ออกตัวไว้ก่อนครับ
1. ผมชอบอ่านประวัติศาสตร์ แต่ผมเคยเขียนแต่เรื่องทางวิทยาศาสตร์ ไม่เคยเขียนทางประวัติศาสตร์มาก่อน
2. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงปี 13XX ในทวีปยุโรป
3. คำว่ามหาศาสนเภทผมใช้ตามคำของอาจารย์อนันต์ชัย เลาหะพันธุจากหนังสือ “เรื่องน่ารู้ในยุโรปสมัยกลาง” เนื่องจากเป็นคำไทยที่ผมเห็นว่าเหมาะสมครับ
ศาสนเภท (Schism)
จริงๆแล้วมหาศาสนเภทนี้ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องราวในครั้งนี้เท่านั้น เหตุการณ์สำคัญๆ เช่น การแยกนิกายกรีกออโธดอกซ์ออกจากโรมันคาทอลิค การที่กลุ่มชีอะห์แยกตัวจากมุสลิมสุหนี่ หรือ ใกล้ตัวเรามาก็การที่พุทธเถรวาทในไทยแยกตัวเป็นมหานิกายกับธรรมยุติ อย่างไรก็ดีในที่นี้ผมจะหมายถึงเหตุการณ์มหาศาสนเภทในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ที่มีคำเรียกว่า Great schism (หรือ Western Schism/Papal Schism) ที่เหตุการณ์สืบเนื่องมาจากการจำกัดบริเวณของสมเด็จพระสันตะปาปาในฝรั่งเศสครับ
ยุโรปในช่วงยุคกลาง (ช่วงคริสต์ศตวรรษ 5-15)เป็นที่ทราบกันว่าอำนาจของศาสนจักรแผ่ไพศาลโดยอำนาจของศาสนจักรอันมีศูนย์กลางอยู่ที่โรมมีเหนือฝ่ายอาณาจักร อย่างไรก็ดีในช่วงยุคกลางตอนปลายอำนาจของศาสนจักรเริ่มเสื่อมถอย ผู้มีอำนาจในดินแดนแว่นแคว้นต่างๆเริ่มมีการรวบรวมคนต่างๆเข้าเป็นกลุ่มสะสมอำนาจเกิดเป็นอาณาจักรขึ้นมา ในช่วงนี้บางครั้งศาสนจักรก็ถูกแทรกแซง เช่น เหตุการณ์ที่สมเด็จพระสันตะปาปาถูกอัญเชิญเสด็จประทับจำกัดบริเวณให้อยู่ในฝรั่งเศส หรือ ที่เรียกว่า Babylonian captivity of Papacy (1309-1378) ซึ่งจัดว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดก่อนหน้าช่วงเวลาที่เกิดอัครมหาศาสนเภทด้วย
Babylonian captivity of Papacy
บางครั้งเรียกว่าการพำนักของสมเด็จพระสันตะปาปาแห่งเมืองอาวียง เพื่อไม่ให้สับสนกับการการคุมขังแห่งบาบิโลน (ใช้ศัพท์ตามเรื่องน่ารู้ในยุโรปสมัยกลาง) ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล
เรื่องของเรื่องคือการไม่ลงรอยกันระหว่างฝ่ายอาณาจักรโดยพระเจ้าฟิลิปที่สี่แห่งฝรั่งเศสและฝ่ายศาสนจักรโดยสมเด็จพระสันตะปาปาโบนิเฟซที่แปด (Boniface VIII 1230-1303) ในเรื่องที่ฝรั่งเศสจะเพิ่มพูนอำนาจของฝ่ายอาณาจักร จนท้ายสุดนำไปสู่การเชิญให้สมเด็จพระสันตะปาปาเสด็จมาประทับที่เมืองอาวียงในที่สุด
ภายหลังการประทับอย่างจำกัดบริเวณไม่นานสมเด็จพระสันตะปาปาก็สิ้นพระชนม์แล้วก็ได้มีการคอนเคลฟเพื่อเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่คือสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบเอ็ด (Benedict XI 1240-1304) ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์นี้ประทับที่โรม
