ตึก.. ตึก.. ตึก.. ตึก.. ตึก.. ตึก..
แชะ
ตึก.. ตึก.. ตึก.. ตึก..
แชะ แชะ แชะ แชะ
ตึก.. ตึก.. ตึก..
แป้น!!.......เอี้ยดดด!!...
"เห้ย ๆ ๆ ๆ!!" เสียงดังสนั่นหวั่นไปรอบๆสวนสาธารณะ ในขณะที่ทุกคนกำลังทำกิจกรรมตามปกติสุข สายตาทุกคนจ้องมองไปที่จุดกำเนิดเสียงพร้อมกัน
"มายืนขวางถนนทำไม!! ออกไปจากถนนเดี๋ยวนี้!!" ต้นเสียงที่ดังกังวาล มาจากเจ้าของรถที่บีบเสียงแตรที่ดังกว่าเสียงตะโกนที่สนั่นหวั่นไหวกว่าอีก ตอนนี้สายตาทุกคนหัดไปจ้องมองที่ๆเจ้าของรถมองอยู่
เด็กหนุ่มเซอร์ๆผมยาว ใส่หูฟังมียี่ห้อทั้งสองข้าง พร้อมกับกล้องที่พร้อมถ่ายได้เสมอ เด็กหนุ่มยืนนิ่งเป็นหินอยู่กลางถนน เหม่อท้องฟ้าที่ถูกต้นไม้บดบัง แสงสาดส่องสว่างเป็นทำให้เขาดูเด่นตะหง่า ราวกับ พระเอกได้รับชัยชนะจากเหล่าวายร้าย
เจ้าของรถบีบแตรอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง แต่ไม่มีแม้สัญญาณตอบจากเด็กหนุ่มผู้นั้น เด็กหนุ่มยังยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นไม่ไหวติง จนเจ้าของรถหมดวามอดทน เสียงแตรไม่สามารถช่วยอะไรได้ ด้วยความเกรี้ยวโกรธจนลมออกหู เจ้าของรถเปิดประตูรถออกมาพร้อมกับปิดกลับอย่างแรง เสียงที่ปิดทำเอาหลายคนแถวนั้นสะดุ้งตกใจกันเป็นแถว
เจ้าของรถสะกิดเด็กหนุ่ม "เห้ย!!" เด็กหนุ่มสะดุ้งเหือก พร้อมกับดึงหูฟังออก เสียงของเพลงในหูฟังลอยออกมา ขนาดคนที่อยู่ข้างฟุตบาทยังได้ยินจังหวะของเพลง
"ครับ" เด็กหนุ่มตอบกลับด้วยความสงสัย ไร้เดียงสา
เจ้าของรถหัวเสียทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนี้ "นี่มันถนน!! ไว้ให้รถขับ จะยืนขวางทำไม!!"
"ผมขอโทษครับพี่ พอดีผมกำลังสร้างฟิลลิ่งอยู่อ่ะครับ"
"ฟิลลิ่งฟิลเลิ่งอะไร!! ไปยืนบนฟุทบาทโน่น!!.."
