างลูกหาบก็ต้องไปจุดชั่งน้ำหนัก ตรงนี้เราไม่แน่ใจว่าอัตราจ้างเท่าไหร่ เพราะพวกเราไม่ได้จ้างลูกหาบ (แต่ขอแนะนำว่าเราควรกระจายรายได้ให้แก่คนในท้องถิ่นได้มีรายได้  จ้างเถอะคะ 55)  ส่วนคนที่ไม่จ้างอย่างพวกเรา ก็ตรงดิ่งเพื่อขึ้นอุทยานก่อนขึ้นอย่าลืมลงชื่อขึ้นอุทยานกันด้วย (อ่อๆๆแนะนำให้ถ่ายรูปกับป้ายผู้พิชิตภูกระดึงด้านล่างก่อนสักนิด เพื่อสภาพหน้าและอารมณ์ร่วมในการถ่ายของพวกท่านจะยังสมบูรณ์) พวกเรา 4 คนเริ่มขึ้นภูกันประมาณ 7.30 เห็นจะได้ เดินแบกกระเป๋าคนละใบด้วยหน้าตาฟรุ้งฟริ้งสดใส พวกเราก็เดินขึ้นภูระหว่างก็เดินคุยกันไป แต่สักพักเริ่มเปลี่ยนจากเสียงคุยเป็นหอบ เห้ย ฟังไม่ผิดคะ หอบจิงๆ

                                                

                  เดินๆๆแล้วก็เดินยังไม่เห็นซักซำ ไหนละซำแฮก จะบอกว่าแค่ซำแรกยังไกลขนาดนี้  พอถึงซำแฮกนี่คือทุกคนทิ้งกระเป๋าแล้วแทบจะนอนกันซำแฮกนี่แระ  ไม่ไปแระยอดภู แล้วจะบอกว่าพวกเราโดนหลอกมาตลอดทางว่าอีกนิดเดียวจะถึง  เดินจนลิ้นห้อยก็ยังไม่ถึงสักที นั่งหอบเดินหอบ เดินบ่นนั่งบ่น จนเข้าสู่โหมดต่างคนต่างเดินไม่พูดไม่จากัน  พอพักอยู่ซำแฮกอยู่พักใหญ่ก็เดินกันต่อ คราวนี้มันชันขึ้นเรื่อยๆแล้วไง พอมองลงไป โอ้นี่เราขึ้นมาสูงขนาดนี้เพื่ออะไร????  

                                     
        
                    ทางเริ่มชันขึ้นจิงๆ ขาที่ก้าวขึ้นบันไดทีชันมากนี่ถึงกับสั่นพับๆ เกาะราวบันไดแนบแน่น แระต้องสร้างขวัญและกำลังใจให้มีแรงเดินต่อ ฮึบ ๆ ๆ ทีละขั้น แทบจะร้องกันเลย 555 กระเป๋าก็ไม่รู้จะหนักอะไรนักหนา ปวดบ่าไปหมด 555 (พวกเราจึงแนะนำบริการที่ช่วยกระจายรายได้ให้พี่ๆลูกหาบนะคะ) ช่วงทางเดินบางช่วงมันแคบ ก็ต้องช่วยกันระวังพวกพี่ๆลูกหาบหน่อย ของพวกพี่แกหนักจิงๆ )  และจะเตือนว่าอย่าหลงเชื่อวาจาของคนที่ลงจากภูด้วยคำว่า " อีกนิดเดียว" 555  เดินจนขาสั่น ขาพับ ทิ้งกระเป๋าบ้าง งอแงกันไปตลอดทาง555 กว่าจะถึงบนภู

                                                