อย่างไรก็ดีสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบเอ็ดก็สิ้นพระชนม์หลังจากนั้นไม่นานอย่างปริศนา (แปดเดือน) จึงได้มีการคอนเคลฟอีกครั้งหนึ่งครั้งนี้พระคาร์ดินัลชาวฝรั่งเศสได้รับเลือกมีการเลือกพระนามว่าสมเด็จพระสันตะปาปาเคลมงต์ที่ห้า (Clement V 1264-1314) ซึ่งทรงปฏิเสธที่จะย้ายไปพำนัก ณ กรุงโรม
ภายหลังจากนั้นเป็นเวลา 67 ปี สมเด็จพระสันตะปาปาทั้ง 7 พระองค์ขึ้นปกครองศาสนจักรที่ฝรั่งเศสและทรงมาจากคนฝรั่งเศสทั้งสิ้น จนในที่สุดวันที่ 13 กันยายน 1376 สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่สิบเอ็ด (Gregory XI 1329-1378) ได้เสด็จนิวัติกลับสู่กรุงโรม ซึ่งถือว่าเป็นการสิ้นสุดของการพำนักของสมเด็จพระสันตะปาปาแห่งเมืองอาวียง
อย่างไรก็ดีเรื่องไม่ได้จบลงแค่นั้น หลังจากเสด็จนิวัติกลับกรุงโรมได้ปีกว่าสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่สิบเอ็ดก็สิ้นพระชนม์ในวันที่ 27 มีนาคม 1378 ส่งผลให้มีการคอนเคลฟครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่กรุงโรม โดยในครั้งนี้คณะคาร์ดินัลได้ตัดสินใจว่าจะต้องไม่เลือกสมเด็จพระสันตะปาปาจากฝรั่งเศส ทั้งนี้โดยส่วนหนึ่งมาจากการชุมนุมของชาวอิตาลีที่ต้องการให้สมเด็จพระสันตะปาปาเป็นชาวอิตาลี ท้ายสุดแล้วการคอนเคลฟก็ได้สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่คือสมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่หก (Urban VI 1318-1389) ทางคณะพระคาร์ดินัลจากฝรั่งเศสได้วอล์คเอ้าท์ทันที โดยได้กลับไปเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาใหม่เป็นคนฝรั่งเศสคือสมเด็จพระสันตะปาปาเคลมงต์ที่เจ็ด (Clement VII 1342-1394) โดยจากข้อมูลของวิกิพีเดียได้แสดงให้เห็นว่าอาณาจักรต่างๆได้ให้การยอมรับสมเด็จพระสันตะปาปาเพียงสำนักเดียวแตกต่างกันต่อไปนี้
1. ฝ่ายโปรอาวียง (Avignon claimiant) ได้แก่ ฝรั่งเศส อารากอน กาสตีลและเลออง ไซปรัส เบอร์กันดี ซาวอย เนเปิ้ล สก็อตแลนด์เป็นต้น
2. ฝ่ายโปรโรม (Roman claimiant) ได้แก่ เดนมาร์ก อังกฤษ (ในตอนนั้นยังไม่ได้เป็นแองลิกัน) ฮังการี เวนิสเป็นต้น
เมื่อถึงปี 1389 สมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่หกแห่งโรมสิ้นพระชนม์ในขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาเคลมงต์ที่เจ็ดยังมีพระชนม์ชีพ ใช่ว่าเรื่องจะจบ ทางโรมได้ทำการคอนเคลฟเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ขึ้นมาคือสมเด็จพระสันตะปาปาโบนิเฟซที่เก้า (Boniface IX 1350 –1404)
(สังเกตการเลือกพระนามในครั้งนี้เหมือนเป็นการจงใจให้มีพระนามต่อจากสมเด็จพระสันตะปาปาโบนิเฟซที่แปดที่ถูกเชิญเสด็จจากโรมมาประทับที่อาวียงก่อนหน้าที่จะเกิดมหาศาสนเภท-ผมเอง)
