คุณเป็นคนตรงต่อเวลาไหม และคิดว่าการตรงต่อเวลานี่สำคัญรึเปล่า

ตามหัวข้อเลยค่ะ ส่วนข้างล่างคือบ่น ถ้ายาวก็ข้ามๆไปได้
----------------------------------------------
ส่วนตัวเราเป็นคนค่อนข้างตรงต่อเวลาสุดๆ(แต่ไม่ถึงกับตึง เพื่อนมาสาย 15 นาทีนี่ยังพอรับได้อยู่ ถ้านัดไปเจอกันนู่นนี่ธรรมดา แต่ถ้าทำงานจริงๆคงจะไม่ควร)เมื่อเทียบกับคนอื่นค่ะ เช่น เวลาไปเรียนก็พยายามไปให้ถึงก่อนเวลา แรกๆไปถึงก่อน 10 นาที หลังๆเริ่มออกจากบ้านช้าลง แต่ก็ไม่เคยสาย นานทีปีหนถึงจะเกิดขึ้น ตัวเราก็ไม่เข้าใจว่าเพื่อนๆที่มาสายกันทำไมถึงสาย คือ ไม่แปลกนะถ้านานๆจะมาสายทีเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ อาจลืมของที่บ้าน หรือนาฬิกาไม่ปลุกอะไรก็ว่าไป แต่หลายๆคนที่รู้จักคือ มาสายทุกวัน บางคนสายครึ่งชั่วโมงอะไรงี้ แต่ก็นะ ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเรา

เคยคุยกับเพื่อนว่าใครตื่นนอนกันกี่โมง สรุปเราตื่นเช้าที่สุด เหตุผลคือเราไม่ชอบการเร่งรีบแบบต้องมากินอาหารเช้าตอนเดินทางไรงี้ และเราคำนวณเวลาไว้แล้วว่าการเดินทางไปต้องใช้เวลาเท่าไหร่ เหมือนกับว่าเรายอมที่จะนอนน้อยกว่าคนอื่นๆเพื่อที่ว่าตื่นมาจะได้มีเวลาให้ตัวเอง ไม่ใช่ตื่นไปแบบไม่กินข้าวเช้าแล้วท้องร้องในห้อง ผมไม่หวี แล้วไปนั่งในห้องเรียน (สาบานได้ว่าเมื่อสองปีก่อน มีเพื่อนคนนึงนั่งข้างๆ ใส่ชุดนอนมาเรียน และไม่ได้แปรงฟันมาด้วย)

บางครั้ง เคยนัดเพื่อนออกไปข้างนอก แต่เราไปรออยู่หน้าห้องแล้ว คุณเธอดันไม่ตื่น เราไม่เข้าใจอ่ะ คือนาฬิกาปลุกจากมือถือมันดังมากๆนะ แล้วก็อยู่ข้างหูด้วย (เราก็ไม่เคยคิดขนาดว่าต้องโทรไปปลุกใคร เพราะผู้ใหญ่กันแล้วก็คิดว่าดูแลตัวเองได้) แล้วคนที่บอกว่าเอามือไปปิดโดยไม่รู้ตัว มันเกิดได้จริงๆหรอคะ เราเคยปิดนาฬิกาปลุกจริงเพราะอยากนอนต่อ แต่ทุกครั้งที่เอามือไปกดเรารู้ตัวตลอดเวลาว่าตั้งให้มันสายขึ้น ดังนั้นเราเลยไม่ค่อยเชื่อในคำอธิบายเท่าไหร่ วันหลังบอกเลยว่าฉันขี้เซาเอง อยากนอนต่อแต่ดันนอนเพลิน