                  ใครคิดว่าถึงยอดภูแล้วจะถึงจุดกางเต็น ท่านคิดผิด (ไอเราสินึกว่าถึงเลยมองหาเต็นกันใหญ่ที่ไหนได้ เอ็งต้องเดินกันอีก) ห๊ะ ห๊ะ ห๊ะ เดินกันอีกไกลกว่าจะถึงจุดกางเต็น  พวกเราถึงจุดกางเต็นกันเป็นกลุ่มแรกๆ ประมาณ  12.30 น  ขึ้นไปถึงนี่หลงตัวเองกันใหญ่มาเมพมาก55  พอถึงจุดกางเต็นวังกวางก็ตรงไปเช่าแผ่นรองนอน หมอน ใครจะเอาถุงนอนก็มีให้นะ  ส่วนเต็นเลือกกันตามสบาย

                                                

                  พอได้ของเสร็จพวกเราก็โยนมันเข้าเต็น ออกไปหาไรยัดลงท้องทันที ไม่สนไรทั้งสิ้น  เมนูเริ่มต้นบนภูกระดึง  คืออออ กระเพราจ้า  จะบอกว่าเยอะมากกกกก ราคาประมาณ 60 ละมั่งถ้าจำไม่ผิด และขอบอกเลยว่าอร่อยมาก 555

                                                    

                  พออิ่มปุบก็เดินกลับมาเต็นจัดของ ไปอาบน้ำกันสบายใจ จะบอกว่าน้ำที่นี่เย็นมากกกกกกกกกกกกแม้มันจะเป็นเวลาเที่ยงก็ตาม เข้าห้องน้ำปุบทำใจนับ 1 2 3  วิ่งเข้าหาน้ำ แค่โดนหน้ายังจะชา 5555 ไม่ได้โม้  ซึ่งวันแรกบนภูก็จบลงที่คืนนั้นสลบ ถ้าจะถามอากาศบอกเลยสบายๆๆ สำหรับกลางวัน แต่พอตกกลางคืนเท่านั้นแระ แม่เจ้า หนาวสุดๆๆ
                  วันที่ 2 เริ่มตื่นกันตอนประมาณตี 5 พร้อมร่างอันบอบช้ำ T ๐ T  เพื่อตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และแนะนำว่าอย่าเพิ่งอาบน้ำ แต่ถ้าคุณแน่ก็เชิญคะ แค่ล้างหน้ามือยังชา น้ำเย็นมากกกกกกกกกกกก เดินไปชมพระอาทิตย์ขึ้นผานกแอ่น

                                           


                                             

                
                                                     ถ้าโชคดีหมอกไม่หนาก็จะได้เจอพระอาทิตย์สวยๆ  
  
                                         

                                       

                                       

                                 

                                  ระหว่างทางเดินกลับก็จะได้พบหัวใจระหว่างทาง ต้องลองสังเกตุดูระหว่างทางกลับดีๆ 55 พอกลับมาถึงที่กางเต็น ก็หาของกินสิคะรออะไร พอกินกันเสร็จก็ไปอาบน้ำ น้ำยังคงเย็นเหมือนเดิม ถ้าใครจะเช่าจักรยานไปแนะนำให้ไปไวๆ ไม่งั้นคุณจะพลาด เหมือนพวกเรา สุดท้ายเดินไปผาหล่มสัก ระหว่างทางเส้นที่เราเดินก็มีจุดแวะต่างๆ

                                     


                                     


                                   


            และแล้วเราก็มาถึงผาหล่มสักก่อนชาวบ้านชาวช่องเค้า ไปนั่งกินข้าวรอพระอาทิตย์ตกกันเล่นๆ และเมนูก็เมนูกระเพรา ส้มตำแซ่บๆ  และบราวนีอร่อยๆ  ร้านกาแฟ ชมพู่มะเหมี่ยว ( ผาหล่มสัก) ภูกระดึง  ใครไม่สั่งพี่แกไม่ได้กินนะคะ https://www.facebook.com/tipmongkol.kaemongkolsuk ใครอยากลองสั่งพี่แกได้เลย ไม่งั้นอาจไปไม่ถึงผาหล่มสักแน่ๆถ้าไม่ได้กิน  และพวกเราก็ไปนั่งอ่านบันทึกที่ร้าน โหแล้วจะต้องตกใจเพราะอ่านไปอ่านมาคนที่ไปถึงภูแล้วจะตกกลับขึ้นมาอีก บางคนมาครั้งที่ 15 บ้าไปแล้ว พวกเราครั้งเดียวก็ว่าจะไม่ไปแล้ว นี่ 15 ครั้ง ตกใจตาโต กันไปเลยเก่งโครตๆๆ  ยิ่งอ่านยิ่งตกใจ 555