ในปี 1394 สมเด็จพระสันตะปาปาเคลมงต์ที่เจ็ดสิ้นพระชนม์ทางอาวียงก็คอนเคลฟเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบสาม (Benedict XIII 1328-1423) หลังจากนั้นก็น่าจะคาดเดาได้นะครับว่าสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบสาม (1423) สิ้นพระชนม์ที่หลังสมเด็จพระสันตะปาปาโบนิเฟซที่เก้า (1404) ดังนั้นทางโรมจึงมีการคอนเคลฟอีกครั้งเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่เจ็ด (Innocent VII 1339-1406)
การชุมนุมแห่งปีซ่า
หลังจากนั้นปีกว่าสมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่เจ็ดก็สิ้นพระชนม์ทางโรมจึงคอนเคลฟเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาอีกครั้งหนึ่งได้สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่สิบสอง (Gregory XII 1326-1417) ซึ่งในตอนนี้นี่เองทั้งฝ่ายอาณาจักรและฝ่ายศาสนจักรเริ่มมีกลุ่มที่เห็นว่าน่าจะเลิกได้แล้ว แต่อย่างไรก็ดีสมเด็จพระสันตะปาปาทั้งจากโรมและจากอาวียงไม่มีพระองค์ใดยอมใคร จึงมีการริเริ่มการแก้ปัญหามหาศาสนเภทขึ้นในปี 1378
ในตอนแรกไม่มีใครมาเข้าประชุมเพราะตามกฎสงฆ์ในขณะนั้นผู้เรียกประชุมคือสมเด็จพระสันตะปาปานั่นเอง จนท้ายสุดได้มีนักกฎหมายหลวง (หลวงหรือสงฆ์ไม่แน่ใจถ้าจะใช้ศัพท์ภาษาไทย) ได้บอกจากเรียกประชุมได้ในท้ายที่สุดที่เมืองปิซ่าปี 1409 ได้สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่คือสมเด็จพระสันตะปาปาอเลกซานเดอร์ที่ห้า (Alexander V 1339-1410) ซึ่งภายหลังการเข้ารับตำแหน่งพระองค์ก็สิ้นพระชนม์แล้วได้มีการคอนเคลฟอีกครั้งได้สมเด็จพระสันตะปาปายอห์นที่ยี่สิบสาม (John XXIII 1370-1419) อย่างไรก็ดีในครั้งนี้ถึงแม้ว่าเสียงส่วนใหญ่จะสนับสนุนแต่ว่าทางอารากอนและสก็อตแลนด์กลับไปให้การสนับสนุนสมเด็จพระสันตะปาปาแห่งอาวียง ในขณะที่แคว้นต่างๆในดินแดนอิตาลีจำนวนหนึ่งยังคนให้การสนับสนุนสมเด็จพระสันตะปาปาแห่งโรมอยู่ดี
การชุมนุมแห่งคอนสแตนส์
จักรพรรดิ Sigismund
Ref https://en.wikipedia.org/wiki/Sigismund,_Holy_Roman_Emperor
ในเมื่อเรื่องยังไม่จบก็มีผู้ที่คิดการณ์จะทำให้จบ นั่นคือจักรพรรดิ Sigismund (อ่านไม่ออกขอเขียนภาษาอังกฤษ) กษัตริย์แห่งเยอรมันและฮังการี จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ได้สนับสนุนให้มีการเรียกชุมนุมโดยสมเด็จพระสันตะปาปายอห์นที่ยี่สิบสาม (จากการคอนเคลฟที่ปีซ่า) ที่คอนสแตนส์ในเยอรมนี
ท้ายแล้วในที่สุดทางสว่างก็เกิดขึ้นเมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่สิบสองแห่งโรมได้ทรงลาออกจากตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปา (ซึ่งภายหลังจากนั้นอีก 600 ปีสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบหกก็ได้เป็นพระองค์ถัดมาที่ทรงลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน) และได้การประกาศบัพพาชนียกรรม (Excommunicate) สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบสามออกจากตำแหน่ง
