จักรยานขึ้นรถไฟไปให้สุด กับสังขละเมืองต้องมนต์ ภาค2

มาต่อจากตอนแรกนะคับ หลังจากที่ยืนดูน้องๆทั้งร้องทั้งเต้นสักพักนึก ท้องก็เริ่มหิว ต้องบ้ายบาย น้องๆไปก่อนแล้ว ปั่นๆไปตลาดถนนคนเดินกัน



ปั่นๆมาสักพักก็ถึงถนนคนเดิน ซึ่งระยะทางจากสะพานมอญมาถนนคนเดินประมาณสัก 2 กิโลเมตร.ซึ่งคินนี้ตรงกับวันเด็ก ที่ถนนคนเดินจึงมีกิจกรรมวันเด็ก.และเด็กมากมายทั้งเด็กชาวไทยและเด็กชาวพม่าเชื้อสายมอญและเชื้อสายอื่นๆ ออกมาทำกิจกรรมกัน.ก่อนจะมาดูกิจกรรมของน้องๆไปหาอะรัยกินให้หายหิวก่อนดีกว่า ปั่นไปเรื่อยๆก็มาสะดุดตากับร้านนี้ มันคือร้านหมูจุ่ม ของขึ้นชื่อของที่นี่ที่ไครๆมาก็ต้องลอง และผมขอบอกเลยคับว่าห้ามพลาด








หมูจุ่มที่นี้เขาขายเป็นไม้คับไม้ละ 1 บาท.กินกับน้ำจิ้ม มี 2 รสชาติคับ มีน้ำจิ้มซีฟูดกับน้ำจิ้มคล้ายๆน้ำจิ้มสุกี้ กินไปจิบไปเรื่อยๆมันช่างมีความสุขซะนี้กะไร แถมมีเพื่อนแปลกหน้าที่ไม่ได้รู้จักพูดคุยกันสนุกสนาน มื้อนี้อย่าให้บอกว่าผมจัดไปกี่ไม้ลองดูจำนวนไม้เลยละกัน555

หลังจากที่หนังท้องเริ่มตึง หัวก็เริ่มตึงๆเพราะจิบเยอะไปหน่อย ก็ได้เวลาบ๊ายบายหม้อหมูจุ่ม แล้วไปดูบรรยากาศภายในถนนคนเดินกันบ้างดีกว่า








เดินถนนคนเดินจนเพลินเหลือบดูนาฬิกาเกือบ 4 ทุ่มแล้ว.คงต้องกลับที่พักของเราดีกว่า เดี๊ยวจะวังเวงไปเดินทางคนเดียว 555. จับน้องปั่นๆ ปั่นกลับสะพานมอญ มาดูบรรยากาศสะพานมอญยามคำคืนกันบ้าง ก็สวยงามไปอีกแบบนึงนะ






และแล้วก็กลับมาถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ กลับมาถึงที่พักเห็นน้องๆกลุ่ม มอเตอร์ไซค์กำลังจัดมื้อดึกกัน กับเมนูมาม่าต้มเห็นแล้วก็น่าสนใจไม่น้อย เข้ากับบรรยากาศเย็นๆแบบนี้จัง

น้องๆเขาก็ใจดีชวนผมให้ร่วมแจมกับเมนูนี้ด้วยกัน แต่ผมขอบายเนื่องจากผมก็จัดมาเต็มที่แล้วหนังท้องยังตึงอยู่เลย เลยขอตัวไปอาบน้ำเตรียมตัวนอน เพื่อพรุ่งนี้จะได้ตื่นแต่เช้าใส่บาตรยามเช้ากัน เจอกันใหม่พรุ่งนี้เช้านะคับ ราตรีสวัสดิ์
มอร์นิ่งคับเช้าแรกที่สังขละกับบรรยากาศสดชื่นที่สะพานมอญ





หลังจากเดินชิลบนสะานมอญสักพัก ก็เตรียมตัวไปใส่บาตรยามเช้ากันดีกว่า นักท่องเที่ยวมากมายมารอเตรียมใส่บาตรกันดูคึกคักมาก