เด็กหนุ่มนึกได้จึงรีบดันตัวเองขึ้นฟุตบาท "ผมขอโทษครับพี่" เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่สำนึกผิด
"เออ!! แค่เนี๊ยะแหละ ต้องให้เดินออกมาบอก" เจ้าของพูดด้วยความโฒโหพร้อมเดินกลับไปที่รถ และปิดประรถเสียงดังเช่นเดิม ทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก
"ไอ้น้อง!!" เจ้าของรถเรียกเจ้าหนุ่ม "ครับพี่" เด็กหนุ่มตอบ "จำไว้นะเว้ย!! ถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจจะไม่ได้ใจเย็นเหมือนพี่เว้ย! ระวังตัวไว้ด้วย!" เจ้าพูดพร้อมออกตัวไปอย่างรวดเร็ว "ครับพี่!! ผมขอโทษด้วยครับ"
ทุกอย่างกลับสู่สภาพปกติ ยกเว้นแต่เด็กหนุ่มที่ถูกคนในเหตุการณ์จ้องกันเป็นระยะๆ จนเด็กหนุ่มต้องรีบเดินออกมาจากตรงนั้นด้วยความอายอย่างหนัก
เด็กหนุ่มผู้ไร้เดียงสากำลังเดินไปอย่างไม่มีจุดหมาย ความเหม่อลอยของเขาทำให้เขาสามารถถ่ายภาพได้หลายจุดระหว่างเดิน ภาพที่มีความสวย ภาพที่ไม่มีไร้ความหมาย ภาพที่สื่ออะไรไม่ได้ ถูกบันทึกลงในกล้องของเขาเรื่อยๆ ทุกสิ่งดูไร้ความรู้สึกสำหรับเขา ดูไม่มีชีวิตชีวา ดูไม่มีสีสันอะไรเลย เขาถอนหายพร้อมเดินไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ จนไปหยุดที่ม้านั่งที่แสงสาดส่องอย่างอบอุ่น เด็กหนุ่มยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อก้มดูม้านั่ง แล้วมองไปทางที่แสงสาดส่องลงมา เด็กหนุ่มยืนมองไปทางเดียวกันกับม้านั่ง แสงแดดยามเย็นส่องตกกระได้เงาพอดีม้านั่งตัวนั้น แสงแดงอุ่นๆกับน้ำที่พลิ้วไหวไปมา ลมเย็นๆที่พัดมาทางม้านั่งอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด เด็กหนุ่มนั่งลงอย่างใจเย็นที่สุด เขาสูดหายใจเข้าและปล่อยออกทางปาก เขาทำอย่างนี้อยู่ 2-3 ครั้ง ทุกอย่างดูเงียบสงบ เด็กหนุ่มหลับตาลง ฟังเสียงของลม น้ำ เสียงที่เบาแต่ดูสงบที่สุด ความอบอุ่นแดด และความวุ่นวายของถนน
"ยังจำได้ด้วยเหรอ" เสียงเด็กหญิงปริศนาเปร่งออกมาด้านข้างม้า
"อืม" เด็กหนุ่มพูดออกมาโดยไม่หัน เสียงที่เย็นยะเยือก ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูหดหู่ลงโดยขนัด
เด็กหญิงคนนั้นนั่งอีกฝั่งของม้าอย่างเงียบๆโดยไม่พูดอะไร
"นี่กี่ปีมาแล้วนะ"เด็กหญิงถาม
"ห้าปีแล้วล่ะ"เด็กหนุ่มตอบด้วยเสียงที่หดหู่เบาๆ
"เร็วจังเลยเนอะ"เด็กหญิงตอบด้วยเสียงสะอื้น เด็กหนุ่มหันไป น้ำตาของเด็กหญิงไหลออกมาไม่ขาดสาย เด็กหนุ่มไม่ตอบกลับแม้แต่ความรู้สึกใดๆ
"ยังลืมไม่ได้อีกเหรอ" เด็กหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงปกติ
"ลืมบ้าอะไรหล่ะ..ฟึด ไม่เคยหายไปเลยตั้งหาก..ฟืด" เด็กหญิงพูดไปร้องไห้ไป ความดีใจขอเด็กหญิงทำให้เด็กหนุ่มพอชื่นใจได้บ้าง
"เหมือนกัน" เด็กหนุ่มยิ้มให้ รอยยิ้มนั้นทำให้น้ำตาของเด็กหญิงหาไป พร้อมกับเพิ่มรอยยิ้มบนใบหน้าออกมา
"ขอใจมากนะที่ยังจำกันใจ" เด็กหญิงพูด "อืม" เด็กหนุ่มตอบกลับ
_________________________________________________จบ______________________________________________________
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ช่วยแนะนำและติเตียนเข้ามาด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
เรื่องเล่าจาก 1 ภาพ (10.1/366)
ตึก.. ตึก.. ตึก.. ตึก.. ตึก.. ตึก..