https://en.wikipedia.org/wiki/File
isanello,_copia_da_Ritratto_di_Martino_V_(Galleria_Colonna).jpg
ทางที่ชุมนุมได้ทำการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปามาร์ตินที่ห้า (Martin V 1369-1431) อย่างไรก็ดีทางอารากอนยังไม่ยอมรับสมเด็จพระสันตะปาปามาร์ตินที่ห้าและยังคงภักดีต่อแอนตี้โป๊ปเบเนดิกต์ที่สิบสาม ได้ทำการเลือกแอนตี้โป๊ปเบเนดิกต์ที่สิบสี่ (อย่าสับสนกับสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบสี่) และก็มีอีกกลุ่มหนึ่งเลือกแอนตี้โป๊ปเคลมงต์ที่แปดขึ้นมา อย่างไรก็ดีเคลมงต์ที่แปดก็ลาออกและยอมรับมาร์ตินที่ห้าในที่สุด ถือเป็นการสิ้นสุดมหาศาสนเภท
เกร็ดความรู้
1. ชื่อเบเนดิกต์มีการเลือกใช้เป็นพระนามสมเด็จสมเด็จพระสันตะปาปาทั้งหมดสิบเจ็ดครั้ง โดยมีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นหลายครั้งได้แก่การบัพพาชนียกรรมสมเด็จพระสันตะปาปาที่ใช้ชื่อเบเนดิกต์สองครั้ง มีการพยายามนำเป็นชื่อแอนตี้โป๊ปสองครั้งและมีการลาออกมีหนึ่งครั้งคือ
a. แอนตี้โป๊บเบเนดิกต์ทิ่สิบ (ไม่มีการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาอย่างเป็นทางการ)
b. สมเด็จพระสันตะปาปา (แอนตี้โป๊ป) เบเนดิกต์ที่สิบสามแห่งอาวียง
c. มีความพยายามใช้ชื่อเบเนดิกต์ที่สิบสี่เป็นแอนตี้โป๊ปสองครั้งภายหลังการบัพพาชนียกรรมสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบสามแห่งอาวียง แต่ไม่ได้รับการยอมรับ ภายหลังชื่อเบเนดิกต์ที่สิบสี่ ถูกนำไปใช้เป็นชื่อสมเด็จพระสันตะปาปาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่สิบหก
d. สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบหกยังลาออกจากตำแหน่งเมื่อปี 2013 โดยเป็นการลาออกครั้งแรกในรอบเกือบหกร้อยปีภายหลังการลาออกของสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่สิบสองแห่งโรมเพื่อยุติมหาศาสนเภท
2. เนื่องจากชื่อเบเนดิกต์ที่สิบถูกนำมาใช้กับแอนตี้โป๊ปและไม่ได้มีการแต่งตั้งสมเด็จพระสันตะปาปาในชื่อนี้อย่างเป็นทางการ จึงถือว่ามีการใช้ชื่อเบเนดิกต์ในตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาทั้งหมดสิบห้าครั้งเท่านั้น
อ้างอิง
1. อนันต์ชัย เลาหะพันธุ. 2558. เรื่องน่ารู้ในยุโรปสมัยกลาง
2.
https://en.wikipedia.org/wiki/Western_Schism
3.
https://en.wikipedia.org/wiki/Pope_Benedict_XIV
4.
https://en.wikipedia.org/wiki/Antipope_Clement_VIII
5.
https://en.wikipedia.org/wiki/Pope_Gregory_XII
6.
https://en.wikipedia.org/wiki/Council_of_Constance
7.
https://en.wikipedia.org/wiki/Pope_Martin_V
8.
https://en.wikipedia.org/wiki/Antipope_John_XXIII
9.
https://en.wikipedia.org/wiki/Schism
10.
