สยามศิลปิน- อุชเชนี กวีหญิงผู้เจียระไนเพชรแห่งภาษา

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

รายการ สยามศิลปิน ปีที่ ๓ ชุดที่ ๒
ตอน อุชเชนี กวีหญิงผู้เจียระไนเพชรแห่งภาษา


อุชเชนี-นามนี้เปี่ยมศรัทธา

ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา หรือ อุชเชนี  เกิดในปี พ.ศ. 2462 ที่กรุงเทพมหานคร  เรียนหนังสือที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์
เรียนมหาวิทยาลัยที่ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  จบปริญญาโทเกียรตินิยม ภาษาฝรั่งเศส พ.ศ. 2488
และได้ทุนไปศึกษาต่อที่ปารีส 1 ปี  เริ่มเขียนกลอนตั้งแต่เข้าเรียนจุฬาฯ โดยมีรุ่นพี่ตั้งนามปากกาให้ว่า “อุชเชนี”.พ.ศ. 2489 เริ่มเขียนกลอนสั้น ๆ “มะลิแรกแย้ม” ลงพิมพ์ในหนังสือ “บ้าน- กับโรงเรียน”ในนาม “มะลิสด” พ.ศ. 2491 เปลี่ยนแนวการแต่งจากรักเป็นเรื่องของคนทุกข์ยาก
คือ “ใต้- โค้งสะพาน”ลงในหนังสือ “การเมือง” พ.ศ. 2499 มีการรวมพิมพ์เป็นเล่มระหว่าง
“อุชเชนี” และ “นิด นรารักษ์” ชื่อ “ขอบฟ้าขลิบทอง” บอกเล่าเรื่องราวเพื่อเสริมสร้างการมองโลกในแง่ดี โดยเฉพาะความรู้สึกของชนชั้นกลางที่เห็นคุณค่าของชนชั้นที่ต่ำกว่า ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ ระหว่างความรวยและความจน กลับมาเป็นอาจารย์ที่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สมรสกับหม่อมหลวงจิตรสาน ชุมสาย ณ อยุธยา พ.ศ. 2536 ระหว่างศึกษาที่ฝรั่งเศสได้อ่านหนังสือวรรณคดีชั้นเยี่ยมของฝรั่งเศสจำนวนมากซึ่งมีอิทธิพลต่อความคิดที่จะสร้างสรรค์งานที่มีค่าต่อสังคม เมื่อกลับมาเป็นอาจารย์มีโอกาสได้ติดตาม
นายแพทย์และบาทหลวงเข้าไปทำงานที่แหล่งเสื่อมโทรม และมีจิตสำนึกแบบชาวคาทอลิกที่เคร่งครัดว่าควรจะต้องทำอะไรเพื่อคนจน ทำให้เธอเขียนบทกวีที่สะท้อนภาพสังคมในเชิงมนุษยธรรมได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์
ในปี พ.ศ. 2536  
หนังสือเรื่อง ขอบฟ้าขลิบทอง เป็นหนังสือที่ได้รับการคัดเลือกว่าเป็นงานวรรณกรรมที่น่าอ่าน มีคุณค่าทางศิลปวรรณกรรม ครบถ้วนตามแนวทางของวรรณกรรมโลกหรือวรรณกรรมสากลมีเนื้อหาสาระที่แสดงออกถึงความริเริ่มสร้างสรรค์ ช่วยให้ผู้อ่านมีทัศนะต่อชีวิตและต่อโลกกว้างขึ้น ได้รับความรู้ ความคิดอ่าน ความบันเทิงทางศิลปะวัฒนธรรม ปรากฏแจ้งใน หนังสือดี 100 เล่มที่คนไทยควรอ่าน"....
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อาจารย์ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา หรือนามปากกา"อุชเชนี" นามปากกาของท่านมาจากนามนักบุญองค์อุปถัมภ์ของท่านคือนักบุญ เออเชนี (Eug Enie)
ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (กวีนิพนธ์)  ในปี พ.ศ. 2536 นอกจากนี้ท่านยังทำงานรับใช้พระศาสนจักรคาทอลิกในด้านการแปลเเละประพันธ์หนังสือ เอกสาร การบัญญัติศัพท์ บทเพลง บทภาวนาต่างๆ
น้ำจากพระทัย
(ประพันธ์โดย อุชเชนี  ทำนองโดยดนู ฮันตระกูล)
1. น้ำจากพระทัย          พราวใสกว่าเพชรล้ำค่า
คือน้ำจากพระเมตตา      หยาดจากฟ้ามาดิน
2. น้ำจากพระทัย          หลั่งไหลล้างโทษเราสิ้น
เสกความใหม่ให้ชีวิน      โบยบินตามพระองค์ไป
(**)ดุจนกลอยล่องลมบน      ดังฝนพรมสดหยดใส
พฤกษ์ผลิช่องสล้างพร่างไพร      ดอกไม้แย้มยิ้มพริ้มบาน
4. น้ำจากพระทัย          คือความชื่นใจสุขศานต์
อมฤตอมตะพระประทาน      ตลอดกาลชีวันนิรันดร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่