แชะ
ตึก.. ตึก.. ตึก.. ตึก..
แชะ แชะ แชะ แชะ
ตึก.. ตึก.. ตึก..
แป้น!!.......เอี้ยดดด!!...
"เห้ย ๆ ๆ ๆ!!" เสียงดังสนั่นหวั่นไปรอบๆสวนสาธารณะ ในขณะที่ทุกคนกำลังทำกิจกรรมตามปกติสุข สายตาทุกคนจ้องมองไปที่จุดกำเนิดเสียงพร้อมกัน
"มายืนขวางถนนทำไม!! ออกไปจากถนนเดี๋ยวนี้!!" ต้นเสียงที่ดังกังวาล มาจากเจ้าของรถที่บีบเสียงแตรที่ดังกว่าเสียงตะโกนที่สนั่นหวั่นไหวกว่าอีก ตอนนี้สายตาทุกคนหัดไปจ้องมองที่ๆเจ้าของรถมองอยู่
เด็กหนุ่มเซอร์ๆผมยาว ใส่หูฟังมียี่ห้อทั้งสองข้าง พร้อมกับกล้องที่พร้อมถ่ายได้เสมอ เด็กหนุ่มยืนนิ่งเป็นหินอยู่กลางถนน เหม่อท้องฟ้าที่ถูกต้นไม้บดบัง แสงสาดส่องสว่างเป็นทำให้เขาดูเด่นตะหง่า ราวกับ พระเอกได้รับชัยชนะจากเหล่าวายร้าย
เจ้าของรถบีบแตรอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง แต่ไม่มีแม้สัญญาณตอบจากเด็กหนุ่มผู้นั้น เด็กหนุ่มยังยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นไม่ไหวติง จนเจ้าของรถหมดวามอดทน เสียงแตรไม่สามารถช่วยอะไรได้ ด้วยความเกรี้ยวโกรธจนลมออกหู เจ้าของรถเปิดประตูรถออกมาพร้อมกับปิดกลับอย่างแรง เสียงที่ปิดทำเอาหลายคนแถวนั้นสะดุ้งตกใจกันเป็นแถว
เจ้าของรถสะกิดเด็กหนุ่ม "เห้ย!!" เด็กหนุ่มสะดุ้งเหือก พร้อมกับดึงหูฟังออก เสียงของเพลงในหูฟังลอยออกมา ขนาดคนที่อยู่ข้างฟุตบาทยังได้ยินจังหวะของเพลง
"ครับ" เด็กหนุ่มตอบกลับด้วยความสงสัย ไร้เดียงสา
เจ้าของรถหัวเสียทันทีเมื่อได้ยินคำพูดนี้ "นี่มันถนน!! ไว้ให้รถขับ จะยืนขวางทำไม!!"
"ผมขอโทษครับพี่ พอดีผมกำลังสร้างฟิลลิ่งอยู่อ่ะครับ"
"ฟิลลิ่งฟิลเลิ่งอะไร!! ไปยืนบนฟุทบาทโน่น!!.."
