สืบเนื่องจากกระทู้ของพี่เบสท์ GS110
http://pantip.com/topic/34689963
และด้วยความอยากของผมเองที่อยากจะไปดูซากุระเมืองไทย หรือพญาเสือโคร่งแบบตัวเป็นๆ จึงคิดว่าอยากจะไปดูให้เต็มตา
แต่ไม่ได้กะว่าจะไปกระทันหันครับ แค่คิดไว้เล่นๆ
เมื่อวันที่ 19-01-58 ผมออกไปซื้อของบางอย่างแถวๆตลาดยิ่งเจริญ ร้านก็ดันปิด จะไปหาพี่ที่เป็นช่างแถวรังสิตแกก็ดันไม่อยู่ร้าน ก็เลยเกิดอาการเซง
คิดในใจว่าทำไมชีวิตตรูมันไม่สมหวังเลยฟระวันนี้ อะไรก็ไม่เป็นอย่างที่คิดอย่างที่หวังไว้สักอย่าง ขี่มอไซค์กลับบ้านแมร่งงง !!!
พอถึงบ้านก็นั่งล้างรถแก้เซง
และแล้วโรคขาดแรงบันดาลใจของผมก็กำเริบ มันเหมือนชีวิตมะนอัดอั้น อยากปลดปล่อยตัวเอง ขี่มอไซค์ไปเรื่อยๆคิดอะไรเพลินๆ
ตอนนั้นตังในกระเป๋าผมมีประมาณ แปดร้อยนิดๆ แล้วก็อยากจะไปดูดอกพญาเสือโคร่งอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจ ไปภูลมโลแล้วกัน

สิ่งแรกที่ผมคิดเลยคือต้องมีถังน้ำแข็ง

ทริปที่ผ่านมาผมได้มีโอกาศไปเที่ยวกับพี่จี พี่นู๋เดี่ยว น้องปั๊ม พี่แดง และพี่เบสท์ แก๊งนี้พกถังน้ำแข็งไปด้วย มีประโยชน์มาก
แช่ผักแช่หมู แช่อุปกรณ์พร้อมดื่ม ^^ ถ้าไม่ได้แช่ก็ใส่ของอย่างอื่นได้ ก็เลยแอบเอาของแม่มาวางทาบ
จากนั้นก็ขึ้นไปหรือกระเป๋าข้างที่มีข้างเดียว เพราะตอนออกทริปเมือปี 57 เกิดอุบัติเหตุล้ม ทำให้กระเป๋าข้างซ้ายขาด
ก็หยิบมาขัดๆถูๆ อุปกรณ์ที่ใส่ไปก็มีน้ำ 2 ขวด เสื้อกันหนาว แล้วก็ที่ชาร์ตมือถือ
ลำเลียงสัมภาระเรียบร้อย ก่อนออกจากบ้านแอบเปลี่ยนใจเอากระติกไซส์ใหญ่กว่าเดิม ผมเป็นประเภทเหลือดีกว่าขาดอยู่ละ
ของที่ใส่ใต้เบาะจะมี ปั๊มลมตัวเล็กของ yamaha กระบอกน้ำมันสำรอง 1 ลิตรแล้วก็เครื่องมือตั้งโซ่ นำมันเกียร์สำหรับหยอดโซ่
ผมออกจากบ้านที่จังหวัดอยุธยา แถวๆอำเภอบางไทร เวลาประมาณ 22.17 น.