                                         


                                                                                จัดไปอย่าให้เสีย

                                       



                                                                               จุดพ้อยของผาหล่มสัก


                                             


                                             



                                   ก่อนกลับก็กินกระเพราอีกสักรอบ 55 มากลุ่มแรกแต่เดินกลับกลุ่มสุดท้าย แนะนำพกไฟฉายไปนะ เพราะขากลับมดคะมืดสนิท 555 และกลับคนละทางกับทางมา ขากลับก็ผ่านผาเหยียบเมฆ แต่มืดมากถ่ายไม่ได้ เลยไม่ได้เก็บภาพมา ระหว่างทางก็แวะกินมันเผา เสาวรส  กว่าจะเดินถึงเต็น 55

                                         

                                     ต่อด้วยหมูกระทะ ไม่รู้ทำไมของกินบนภูนี่อร่อยมันซะทุกอย่าง กินอิ่มนอนหลับ 55  พอตื่นมาก็หาไรกินเตรียมกลับ

                             ถ้าใครคิดว่าขากลับจะสบายกว่าตอนขึ้น คุณคิดผิด เพราะมันเกร็งตั้งแต่ขายันก้น มีเอาก้นสไลลงก็มี 555 สภาพคือ ไม่ต่างกันเลย 5555  เหนื่อยเหมือนกัน พอลงมาถึงก็ไปอาบน้ำ กินข้าว เตรียมนั่งรถสองแถวไปร้านเจ้กิม เพื่อขึ้นรถกลับ รอบที่เรากลับประมาณ 19.30 น ก็นั่งรอกันไป 55
                           
                                   

                    แต่พวกเราว่ามันน่าแปลกมากที่พอเรามาถึงข้างล่างเราจะรู้สึกอยากกลับมาที่นี่อีกครั้ง ไม่แปลกใจเลยทำไมหลายๆคนถึงได้กลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเราก็ตั้งใจจะกลับมาอีกครั้งเช่นกัน ตอนที่กำลังลงรูปยังทำให้เราคิดถึงบรรยากาศบนภู ยังคิดถึงและทำให้อยากกลับไปอีก ( ระหว่างทางที่ไปเราจะเห็นคนที่มีอายุขึ้นไปบนภูกันเยอะมาก) พวกเราว่ามันมีมนต์วิเศษละมั่งที่ทำให้ใครๆต่างหลงรักภูกระดึง  ทริปนี้พวกหลงรักภูกระดึงเต็มๆจริงๆ เหนื่อยมั้ย เหนื่อย แต่คุ้มมากเมื่อคุณขึ้นไปถึง และยังมีอีกหลายจุดที่เรายังไม่ได้ไปเห็น มันต้องทำให้เราได้กลับไปอีกแน่นอน ^^ ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยว พวกเราขอแนะนำเลยสำหรับภูกระดึง จะคนเดียว จะกลุ่ม สนุกได้เหมือนกัน ที่แน่ๆคนที่นี่ใจดีมาก   ไม่ผิดหวังแน่นอนของจริงมันสวยกว่ารูปทุกรูปที่คุณเห็นแน่นอน  ขอบคุณสำหรับเพื่อนร่วมทริปที่ไปกันจนถึงยอด
ชื่อสินค้า:   backpack
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่