เด็กหนุ่มนึกได้จึงรีบดันตัวเองขึ้นฟุตบาท "ผมขอโทษครับพี่" เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงที่สำนึกผิด
"เออ!! แค่เนี๊ยะแหละ ต้องให้เดินออกมาบอก" เจ้าของพูดด้วยความโฒโหพร้อมเดินกลับไปที่รถ และปิดประรถเสียงดังเช่นเดิม ทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก
"ไอ้น้อง!!" เจ้าของรถเรียกเจ้าหนุ่ม "ครับพี่" เด็กหนุ่มตอบ "จำไว้นะเว้ย!! ถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจจะไม่ได้ใจเย็นเหมือนพี่เว้ย! ระวังตัวไว้ด้วย!" เจ้าพูดพร้อมออกตัวไปอย่างรวดเร็ว "ครับพี่!! ผมขอโทษด้วยครับ"
ทุกอย่างกลับสู่สภาพปกติ ยกเว้นแต่เด็กหนุ่มที่ถูกคนในเหตุการณ์จ้องกันเป็นระยะๆ จนเด็กหนุ่มต้องรีบเดินออกมาจากตรงนั้นด้วยความอายอย่างหนัก
เด็กหนุ่มผู้ไร้เดียงสากำลังเดินไปอย่างไม่มีจุดหมาย ความเหม่อลอยของเขาทำให้เขาสามารถถ่ายภาพได้หลายจุดระหว่างเดิน ภาพที่มีความสวย ภาพที่ไม่มีไร้ความหมาย ภาพที่สื่ออะไรไม่ได้ ถูกบันทึกลงในกล้องของเขาเรื่อยๆ ทุกสิ่งดูไร้ความรู้สึกสำหรับเขา ดูไม่มีชีวิตชีวา ดูไม่มีสีสันอะไรเลย เขาถอนหายพร้อมเดินไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ จนไปหยุดที่ม้านั่งที่แสงสาดส่องอย่างอบอุ่น เด็กหนุ่มยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อก้มดูม้านั่ง แล้วมองไปทางที่แสงสาดส่องลงมา เด็กหนุ่มยืนมองไปทางเดียวกันกับม้านั่ง แสงแดดยามเย็นส่องตกกระได้เงาพอดีม้านั่งตัวนั้น แสงแดงอุ่นๆกับน้ำที่พลิ้วไหวไปมา ลมเย็นๆที่พัดมาทางม้านั่งอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด เด็กหนุ่มนั่งลงอย่างใจเย็นที่สุด เขาสูดหายใจเข้าและปล่อยออกทางปาก เขาทำอย่างนี้อยู่ 2-3 ครั้ง ทุกอย่างดูเงียบสงบ เด็กหนุ่มหลับตาลง ฟังเสียงของลม น้ำ เสียงที่เบาแต่ดูสงบที่สุด ความอบอุ่นแดด และความวุ่นวายของถนน
"ยังจำได้ด้วยเหรอ" เสียงเด็กหญิงปริศนาเปร่งออกมาด้านข้างม้า
"อืม" เด็กหนุ่มพูดออกมาโดยไม่หัน เสียงที่เย็นยะเยือก ทำให้บรรยากาศโดยรอบดูหดหู่ลงโดยขนัด
เด็กหญิงคนนั้นนั่งอีกฝั่งของม้าอย่างเงียบๆโดยไม่พูดอะไร
"นี่กี่ปีมาแล้วนะ"เด็กหญิงถาม
"ห้าปีแล้วล่ะ"เด็กหนุ่มตอบด้วยเสียงที่หดหู่เบาๆ
"เร็วจังเลยเนอะ"เด็กหญิงตอบด้วยเสียงสะอื้น เด็กหนุ่มหันไป น้ำตาของเด็กหญิงไหลออกมาไม่ขาดสาย เด็กหนุ่มไม่ตอบกลับแม้แต่ความรู้สึกใดๆ
"ยังลืมไม่ได้อีกเหรอ" เด็กหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงปกติ
"ลืมบ้าอะไรหล่ะ..ฟึด ไม่เคยหายไปเลยตั้งหาก..ฟืด" เด็กหญิงพูดไปร้องไห้ไป ความดีใจขอเด็กหญิงทำให้เด็กหนุ่มพอชื่นใจได้บ้าง
"เหมือนกัน" เด็กหนุ่มยิ้มให้ รอยยิ้มนั้นทำให้น้ำตาของเด็กหญิงหาไป พร้อมกับเพิ่มรอยยิ้มบนใบหน้าออกมา
"ขอใจมากนะที่ยังจำกันใจ" เด็กหญิงพูด "อืม" เด็กหนุ่มตอบกลับ
_________________________________________________จบ______________________________________________________
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้