สสส. หรือหลายฝ่าย นั่นเข้าร่วม และพอให้กลไกปกติหยุด เพื่อให้กลไกอำนาจใหม่ที่ตน เข้าถึงได้มากกว่าคนอื่น เดินหน้า 
ถ้าคุณยึดหลักการ เมื่อยุบสภาก็ต้องหยุดแล้ว เรามาหาฉันทามติใหม่ แต่ไม่เอาระบบ เอาวิธีที่ตัวเองใกล้ชิด หรือมีอภิสิษมากกว่า 
อาจารย์เดชรัต บอกว่า คุณต้องยึดหลักการ ไม่ใช่ว่า เราใช้วิธีการนอกระบบกับคนอื่น หรือเรื่องที่คุณไม่เห็นด้วยคุณชอบใจ พอคุณโดนเอง คุณไม่พอใจ
ไม่ได้ ฝ่ายประชาธิปไตยก็เหมือนกันนะครับ ต้องระวังใจตัวเอง  นั่นมันผลประโยชน์ทับซ้อนชัดๆ เห็นแก่ผลที่ตัวเองได้มากกว่า หลักการ 
ในกรณี สสส มาตรา 44 ไม่โอเค กรณีอะไรที่มากกว่ากฎหมายปกติ เช่น เอาคนขึ้นศาลทหาร ก็เช่นเดียวกัน																															
						 
												
						
					
มองกรณี สสส หมอมงคล แล้ว...ผมคิดถึงคำพูดอาจารย์เดชรัต
ถ้าคุณยึดหลักการ เมื่อยุบสภาก็ต้องหยุดแล้ว เรามาหาฉันทามติใหม่ แต่ไม่เอาระบบ เอาวิธีที่ตัวเองใกล้ชิด หรือมีอภิสิษมากกว่า
อาจารย์เดชรัต บอกว่า คุณต้องยึดหลักการ ไม่ใช่ว่า เราใช้วิธีการนอกระบบกับคนอื่น หรือเรื่องที่คุณไม่เห็นด้วยคุณชอบใจ พอคุณโดนเอง คุณไม่พอใจ
ไม่ได้ ฝ่ายประชาธิปไตยก็เหมือนกันนะครับ ต้องระวังใจตัวเอง นั่นมันผลประโยชน์ทับซ้อนชัดๆ เห็นแก่ผลที่ตัวเองได้มากกว่า หลักการ
ในกรณี สสส มาตรา 44 ไม่โอเค กรณีอะไรที่มากกว่ากฎหมายปกติ เช่น เอาคนขึ้นศาลทหาร ก็เช่นเดียวกัน