คุณคิดว่าตายแบบไม่ทันตั้งตัว กับ มีชีวิตอยู่จนแก่แต่ก่อนตายเจ็บป่วยทรมาน แบบไหนดีกว่ากัน

กระทู้สนทนา
ถ้าให้เลือกได้ คนส่วนใหญ่ก็อยากจะอายุยืน และไม่เจ็บไข้ได้ป่วยกันใช่มั้ยคะ
แต่ตามธรรมชาติ เวลาคนเราแก่เฒ่าก็มักจะมีโรคภัยตามประสาคนแก่ที่ร่างกายเสื่อมสภาพ

พ่อของเราเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรงมากค่ะ เป็นคนที่มีวินัยในเรื่องการกินการนอนมาก แต่ก็เสียชีวิตด้วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ก็คือหัวใจวายนั่นเอง  ก่อนเสียชีวิตพ่อแทบไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ อยู่ๆก็เกร็ง กระตุก และขาดใจตายไปเลย
ช่วงชีวิตที่ผ่านมาของพ่อ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี เพื่อนฝูงเยอะ เป็นที่รักของพี่น้อง และทำงานหนักเพื่อลูก  พ่อผ่านปัญหาชีวิตและมรสุมหลายอย่าง กว่าจะเคี่ยวเข็นให้ลูกแต่ละคนเป็นคนดี และเติบโตจนช่วยเหลือตัวเองได้
จนพวกเราพี่น้อง เรียนจบมีงานทำ พ่อจึงได้มีโอกาสใช้ชีวิตตามที่เขาฝันมานาน  เช่น ได้เดินทางไปดูแลปู่บ่อยขึ้น ได้ไปช่วยอาทำงาน  ได้ทำงานอดิเรก  ช่วงชีวิตของพ่อตอนนั้น เรารู้ว่าพ่อมีความสุขมากๆ เหมือนเขาปลดล็อคและปล่อยวางปัญหาต่างๆ ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ปรารถนามานาน  และนั่นก็ทำให้แม่มีความสุขไปด้วย  พ่อได้ใช้ชีวิตอย่างที่ฝันได้ไม่ถึง 2 ปี  ก็เสียชีวิตด้วยวัย 57 ปี
เรารู้สึกเสียดาย ที่พ่อมีเวลาได้ใช้ชีวิตอย่างที่ฝันน้อยมากๆ  แต่ใจนึงก็รู้สึกว่าเขาไปสบาย  เพราะตอนเปิดโลงดูหน้ากันครั้งสุดท้าย พ่อเหมือนคนนอนหลับ หน้าไม่เกร็ง ปากปิดสนิท ผิวขาวเนียน หน้าตาอิ่มเอิบอมชมพู  ไม่เหมือนคนตายเลยค่ะ  เราคนเป็นแท้ๆยังดูโทรมกว่า
จนถึงวันนี้ก็ 5ปีแล้ว ที่พ่อจากไป

ปัจจุบัน เราเห็นตากับยายซึ่งกำลังป่วยด้วยโรคชรา และโรคประจำตัว
ทั้งคู่ นอนติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้ เดินก็ไม่ได้
ยายเป็นอัมพฤกซีกขวา เจ็บปวดทรมานด้วยโรคไขข้อ  เนื่องจากนอนติดเตียงจึงทำให้ระบบขับถ่ายแย่ไปด้วย จะถ่ายแต่ละทียากมาก เลือดพุ่งกระจายเลยก็มี  ช่วงแรกที่แกเป็นอัมพฤกใหม่ๆ  ก็บ่นอยากตายทุกวัน
ส่วนตา เป็นเบาหวาน ความดัน ไต  และล้มป่วยด้วยอาการปอดติดเชื้อจนต้องใส่ท่อที่คอ  ช่วงแรกที่แกรับสภาพตัวเองไม่ได้  ก็เอาแต่อาละวาด พูดเพ้อเจ้อไปเรื่อย จนแม่เราต้องพาไปหาหมอจิตเวช  หมอก็ให้ยามากินเพื่อลดความเครียด
เนื่องจากนอน รพ.นานเป็นเดือน  แกก็มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงจึงทำให้เดินเองไม่ได้  ทุกๆคืนตาไม่เคยหลับสนิทเลย  เพราะเสลดเยอะ ไอแทบจะตลอดเวลา  บางคืนหนักมากไอจนหน้าแดงและไม่ได้นอน  แกบ่นอยากตายเกือบทุกวัน  เพราะแกเหนื่อยและทรมาน
น่าสงสารมากทั้งคู่  ลูกหลานก็ทำได้แค่ดูแลให้เขาได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี  แต่เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ ก็คงต้องให้เป็นไปตามกลไกของการรักษา และธรรมชาติของสังขาร


เราสงสัยว่า  คนบางคนที่มีความสุขในการใช้ชีวิต ทำไมถึงไม่มีโอกาสได้มีชีวิตอยู่  แต่คนที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ กลับจำใจที่จะต้องอยู่ต่อไปอย่างทรมาน

บางทีเห็นคนแก่ไปโรงพยาบาลคนเดียว เดินกระย่องกระแย่งไปรับยาเอง คิดไปคิดมา  เราก็ดีใจอย่างนึง ที่พ่อเราไม่ต้องมาเผชิญกับความชรา และความเจ็บป่วยแบบนี้

ถ้าเลือกได้   เราก็อยากจากโลกนี้ไปด้วยความสุขและไม่เจ็บปวดเหมือนพ่อเรา  น่าจะดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่