สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ไวรัสเดงกีเป็น single stranded RNA virus อยู่ใน Family Flaviviridae มี 4 serotypes คือ DEN1, DEN2, DEN3 และ DEN4 ค่ะ
ในการติดเชื้อครั้งแรก ร่างกายจะยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเดงกี่
เมื่อหาย ภูมิคุ้มกันของร่างกาย จะมีการสร้างแอนติบอดี้ จาก B- lymphocyte cell ต่อสายพันธุ์ที่ติดเชื้อในครั้งแรก
และร่างกายจะเก็บความจำต่อเชื้อเดงกี่สายพันธุ์แรกไว้ใน memory cell ทำให้เราไม่ติดเชื้อสายพันธุ์เดิมซ้ำอีก
แต่การติดเชื้อครั้งที่สอง ถ้าเป็นต่างสายพันธุ์ ในคนที่เคยเป็นแล้ว
จะสามารถเกิดปรากฏการณ์แทรกซ้อน
ที่เรียกว่า enhancing antibody คือการกระตุ้นของแอนติบอดี้
แต่ไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสเดงกี่ที่หลบซ่อนอยู่ใน monocyte cell ได้
แต่กลับกลายเป็นการกระตุ้นเพิ่มจำนวนของเชื้อเดงกี่ ภายใน monocyte cell
ซึ่งกลไกนั้นเกิดจากการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราเอง ค่ะ
ทำให้ไวรัสสามารถใช้ประโยชน์จากการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายเราเองเพื่อเอาตัวรอดและเพิ่มจำนวน
แถมยังไปกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันเราเพิ่มอีก
คล้ายๆกับการ hijack เครื่องบินเลยค่ะ
ุถ้าอยากหาอ่านเพิ่มลองอ่านในนี้ได้ค่ะ (ภาษาไทย ^^)
https://www.researchgate.net/publication/39024178_karsuksaklkikarthangankhxng_enhancing_antibody_nikarsngserimkarpheimcanwnkhxngwiraskhileuxdxxkdengkinisellmonosit
http://www.med.cmu.ac.th/HOME/file/5509Dengue.pdf
เมื่อร่างกายมีการกระตุ้นเพิ่มขึ้นของระบบภูมิคุ้มกันซึ่งถ้ามากเกินไป
จะเกิดการที่เรียกว่า ภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองค่ะ (เช่นเดียวกับคนที่เป็นโรคพุ่มพวง หรือ SLE )
เช่นกรณีของพี่ปอ เม็ดเลือดขาวกัดกินทำลายเซลล์อื่นๆของร่างกายตัวเอง ทำให้อาการยิ่งหนักมากขึ้น
ในการติดเชื้อครั้งแรก ร่างกายจะยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสเดงกี่
เมื่อหาย ภูมิคุ้มกันของร่างกาย จะมีการสร้างแอนติบอดี้ จาก B- lymphocyte cell ต่อสายพันธุ์ที่ติดเชื้อในครั้งแรก
และร่างกายจะเก็บความจำต่อเชื้อเดงกี่สายพันธุ์แรกไว้ใน memory cell ทำให้เราไม่ติดเชื้อสายพันธุ์เดิมซ้ำอีก
แต่การติดเชื้อครั้งที่สอง ถ้าเป็นต่างสายพันธุ์ ในคนที่เคยเป็นแล้ว
จะสามารถเกิดปรากฏการณ์แทรกซ้อน
ที่เรียกว่า enhancing antibody คือการกระตุ้นของแอนติบอดี้
แต่ไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสเดงกี่ที่หลบซ่อนอยู่ใน monocyte cell ได้
แต่กลับกลายเป็นการกระตุ้นเพิ่มจำนวนของเชื้อเดงกี่ ภายใน monocyte cell
ซึ่งกลไกนั้นเกิดจากการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายของเราเอง ค่ะ
ทำให้ไวรัสสามารถใช้ประโยชน์จากการทำงานของภูมิคุ้มกันในร่างกายเราเองเพื่อเอาตัวรอดและเพิ่มจำนวน
แถมยังไปกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันเราเพิ่มอีก
คล้ายๆกับการ hijack เครื่องบินเลยค่ะ
ุถ้าอยากหาอ่านเพิ่มลองอ่านในนี้ได้ค่ะ (ภาษาไทย ^^)
https://www.researchgate.net/publication/39024178_karsuksaklkikarthangankhxng_enhancing_antibody_nikarsngserimkarpheimcanwnkhxngwiraskhileuxdxxkdengkinisellmonosit
http://www.med.cmu.ac.th/HOME/file/5509Dengue.pdf
เมื่อร่างกายมีการกระตุ้นเพิ่มขึ้นของระบบภูมิคุ้มกันซึ่งถ้ามากเกินไป
จะเกิดการที่เรียกว่า ภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองค่ะ (เช่นเดียวกับคนที่เป็นโรคพุ่มพวง หรือ SLE )
เช่นกรณีของพี่ปอ เม็ดเลือดขาวกัดกินทำลายเซลล์อื่นๆของร่างกายตัวเอง ทำให้อาการยิ่งหนักมากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
สอบถามไข้เลือดออกของ ปอ ทฤษฎี หน่อยครับ
ซึ่งครั้งแรกอาจจะติดชนิด A ร่างกายจะสร้าง antibody เพื่อต่อต้านเชื้อนั้นขึ้นมา
ครั้งที่สองถ้าติดชนิด A อีกร่างกายก็สามารถกำจัดได้เลย เพราะเคยติดเชื้อนั้นมาแล้ว
แต่ถ้าติด B หรือ C หรือเชื้ออื่นที่ไม่ใช่ A ร่างกายก็จะต้องเสียเวลาสร้าง Antibody ขึ้นมารับมืออีก
แต่ผมสงสัยว่ากรณี ปอ ทฤษฎี เป็นไข้เลือดออกประเภทไหน ทำไมเป็นครั้งแรกมันรุนแรงจัง
ถ้าคิดเป็น เปอร์เซ็นมีโอกาศกี่เปอร์เซ็นที่เป็นในลักษณะของปอ และใน100คนจะมีโอกาศเป็นสักกี่คนครับ