เคยรู้จักผู้ใหญ่คนหนึ่ง วัยกลางคนลูกโตแล้ว นัดกับญาติเราไปไหนต่อไหนหลายครั้ง แต่ก็สายกว่าเวลานัด ทุกครั้งเราเห็นญาติเรานั่งรอในรถประมาณครึ่งชั่วโมง เห็นเค้าบางทีเซ็งบ้างทะเลาะกันบ้างว่าทำไมถึงสาย จนท้ายๆเค้าคงชินกับการออกมาสายตลอด เลยเลิกบ่น แต่ผู้ใหญ่คนนี้พอถึงเวลาต้องขึ้นเครื่องบินก็ไม่เคยจะสายจนตกเรื่องนะ เราเลยอนุมานไปว่าที่เค้าชอบสายกับญาติเราแสดงว่าเค้าเห็นว่ามันเป็นเรื่องไม่สำคัญล่ะสิ และก็แสดงว่า อายุและประสบการณ์การมีชีวิตอยู่ที่ยาวนานก็ไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่า ผู้ใหญ่จะตรงเวลาเสมอไป (อย่างอาจารย์เรา คนที่สายก็สายบ่อย ส่วนคนที่ตรงเวลาก็ตรงเผงทุกครั้งและก็เริ่มสอนตรงเวลาเลย น่านับถือมากๆ)

แต่ที่เราผิดหวังมากที่สุดคือ พวกที่ชอบโกหกเรื่องเวลานี่แหละค่ะ บอกมาแล้วๆ แต่ยังลอยชายทำนู่นนี่อยู่ เคยเจอกับตัวมา 2 ครั้ง กับ คน 2 คน
ยกตัวอย่าง เรามีเพื่อนคนหนึ่งรู้จักกันแต่เด็ก ตั้งแต่เรียนโรงเรียนเดียวกันและย้ายโรงเรียน แต่ก็ยังติดต่อคุยกัน จนเมื่อปีที่ผ่านมานัดเจอกันหลังจากที่ไม่ได้เจอกันสักสิบปีเห็นจะได้ นัดแนะกันอย่างดี แต่ดันมาสายหนึ่งชั่วโมงเต็มๆ ทำให้เรามีเวลาเดินชมวิวแถวนั้นซะจนไม่มีอะไรให้ชมละ

เราไม่ได้โกรธที่มาสายหรอก เพราะจริงๆเราก็ไปถึงเลยเวลานัดสิบนาทีเหมือนกัน เราก็ไม่ได้เถรตรงขนาดนั้น แต่ดันรู้สึกไม่ดีตรงที่ว่า ทำไมตอนโทรไปครั้งแรก(เราโทรไปบอกเค้าตอนอยู่บนรถก่อนเวลานัดเองว่า จะถึงช้า 10 นาทีนะ) เค้าก็บอกว่าไม่เป็นไรเพราะเดินทางอยู่เหมือนกัน โทรไปครั้งที่สองบอกว่าจะถึงแล้วๆ ครั้งที่สามเค้าโทรกลับมาหาเราเองบอกว่าถึงละนะ แต่จริงๆแล้วให้เรารออีกหน่อยกว่าจะเจอหน้า พอถึงคือแต่งหน้าเป๊ะมาก ดูดี ความรู้สึกผิดคงมีมากแต่คงจะไม่มากพอ
ทั้งๆที่ถ้าเวลามาคำนวณ ตอนโทรไปครั้งแรกคงจะเพิ่งตื่นนอนพอดี ทำไมไม่บอกกันตรงๆไปเลย ชั้นจะได้ไปทำอย่างอื่นก่อน ไม่ต้องรอคอยอย่างมีความหวังแบบนี้ คือจะเดินไปที่อื่น ก็กลัวว่าเค้าจะมาที่ๆนัดไว้แล้วไม่เห็นเราพอดี (อันนี้ไม่ได้บ่นเค้า ไม่อยากให้เสียบรรยากาศ)