https://en.wikipedia.org/wiki/Pope_Urban_VI
มหาศาสนเภท (Great Schism) : เมื่อศาสนจักรมีสมเด็จพระสันตะปาปาสามพระองค์
1. ผมชอบอ่านประวัติศาสตร์ แต่ผมเคยเขียนแต่เรื่องทางวิทยาศาสตร์ ไม่เคยเขียนทางประวัติศาสตร์มาก่อน
2. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงปี 13XX ในทวีปยุโรป
3. คำว่ามหาศาสนเภทผมใช้ตามคำของอาจารย์อนันต์ชัย เลาหะพันธุจากหนังสือ “เรื่องน่ารู้ในยุโรปสมัยกลาง” เนื่องจากเป็นคำไทยที่ผมเห็นว่าเหมาะสมครับ
ศาสนเภท (Schism)
จริงๆแล้วมหาศาสนเภทนี้ไม่ได้จำกัดแค่เรื่องราวในครั้งนี้เท่านั้น เหตุการณ์สำคัญๆ เช่น การแยกนิกายกรีกออโธดอกซ์ออกจากโรมันคาทอลิค การที่กลุ่มชีอะห์แยกตัวจากมุสลิมสุหนี่ หรือ ใกล้ตัวเรามาก็การที่พุทธเถรวาทในไทยแยกตัวเป็นมหานิกายกับธรรมยุติ อย่างไรก็ดีในที่นี้ผมจะหมายถึงเหตุการณ์มหาศาสนเภทในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 14 ที่มีคำเรียกว่า Great schism (หรือ Western Schism/Papal Schism) ที่เหตุการณ์สืบเนื่องมาจากการจำกัดบริเวณของสมเด็จพระสันตะปาปาในฝรั่งเศสครับ
ยุโรปในช่วงยุคกลาง (ช่วงคริสต์ศตวรรษ 5-15)เป็นที่ทราบกันว่าอำนาจของศาสนจักรแผ่ไพศาลโดยอำนาจของศาสนจักรอันมีศูนย์กลางอยู่ที่โรมมีเหนือฝ่ายอาณาจักร อย่างไรก็ดีในช่วงยุคกลางตอนปลายอำนาจของศาสนจักรเริ่มเสื่อมถอย ผู้มีอำนาจในดินแดนแว่นแคว้นต่างๆเริ่มมีการรวบรวมคนต่างๆเข้าเป็นกลุ่มสะสมอำนาจเกิดเป็นอาณาจักรขึ้นมา ในช่วงนี้บางครั้งศาสนจักรก็ถูกแทรกแซง เช่น เหตุการณ์ที่สมเด็จพระสันตะปาปาถูกอัญเชิญเสด็จประทับจำกัดบริเวณให้อยู่ในฝรั่งเศส หรือ ที่เรียกว่า Babylonian captivity of Papacy (1309-1378) ซึ่งจัดว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดก่อนหน้าช่วงเวลาที่เกิดอัครมหาศาสนเภทด้วย
Babylonian captivity of Papacy
บางครั้งเรียกว่าการพำนักของสมเด็จพระสันตะปาปาแห่งเมืองอาวียง เพื่อไม่ให้สับสนกับการการคุมขังแห่งบาบิโลน (ใช้ศัพท์ตามเรื่องน่ารู้ในยุโรปสมัยกลาง) ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ของอิสราเอล
เรื่องของเรื่องคือการไม่ลงรอยกันระหว่างฝ่ายอาณาจักรโดยพระเจ้าฟิลิปที่สี่แห่งฝรั่งเศสและฝ่ายศาสนจักรโดยสมเด็จพระสันตะปาปาโบนิเฟซที่แปด (Boniface VIII 1230-1303) ในเรื่องที่ฝรั่งเศสจะเพิ่มพูนอำนาจของฝ่ายอาณาจักร จนท้ายสุดนำไปสู่การเชิญให้สมเด็จพระสันตะปาปาเสด็จมาประทับที่เมืองอาวียงในที่สุด
ภายหลังการประทับอย่างจำกัดบริเวณไม่นานสมเด็จพระสันตะปาปาก็สิ้นพระชนม์แล้วก็ได้มีการคอนเคลฟเพื่อเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่คือสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบเอ็ด (Benedict XI 1240-1304) ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์นี้ประทับที่โรม