ผมใช้เส้นทาง เสนา แล้วต่อไปทางบางประหัน แวะเติมน้ำมัน 1 ทีตรงแยกทางเข้าหลักสายเอเชีย ผมเลือกที่จะไปทางนครสวรรค์
เพราะผมไม่เคยวิ่งเส้นนี้มาก่อน อีกอย่างนึงจะไปหาพี่เบสท์ด้วยครับ ก่อนที่จะออกเดินทางผมโทรปรึกษาว่าจะไปทางไหนดี พี่เบสท์
แนะนำว่าถ้าจะขึ้นภูลมโล ทางนครสวรรค์ขึ้นง่ายกว่า ก็เลยตัดสินใจไป
ผมใช้เวลา 3 ชั่วโมงถึงสะพานเดชา ก่อนหน้านี้ผมนัดกับพี่เบสท์ไว้ แกบอกว่าที่สะพานเขาประดับไฟเตรียมเทศกาลตรุษจีนก็เลยแวะถ่าย
ทีแรกผมจะขี่ข้ามไปแต่เหลือบเห็นคนยืนกันอยู่กลุ่มใหญ่ เลยไม่กล้าไป ก็เลยขี่ย้อนกลับไปขึ้นสะพานข้างๆ
ปรากฏว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นขี่มอไซค์เหมือนกันแต่ดูเยอะเกิ๊น
น้ำมันถังที่สองผมเติมที่ esso ก่อนออกจากนครสวรรค์ และได้ใช้กระติกและน้ำที่หอบมาจากบ้าน
จากนั้นโทรหาพี่เบสท์ โทรบอกว่าถึงแล้ว
5 นาทีต่อมาพี่เบสท์ขี่ออกมาหาผม ก็เกิดการสนทนากันตามปกติของคนขี่มอไซค์ ผมก็สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการไปภูลมโล
คุยไปคุยมา ตี 2 แล้ว เพลินไปหน่อย ก็ขอตัวแยกย้าย
ตี 4 ผมถึงแยกก่อนเข้าเลี่ยงเมืองพิษณโลก ตรงนั้นถ้ากลับรถจะมีปั๊มเชลอยู่ ถ้าเลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 3 กิโลก็มีปั๊ม ปตท เหมือนกัน แต่ผมชอบ
ที่จะเติมปั๊มเชล เพราะรู้สึกว่ามันวิ่งได้ไกลกว่า ไม่รู้มโนไปเองรึเปล่า
พักได้ซัก 10 นาที ผมออกเดินทางต่อไปจนถึงสี่แยกใหญ่ ผมไม่รู้หรอกว่าต้องไปทางนี้ แต่ผมจำได้ว่า ถนน สาย 12 มันขึ้นภูหินร่องกล้าได้
ทริปนี้ผมใช้ความเร็วแค่ 85 ที่วิ่งแค่นี้เพราะวิ่งตามตังในกระเป๋าครับ ^^ เบี้ยน้อยหอยน้อย ต้องใช้คันเร่งอย่างประหยัด
อยากขี่ อยากเที่ยวแต่ตังน้อยต้องทำใจครับ
ตี 05.30 ผมวิ่งเข้ามาทางถนน 2013 ก่อนเลี้ยวขวาเข้าภูหินร่องกล้า น้ำมันกระพริบละครับเพราะวิ่งขึ้นเขาถนนเส้น 12 มา มี 7-11 พอดี
เลยถามพี่พนักงานว่าแถวนี้มีปั๊มไหม คำตอบที่ได้คือ อยู่ข้างๆ 7-11 เลย ฮาาา แต่ยังไม่เปิด ผมก็ถามต่อ ว่าแถวนี้มีอีกไหม
แกบอกว่าไม่มีแล้วแถวนี้มีปั๊มเดียว
06.00 น.เจ้าของปั๊มมา ผมก็เข็นไปเติม ปรากฏว่า เติมไม่ได้ครับ รอเมียเปิดบ้าน แกบอกว่าข้างหน้ามีปั๊ม เลยแยกไป 1 กิโล --*
พนักงานเซเว่นเล่นผมเข้าแล้ว ในรอครึ่งชั่วโมง เสียเวลามากมาย
ถีงแล้วครับปั๊มที่เฮียบอกมา เปิดตลอด 24 แต่ถ้ามากลางวัน เติมตรงข้าง 7-11 ได้เลยนะครับ แล้วก็มีปั๊มหลอดระหว่างทางอีกเพียบบบ
06.15 น. แล้วพระอาทิตย์ยังไม่ส่องแสงเลย อีก 41 กิโลถึงภูลมโลละ อีกนิด ฮึบๆ
น่าจะเป็นป้ายเดียวกับที่พี่เบสท์ถ่ายไว้ ^^ สภาพผมนี่จะหมดพลังอยู่ละ
ขึ้นมาซักพัก เลย อช. ภูหินร่องกล้า มาพักนึง ผมก็แวะพักคนพักรถ ล้างหน้าล้างตาถ่ายรูปเล่น
แสงแรกของเช้าวันนี้ขึ้นมาแล้ว แต่เบ้าตาผมนี่กำลังจะหุบลงเพราะทริปนี้มาแบบกระทันหัน นอนน้อย ทำนู่นนี่นั่นทั้งวัน
Trip :: ขี่รถบ้านๆ ไปเที่ยว ภูลมโล ซากุระเมืองไทย ไปกลับ 1000 km. 25 ชั่วโมง
สืบเนื่องจากกระทู้ของพี่เบสท์ GS110
http://pantip.com/topic/34689963
และด้วยความอยากของผมเองที่อยากจะไปดูซากุระเมืองไทย หรือพญาเสือโคร่งแบบตัวเป็นๆ จึงคิดว่าอยากจะไปดูให้เต็มตา
แต่ไม่ได้กะว่าจะไปกระทันหันครับ แค่คิดไว้เล่นๆ
เมื่อวันที่ 19-01-58 ผมออกไปซื้อของบางอย่างแถวๆตลาดยิ่งเจริญ ร้านก็ดันปิด จะไปหาพี่ที่เป็นช่างแถวรังสิตแกก็ดันไม่อยู่ร้าน ก็เลยเกิดอาการเซง
คิดในใจว่าทำไมชีวิตตรูมันไม่สมหวังเลยฟระวันนี้ อะไรก็ไม่เป็นอย่างที่คิดอย่างที่หวังไว้สักอย่าง ขี่มอไซค์กลับบ้านแมร่งงง !!!