----------------------------------------
คือเอาจริงๆ ถ้าโกรธคนอื่นที่มาสายป่านนี้ก็คงไม่ต้องไปคบหากับใครละ และไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกๆด้วย ก็ได้แต่ยิ้มๆและบอกว่าไม่เป็นไร แต่เรื่องที่เจอมาก็สอนให้เรารู้ว่าวันหลังจะนัดเพื่อนเราไปนัดในห้างดีกว่า เพราะจะได้ไม่รู้สึกว่าต้องคอยชะเง้อรอ แต่จะได้เอาเวลาไปชอปปิ้งไปดูของสวยๆงามๆแทน ไม่งั้นเบื่อแย่

ตอนเรียนตรี ในกลุ่มเพื่อนในชมรมพูดกันเล่นๆขำๆเกี่ยวกับคำว่า asian time นั่นคือหมายความว่าคนเอเชียมักจะมาสายกว่าเวลานัด 15 นาที ฉะนั้นเวลานัดใครก็ให้บวกลบเวลาให้ดี แต่อันที่จริงมันไม่เกี่ยวหรอกค่ะว่าต้องเป็นชาติไหน จากประสบการณ์คืออยู่ที่ตัวบุคคลล้วนๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
การตรงต่อเวลาเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเราค่ะ หน้าที่การงานของเราต้องพบปะผู้คนและนัดหมายเพื่อปรึกษาหารือหลายเรื่องในแต่ละวัน หากผิดพลาดเรื่องเวลานัดที่หนึ่ง จะรวนเรในนัดถัดไปจนเกิดความเสียหาย เราทำงานมานานแล้ว กล้าเขียนได้เลยว่า ไม่เคยผิดนัดแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเวลาเป็นต้นทุนสำคัญอย่างหนึ่งของงาน ใครที่ผิดนัด เราจะเตือนครั้งเดียว ไม่มีครั้งที่สอง ญาติพี่น้องเรารู้กันดีว่า นัดเรา ต้องเตรียมตัวให้ดีอย่าพลาด ยิ่งนัดเพื่อขอให้เราช่วยแล้ว สายแค่ 15 นาที เรากลับ และไม่นัดอีกเลย

ทำธูรกิจกับญาติและเพื่อนฝูงมักมีปัญหาเรื่องการนัดหมายและการรักษาเวลานะคะ เท่าที่มี ปสก ส่วนตัว นานมาแล้ว ญาติเราคนหนึ่งนัดให้เราไปปรึกษาเรื่องงาน 9.00 น มันโผล่ไปถึงที่นัดอีก 15 นาทีเที่ยง โทรถามเราก่อนด้วยว่า จะกลับหรือยัง เราตอบว่า นัดแล้วก้ต้องมารอ แต่อย่านัดแบบนี้อีก เราไม่ค่อยว่าง นี่เราเตือนนะ

ครั้งต่อมา มันนัดบ่ายสามโมง มาสายอีก แต่โทรสั่งคนอื่นที่นัดด้วยว่า จะมาประมาณห้าโมงเย็น ให้รอ เราเม้งแตก ตอบมันกลางวงเลยว่า เรากลับเดี๋ยวนี้แล้ว และอย่านัดเราอีก ไม่พูดกันตั้งแต่นั้นค่ะ เกือบ 20 ปีแล้ว

เราเคยทำงานกับคนเยอรมัน นายเรานัดละเอียดเป็นนาทีเลย ใครผิดนัดประชุมเป็นถูกปิดประตูใส่หน้า เซลส์แมนเข้าประชุมไม่ทัน ถูกหักเงินเดือน ทำงานแบบเป๊ะ ๆ เครียดหน่อยแต่เงินเดือนขึ้นปีละ 20 % โบนัสอย่างน้อย 3 เดือน นิสัยการทำงานแบบนี้อาจติดตัวเรามาทุกวันนี้

เคยถามนายชาวเยอรมันว่า การตรงเวลาสำคัญเพียงใด ท่านตอบว่า "เวลาเป็นของฟรี ทุกคนมีไม่ต้องซื้อหา ของฟรียังรักษาไว้ไม่ได้ จะรักษาสิ่งอื่นได้ไง ? "
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่