อย่างไรก็ดีสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบเอ็ดก็สิ้นพระชนม์หลังจากนั้นไม่นานอย่างปริศนา (แปดเดือน) จึงได้มีการคอนเคลฟอีกครั้งหนึ่งครั้งนี้พระคาร์ดินัลชาวฝรั่งเศสได้รับเลือกมีการเลือกพระนามว่าสมเด็จพระสันตะปาปาเคลมงต์ที่ห้า (Clement V 1264-1314) ซึ่งทรงปฏิเสธที่จะย้ายไปพำนัก ณ กรุงโรม
ภายหลังจากนั้นเป็นเวลา 67 ปี สมเด็จพระสันตะปาปาทั้ง 7 พระองค์ขึ้นปกครองศาสนจักรที่ฝรั่งเศสและทรงมาจากคนฝรั่งเศสทั้งสิ้น จนในที่สุดวันที่ 13 กันยายน 1376 สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่สิบเอ็ด (Gregory XI 1329-1378) ได้เสด็จนิวัติกลับสู่กรุงโรม ซึ่งถือว่าเป็นการสิ้นสุดของการพำนักของสมเด็จพระสันตะปาปาแห่งเมืองอาวียง
อย่างไรก็ดีเรื่องไม่ได้จบลงแค่นั้น หลังจากเสด็จนิวัติกลับกรุงโรมได้ปีกว่าสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่สิบเอ็ดก็สิ้นพระชนม์ในวันที่ 27 มีนาคม 1378 ส่งผลให้มีการคอนเคลฟครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่กรุงโรม โดยในครั้งนี้คณะคาร์ดินัลได้ตัดสินใจว่าจะต้องไม่เลือกสมเด็จพระสันตะปาปาจากฝรั่งเศส ทั้งนี้โดยส่วนหนึ่งมาจากการชุมนุมของชาวอิตาลีที่ต้องการให้สมเด็จพระสันตะปาปาเป็นชาวอิตาลี ท้ายสุดแล้วการคอนเคลฟก็ได้สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่คือสมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่หก (Urban VI 1318-1389) ทางคณะพระคาร์ดินัลจากฝรั่งเศสได้วอล์คเอ้าท์ทันที โดยได้กลับไปเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาใหม่เป็นคนฝรั่งเศสคือสมเด็จพระสันตะปาปาเคลมงต์ที่เจ็ด (Clement VII 1342-1394) โดยจากข้อมูลของวิกิพีเดียได้แสดงให้เห็นว่าอาณาจักรต่างๆได้ให้การยอมรับสมเด็จพระสันตะปาปาเพียงสำนักเดียวแตกต่างกันต่อไปนี้
1. ฝ่ายโปรอาวียง (Avignon claimiant) ได้แก่ ฝรั่งเศส อารากอน กาสตีลและเลออง ไซปรัส เบอร์กันดี ซาวอย เนเปิ้ล สก็อตแลนด์เป็นต้น
2. ฝ่ายโปรโรม (Roman claimiant) ได้แก่ เดนมาร์ก อังกฤษ (ในตอนนั้นยังไม่ได้เป็นแองลิกัน) ฮังการี เวนิสเป็นต้น
เมื่อถึงปี 1389 สมเด็จพระสันตะปาปาเออร์บันที่หกแห่งโรมสิ้นพระชนม์ในขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาเคลมงต์ที่เจ็ดยังมีพระชนม์ชีพ ใช่ว่าเรื่องจะจบ ทางโรมได้ทำการคอนเคลฟเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ขึ้นมาคือสมเด็จพระสันตะปาปาโบนิเฟซที่เก้า (Boniface IX 1350 –1404) (สังเกตการเลือกพระนามในครั้งนี้เหมือนเป็นการจงใจให้มีพระนามต่อจากสมเด็จพระสันตะปาปาโบนิเฟซที่แปดที่ถูกเชิญเสด็จจากโรมมาประทับที่อาวียงก่อนหน้าที่จะเกิดมหาศาสนเภท-ผมเอง)