พอถึงบ้านก็นั่งล้างรถแก้เซง
และแล้วโรคขาดแรงบันดาลใจของผมก็กำเริบ มันเหมือนชีวิตมะนอัดอั้น อยากปลดปล่อยตัวเอง ขี่มอไซค์ไปเรื่อยๆคิดอะไรเพลินๆ
ตอนนั้นตังในกระเป๋าผมมีประมาณ แปดร้อยนิดๆ แล้วก็อยากจะไปดูดอกพญาเสือโคร่งอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจ ไปภูลมโลแล้วกัน
สิ่งแรกที่ผมคิดเลยคือต้องมีถังน้ำแข็ง
ทริปที่ผ่านมาผมได้มีโอกาศไปเที่ยวกับพี่จี พี่นู๋เดี่ยว น้องปั๊ม พี่แดง และพี่เบสท์ แก๊งนี้พกถังน้ำแข็งไปด้วย มีประโยชน์มาก
แช่ผักแช่หมู แช่อุปกรณ์พร้อมดื่ม ^^ ถ้าไม่ได้แช่ก็ใส่ของอย่างอื่นได้ ก็เลยแอบเอาของแม่มาวางทาบ
จากนั้นก็ขึ้นไปหรือกระเป๋าข้างที่มีข้างเดียว เพราะตอนออกทริปเมือปี 57 เกิดอุบัติเหตุล้ม ทำให้กระเป๋าข้างซ้ายขาด
ก็หยิบมาขัดๆถูๆ อุปกรณ์ที่ใส่ไปก็มีน้ำ 2 ขวด เสื้อกันหนาว แล้วก็ที่ชาร์ตมือถือ
ลำเลียงสัมภาระเรียบร้อย ก่อนออกจากบ้านแอบเปลี่ยนใจเอากระติกไซส์ใหญ่กว่าเดิม ผมเป็นประเภทเหลือดีกว่าขาดอยู่ละ
ของที่ใส่ใต้เบาะจะมี ปั๊มลมตัวเล็กของ yamaha กระบอกน้ำมันสำรอง 1 ลิตรแล้วก็เครื่องมือตั้งโซ่ นำมันเกียร์สำหรับหยอดโซ่
ผมออกจากบ้านที่จังหวัดอยุธยา แถวๆอำเภอบางไทร เวลาประมาณ 22.17 น.