ทุกคนยืนเป็นแถวพร้อมเพียงกันมาก และใจจดใจจ่อที่จะได้ใส่บาตรกัน



แต่เหมือนรอนานไปหน่อยกว่าพระจะมาถึงบริเวณที่เรายืน เพราะเนื่องจากมีคนใส่บาตรกันจำนวนมาก สภาพเลยเป็นเช่นนี้

รอสักพักใหญ่พระก็เดินมาถึง ใส่บาตรกันดีกว่า




ที่นี่เขาจะตักบาตรด้วยข้าวสวยคับ และอาหารแห้ง ส่วนอาหารที่กินกับข้าวสวยคนในหมู่บ้านจะปรุงและนำไปที่วัดอีกทีนึงคับ
และนี่คือหนึ่งพลังศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่ทุกคนร่วมกันทำบุญในวันนี้คับ


หลังจากอิ่มบุญกันแล้ว ก็หาอะไรกินอิ่มท้องกันดีกว่า จะกินอะรัยมื้อเช้าที่นี่ดี กินโจ๊กก็ดูเหมือนจะธรรมดาไป จัดขนมจีนแกงหยวก ของกินพื้นบ้านที่นี่ดีกว่า


และมีถั่วงอกทอด กินกับน้ำจิ้มหรือกินกับขนมจีนก็เข้ากันนะคับ ส่วนรสชาติน้ำยาแกงหยวกก็ออกจะจืดๆนิดนึง แต่ก็อร่อยไปอีกแบบคับ


เมื่ออิ่มแล้วไปไหนดีละ นั่งเรือไปชมวัดกลางน้ำดีกว่า ที่นั่นจะมีเรือคอยบริการพานั่งท่องเที่ยว อัตราค่าบริการก็ 500 บ./6 คน.
ผมไปคนเดียวเลยต้องรอพ่วงไปกับกลุ่มอื่น.



นั่งออกมาสักพักก็จะเห็นเจดีย์พุทธคยะอยู่ไม่ไกล.

นั่งมาสักพักก็มาถึงวัดที่ 1 ผมจำชื่อวัดไมได้



บรรยากาศภายในวัด


เดินชมวัดประมาณ 15 นาทีก็ไปต่อวัดที่ 2






ไปวัดที่ 3 กันต่อ ส่วนวัดที่ 3 จะอยู่ในน้ำไม่สามารถเข้าไปเดินดูภายในวัดได้ ได้แต่นั่งเรือวนดูรอบๆวัด



หลังจากล่องเรือเที่ยววัดครบทั้ง 3 วัดแล้วก็กลับเข้าฝั่งที่เดิม



ขึ้นฝั่งมาคิดโปรแกรมเที่ยวไหนต่อดี มาถึงนี่แล้วไม่ได้เข้าไปกราบไหว้หลวงพ่ออุตตมะ พระคู่บ้านคู่เมืองที่นี่ ก้เหมือนมาไม่ถึงจิงมะ จากสะพานมอญถึงวัดก็ประมาณ 3 กม.ก็เดินทางกับน้องปั่นๆคู่ใจไปกันๆ GOๆๆ

ผ่านโรงเรียนหลวงพ่ออุตมะมา เจอเจ้าถิ่นด้วยเลยไม่ค่อยกล้าเข้าไปข้างในเลย.555

เจอ 3 แยกก็เลี้ยวขวาไปวัดหลวงพ่อ ถ้าเลี้ยวซ้ายก็ไปเจดีย์พุทธคยะ จาก 3 แยกเลี้ยวขวามาไม่ถึงกิโลก็จะถึงวัดแล้ว









หลังจากกราบไหว้พระศพ หลวงพ่อเสร็จแล้วก็ มารับลูกประคำคล้องคอจากหลวงพี่ มาดูวิธีให้ลูกประจากหลวงพี่กันดีกว่า พูดได้ว่าแม่นยำมากๆไม่มีพลาดเลย ผมก็ได้มาเส้นนึงไว้บูชา


ออกไปเดินชมบรรยากาศภายในวัดกันดีกว่า