ในปี 1394 สมเด็จพระสันตะปาปาเคลมงต์ที่เจ็ดสิ้นพระชนม์ทางอาวียงก็คอนเคลฟเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบสาม (Benedict XIII 1328-1423) หลังจากนั้นก็น่าจะคาดเดาได้นะครับว่าสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบสาม (1423) สิ้นพระชนม์ที่หลังสมเด็จพระสันตะปาปาโบนิเฟซที่เก้า (1404) ดังนั้นทางโรมจึงมีการคอนเคลฟอีกครั้งเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่เจ็ด (Innocent VII 1339-1406)
การชุมนุมแห่งปีซ่า
หลังจากนั้นปีกว่าสมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่เจ็ดก็สิ้นพระชนม์ทางโรมจึงคอนเคลฟเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาอีกครั้งหนึ่งได้สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่สิบสอง (Gregory XII 1326-1417) ซึ่งในตอนนี้นี่เองทั้งฝ่ายอาณาจักรและฝ่ายศาสนจักรเริ่มมีกลุ่มที่เห็นว่าน่าจะเลิกได้แล้ว แต่อย่างไรก็ดีสมเด็จพระสันตะปาปาทั้งจากโรมและจากอาวียงไม่มีพระองค์ใดยอมใคร จึงมีการริเริ่มการแก้ปัญหามหาศาสนเภทขึ้นในปี 1378
ในตอนแรกไม่มีใครมาเข้าประชุมเพราะตามกฎสงฆ์ในขณะนั้นผู้เรียกประชุมคือสมเด็จพระสันตะปาปานั่นเอง จนท้ายสุดได้มีนักกฎหมายหลวง (หลวงหรือสงฆ์ไม่แน่ใจถ้าจะใช้ศัพท์ภาษาไทย) ได้บอกจากเรียกประชุมได้ในท้ายที่สุดที่เมืองปิซ่าปี 1409 ได้สมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่คือสมเด็จพระสันตะปาปาอเลกซานเดอร์ที่ห้า (Alexander V 1339-1410) ซึ่งภายหลังการเข้ารับตำแหน่งพระองค์ก็สิ้นพระชนม์แล้วได้มีการคอนเคลฟอีกครั้งได้สมเด็จพระสันตะปาปายอห์นที่ยี่สิบสาม (John XXIII 1370-1419) อย่างไรก็ดีในครั้งนี้ถึงแม้ว่าเสียงส่วนใหญ่จะสนับสนุนแต่ว่าทางอารากอนและสก็อตแลนด์กลับไปให้การสนับสนุนสมเด็จพระสันตะปาปาแห่งอาวียง ในขณะที่แคว้นต่างๆในดินแดนอิตาลีจำนวนหนึ่งยังคนให้การสนับสนุนสมเด็จพระสันตะปาปาแห่งโรมอยู่ดี
การชุมนุมแห่งคอนสแตนส์
Ref https://en.wikipedia.org/wiki/Sigismund,_Holy_Roman_Emperor
ในเมื่อเรื่องยังไม่จบก็มีผู้ที่คิดการณ์จะทำให้จบ นั่นคือจักรพรรดิ Sigismund (อ่านไม่ออกขอเขียนภาษาอังกฤษ) กษัตริย์แห่งเยอรมันและฮังการี จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ได้สนับสนุนให้มีการเรียกชุมนุมโดยสมเด็จพระสันตะปาปายอห์นที่ยี่สิบสาม (จากการคอนเคลฟที่ปีซ่า) ที่คอนสแตนส์ในเยอรมนี
ท้ายแล้วในที่สุดทางสว่างก็เกิดขึ้นเมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่สิบสองแห่งโรมได้ทรงลาออกจากตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปา (ซึ่งภายหลังจากนั้นอีก 600 ปีสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบหกก็ได้เป็นพระองค์ถัดมาที่ทรงลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน) และได้การประกาศบัพพาชนียกรรม (Excommunicate) สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบสามออกจากตำแหน่ง