ผมใช้เส้นทาง เสนา แล้วต่อไปทางบางประหัน แวะเติมน้ำมัน 1 ทีตรงแยกทางเข้าหลักสายเอเชีย ผมเลือกที่จะไปทางนครสวรรค์
เพราะผมไม่เคยวิ่งเส้นนี้มาก่อน อีกอย่างนึงจะไปหาพี่เบสท์ด้วยครับ ก่อนที่จะออกเดินทางผมโทรปรึกษาว่าจะไปทางไหนดี พี่เบสท์
แนะนำว่าถ้าจะขึ้นภูลมโล ทางนครสวรรค์ขึ้นง่ายกว่า ก็เลยตัดสินใจไป
ผมใช้เวลา 3 ชั่วโมงถึงสะพานเดชา ก่อนหน้านี้ผมนัดกับพี่เบสท์ไว้ แกบอกว่าที่สะพานเขาประดับไฟเตรียมเทศกาลตรุษจีนก็เลยแวะถ่าย
ทีแรกผมจะขี่ข้ามไปแต่เหลือบเห็นคนยืนกันอยู่กลุ่มใหญ่ เลยไม่กล้าไป ก็เลยขี่ย้อนกลับไปขึ้นสะพานข้างๆ
ปรากฏว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นขี่มอไซค์เหมือนกันแต่ดูเยอะเกิ๊น
น้ำมันถังที่สองผมเติมที่ esso ก่อนออกจากนครสวรรค์ และได้ใช้กระติกและน้ำที่หอบมาจากบ้าน
จากนั้นโทรหาพี่เบสท์ โทรบอกว่าถึงแล้ว
5 นาทีต่อมาพี่เบสท์ขี่ออกมาหาผม ก็เกิดการสนทนากันตามปกติของคนขี่มอไซค์ ผมก็สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการไปภูลมโล
คุยไปคุยมา ตี 2 แล้ว เพลินไปหน่อย ก็ขอตัวแยกย้าย
ตี 4 ผมถึงแยกก่อนเข้าเลี่ยงเมืองพิษณโลก ตรงนั้นถ้ากลับรถจะมีปั๊มเชลอยู่ ถ้าเลี้ยวขวาเข้าไปประมาณ 3 กิโลก็มีปั๊ม ปตท เหมือนกัน แต่ผมชอบ
ที่จะเติมปั๊มเชล เพราะรู้สึกว่ามันวิ่งได้ไกลกว่า ไม่รู้มโนไปเองรึเปล่า
พักได้ซัก 10 นาที ผมออกเดินทางต่อไปจนถึงสี่แยกใหญ่ ผมไม่รู้หรอกว่าต้องไปทางนี้ แต่ผมจำได้ว่า ถนน สาย 12 มันขึ้นภูหินร่องกล้าได้
ทริปนี้ผมใช้ความเร็วแค่ 85 ที่วิ่งแค่นี้เพราะวิ่งตามตังในกระเป๋าครับ ^^ เบี้ยน้อยหอยน้อย ต้องใช้คันเร่งอย่างประหยัด
อยากขี่ อยากเที่ยวแต่ตังน้อยต้องทำใจครับ
ตี 05.30 ผมวิ่งเข้ามาทางถนน 2013 ก่อนเลี้ยวขวาเข้าภูหินร่องกล้า น้ำมันกระพริบละครับเพราะวิ่งขึ้นเขาถนนเส้น 12 มา มี 7-11 พอดี
เลยถามพี่พนักงานว่าแถวนี้มีปั๊มไหม คำตอบที่ได้คือ อยู่ข้างๆ 7-11 เลย ฮาาา แต่ยังไม่เปิด ผมก็ถามต่อ ว่าแถวนี้มีอีกไหม
แกบอกว่าไม่มีแล้วแถวนี้มีปั๊มเดียว
06.00 น.เจ้าของปั๊มมา ผมก็เข็นไปเติม ปรากฏว่า เติมไม่ได้ครับ รอเมียเปิดบ้าน แกบอกว่าข้างหน้ามีปั๊ม เลยแยกไป 1 กิโล --*
พนักงานเซเว่นเล่นผมเข้าแล้ว ในรอครึ่งชั่วโมง เสียเวลามากมาย
ถีงแล้วครับปั๊มที่เฮียบอกมา เปิดตลอด 24 แต่ถ้ามากลางวัน เติมตรงข้าง 7-11 ได้เลยนะครับ แล้วก็มีปั๊มหลอดระหว่างทางอีกเพียบบบ
06.15 น. แล้วพระอาทิตย์ยังไม่ส่องแสงเลย อีก 41 กิโลถึงภูลมโลละ อีกนิด ฮึบๆ
น่าจะเป็นป้ายเดียวกับที่พี่เบสท์ถ่ายไว้ ^^ สภาพผมนี่จะหมดพลังอยู่ละ
ขึ้นมาซักพัก เลย อช. ภูหินร่องกล้า มาพักนึง ผมก็แวะพักคนพักรถ ล้างหน้าล้างตาถ่ายรูปเล่น
แสงแรกของเช้าวันนี้ขึ้นมาแล้ว แต่เบ้าตาผมนี่กำลังจะหุบลงเพราะทริปนี้มาแบบกระทันหัน นอนน้อย ทำนู่นนี่นั่นทั้งวัน