https://en.wikipedia.org/wiki/File
ทางที่ชุมนุมได้ทำการเลือกสมเด็จพระสันตะปาปามาร์ตินที่ห้า (Martin V 1369-1431) อย่างไรก็ดีทางอารากอนยังไม่ยอมรับสมเด็จพระสันตะปาปามาร์ตินที่ห้าและยังคงภักดีต่อแอนตี้โป๊ปเบเนดิกต์ที่สิบสาม ได้ทำการเลือกแอนตี้โป๊ปเบเนดิกต์ที่สิบสี่ (อย่าสับสนกับสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบสี่) และก็มีอีกกลุ่มหนึ่งเลือกแอนตี้โป๊ปเคลมงต์ที่แปดขึ้นมา อย่างไรก็ดีเคลมงต์ที่แปดก็ลาออกและยอมรับมาร์ตินที่ห้าในที่สุด ถือเป็นการสิ้นสุดมหาศาสนเภท
เกร็ดความรู้
1. ชื่อเบเนดิกต์มีการเลือกใช้เป็นพระนามสมเด็จสมเด็จพระสันตะปาปาทั้งหมดสิบเจ็ดครั้ง โดยมีเหตุการณ์ไม่ปกติเกิดขึ้นหลายครั้งได้แก่การบัพพาชนียกรรมสมเด็จพระสันตะปาปาที่ใช้ชื่อเบเนดิกต์สองครั้ง มีการพยายามนำเป็นชื่อแอนตี้โป๊ปสองครั้งและมีการลาออกมีหนึ่งครั้งคือ
a. แอนตี้โป๊บเบเนดิกต์ทิ่สิบ (ไม่มีการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสันตะปาปาอย่างเป็นทางการ)
b. สมเด็จพระสันตะปาปา (แอนตี้โป๊ป) เบเนดิกต์ที่สิบสามแห่งอาวียง
c. มีความพยายามใช้ชื่อเบเนดิกต์ที่สิบสี่เป็นแอนตี้โป๊ปสองครั้งภายหลังการบัพพาชนียกรรมสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบสามแห่งอาวียง แต่ไม่ได้รับการยอมรับ ภายหลังชื่อเบเนดิกต์ที่สิบสี่ ถูกนำไปใช้เป็นชื่อสมเด็จพระสันตะปาปาในช่วงคริสต์ศตวรรษที่สิบหก
d. สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบหกยังลาออกจากตำแหน่งเมื่อปี 2013 โดยเป็นการลาออกครั้งแรกในรอบเกือบหกร้อยปีภายหลังการลาออกของสมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่สิบสองแห่งโรมเพื่อยุติมหาศาสนเภท
2. เนื่องจากชื่อเบเนดิกต์ที่สิบถูกนำมาใช้กับแอนตี้โป๊ปและไม่ได้มีการแต่งตั้งสมเด็จพระสันตะปาปาในชื่อนี้อย่างเป็นทางการ จึงถือว่ามีการใช้ชื่อเบเนดิกต์ในตำแหน่งสมเด็จพระสันตะปาปาทั้งหมดสิบห้าครั้งเท่านั้น
อ้างอิง
1. อนันต์ชัย เลาหะพันธุ. 2558. เรื่องน่ารู้ในยุโรปสมัยกลาง
2. https://en.wikipedia.org/wiki/Western_Schism
3. https://en.wikipedia.org/wiki/Pope_Benedict_XIV
4. https://en.wikipedia.org/wiki/Antipope_Clement_VIII
5. https://en.wikipedia.org/wiki/Pope_Gregory_XII
6. https://en.wikipedia.org/wiki/Council_of_Constance
7. https://en.wikipedia.org/wiki/Pope_Martin_V
8. https://en.wikipedia.org/wiki/Antipope_John_XXIII
9. https://en.wikipedia.org/wiki/Schism
10. https://en.wikipedia.org/wiki/Pope_Urban_VI